......
เวียตนามมีประวัติการรบมาตั้งแต่ยุค เจงกิสข่านโน่นล่ะครับ(เพิ่งดูสารคดี)
รบมาโชกโชนอย่างยาวนาน เจอทั้งฝรั่งเศส/อเมริกา/จีน
เบิ้มๆอาวุธก็ทันสมัยทั้งนั้น ทำนาปลูกข้าวรบกันไป มุดรูมุดถ้ำ จนชนะใด้
แล้วตอนนี้ล่ะดูสิครับ เอาแบบรถไฟฟ้าชินกันเซน ของญี่ปุ่นมาวางจากเหนือลงไต้ไม่กี่ปีก็คงเสร็จ
การพัฒนาประเทศค่อนข้างเร็ว
หันมามองบ้านเราบ้างก็หดหู่ใจ ยังคงรอความสามัคคี...
ประเทศไทยเจริญยาก
รบกันเองไห้ชนะก่อน
ขึ้นชื่อว่าสงคราม ชัยชนะ หรือ ความพ่ายแพ้ ขึ้นอยู่กับความตาย....................... ลูกพี่ไม่ตาย ลูกน้องตาย(ห่ะ)หมด ก็ต้องยอมแพ้เช่นกรณีญี่ปุ่น ..............หรือ ............... ลูกน้อยตายหอมปากหอมคอ(ข้าศึกคือรัสเซียตายเป็นเบือ มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบ) แต่ลูกพี่ฮิตเล่อร์(เจือก)ชิงตายก่อน อีนี้เยอรมันก็ต้องยอมแพ้..................... ตาย กับ ตาย ความพ่ายแพ้ ของสงครามพึงเกิดขึ้นเมื่อมีความตาย...............................
ดังนั้นสงครามครั้งนี้จะจบก็ต่อเมื่อมีการตาย ....................... เป็นไปคล้ายดังสองแบบข้างต้น............... ไม่ได้เข้าข้างไหน ...................แต่ทั้งสองทาง คือ หัวข้อเพียงหนึ่งเดียวที่จะทำให้มีความสงบสุข
อิอิ ประสิทธิภาพทางทหารก็ว่ากันไป แต่ตอนนี้สนประสิทธิภาพทางกีฬามากกว่า เดี๋ยวนี้บอลชายเราเอาชนะเขาไม่ง่ายเหมือนตะก่อนซะแล้ว ส่วนบอลหญิงเราพัฒนาขึ้นมาพอสูสี ตระกร้อชายนี่ยังขี่กันพอสมควร แต่ตระกร้อหญิงยังขี่บ่ได้ คู่คี่สูสีกันเหลือประมาณ เชียร์กันมันหยดมีโอกาสออกหัวออกก้อยได้หลายหน้า ส่วนวอลเล่ย์บอลชายผมว่าเรายังดีกว่านิดหน่อย แต่วอลเล่ย์บอลหญิงเนี่ยไม่ต้องพูดถึง เราไปไกลในระดับโลกแล้ว สรุปโดยรวมแล้วประสิทธิภาพทางกีฬาเรายังดีกว่าพอสมควร แต่เขาก็พัฒนาขึ้นมาเร็วมาก เอเชียนเกมส์คราวนี้ก็อย่าลืมเชียร์นักกีฬาไทยกันด้วยนะครับ....
เวียดนามไม่สร้างแล้วครับ ไอ้รถไฟชินคังเซนจากเหนือจรดใต้เนี่ย
ถ้าเป็นด้านอาวุธยอมรับว่าเวียดนามมีอาวุธที่ดีและจัดหานำมาใช้งานได้ง่ายมากกว่าเราเพราะระบบของเขาง่ายต่อการจัดหาไม่มีการตั้งข้อสงสัยมาก ในการปลุกระดมก่อให้เกิดจิตสำนึกในการรักชาติเสียสละเพื่อชาติทำได้ง่ายเพราะมีสิ่งที่สามารถนำมาปลุกระดมได้ง่ายเช่นอยากให้โกรธเกลียดเราเขาก็นำบันทึกที่มีทั้งหลักฐานภาพและเสียงตอนที่เราให้อเมริกาใช้เราเป็นฐานบินไปถล่มทำให้ญาติพี่น้องเขาตายไปเยอะซึ่งทุกวันนี้ถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี เราเคยคิดว่าประมาณ 20 - 30 ปี เขาจะตามเราทันแต่ทุกวันนี้บางอย่างเขาแซงเราไปแล้วเช่นข้าว ตอนนี้ส่งออกมากกว่าเราอีก บางสิ่งบางอย่างที่เขาพูดไว้ว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ทำแต่เชื่อเถอะครับว่ามาแน่ๆ อาจจะเร็วกว่าที่เราคิดไว้อีก ถามว่าการพัฒนาประเทศมีผลต่อทางทหารไหมในปัจจุบันนี้สำหรับเรามีมากแต่เขาก็มากแต่เขาสามารถเลือกได้เพราะระบบการปกครองเขาเด็ดขาด เรื่องอาวุธผมว่าผู้นำเรารู้อยู่เต็มอกว่าพอหรือไม่พอ หายใจด้วยต้วเองได้ขนาดไหน แม้แต่ทางตะวันตกของเราผู้นำที่มีอำนาจสูงสุดในด้านการป้องกันประเทศยังบอกว่าว่าจะตั้งรับได้สักกี่วัน เพราะว่าเรารู้เขารู้เรา เราเลยเฉยๆ ไอเสียงดังไม่ได้ทั้งที่รู้ว้าอะไรเป็นอะไรโดยเฉพาะทางไต้ของเรา กลับมาที่เวียดนามสำหรับคนรุ่นต่อไปตอนนี้สังคมเวียดนามรับวัฒธรรมจากต่างชาติเร็วมากจนเกิดปัญหาในชาติมากกว่าที่เราคิดว่าเราเห่อเกาหลีอีก เวียดนามมองไทยเหมือนไทยมองญี่ปุ่นหรืยุโรปอยากเข้ามาทำงานอยากเข้ามาศึกษา ตอนเวียดนามมีการส่งเยาวชนเข้าแข่งขันทางการศึกษาระหว่างประเทศ เขากวาดเรียบ แต่ตอนนี้เริ่มลดลงเป็นผลมาจากการที่วัฒนธรรมจู่โจมเข้ามาเร็วเกินไปการปรับตัวไม่ทันทำให้คุณภาพเยาวชนลดลง กำลังเป็นปัญหามากในเวียดนามหากยังเป็นเช่นปัจจุบันต่อไปสำหรับเวียดนามผมว่าไม่น่ากลัวและในภาคพื้นนี้ไม่มีชาติใดที่เหนือกว่าหรือด้อยกว่าอยากตอแยเราจริงหรอกครับ อาวุธที่ด้อยว่าใช่ว่าศักยภาพในการดำรงอยู่จะด้อยตามตราบใดที่ไทยยังเป็นไทยรู้รักสามัคคีและเสียสละ สำหรับเรื่องประสิทธิภาพผมยังมั่นใจในศักยภาพของเรา ( เราไม่ค่อยเปิดเผยอะไรมากหรอกครับไปทำอะไรไว้เราถือแป็นเรื่องราชการ ราชการเท่านั้นที่รู้ ) นอนหลับให้สบายรั้วของชาติแข็งแรงดีไม่มีปลวกครับ
จริงๆ กระทู้เปรียบมวยระหว่างไทย-เวียดนามมีมาตลอด...กระผมเองพยายามเลี่ยงการให้ความเห็นแบบตรงๆ เสมอ เนื่องจากจะบานปลายและทะเลาะกันได้....แต่เชื่อไหมว่าสุดท้ายก็จะจบที่ว่าเค้าดีกว่าเราเสมอ...ไม่รู้เป็นอะไร
มองกันในแง่ความเป็นจริง ผมยังมองไม่เห็นเลยว่าเวียดนามดีกว่าเราตรงไหน GDP เมื่อปี 2009 เราอันดับ 33 (263,979 ล้าน USD) เวียดนามอันดับ 58 (93,164 ล้าน USD) จาก http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal) ต่างกันร่วมๆ 3 เท่า ในขณะที่ประชากรเรา 67.8 ล้านคน เวียดนาม 87.3 ล้านคน http://www.prb.org/pdf09/09wpds_eng.pdf...เมื่อถัวต่อหัวเราสูงกว่ามาก ที่เวียดนามได้เปรียบเราตอนนี้คือเรื่องของค่าแรงที่ถูก จะคล้ายกับเราเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ค่าแรงต่ำกว่าในขณะที่ค่าครองชีพสูงกว่าบ้านเราเยอะ เทียบง่าย วิศวกรอายุ 50 บ้านเราเงินเดือนตกที่ 6-80,000 บาท แต่เวียดนามอยู่ประมาณ 12,000 บาท...ค่าก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา 20-35 บาท แต่ที่เวียดนาม 40-50 บาท...สวนทางกันอย่างมาก แต่ที่เค้าอยู่ได้เพราะมีภาคเกษตรมาช่วย ทุกบ้านสามารถปลูกผักกินเองได้...รถไฟความเร็วสูงทำได้ง่ายครับ ลงทุนเป็นล้านล้านบาท แต่ไม่ทราบว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการหรือเปล่าเพราะแพงมากๆ อย่าว่าแต่เวียดนามเลย บ้านเราทำไปก็เจ๊ง.....
เอาหล่ะ...นอกเรื่องไปเยอะ ถ้าว่ากันด้วยประสิทธิภาพของทหาร สายเลือดนักรบของเราก็ไม่ใช่แย่ สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นให้ความนับถือนักรบไทยไม่น้อยทีเดียว เพราะกว่าจะขึ้นบ้านเราได้ญี่ปุ่นก็เสียหายไม่น้อย ในขณะที่ญี่ปุ่นบุกจีน ทหารจีนมีมากกว่ากลับยอมแพ้ ทำให้ญี่ปุ่นย่ำยีบีทาต่อประชาชนจีนเท่าไหร่....ส่วนเวียดนามก็ต้องยอมรับว่าเข้าผ่านศึกยาและลำเค็ญมากกว่าเรา...เดียนเบียนฟูเอย สงครามเวียดนามเอย ที่สำคัญเอาชัยได้ด้วย แต่ก็ว่าได้ไม่เต็มปาก เพราะอาศัยได้ความช่วยเหลือจากมือที่สาม รบกันสมัยร.3 ใชเวลาไป 21 ปี ไม่รู้ผลแพ้ชนะ ต่างก็เลิกรากันไป....
หากจะฟันธงใครแกร่งกว่า ผมก็มองไม่ออก ถ้ามองแบบนักมวยที่ดูผลงานย้อนหลัง ก็ต้องนับว่าเวียดนามเป็นต่อ แต่ในสงครามสมัยใหม่ ที่เน้นความแม่นยำรุนแรง ใช้เวลาสั้นรวบรัดตัดความ วัดกันที่กลยุทธ์มากกว่า ซู-30 ที่ว่าเป็นสุดยอด ณ.ตอนนี้เวียดนามก็ยังมีน้อย......ผมให้เสมอๆ ครับ
ส่วนตัวนะครับ โดยมองในมุมของเวลา ณ.ปัจจุบัน
เวียดนามเองก็ร้างลาสงครามมานานแล้วเหมือนกัน คนรุ่นนั้นถ้าเป็นทหารไทย ตอนนี้ก็เกษียณไปเยอะแล้ว
คนเวียดนามยุคใหม่ขาดสิ่งที่เรียกว่า เป้าหมายหลักร่วมกัน สมัยก่อนนั้นคือ ปลดแอกจากชาติตะวันตก
โดยทักษะ และขีดความสามารถ ไม่น่าจะต่าง สิ่งที่จะตัดสินแพ้ชนะ น่าจะอยู่ที่ยุทธวิธีและแผนยุทธการมากกว่า
มาผลิตข้าว และเล่นกีฬาแข่งกันดีกว่า
ถ้าใครมีเหรียญทางกีฬา มากกว่า แสดงถึง ศักยภาพของ ประชาชนในประเทศนั้นๆ
ยังไม่ต้องยิงปืนสักนัดเลย....