แก้นะครับท่าน HRTBRKONE  ศูนย์หลัง A1 ไม่สามารถปรับซ้ายขวาได้ครับ ปรับแต่ ศูนย์หน้าได้ครับใต้ต่ำหรือสูงขึ้นครับ ศูนย์หลังเข้าใจว่า จะเป็นใบศูนย์หลังใบที่สองครับ ศูนย์หลังของA1 จะมีใบเล็งสองใบครับ คือใบรูใหญ่กับใบรูเล็กครับ ส่วนใหญ่จะใช้ใบรูใหญ่เอาไว้ยิงเป้าหมายในระยะ 200 เมตรลงมา ส่วนใบที่พับนอนอยู่คือใบรูเล็กครับเอาไว้ยิงเป้าหมายในระยะตั้งแต่ 200 เมตรขึ้นไปครับเพราะจะแม่นยำกว่าครับ ภายนอกก็จะมีทีแตกต่างกันระหว่าง เอสองกับ เอ1ก็คือลำกล้องหนาขึ้น เพราะมีการเปลี่ยนรอบเปลี่ยว จาก1:12 ในเอ1 เป้น 1:9 และ 1:7 และสุดท้าย 1:6 ครับ  และ ที่สองคือ คันบังคับการยิงเปลี่ยนจากยิง AUTO เป็น ยิงทีละสามนัดครับ ศูนย์หลัง A2 ปรับซ้ายขวาได้ครับ

กระสุน เอ1 สามารถใช้ทดแทนชั่วคราว A2 ได้ครับ โดยสามารถเอากระสุน A1 ไปยิงในปืนM16A2 ได้ครับ แต่ผลเท่ากับการยิงจาก ปืนM16A1 ครับ

กระสุน A2 ไม่ควรนำมายิงในปืนM16 A1 ครับเพราะ กระสุนแรงระเบิดแรงดันสูง แบบสั้น เมื่อเจอเกลียวที่ไม่ปั่นให้เร็วจี๋ การหมุนต่อรอบของหัวกระสุนตกลงอย่างรวดเร็ว จนทรงตัวไม่ได้ กระสุนอาจจะไปตกโดยเอาข้างกระแทกเข้าเป้าได้ครับ

กระสุน M193 น้ำหนัก 55 แกรน ยิงด้วยลำกล้องที่มีอัตราเกลียว1:12 เมื่อยิงออกไปจากปากลำกล้อง จะมีปัญหาคือ เมื่อยิงออกจากปากลำกล้องด้วยอัตราความเร็ว38000 รอบ/วินาที เมื่อพ้นระยะ 100 เมตรความเร็วและการหมุนของหัวกระสุนจะตกฮวบถึงครึ่งนึงเหลือ 16000 รอบ/วินาที ทำให้เมื่อเจอลม และสภาพอากาศ ความแม่นยำของกระสุนจะตกลงไป

แต่M885 ของM16A2 น้ำหนัก 62 แกรน เมื่อยิงด้วย ลำกล้องของA2 ที่อัตราเกลีย1:6 จะทำให้อัตราการหมุนและความเร็วของหัวกระสุนไม่ตก แถมยังตรงข้ามกับเอ็ม16เอ 1 แบบหน้ามือเป็นหลังteen คือ เมื่อยิงออกไปด้วยความเร็วต้นปากลำกล้อง 20000รอบ/วินาที เมื่อพ้นไป 100 เมตร แล้วความเร็วและการหมุนของหัวกระสุนจะเพิ่มเป็น40000รอบ/วินาทีทำให้มีความแม่นยำมากกว่า กระสุนแบบM885 หัวกระสุนของM16A2 จะหนักกว่าและยาวกว่าหัว M193 ของเอ1 ครับ

ปล.2 เพิ่มเติมคุณ champ นะครับ

นอกจากความหนาของลำกล้องแล้ว ศูนย์หลังที่หูหิ้วก็แตกต่างด้วยครับ

M16A1 ศูนย์ปรับได้แค่ทางราบ (ซ้าย-ขวา) สังเกตได้จากตำแหน่งหูหิ้วบริเวณใต้ศูนย์หลังจะมีร่องลึกเว้า ส่วนที่ปรับศูนย์หลังทางราบจะมีลักษณะเป็นจานแบนๆใช้หมุนควงปรับ

M16A2 ศูนย์ปรับได้ทั้งทางราบและทางดิ่ง สังเกตได้จากตำแหน่งหูหิ้วบริเวณใต้ศูนย์หลังจะมีจานหมุนหนาๆ มีตัวเลขบอก อยู่ด้านในหูหิ้ว สำหรับปรับศูนย์ทางดิ่ง ส่วนที่ปรับศูนย์หลังทางราบจะมีลักษณะเป็นจานหมุนหนาๆ หมุนปรับได้ครับ

ทั้งนี้ ปลส.ที่พัฒนามาจาก M16A2 เช่น M733 จะมีลักษณะของศูนย์หลังเหมือนกับ M16A1 แต่บริเวณด้านหลังช่องคัดปลอกจะมีแท่งสะท้อนปลอกอยู่ (M16A1 ไม่มี) และลำกล้องหนารองรับ M855/SS109 ได้ครับ

ป๊าดดดดด ไอ้ผมก็หลงดีใจไป ได้ยิงปลย.จู่โจมซักครั้งในชีวิตก็อยากได้ปืนดีๆ ยิงกะเขาหน่อย

แต่ก็อย่างว่านะครับ ทหารประจำการหลายหน่วยยังต้องใช้ M16A1 อยู่เลย แม้บางส่วนจะถูกแทนที่ด้วย A2,A4 (เห็นหลายแหล่งบอกไทยได้รับแล้ว?) และ Tavor ก็ตาม

ปล.แอบเห็น M16A1 ลายแปลกประหลาดในคลังด้วยครับ ไม่มีตราม้าคาบศรของ Colt แต่มีตัวอักษรบอกถึงอะไรไม่ทราบมาแทนที่ นอกนั้นมี Property of US Govt...ฯลฯ เหมือนกระบอกอื่นๆครับ

คงพูดกันเล่นๆน่ะครับ ยิ่งศูนย์กรุงเทพแล้วด้วยไม่ต้องหวังครับ อย่างดีก็เป็น M16A1 ครับ ซึ่งจริงๆแล้ว M16A1 จะได้ยิงตอนปี4 แต่ถ้าฟลุ๊คจริงๆก็อาจจะได้ยิงตอนปีสามครับแต่คงยากครับ เพราะยังไงเสียปืนระดับปีสามก็หนีไม่พ้น เฮชเข้ เอ้ย เฮชเค 33 อยู่แล้วครับ 555+ M16A2อย่าหวังครับเพราะหน่วยหลักจริงๆยังมีใช้ไม่ครบทุกหน่วยเลยครับ สังเกตดูดีๆหน้ากองรักษาการณ์ศูนย์ใหญ่ทหารเวรยังใช้ HK33 อยู่เลยครับ แล้วจะเอา M16A2 ที่ไหนมาให้ยิงครับ หน่วยรบหลักยังใช้M16A1 กันอยู่เลยครับ กว่าปีนจะมาถึงเรา เหล่า ร.ด.ทั้งหลายคงอีกเป็น10-20ปีละครับกว่าจะได้เล่นปืน เอ็ม16เอ2 น่ะครับ ไว้รอเลื่อนฐานะดีกว่าครับค่อยว่ากัน เออ แต่อย่าเพื่งเข้าใจผิดนะครับไม่ใช่ว่าเป็นปะกับมือกลมๆกล้วจะใช่เอ็ม16เอ2 ไปซะหมดเพราะเดี๋ยวนี้หน่วยทหารบางหน่วยนิยมเอา ฝาประกับมือ เอ็ม16เอ2 มาใส่แทน ประกับมือสามเหลี่ยมของM16A1เพราะของเก่าพังก็มีครับ สังเกตุดูที่ลำกล้องเอาแล้วกันครับถ้าหนาๆก็ชัดเจนว่าA2 ครับ

ในรูปจะเป็นหน้าตาของเจ้า M16A1 ใส่ฝากระกับมือของM16A2 นะครับ

รูปสองเป็น เอสองของแท้นะครับ

ปี3น่าจะยัง  แต่ถ้าลุยจนถึงปี5 ก็มีลุ้นครับ แถมได้ยิงM60อีก มันส์ๆสะใจ

ตอบคุณ HRTBRKONE ครับ

ที่ผมเคยเห็นมา ก็แค่ ลาย CIS ของสิงคโปร์ ที่รับลิขสิทธิ์จาก Colt USA ครับ

(รุ่นนี้ โรงเรียนผมใช้ ปืนแตกเป็นว่าเล่นเลย ^^ll)

นอกนั้นก็ ไม่เคยเห็นครับ

อยากรู้จัง ลายไหนน๊อ ?