ราชนาวีไทยโชว์ความพร้อมเรือ และอากาศยาน สวนสนามทางเรือ อากาศ กลางอ่าวไทย “พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก “ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ ขับเครื่องบินด้วยตัวเองส่งท้ายลงดาดฟ้าบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร ยืนยันความพร้อมนักรบทางเรือก่อนส่งมอบหน้าที่ และอำลาชีวิตราชการ

          วันนี้ (29 กันยายน 2553 ) พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ ได้ขับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ปราบเรือดำน้ำ (s-70B) หมายเลข 2309 มาลงดาดฟ้าบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร กลางอ่าวไทย โดยมี พลเรือโท สุรศักดิ์ พุ่มพวง เสนาธิการ กองเรือยุทธการ พลเรือตรี พังพล ศิริสังข์ไชย ผู้บัญชาการ กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ นาวาเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บังคับการเรือหลวงจักรีนฤเบศร ให้การต้อนรับ พร้อมเชิญขึ้นแท่นเพื่อรับตรวจพลสวนสนามทางเรือ โดยมีเรือรบจำนวน 14 ลำ คือ เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงตาปี เรือหลวงคีรีรัฐ เรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงอุดมเดช เรือหลวงหาญหักศัตรู เรือหลวงคลองใหญ่ เรือหลวงเทพา และยังมีเรือ ตรวจการณ์หมายเลข 94 เรือตรวจการณ์ หมายเลข 993 คอยรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งอากาศยาน บินลาดตระเวนแบบ 1 (DO-228) เครื่องบินตรวจผิวน้ำแบบ 1 (F-27 MK 200) เฮลิคอปเตอร์ ปราบเรือดำน้ำ (S-70B) เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ 2(BELL 212)

           พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ กล่าวว่า การแสดงออกถึงความพร้อมรบ ความเกรียงไกรของเรือและอากาศยาน ที่มีขนาดและจำนวนอันน่าเกรงขาม ทำให้ได้เห็นถึงความเข้มแข็ง การมีระเบียบวินัย บ่งบอกถึงขีดความสามารถในวิธีการสวนสนามด้วยรูปขบวน อันเป็นพื้นฐานของการรบทางเรือในท้องทะเล มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล ตลอดจนการปกป้อง อธิปไตยของชาติให้เกิดความมั่นคงของประเทศ การที่กองทัพเรือมีความในการพัฒนาประเทศ ความพร้อมรบ จะเป็นที่ประจักษ์สายตาประชาชน สามารถสร้างความอบอุ่นใจ ไว้วางใจ และศรัทธาให้กับประชาชนได้ กองเรือยุทธการในฐานะเป็นหน่วยรบทางเรือ พร้อมที่จะร่วมกาย ร่วมใจ แสดงพลังอันยิ่งใหญ่ในการปกป้อง รักษาชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนทรัพยากรของชาติทั้งทางบก และทางทะเล ให้เกิดความสมดุล ด้วยความกล้า เกรียงไกร และพร้อมรบตลอดเวลาคงจะทำให้ผุ้ที่คิดไม่ดี ประสงค์ร้ายต่อแผ่นดิน ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้เลิกคิดและเลิกล้มเจนตนาร้ายไปให้หมด

           และกล่าวอีกว่า ทหารเรือทุกคนได้รับกิจสำคัญจากกองทัพเรือ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จึงมีฝันและกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรค ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ และพลังปัญญาในการพัฒนากองทัพเรือ หรือนักรบทางเรือให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นปราการด่านหน้าในการดูแลประชาชน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต่อไปอย่างมั่นคงและยาวนาน