สื่อญี่ปุ่นเผยกองทัพเรือญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขยายขนาดกองเรือดำน้ำของประเทศ หมายถ่วงดุลกองทัพเรือจีนที่เพิ่มแสนยานุภาพอย่างรวดเร็วและกำลังสร้างความวิตกดุลอำนาจในภูมิภาคอาจสั่นคลอน คาดเสริมทัพเรืออาทิตย์อุทัยจะเพิ่มเรือดำน้ำ 6 ลำภายใน 4 ปี แม้เทียบไม่ได้กับจีนแต่ก็อาจทำให้เพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ขุ่นเคืองได้
พวกเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นกล่าวกันว่า กองทัพกำลังพิจารณาจะขยายขนาดของกองเรือดำน้ำ โดยน่าจะนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอย่างจริงจังอย่างเร็วต้นเดือนธันวาคมปีนี้ แต่แผนดังกล่าวยังไม่มีการเสนออย่างเป็นทางการ พวกเจ้าหน้าที่จึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้
ขณะเดียวกัน สื่อของญี่ปุ่นพากันรายงานว่า กองทัพเรือจะเพิ่มจำนวนเรือดำน้ำจากเดิม 16 ลำ เป็น 22 ลำ ภายในช่วงเวลา 4 ปี ซึ่งถือเป็นการเพิ่มจำนวนมากพอควรและอาจทำให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนวิตกกังวลได้
อย่างไรก็ดี ถึงแม้จำนวนเรือดำน้ำของญี่ปุ่นจะยังน้อยกว่าจีนอย่างเทียบกันไม่ได้ โดยปัจจุบันจีนมีเรือดำน้ำประมาณ 60 ลำแล้ว แต่รายงานชี้ว่า กองเรือดำน้ำของญี่ปุ่นยังมีเรือดำน้ำของสหรัฐที่ประจำการอยู่ทั่วภูมิภาคนี้เป็นกำลังเสริมสำคัญ นอกจากนี้เชื่อกันโดยทั่วไปด้วยว่าเรือดำน้ำของญี่ปุ่นมีอุปกรณ์ทันสมัยกว่าเรือของจีนหลายลำ ทั้งยังยากต่อการตรวจจับด้วย
ทาเกฮิโตะ ยามาโมโตะ อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยวาเซดะในกรุงโตเกียว ให้ทัศนะว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของญี่ปุ่นสะท้อนถึงความปรารถนาจะถ่วงสมดุลการขยายตัวของกองทัพเรือจีน และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่ปฏิบัติการร่วมระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐ
เขากล่าวว่า พวกนักวางแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพญี่ปุ่นมีความวิตกว่า จีนกำลังพยายามปรับปรุงกองทัพเรือน้ำลึกที่สามารถปฏิบัติการไกลโพ้นจากชายฝั่งของตน ให้มีความน่าเชื่อถือหรือพึ่งพาได้มากขึ้น "เรื่องนี้สร้างความรู้สึกถึงความไม่มั่นคง" เขาชี้
นักวิชาการผู้นี้เสริมด้วยว่า ความตึงเครียดหรือแม้แต่การปะทะกันอาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณรอบหมู่เกาะโอกินาวาทางภาคใต้ของญี่ปุ่น ที่ซึ่งสังเกตพบเรือดำน้ำของจีนอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้แต่ในบริเวณเกาะกวม ดินแดนของสหรัฐที่ไกลออกไป ที่ซึ่งสหรัฐมีเรือดำน้ำจากกองบัญชาการแปซิฟิกหลายลำประจำการอยู่
กองทัพจีนได้รับงบประมาณสนับสนุนเพิ่มขึ้นในแต่ละปีเป็นตัวเลข 2 หลักมาตลอด 2 ทศวรรษหลัง และทำให้กองทัพเรือของจีนกลายเป็นกองทัพเรือขนาดใหญ่ที่สุดของเอเชีย และยังได้ขยายภารกิจของตนไกลกว่าภารกิจเก่าแก่อย่างการยึดคืนเกาะไต้หวัน ไปสู่การแผ่อิทธิพลลึกเข้าไปในแปซิฟิกและปกป้องเส้นทางการค้าทางทะเลที่สำคัญด้วย ขณะที่สหรัฐและญี่ปุ่นวิจารณ์ว่าการขยายกองทัพของจีนโดยปราศจากความโปร่งใส ทั้งด้านเป้าหมายและขีดความสามารถ กำลังทำให้ภูมิภาคนี้สั่นคลอนมากขึ้น
ระยะหลังจีนเรียกร้องบ่อยครั้งให้สหรัฐถอยห่างออกจากมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลที่กินอาณาบริเวณตั้งแต่ทะเลเหลือง ทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนอ้างกรรมสิทธิ์แต่ชาติเดียว เมื่อไม่กี่วันก่อนจีนยังคัดค้านแผนการซ้อมรบร่วมสหรัฐ-เกาหลีใต้ในทะเลเหลืองนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยระบุว่าการมีเรือบรรทุกเครื่องบินจอร์จวอชิงตันร่วมฝึกด้วยเป็นการยั่วยุจีน เพราะทำให้กรุงปักกิ่งอยู่ในรัศมีการโจมตีของเครื่องบินเอฟ -18 ของสหรัฐ
รายงานฉบับหนึ่งของเพนตากอนที่ออกเมื่อไม่นานมานี้กล่าวไว้ว่า มีความเป็นไปได้ที่จีนจะเพิ่มจำนวนกองเรือดำน้ำของตนอย่างพรวดพราดภายในไม่กี่ปีข้างหน้า รายงานกล่าวด้วยว่า จีนกำลังพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปซึ่งสามารถโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินที่ห่างไปกว่า 1,500 กม.ได้ ซึ่งจะสร้างจุดผันแปรต่อขีดความสามารถของเรือรบสหรัฐในการปฏิบัติการภายในภูมิภาคนี้ และนอกจากนี้ยังคาดว่าจีนจะเริ่มสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินของตนเองภายในสิ้นปีนี้ด้วย.
http://www.thaipost.net/news/271010/29228
หมายเหตุ ข้อมูลในวิกีพีเดียระบุว่าญี่ปุ่นมีเรือดำน้ำ 17 ลำ
ใน 2 ชั้น คือ
และกำลังต่ออีก 4 ลำ (ชั้นโซยุ) โดยปล่อยลงนํ้าแล้ว 1 ลำ กำลังก่อสร้าง 2 ลำ ส่วนอีก 1 ลำกำลังวางแผน
ขอบคุณภาพจากบ้านท่าน skyman
แบ่งมาทางนี้บ้างสักลำ หน่อยสิ พ่อโกโบริ