ข่าวความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นและไต้หวัน

ญี่ปุ่น ประกาศสู้เพื่อให้สามารถส่งออกอาวุธได้

นายโตชิมิ คิตาซาวา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น กล่าวว่า ตนเองจะต่อสู้เพื่อให้มีการทบทวนการห้ามญี่ปุ่นส่งออกอาวุธ อย่างไรก็ดีคาดว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากเกิดความตึงเครียดขึ้น จากกรณีที่ญี่ปุ่นจับเรือประมงของจีน ในบริเวณหมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
        นอกจากนี้มีรายงานว่า ในอดีตเคยมีความพยายามจะทบทวนเรื่องดังกล่าวมาแล้ว แต่ถูกประชาชนในประเทศคัดค้าน
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000142764

ไต้หวัน “เดินหน้าซื้ออาวุธ” ชี้ความมั่นคงไม่ได้ขึ้นกับจีนฝ่ายเดียว

 เอเอฟพี - ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ของไต้หวันกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันชาติ (10 ต.ค.2553) ชี้ไต้หวันยังคงเดินหน้าซื้ออาวุธจากต่างชาติต่อไป เนื่องจากไม่สามารถใช้ความสัมพันธ์อันดีกับจีนแผ่นดินใหญ่เพียงอย่างเดียว มาการันตีความมั่นคงของไต้หวันได้ทั้งหมด
       
       “เพื่อความมั่นคงของไต้หวัน เราไม่อาจฝากความหวังไว้กับการฟื้นสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่เพียงประการเดียว ดังนั้น ไต้หวันจึงมีนโยบายพัฒนาศักยภาพการป้องกันตนเอง ซึ่งอาวุธป้องกันตนเองล้วนจำเป็นต้องซื้อจากต่างชาติ เพราะเราผลิตเองไม่ได้” หม่า อิงจิ่วกล่าว
       
       ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2551 โดยให้คำมั่นว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจไต้หวันและมีนโยบายมุ่งแลกเปลี่ยนด้านต่าง ๆ กับจีน ทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไต้หวันเป็นมิตรต่อกันมากที่สุด นับตั้งแต่ยุคหลังสงครามกลางเมืองในปี 2492 เป็นต้นมา
       
       “เราจะยังคงเพิ่มการแลกเปลี่ยนทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและสังคมกับจีนต่อไป ตลอดจนสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน” หม่ากล่าวเพิ่มเติม
       
       เมื่อเดือนม.ค. (2553) สหรัฐฯได้ขายชุดยุทธภัณฑ์แก่ไต้หวันมูลค่า 6.4 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย เฮลิคอปเตอร์ เครื่องยิงต่อต้านขีปนาวุธ เครื่องกวาดทุ่นระเบิดติดยานเกราะ ขณะนี้กำลังพิจารณาขายเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ให้แก่ไต้หวันเพิ่มเติม สำหรับจีน ซึ่งเคยประกาศกร้าวว่าอาจจะใช้กำลังเพื่อรวมไต้หวันให้ได้ ในครั้งนี้ จีนตอบโต้ด้วยการระงับการแลกเปลี่ยนทางการทหารกับสหรัฐฯ ในทันที
       
       สุนทรพจน์ของหม่า ยังได้หยิบยกคำพูดของนายกรัฐมนตรีจีน เวิน จยาเป่า ซึ่งครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่า
       “ขีปนาวุธที่หันหัวรบไปทางไต้หวัน ควรจะถอนกลับเสียในวันเดียว”
       
       “รัฐบาลแผ่นดินใหญ่ขณะนี้ได้มีแถลงการณ์ถอนขีปนาวุธ เราคิดว่านั่นเป็นสัญญาณที่ดีระหว่างความสัมพันธ์ของจีนและไต้หวัน โดยหวังว่าจะประสบผลในไม่ช้านี้” หม่า กล่าวทิ้งท้าย
       
       อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญของไต้หวันคาดว่า กองทัพจีนเตรียมพร้อมขีปนาวุธกว่า 1,600 หัว เพื่อรับมือกับไต้หวันหากจำเป็น
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000142714