อยากทราบว่าเรือรบ ลำใดของไทยเรา นั้นมีความสามารถต่อสู้สูงสุด แบบว่าอาวุธแรงสูง อะไรประมาณนี้อ่ะน่ะ แบบว่า ข้าศึกเข้ามาในรัศมีเรดาร์แล้ว ยิง ตูมเดียวจอด อ่ะน่ะ มีรึป่าว ส่วนตัวคิดว่าเรื่อหลวงนเรศวรน่ะ ที่น่าจะแรงที่สุดอ่ะน่ะ...
ผมชอบ รล.ชั้นนี้นะ ตัวเล็กหมัดหนัก เทียบอาวุธแล้วครบเครื่องกว่า รล.นเรศวร อีกนะ
ผมคิดว่าน่าจะเป็นหลวงกระบุรีและสายบุรี เพราะเรือทั้งสองเพิ่งจะไรบการติดตั้งC802Aมา
ซึ่งC802Aมีระยะยิงกว่า180กม.ครับ ส่วนฮาร์พูนRGM-84Aที่ติดตั้งกับเรือชั้นรัตนโกสินทร์กับเรือหลวงนเรศวรนันมีระยะยิงที่124กม.
น้าๆเอาเงินไปช่วยอุทกภัยในตอนนี้
จะดีกว่าไหม..ฮะ
น้าๆเอาเงินไปช่วยอุทกภัยในตอนนี้ จะดีกว่าไหม..ฮะ |
โดยคุณ : wut วันที่ : 2010-11-05 10:01:30 |
อ่า
มาไงหว่า
แล้วน้องหมายความว่ายังงัยช้วยอธิบายด้วยครับ
เออ คือว่าอันตัวเรา ถามเกี่ยวกับเรื่อง เรื่อรบ อ่ะน่ะ ไอ้เรื่องน้ำท่าวน่ะปล่อยไปก่อนเหอะ แค่อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อ อ่ะน่ะ...
ท่าน wut คงเป็นห่วงว่าสมาชิกของบอร์ดจะนำงบประมาณ ไปใช้จ่ายกับอาวุธยุทโธปกรณ์จนเกินความจำเป็น ซึ่งในขณะนี้ปัญหาเร่งด่วนคือการช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัย ละมังครับ
และหวังว่า ท่าน wutคงใด้ช่วยเหลือไปแล้ว ด้วยเจตจำนงค์ของตัวท่านเอง
ส่วนท่าน Akula ระวังจะโดนกรรมมาธิการตรวจสอบว่าใช้งบทางทหารบานปลายนะขอรับ
555+
งั้นผมคงต้องยกเลิกโครงการจัดหาปืนบีบีกันกระบอกใหม่ เพื่อนำเงินมาช่วยผู้ประสบอุกภัยแล้ว
ที่ผ่านมาผมทำได้แค่ส่งSMSกับบริจาคสิ่งของเท่านั้นเองนะเนี่ย
แล้วหมัดหนักจริงๆ คือเรืออะไรครับ
แล้วหมัดหนักจริงๆ คือเรืออะไรครับ |
โดยคุณ : tik วันที่ : 2010-11-06 03:52:19 |
ถ้าหมัดหนักครบเครื่องน่าจะเป็นร.ล.รัตนโกสินทร์ครับ
หมัดยาวก็เป็นร.ล.กระบุรี
ของจริงคือ รัตน กับ สูโขทัย ใช่อาวุธได้เลยถ้าของจีนต้องซ่อมก่อนถึงจะยิงได้ แต่ยิงก็ต้องล็อกเป้ายิง ไม่งั้น RADAR หาไม่เจอ เชื่อผมนะ ผมอยู่ใกล้แค่ยืนดูตอนเขาซ่อมทุกปีก่อนยิง
แต่ยิงก็ต้องล็อกเป้ายิง ไม่งั้น RADAR หาไม่เจอ -------------->งง เรดาร์ไม่เจอแล้วจะล็อคเป้ายังไง
ของแรงครบเครื่อง ------ สุโขทัย -รัตนโกสินทร์
ของแรงเพียวๆ ป้องกันตัวไม่ดี---------นเรศวร 5นิ้ว ฮาร์พูน
หมัดยาว แต่ดีไซน์โบราณ-----------สายบุรี กระบุรี
สวยจับใจ -------opv ลำใหม่
ตัวน้อยต่อยหนัก ---------ราชฤทธิ์(อนาคตคือ ต.991)
ฝัน --------- อาร์เลห์เบิร์ก / เดอเซเวน โพรวินเซน /ไทป์45 /อาคูล่า
เรดาร์หาเป้าไม่เจอครับ แต่การยิงใส่ตำบลที่ลงไปในอาวุธแทน คุณสมบัติ ของเรดาร์ดีมากแต่ใช่จริง สมมุติว่า มองเห็นได้ไกล 120 ไมล์ แต่ว่าใช้จริงมองเห็นแค่12 - 20 แล้วเวลายิง ก็ทำงานได้แค่นั้น แล้วอาวุธก็มีกำหนดว่าห้ามยิงใกล้กี่ไมล์ไม่งั้นทำงานไม่สมบูรณ์ ง่ายๆคือเรดาร์ฝรั่งแต่อาวุธจีน มันไม่เข้ากัน แล้วของจีน ตัวเลขที่บอกมีไว้เพื่อความสวยงามครับ ตั้งแต่ C 801 มีปัญหาตลอด 802 แค่ใหม่กว่า ครั้งสุดท้ายที่จะยิงก็ลูกอาวุธเสื่อมคุณภาพ เลยยกเลิกการยิงนะ
รุ่นนี้เด็ดกว่าครับ อำนาจทำลายล้างสูง และมีหมัดเด็ดไม่เบา และตราบใดที่ลูกเรือยังไม่หมด ก็ยังมีอำนาจการยิงอย่างต่อเนื่อง อิอิ
อ่ะ คืองี้ อ่ะขรับ ทั้งหลาย...........
ที่ท่านเฟียร์พูดมา เปี้หน่ะ......................
โดยปกติแล้ว การยิงอาวุธนำวิถีด้วเรดาร์ ไม่ว่าจะเป็นแบบ แอ้คถีฟ หรือ เซมิแอ้คถีฟ............... เราจะต้องโปรแกรมให้สมองกลในหัวจรวดก่อน โดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการอ่านค่าจากเรดาร์ หลังจากปล่อยไปแล้ว ข้อมูลของเป้ายังถูกส่งไปยังจรวดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรบวิถีโคจร กรณีมีการเปลี่ยนแปลงทิศและระยะของเป้า................. ถ้าเป็นเซมิแอ้คถีฟ ข้อมูลเรด้ารจะส่งต่อไปเรื่อยๆ จนลูกจรวดเกือบชนเป้า แต่ถ้าเปนฟูลแอ็คถีฟ สักพักหนึ่งต่อเมื่อ เรดาร์ค้นหในตัวจรวดทำงานได้เองแล้ว ก็เป็นอันหมด๓ของเรดาร์นยิง.................... มีต่อ
ขออภัย นอนพิมพ์....... ตก เยอะเลย
ครับ ทีนี้ ปัญหามันมีอยู่ว่า โลกเรา สัณฐานมันโค้ง...... เส้นขอบฟ้าอยู่ไกลราว ยี่สิบไมล์ทะเลหรือราว เกือบสี่สิบโล ทีนี้ เรดาร์เป็นคลื่นซึ่งเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ถ้าไกลเกินเส้นขอบฟ้า อย่าว่าแต่เรดาร์เลย มองด้วยกล้องดูดาวกำลังขยายล้านเท่าก็มองไม่เห็น....................... ดังนั้นที่ว่า จรวดยิงไกลได้เป็นร้อยกิโล ถ้าไม่แจ๋วจริง พิเศษจริง หรือมีทริค ซักเล็กน้อย ยังไงก็ยิงได้แค่ระยะขอบฟ้า.............. ทริคที่ว่าเป็นไง............... มีต่อ...........
ทริคตัวแรก ธรรมดาพื้นๆ ใช้กันนานแล้ว แต่ต้องมีระบบสื่อสและสสนเทศน์ที่ดีหน่อย วิธีคือ การลิ้งข้อมูลกันเป็นทอด คือ เรือยิงรับข้อมูล(เรดาร์) มาจากที่อื่น เช่น เรือยิง กะเรือส่อง คละลำกัน เรือยิงอาจอยู่ไกลเกินเส้นขอบฟ้า เรือส่องอยุ่ในระยะเห็นกันด้วยเรดาร์ แบบนี้จะเป็นการพลางการยิง คืถ้เรืป้ามีมาตรการต่อต้านทางอิเลคทรอนิค ระบบ อีเอสเอ็ม จะสามารถตรวจจการแพร่คลื่นจากเรือส่อง ก็มัวแต่ระวังตัวอยู่ ที่ไหนได้จรวดดผล่พ้นขอบฟ้าเข้ามาไกล้(เล็ก บินต่ำ เห็นยาก) กว่าจะรูตัว สาวเจ้าก็โดนเจาะเสียตัวร้องไห้กระซิกๆแร้ว.............................หรือ อีกวิธี โดยใช้ฮ.เป็นฐานส่อง เนื่องจากอากาศยานบินได้สูง ทำให้มองเส้นขอบฟ้าได้ไกลขึ้น ก้ส่องเป้าได้ไกลขึ้น..................
มีลูกเล่นใหม่ๆ ในยุคดาวเทียมทหารโคจรเกลื่อน คือการโปรแกรม โดยหมายพิกัดเป้าโดยใช้ระบ จีพีเอส..............คือจริงๆ ระบบนี้จะใช้ได้ดี กรณีเป้าเป้มั่นหือดรงเรือนอยู่กับที่ อาวุธที่ใช้ก็จำพวก โตมาฮอว์ค หรือพวกระเบิดเจแดมพวกนั้น...มีต่อ
ผมว่า จริงๆแล้ว เครื่องมันแปลกๆ พิมพ์แล้วมันแหล็ค ประมาณว่าตัวหนังสือขึ้นไม่ทัน มันเลยเป็นแบบขาดช่วง ไม่ประติดประต่อ ต้องพิมช้าๆ............... จีพีเอส จะกำหนดทิศทางและระยะของเป้า และอจรวมถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ ความสูงต่ำของเส้นทาง เพื่อให้จรวดโคจรไปหาเป้าแบบเกาะพื้นที่หรือวิ่งซิกแซกได้.......... ทีนี้ กรณีเป็นเป้าเคลื่อนที่ ซึ่งมีโอกาสหักเห หรือเปลี่ยนทิศทางได้ คือถ้าเป็นเป้าอากาศยาน เทคดนลยีนี้ณ.วันนี้คงนำมาใช้ไม่ได้ แต่กรณีของเรือรบ ซึ่งการเคื่ทีไรวเกินไปอาจทำได้ คือโปรแกรมเป้าหมายโดยการใช้ข้อมุลพิดทางจีพีเอส ปล่อยจรวดออกไปไกลกว่าเส้นขอบฟ้าในภาวะเงียบทางอิเลคทรอนิคส์(ไม่แพร่คลื่น(จ้างเรือเป้าก็ไม่มีวันรู้)) พอเข้าใกล้ได้ระยะหนึ่งเรดาร์ในหัวจรวดจึงจะเทงานค้นหา และโคจรเข้าเป้า ซึ่งในเวลานั้นไม่อยู่ในภาวะเงียบ แต่ก็แทบสายไปแล้วสำหรับเรือเป้า (บินเหนือน้ำด้วยความสูงต่ามากๆ ยากที่จะตรจจับเห็น) ............. จะว่าไปแล้ววิธีนี้ก็ ห้าสิบห้าสิบ คือถ้ากับปิตัยเรือเป้า เกิดทะลึ่งหักหัวสามร้อยหกสิบองศา หรือเครื่องเรือเกิดดับกระทันหัน มุมดักทีคาดการไว้ล่วงหน้าเปลี่ยนไป (การแก้ไขไม่มีเหมือนส่องด้วยเรดาร์) เป็นอันว่าจุดนัดพบที่กะไว้เป็นแห้ว พอเรวจรวดทำงานก็ไม่เจออิหยัง ตกน้ำทะเล หรือถ้าซวย โชคนาวี ลากอวนหาปลาสลิดอยู่บริเวณนั้นก็โดนแจ็คผ็อท..................... มีต่อ
พิมพ์ไม่มันจริงๆ ครับพับผ่า พอมันแหล็คแล้ว แม้กดชิพ สระโอยังเป็นดอเด็กเลย...................
วิธีสุดท้ายเรียกว่า วัดวา วิธีนี้น่จะเป็นแบบคุเฟียร์ว่า ซึ่งจริงๆมีมาแล้วในสงคราฟล็อคแลนด์ เรื่องมีอยูว่า ในสงครามครั้งนั้น อาเจนติน่า ได้หอกโมกศักดิ์(สามสีด้วยหรือเปล่าไม่ทราบ) คือเรือบินเอตองดาร์ดติดฌ็โซเซ่ต์มาใช้ เป้าหมายที่มีค่ายิ่งสมควรแก่หอกเล่มนี้คือรือบรรทุกเครื่องบินอังกฤษ เนื่องจากเกาะฟอลคแลนด์ ไกลจากแผ่นดินใหญ่โคตรๆ อังกฤษรู้ดีถึงพิสัยบินของเครื่องอาเจนติน่า ก็ลอยลำออกนอกระยะบินรบ แถมมีเรือพิฆาตป้องกันภัยทางอากาศติดแซมพิสัยกลางแบบไทป์ ๔๒ คุ้มกันอีกต่ะหาก................... สิ่งที่เอตองดาร์ดทำได้คือ บินต่ำเข้าหาข้าศึกโดยใช้เส้นขอบฟ้าช่วย จนได้ระยะยิงไกลสุดของเอกโซเซต์ กางเขนเหล็กก็ป้อบขึ้นระยะสูงพร้อมลอคเรดารที่เป้าหมายซึ่งข่าวกรองว่าเป็นเบรทุกเครื่องบิน ปล่อยจรวด ๒ลูก แล้วกดหัวดิ่งหลบลงเส้นขอบฟ้าแล้วหันหัวกลับรอฟังข่าวด้วยใจตึ๊กต๋อม.......เป็นการให้ข้อมูลแก่จรวดแบบสั้นๆ แล้วโดดเดียวลแพ แบบมรึงช่วยตัวเองละกัน จรวดหลังจากปล่อยก็พุ่งเข้าหาเป้า แบบไร้การแก้ไขข้อมูล ไปตามยะถากรรม ต่อเมื่อได้ระยะตามโปรแกรม เรดาร์ที่หัวจรวดก็ทำงานค้นหา แล้วพุ่งเข้าชนเป้าต่อไป............. ผลการยิงในครั้งนั้นปรากฏว่า จรวดลูกหนึ่งจมน้ำแบบไร้จุดหมาย แต่อีกลูกวิ่งชนเรือพิฆาตไทป์ ๔๒ เพลิงลุกไหม้ แทนที่จะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน แจกวันนั้น ทัพเรือหลวงก็เกิดอาการแสลง แหยงเข้าตับ ไม่คาดคิดว่า ฝรั่งเศสเพื่อนเลิฟจะเล่นกันถึงขนาดนี้ ว่แส่งถอนกองเรือบรรทุกบ.ออกมาจากระยะบินไกลอีก เลยเป็นว่า เอตองดาร์ดติดเอ็กโซเซต์หมดโอกาสจิ้มให้จม้ำอีกต่อไป................... ครับยิงแบบนี้ อาจไม่ใช้เรดาร์เลยก็ได้ คือ..มีต่อ
จะพิมพ์ว่า แล้วจากวันนั้น ยังกลายเป็น แจกวันนั้น.................
ต่อ คือเมื่อก่อน จีพีเอสไม่เอ็กสะเปิร์ต เค้ใช้ อีเอสเอ็มเป็นตัวชี้เป้าได้ คือบางทีการแพร่คลื่นเรดาร์ขเรือรบก็ไม่ใช่เรื่องดี แค่เปิดเรดาร์เดินเรือ ระบบ อีเสเอ็ม สามารถตรวจจับท่านการแพร่คลื่นได้ไกลเกินระยะขอบฟ้าด้วยซ้ำ ทีนี้ถ้ามีเรือที่มีอีเอสเอ็ม สองลำ ลอยลำห่างกันสักสิบโล คอยจับการแพร่คลื่นของข้าศึก คือ อีเอสเอ็ม กำหนดทิศการแพร่คลื่นได้ แต่ถ้าเป็นสองจุดห่างกัน ลากเส้นกำหนดทิสสอเส้นตัดกัน ทีนี้ได้ระยะหล่ะพี่น้อง........... ก็ปล่อยจรวดอไปเด่ะ ปล่อยแบบภาวะเงียบอีกต่ะหาก..............แล้วที่เหลือก็ปล่อยเป็นเรื่องของจรวดบวกกับโชค ................. จึงสรุปว่า บางทีการยิงจรวดนำวิถีด้วยเรดาร์ อาจไม่ต้องล็อคเป้าก่อนก็ได้ จบ
ทีนี้ มาว่ากันเรื่อง ความสามารถ ความสามารถมีทั้ง ทางกายภาพ เช่น ความทนทะเล พิสัยปฏิบัติการ ความเร็ว ระยะเวลาในทะเล อันนี้เรือใหญ่ติดเครื่องแรงๆย่อมได้เปรียบ............. ความสามรถในการตรวจจับ ควบคุมสั่งกาและสื่อสาร พวก ซีกำลังสามไอ อะไรเทือกๆนั้น พวกนี้รวมเอาระบบตรวจจับต่างๆ ทั้งเรดาร์ โซน่าร์ อีเอสเอ็ม ออปโตรนิคส์ ดาวเทียม เข้าผวกกบระบบสื่อสารและควบคุมสั่งการ ทำให้เป็นเรือฉลาด สามารถสร้างภาพที่เกิดขึ้นเป็นสถานการได้อย่างต่อเนื่อง (รู้ทุกอย่างทุกมุมมองเหมือนดูถ่ายทอดสดฟุตบอลทางทรุมูฟแถมมีคนพากย์ ต่างจากไปดูบนอัศจรยืชันยี่สิบเห็นเจ้าโด้ตัวเท่าไม้ขีด มองตรงไหนก็เห็นที่เดียว ไม่สามรถดูได้หลายมุมเหมือนถ่ายทอดเพราะมีกล้องหลายตัว).................. ความสามารถในการทำสงครามอิเลคทรอนิคส์ ตรวจจับอีเอสเอ็ม ความสารถป้องกันตัว แยกเป็นแบบ อ่อน อีซีเอ็ม แบบแข็ง ปืนจรวดความสามารถในการใช้อาวุธ.......... น้ำฟ้าฝั่ง ใต้น้ำ................ ผมว่าถ้าโดยภาพรวมแล้ว เรือคอเวตรัตนโกสินทร์ น่าจะแรงสุด เสียแต่ เบาไปนิดส์