หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ขอให้เป็นข่าวเท็จ

โดยคุณ : pop04 เมื่อวันที่ : 13/11/2010 11:49:09

พอดีผมกลับไปบ้านที่บุรีรัมย์มามีข่าวลือว่าทหารเขมรใช้ช้างลากหลักเขตแดนและหมุดGPSเข้ามาในเขตแดนฝั่งเรา

ตั้งแต่เขตตาพยาถึงช่องจอมสุรินทร์เป็นข่าวลือของพวกพรานที่เข้าไปหาของป่ามาขาย ถ้าเป็นจริงมีผลกระทบกับประเทศเราไหมครับ

และเป็นผลมาจากที่เขมรประท้วงจนgoogleเปลี่ยนแผนที่ไหมครับ

ข้อให้เป็นข่าวเท็จทีเถอะ

เพื่อนๆและท่านผู้รู้คิดว่าไงกับข่าวนี้ครับ





ความคิดเห็นที่ 1


แล้วทหารแถวนั้นทำอะไรอยู่หนอ............

โดยคุณ ecos เมื่อวันที่ 08/11/2010 03:47:58


ความคิดเห็นที่ 2


นั่งรอความจริงให้ปรากฏครับ โวยวายไปก็เท่านั้น หาว่าเสี้ยมให้เกิดความแตกแยก

โดยคุณ chaisoi3 เมื่อวันที่ 08/11/2010 03:49:07


ความคิดเห็นที่ 3


 

หลัก GPS มันก็ต้องมีพิกัด GPS ระบุอยู่  ต่อให้เคลื่อนย้ายหลัก แต่พิกัดมันก็คงเดิม หรือว่าะเขมรจะเอาช้างลากดาวเทียมให้เคลื่อนที่ตามด้วยละครับ

โดยคุณ CoffeeMix เมื่อวันที่ 08/11/2010 04:14:05


ความคิดเห็นที่ 4


ข่าวนี้มีมูลครับ!!!

แต่ผมไม่ยืนยัน

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 08/11/2010 11:03:43


ความคิดเห็นที่ 5


คดีตัวอย่างครับ -ขอไม่เปิดเผยชื่อคนกระทำความผิด - นะครับ เพื่อไม่ให้เอาการเมืองมาเกี่ยวข้องในนี้นะครับ

 

จาก กรณีที่ นายไม่เปิดเผยชื่อ1   นำมวลชนไปรวมตัวที่ บริเวนปากเข้า บ้านตาเมียง หมู่ที่ 1 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อนำมวลชน 400 คน จะขึ้นไปแหล่งโบราณสถานประกอบด้วย ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทบ่ายกรีม ที่บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง เพื่อถอนหลักแดนไทย-กัมพูชา แต่ได้ถูกกลุ่ม นปช.คนเสื้อแดงสุรินทร์ 50 คน สกัดกั้น ก่อนเดินทางกลับ ล่าสุด ร้อย ตชด.216 อ.ประโคนชัย ไปเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.บ้านกรวด อ.ประโคนชัย เพื่อแจ้งบันทึกเป็นหลักฐานว่า นายไม่เปิดเผยชื่อ1 นำนวลชนไปถอนหมุดแดนไทย – เขมร

วันที่ 2 พฤษภาคม 2553 ร.ต.ท.ปราโมทย์ บุญยืน รอง ผบ.ร้อย.ตชด.216 อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้ง พ.ต.ท.สุมิตร คำจุมพล รองผกก.สภ.บ้านกรวด เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า นายไม่เปิดเผยชื่อ1 พร้อมพวกเข้าพื้นที่รับผิดชอบ บ้านสายตรี 4 ชายแดนไทย – กัมพูชา แล้วหมุด GPRS ของกรมแผนที่ทหารได้สูญหายไป 1 อัน จึงให้เจ้าหน้าที่ประสาน นายไม่เปิดเผยชื่อ1 ให้ช่วยนำหมุดมาส่งคืนเร่งด่วน และ นายไม่เปิดเผยชื่อ1 ได้นำหมุดมาชี้แจงแล้ว ซึ่ง ร้อย ตชด.216 ยังไม่ได้ไปดู

นายวชิระ เกตุพันธุ์ นายอำเภอพนมดงรัก จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เช้าวันนี้ทราบว่าคณะ นายไม่เปิดเผยชื่อ1 จะนำมวลชนขึ้นไปแหล่งโบราณสถานปราสาทตาเมือนธม อีกครั้ง และได้มีกลุ่ม ไม่เปิดเผยชื่อ2 เข้ามาชุมนุมปิดเส้นทางแล้ว จึงนำกำลัง อส.ไปร่วมกับ ตำรวจ ทหาร เพี่อดูแลความสงบเรียบร้อย

นายวชิระ กล่าวว่า ถ้าหาก นายไม่เปิดเผยชื่อ1 เจตนาจะเข้าไปพื้นที่จริงหากเกิดความเสียหาย เหมือนกับทาง อ.บ้านกรวด ( ทำหมุดแดนเสียหาย ) อ.พนมดงรัก เป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก เป็นหน้าที่ของทหาร

โดยคุณ pushbutton เมื่อวันที่ 08/11/2010 15:52:05


ความคิดเห็นที่ 6


แนวรบด้านตะวันตกกำลังก่อตัวใกล้ๆกับชายแดน แนวรบด้านตะวันออกก็ได้ทีอีกละสินะ....

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 08/11/2010 23:15:02


ความคิดเห็นที่ 7


pushbutton นายไม่เปิดเผยชื่อ 1. ที่ทำไป มีนัยยะครับ

นายไม่เปิดเผยชื่อ 1. ทำโดยไม่ให้ความเคารพเจ้าหน้าที่ท้องที่  แสดงว่านายคนนี้(ใหญ่)

แนวรบตะวันออกอาจปะทุได้ เนื่องจากมีนัยยะ ที่มีการวางแผนกันไว้แล้วมั๊งครับ

ถ้าเป็นหมาทั่วไปไปเดินเล่น  เจ้าหน้าที่แถวนั้นเขาคงเตะไปแล้ว

แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นหมาของใคร เขาถึงไม่มีใครกล้าเตะมัน

หากเกิดปะทะกันขึ้นมา    คนที่ตายและเดิอดร้อนก็คือ ผู้รักษาชายแดนที่นั่นเอง

ไอ้ขบวนการนี้ มันทำมาสองครั้งแล้ว  ทหารเกือบจะยิงกันมารอบนึงแล้ว

 

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 09/11/2010 03:36:04


ความคิดเห็นที่ 8


อ่านๆแล้วชักจะเริ่มการเมืองนิดๆละครับผมว่า

 

ปล. หมุด GPRS หายน่าจะไปตามที่บริษัทมือถือนะครับ ต้อง GPS ครับ

โดยคุณ chai_archer เมื่อวันที่ 09/11/2010 06:15:50


ความคิดเห็นที่ 9


ถ้าเรื่องนี้ออกแนวดราม่ายกให้เสื้อแดงเป็นพระเอกและอีกฟากเป็นผู้ร้ายก็ต้องยอมเชื่อละคร๊าบ

 

ทีจริงประเด็นของเรื่องไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ยกขึ้นมาทำไมเนี่ย.....

โดยคุณ chaisoi3 เมื่อวันที่ 09/11/2010 09:53:43


ความคิดเห็นที่ 10


GPS มันกำหนดพิกัดโดยใช้ดาวเทียม ดังนั้นเรื่องนี้ตกไป

ถ้าเป็นหลักเขตแดนเนี่ย มันใหญ่ถึงขนาดต้องใช้ช้างลากเลยเหรอ (-  -) ไม่น่าจะขนาดนั้นนะครับ

โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 09/11/2010 13:52:46


ความคิดเห็นที่ 11


คำชี้แจงกระทรวงต่างประเทศ ของพื้นที่ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์

ที่มา http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=24722

คำชี้แจงกรณีข่าวการเคลื่อนย้ายหมุดหลักฐานของกรมแผนที่ทหาร ที่หัวเขื่อนห้วยเมฆา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

06 กรกฎาคม 2553 19:40:07

 

ตามที่มีข่าวว่าได้มีการค้นพบหมุดหลักฐาน หรือที่มีการเข้าใจว่าเป็น “หมุดปักพรมแดน” ที่บริเวณสันเขื่อนห้วยเมฆา อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาในดินแดนไทยประมาณ 12 กิโลเมตรครึ่ง และอาจทำให้ไทยเสียดินแดนนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของหมุดหลักฐานดังกล่าว และสถานะล่าสุดของการดำเนินงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ดังนี้

          1. หมุดหลักฐานดังกล่าว ไม่ใช่หลักเขตแดนที่แสดงแนวแบ่งเขตระหว่างไทย - กัมพูชา แต่เป็นหมุดหลักฐานดาวเทียม GPS ที่ใช้งานทางเทคนิค ซึ่งกรมแผนที่ทหารสร้างขึ้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2550 เพื่อใช้เป็นหมุดขยายโครงข่าย GPS สำหรับเป็นค่าพิกัดอ้างอิงในการถ่ายทอดค่าพิกัดให้กับหลักเขตแดนไทย - กัมพูชา หมายเลข 25 และ 26 โดยหมุดหลักฐานดาวเทียม GPS ดังกล่าวสร้างในฝั่งไทย 1 หมุด สร้างในฝั่งกัมพูชา 1 หมุด และอยู่ห่างจากแนวเขตแดนประมาณ 7 – 8 กิโลเมตร สาเหตุที่ใช้ข้อความว่า “เขตแดนไทย - กัมพูชา”นั้น ในทางเทคนิคมีจุดประสงค์เพื่อต้องการสื่อความหมายว่าหมุดนี้เป็นหมุดขยายโครงข่าย GPS ในงานเขตแดนไทย - กัมพูชา ทั้งนี้เพราะว่าที่หมุดดังกล่าวจะมีหมุดทองเหลืองฝังอยู่ตรงกลางซึ่งมีข้อความว่า GPS กรมแผนที่ทหาร อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเพื่อมิให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเข้าใจผิดว่าจุดนี้เป็นแนวเขตแดนไทย – กัมพูชา  กรมแผนที่ทหาร จึงได้ดำเนินการเปลี่ยนข้อความบนหมุดดังกล่าวจากเขตแดนไทย – กัมพูชา เป็น “หมุดขยายโครงข่าย” เมื่อกันยายน 2552  ซึ่งในวันที่ 22 มกราคม 2553 และ 20 มิถุนายน 2553 กรมแผนที่ทหารได้ชี้แจงและประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนและส่วนราชการในพื้นที่ทราบว่า หมุดหลักฐานดาวเทียม GPS ไม่ใช่หลักเขตแดนไทย – กัมพูชา แต่อย่างใด

          2. การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนด้านไทย – ลาว และไทย – มาเลเซีย ก็ได้มีการสร้างหมุดหลักฐานขยายโครงข่าย GPS เพื่อใช้เป็นค่าพิกัดอ้างอิงเช่นเดียวกัน

          3. หมุดหลักฐานขยายโครงข่าย GPS มีขนาดประมาณ 30 X 30 เซนติเมตร จะสร้างเสมอพื้นดิน ซึ่งมีขนาด รูปร่าง และลักษณะการสร้างที่แตกต่างจากหลักเขตแดนไทย - กัมพูชา โดยสิ้นเชิง       ซึ่งมีขนาด 40 X 40 เซนติเมตร สูงเหนือพื้นดินประมาณ 1 เมตร ตามรูปภาพที่แสดงให้เห็นข้างล่างนี้ อนึ่ง หากเป็นหลักเขตแดนซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงสร้างขึ้นมา ฝ่ายไทยย่อมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแต่ฝ่ายเดียวได้

          4. การดำเนินงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา ดำเนินการไปตามข้อกำหนดอำนาจหน้าที่และแผนแม่บทในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมไทย-กัมพูชา (Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary : TOR) ฉบับวันที่ 25 สิงหาคม 2546 ซึ่งได้กำหนดขั้นตอนต่าง ๆ สำหรับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมกันเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้
           1) การค้นหาที่ตั้งและสภาพของหลักเขตแดนเดิม 73 หลัก รวมถึงการซ่อมแซมหลัก    เขตแดนเดิม
           2) การจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto Maps) มาตราส่วน 1/25,000 ตลอดแนวเขตแดน
           3) การลากแนวที่จะเดินสำรวจบนแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ
           4) การตรวจสอบภูมิประเทศ
           5) การปักหลักเขตแดน

          5. ปัจจุบัน งานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา 3 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการในขั้นตอนที่ 1 เท่านั้น กล่าวคือ การค้นหาที่ตั้งของหลักเขตแดนเดิม 73 หลัก จึงมิได้มีการขยับหลักเขตแดนตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด การที่จะทราบว่าตำแหน่งหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาทั้งหมดจะอยู่ที่ใดอย่างแน่นอนนั้น จะต้องรอให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา ดำเนินการครบ 5 ขั้นตอนก่อน

          6. เมื่อครบ 5 ขั้นตอนแล้ว ผลงานของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ก็ยังไม่มีผลผูกพันประเทศทั้งสอง เจ้าหน้าที่ต้องนำผลการสำรวจปักหลักเขตแดนเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณานำเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ต่อไป เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว รัฐบาลไทยจะต้องให้สัตยาบันข้อตกลงดังกล่าวเป็นทางการ การสำรวจและปักหลักเขตแดนจึงมีผลทางกฎหมาย


 

 

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 09/11/2010 22:25:27


ความคิดเห็นที่ 12


ขอบคุณ ท่านท้าวให้ความกระจ่างครับ

คุณ ชัยซอย3 ครับ ที่พูดเพราะมีคน นำเรื่องนี้มาปลุกเป็นกระแส วันที่ 11 ธันวาคมที่จะถึงนี้ครับ

แล้วมันควรจะเป็นหนังดราม่าดีไหมเอ๋ย เพราะไม่สงบซะที สิเอ้า....

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 10/11/2010 01:27:35


ความคิดเห็นที่ 13


ที่ตั้งกระทู้นี้มาไม่มีเจตนาเรื่องการเมือง

และขอยืนยันไม่เข้าข้างสีไหนเป็นการส่วนตัวครับ

ตอบแบบลูกผู้ชายเลยครับ

รูปที่1หลักเขตแดน

รูปที่2 หลักgps

หลักเขตแดนมันไม่ใหญ่แต่หนักอยู่ในป่าต้องใช้ช้างลากเอาครับ เพราะรถเข้าไม่ได้และยังเงียบ



โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 10/11/2010 14:07:35


ความคิดเห็นที่ 14


อย่ามีอคติ  อย่าคิดว่าจะสีไหน ข้างไหน เราเปิดใจกว้างกว่าเก่าสักนิดเลิกคิดว่าคนอื่นไม่รักชาติ  แล้วเราจะรักชาติเหมือนคนอื่น แล้วเราจะช่วยกันจับมือเดินเคียงข้างสู้กับอุปสรรค์  ความคิดที่แตกต่างไม่ใช่ ต่างเพราะศาสนา ต่างเพราะภูมิภาค ไม่ใช่ต่างเพราะลัทธิการเมือง แต่ต่างเพราะมีคนแบ่งให้เราต่างกัน ต่างเพราะเน้นย้ำและพูดซ้ำๆๆๆๆๆ ว่าเราต่างกัน  ทั้งๆที่เรา ฅนไทย เหมือนกัน

 

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 10/11/2010 20:24:23


ความคิดเห็นที่ 15


จะแดง จะเหลือง มันก็คนไทยทั้งนั้นแหละ ทะเลาะกันเพื่อใคร...........

โดยคุณ ecos เมื่อวันที่ 13/11/2010 00:49:09