คำ ร้องขอความเป็นธรรมจ่าเพียรสรุปแล้ว กก.สอบ ข้อเท็จจริง พิจารณาลงโทษ 2 นายพล ระบุมีความผิดไม่ร้ายแรง ตัดเงินเดือน ผบช.ภาค 9 จำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอดีตผบช.ศชต.ให้ว่ากล่าวตักเตือน 1 ครั้ง ส่วนที่ปัตตานี กำนัน-ผญบ.ร้องผู้ว่าฯ ให้ย้ายรักษาการ ผกก.เมือง ภายใน 3 วัน อ้างปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสม ไม่ยอมเซ็นรับรองเยียวยาผญบ.ที่ถูกยิงตาย
เมื่อ วันที่ 3 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมสรุปผลสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้าย หลังจากแสดงความประสงค์ขอย้ายจากสังกัดศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ (ศชต.) ไปสังกัดบช.ภาค 9 ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา (สบ 10) สรุปมาว่ามีความบกพร่องที่การดำเนินการแต่งตั้งของ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. ขณะนั้นเป็น ผบช.ศชต. และพล.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิมาลิก ผบช.ภาค 9 โดยในการประชุมวันนี้มีคณะกรรมการ ประกอบด้วยตัวแทนจากสำนักงานจเรตำรวจ สำนักงานกำลังพล และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ร่วมประชุม
รายงาน ข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงมีมติเห็นพ้องต้องกันว่า กรณี พล.ต.ท.วีรยุทธ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความเที่ยงธรรม เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจให้เกิดผลดีแก่ราชการ ผิดตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 78 (1) (9) คณะกรรมการจึงเห็นพ้องให้ลงโทษให้ตัดเงินเดือนร้อยละ 5 ไม่เกิน 3 เดือน โดยให้เหตุผลว่า ผบช.ภาค 9 มีความบกพร่องในการแต่งตั้งโยกย้าย พล.ต.อ.สมเพียร โดยสามารถรับข้าราชการตำรวจรายอื่นจากหน่วยอื่นมายังบช.ภาค 9 ได้ แต่กลับไม่สามารถรับพล.ต.อ.สมเพียร ที่มาจากหน่วยอื่นเช่นกันได้ โดยมองว่าการกระทำเช่นนี้ถือว่าไม่ใช้ความพยายามเท่าที่ควรในการรับตัว พล.ต.อ.สมเพียร ซึ่งต้องพิจารณา และรับทราบอยู่แล้วว่า ได้ตรากตรำปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย
สำหรับพล.ต.ท.พีระนั้น คณะกรรมการเห็นพ้องว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติราชการด้วยความตั้งใจให้เกิดผลดีแก่ราชการ อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 78 (9) อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตรวจสอบผลการปฏิบัติราชการของพล.ต.ท.พีระ ซึ่งเป็นผู้ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ประกอบกับปฏิบัติหน้าที่ตรากตรำเสี่ยงภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 89 วรรค 3 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ให้ลงโทษเพียงว่ากล่าวตักเตือน 1 ครั้ง ทั้งนี้ คณะกรรมการให้ความเห็นว่า กรณีย้ายพล.ต.อ.สมเพียรครั้งนี้ พล.ต.ท.พีระไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุด ที่จะให้พล.ต.อ.สมเพียร ได้รับการโยกย้ายตามที่ร้องขอ ขณะเดียวกันเมื่อประสานงานให้ย้ายไปบช.ภาค 9 ไม่ได้ กลับไม่ได้เรียกตัวพล.ต.อ.สมเพียร มาสอบถามว่ามีความประสงค์จะโยกย้ายไปที่ใด ทั้งที่สามารถเยียวยาให้ย้ายมาในตำ แหน่งอื่นในสังกัดที่เสี่ยงภัยน้อยกว่าได้ แต่กลับไม่ดำเนินการ
ขออนุญาตใช้ประโยคจากการ์ตูนดังครับ
"สิ้นหว้งแล้ว!!!!!!"
ลาก่อน จ่าเพียรผู้สิ้นหวัง
ผลที่ออกมาเป็นไปตามคาด และก็ไม่ได้หวังว่าองค์กรนี้จะมีซึ่งคำว่า "ยุติธรรม" หลับตาเถิดครับจ่าเพียร ผมขอเสียใจแทนจ่าเพียรด้วยที่อุตส่าหะ ทำเพื่อประเทศนี้ น่าเสียดายความตายของจ่ากลับไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นเลย หลับให้สบายครับไม่เป็นต้องเป็นกังวลใดๆทั้งสิ้น ประเทศนี้มีแต่ตกต่ำลง คนดีไม่มีที่อยู่ ต้องตายวันล่ะเท่าไหร่ คนชั่วช้าอิ่มหนำสำราญ ไม่นานแล้วครับจ่า อีกไม่นาน จ่าคอยดูความเป็นไปอยู่บนสวรรค์ให้สมกับคุณงามความดีที่จ่าได้สร้างมา
"ความยุติธรรมไม่มี สังคมดีหายสาปสูญ ทุกข์ภัยสาปส่งให้อาดูร มูลเหตุเพราะไร้ซึ่งธรรมมา"
แล้วผมจะเฝ้ามองดูวาระสุดท้ายที่ใกล้เข้ามา
ยุคสมัยนี้เป็นไปตามคำทำนายของพระแท้สองรูปที่มาพ้องกัน เรามานับเริ่มจาก
ยุคที่ 6 คือยุค ราษฎร์ราชาโจร
ยุคที่ 7 ชนทนทุกข์
ยุคที่ 8 ยุคทมิฬ
ยุคที่ 9 ถิ่นกาขาว
ยุคที่ 10 ชาววิไล
ตอนนี้ตกมาอยู่ในยุคไหนเราท่านน่าจะรู้ดี
บางครั้งก็ต้องทำใจครับ
คิดจะเป็นทหารตำรวจ ต้อง สละ ให้ได้ทุกสิ่งครับ ทำในสิ่งที่คนอื่นเค้าทำไม่ได้ ละทิ้งความสะดวกสบาย
คำสั่งผู้บังคับบัญชาคือพรจากสววรค์
ตายซะดีกว่าที่จะละทิ้งหน้าที่
ทำตามคำสั่งครับ แต่ว่าทำแบบนี้บ่อยขวัญและกำลังใจลูกน้องคงไม่มีเหลือ โอกาสแพ้ก็สูงถึงจะมีกำลังมากกว่าฝ่ายตรงข้ามก็ตาม ลองไปหาอ่านสามก๊ก ตำราพิชัยยุทธโบราณดู มีคุณค่ามากๆ
สมาชิก Thaifighterclub ทุกท่าน...ยืนไว้อาลัยให้กับความยุติธรรมในประเทศไทย 1 นาที...
ผมเคยได้ยินเพื่อนผมพูด ตำรวจดี ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเห็น
กันตัง เป็นท้องที่มีรายได้สูง การจะไปเป็นสารวัตร รองผู้กำกับ หรือ ผู้กำกับ ใช้เงินสูงมากทีเดียว
การที่เค้าประมูลตำแหน่งกันลงตัวแล้ว เงินก็แจกจ่ายกันไปหมดแล้ว การจะเอาตำแหน่งคืนจากผู้ที่ประมูลได้ ก็คงยาก
ต่อไปนี้คือความคิดเห็นส่วนตัว
เมื่อคุณมาอย่างวีรบุรุษ ก็ควรไปอย่างวีรบุรุษ (เล่นกันเองรึเปล่า?)
มันเป็นเรื่องของ conflict of interest ซึ่งมีกันทุกวงการ
คุณ CAPT.TOM พูดได้ตรงใจผมจริงๆครับ
ทุกวันนี้พูดถึงเรื่องจ่าเพียรนึกถึงอะไรกันหรือครับ
ตั้งแต่วันที่จ่าเพียรเสียชีวิต ผมยังงงนักข่าวเสนอข่าประเดนมันอยู่ที่ไหนกันครับ
แล้วเราประชาชนให้ความสนในในมุมไหนกันครับ
การจากไปของจ่าเพียรผมจดจำชื่อนี้ คือ วีรบุรุษผู้กล้าผู้เสียสละ
ไม่ใช่แต่จ่าเพียรคนเดียวครับที่จบชีวิตที่นั้น ถ้าเอาศพมาเลี้ยงกันผมว่ายาวหลายกิโลแล้วครับ
ท่านทั้งหลาย คือ วีรบุรุษผู้กล้าผู้เสียสละตัวจริงครับ
ขออภัยพิมพ์ผิดหลายที่ครับ
# คุณ chaisoi3
ยุคที่คุณเขียนมา ผิดไปหนึ่งยุคนะครับ
ยุคที่ 6 คือยุค ราษฎร์ราชาโจร
ยุคที่ 7 ชนทนทุกข์ <------- ยุคนี้จริง ๆ ต้องเขียนเป็น "นั่งทนทุกข์" ครับ
ถ้าจะใช้ตำราของสมเด็จโตฯ ก็ต้องเขียนเป็น "ชนร้องทุกข์"
แต่ถ้าใช้ตำราของหลวงปู่ใย สมัยอยุธยา ต้องเขียนเป็น "นั่งทนทุกข์" ครับ
ที่คุณเขียนมา เป็นการผสมกันนะครับ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่า
ท่าน lordsri ครับ ทำไม สมเด็จโต ไม่รับเป็นสังฆราช ในยุคนั้นครับ และยุคนี้นี่เอง ที่มีองค์พระสยามเทวาธิราชเกิดขึ้นเพราะอะไร.....
สรุป. ลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชา ทุกคนอยู่ใต้คำสั่งได้ครับ แต่คำสั่งที่มิชอบและไม่ยุติธรรม (ไม่ถือว่าเป็นคำสั่ง)
หากทนทุกข์อยู่ต่อไม่ได้(และถ้าไม่ห่วงลูกเมีย พ่อแม่) หางานอื่นทำก็ได้ครับ อาจจะมีความสุขกว่าที่เป็นอยู่
# คุณ Tik
เรื่องสมเด็จโตฯ ไม่รับตำแหน่ง ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ
อาจจะเนื่องจากไม่มีพระเถระรูปใด มีคุณสมบัติอยู่ในฐานะที่จะทรงสถาปนา ตามหลักเกณฑ์ กล่าวคือ ตามพระราชประเพณีนิยมที่มีมาแต่โบราณ พระเถระที่จะทรงตั้งเป็น สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระราชาคณะ นั้น ก็เฉพาะผู้ทรงคุณสมบัติพิเศษ คือเป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นอาจารย์เป็นที่ทรงนับถือเหมือนอย่างพระอุปัชฌาย์ หรือพระอาจารย์ หรือเป็นผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า มีอายุแก่กว่าพระชนมพรรษา แม้ว่าจะว่างสมเด็จพระสังฆราช แต่การปกครองคณะสงฆ์ ก็สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี เนื่องจากแต่โบราณมา พระมหากษัตริย์ทรงถือเป็นพระราชภาระในการปกครองดูแลคณะสงฆ์ โดยมีเจ้านาย หรือขุนนางผู้ใหญ่ในตำแหน่ง เจ้ากรมสังฆการี เป็นผู้กำกับดูแลแทนพระองค์ สมเด็จพระสังฆราชมิได้ทรงบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรง ทรงดำรงฐานะปูชนียบุคคล การปกครองในลักษณะนี้ ได้มาเปลี่ยนแปลงไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ
ถ้าเราดูตามประวัติสมเด็จโต ท่านจะพบว่า
เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สวรรคตลง เจ้าฟ้าทูลกระหม่อม ซึ่ง บวชตลอดรัชกาลที่ 3 ที่วัดบวรฯ ก็ลาสิขาบทขึ้นเสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จัก กรี ก็ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้เป็น "พระธรรมกิตติ" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ระฆัง เมื่อ พ.ศ. 2395 ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ไม่นาน พอถึง พ.ศ. 2397 ก็โปรด เกล้าฯ ให้เป็น "พระเทพกวี"
ในขณะที่ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ก่อนสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๖
นั่นแสดงว่า ๑ ปีก่อนที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้าจะสิ้นพระชนม์ หลวงปู่โตเป็นที่ พระธรรมกิตติ แล้ว
และเป็นการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วมากเพราะ
หลวงปู่โต เลื่อนจากพระมหาเปรียญ---> พระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระธรรมกิตติ
ถ้าเปรียบเทียบไปก็คือ เลื่อนจากพลทหาร--->มาเป็นยศนายพัน โดยไม่ต้องผ่านการติดยศ นายสิบ หรือนายร้อย.. แต่อย่างใด
แบบนี้ไม่ถือว่า "เลื่อนชั้น" อย่างรวดเร็วหรือครับ ??
แล้วถ้าเกิดสมมติ ให้ท่านเลื่อนไปเป็นสมเด็จพระสังฆราชแบบทันที อะไรจะเกิดขึ้น ??
เปรียบเทียบก็คือ ปีก่อนเป็นพลทหาร ปีนี้มาเป็นนายพัน ปีต่อไปก้าวไปเป็นพลเอก(ผบ.ทบ.) จะเอาแบบนี้เลยหรือครับ ?? ผมว่ามันไม่เหมาะสมนะ
ส่วนเรื่องพระสยามเทวาธิราชนั่น ร.๔ ทรงต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนในประเทศครับ
อีกอย่างทรงชำนาญเรื่องโหราศาสตร์ ขนาดหลักเมือง ยังทรงให้ขุดแล้วฝังหลักเมืองใหม่เลย เพราะทรงคำนวณแล้วพบว่าฤกษ์เดิมไม่ดี ถ้าตามอ่านพระราชประวัติ จะเข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้นครับ
ผมไม่อยากให้นำกรณีนี้ไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์สมัยก่อนครับ ไม่ใช่อะไรหรอก เดี๋ยวกระทู้จะถูกอุ้ม จริง ๆ จะเขียนก็เขียนได้ครับ แต่เกรงใจ WM เขา
ขอบคุณครับ ท่าน lordsri เรื่องความรู้ และความกรุณา
และขอบคุณท่านลมหมุนวน ที่หมุนมาให้เห็นสัจจะธรรมอีกครั้งครับ...
เรามีได้แค่ชีวิตเดียว...ไปเมื่อไหร่ก็ไม่ใคร่รู้ แต่ก็ยังรักในความยุติธรรม เหมือนมนุษย์พึงได้รับศักดิ์ศรีความเป็นคน
ขอสดุดีจ่าเพียร อีกครั้งครับ...
ผิดที่จ่าเพียร ไม่มีพี่น้องหรือรุ่นที่ใหญ่พอ ว่างั่น
..............................................
สำหรับเพื่อนสมาชิกท่านใด ที่มีความคิดหรืออุดมการ์ณเช่นดียวกับผม สามารถ PM มาคุยกับผมได้ ผมพร้อมเปิดคุยในทุกความคิดเห็น ที่แม้จะไม่อาจจะคุยในแบบสาธารณได้
"ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย" สักวันกรรมต้องตอบแทนผู้กระทำ
คิดมากครับ ยุคนี้มันยุคกรุงไกล้แตกเเล้ว คนดีเพื่อแผ่นดิน นั้น สูญหายอย่างควันไฟ คนจัญ.... โกงกอบโกย รวยล้นฟ้า
ชาวประชา ก้มหน้า รับชะตา กัน ทั่วธานี