หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ขอข้อดีและข้อเสียของกระสุน2ชนิดนี้ด้วยครับ

โดยคุณ : napol เมื่อวันที่ : 24/11/2010 20:33:26

ชนิดที่ 1.  5.56x45mm NATO
ชนิดที่ 2.  7.62x51mm NATO
พอให้ข้อดีและข้อเสียเสร็จแล้วช่วยสรุปมาให้ด้วยนะครับว่ากระสุนชินดไหนดีกว่ากัน

ขอบคุณครับ

 





ความคิดเห็นที่ 1


7.63x51 ประสิทธิภาพเหนือกว่าทุกด้าน ทั้งอำนาจการหยุดยั้ง ( Shock Action ) และการทะลุทะลวงตลอดจนระยะหวังผลไกลกว่า 5.56 มม.

 

แต่ ข้อเสียก็ไม่น้อย เช่น Recoil สูงมากทำให้ยิงใน mode Auto ยากมาก และที่สำคัญนำพาติดตัวไปได้น้อยกว่าพวก 5.56 มม.

ดังนั้น 5.56 มม.จึงเป็นที่นิยม  เพราะการรบปัจจุบันระยะหวังผลอยู่ที่ไม่เกิน 400 เมตร

โดยคุณ Kfpz เมื่อวันที่ 16/11/2010 20:45:55


ความคิดเห็นที่ 2


จะให้ตอบอย่างไรดี ...

เอาเป็นว่า ขนาดของกระสุนแตกต่าง ภารกิจย่อมแตกต่าง

5.56 ใช้กับปืนประจำกายของทหารทั่วไป

7.62 นิยมใช้กับพลซุ่มยิง

เดี๋ยวผู้รู้ท่านอื่นๆมาเสริมต่อความรู้ให้เองครับ

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 16/11/2010 12:37:14


ความคิดเห็นที่ 3


อย่างที่คุณ fantom ว่าครับ ตามภารกิจ

นาโต้ก็เปลี่ยนไปเรื่อย กะว่า 5.56 พลังหยุดยั้งน้อยกว่า แต่กระสุนจะคว้านไส้ตาย (ไม่ยืนยัน เพราะยังไม่เคยโดน ฮา) และมีดีที่ขนไปได้เยอะ (หากคุณเป็นแรมโบ้ เอากระสุน .50 ไปก็ยังไหว)

 

ถึงแม้ว่าการรบในปัจจุบัน ระยะหวังผลของกระสุน ไม่เกิน 400 เมตรก็จริง

แต่เห็นว่าบทเรียนจากการรบในอิรัคหรืออัฟกานิสถานที่เจอกระสุน 7.62 x 39 ของรัสเซียก็ทำให้ทหารอเมริกาเรียกร้องปืนที่มีแรงหยุดยั้งข้าศึกสูงกว่า 5.56มม.

เช่นปืนมินิมิก็ต้องมีการออกรุ่นใหม่ให้มีกระสุน 7.62 ชื่อรุ่น  mk 48 mod เพราะในทะเลทรายหรือเมืองร้างๆ ระยะยิงหวังผลของกระสุน 5.56 ต่ำไป

เดี๋ยวนี้เลยจะเห็นปืนกระสุน 6.8 มม.เป็นต้นแบบขึ้นมาเหมือนกัน (เอ็ม 468 บาเร็ตต้า)

แต่ผมอ่านจากเว็บที่ทหารฝรั่งคุยกันบอกว่าเอาจริงๆ กระสุนรัสเซียขนาดสั้นดินส่งไม่เยอะ แรงกระแทกก็ไม่ได้มากมาย ดังที่เล่าลือกัน

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 17/11/2010 07:54:34


ความคิดเห็นที่ 4


สรุปไม่มีอันไหนดีกว่าอันไหน ขึ้นอยู่กับภารกิจ 

เหมือนกับถามว่า รถกระบะกับรถสปอร์ต อันไหนดีกว่า

ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 17/11/2010 07:58:27


ความคิดเห็นที่ 5


ชนิดที่ 1.  5.56x45mm NATO
ชนิดที่ 2.  7.62x51mm NATO
พอให้ข้อดีและข้อเสียเสร็จแล้วช่วยสรุปมาให้ด้วยนะครับว่ากระสุนชินดไหนดีกว่ากัน

 

ชนิดที่ 1 เป็นกระสุนของ ปืนm16 และปืนเล็กยาวที่มีใช้ในกองทัพบ้านเรา เป็นกระสุนที่ทหารราบสามารถติดตัวไปได้จำนวนมาก ขนาดพอดี ให้อำนาจการยิงใกล้ไกลได้ดี หวังผลได้ 400 ม.

ชนิดที่2 เป็นกระสุนของ ปืนm60 และปืนยิงสนับสนุนอื่นๆที่มีใช้ในกองทัพบ้านเรา ขนาดกระสุนใหญ่กว่าของ m16 พอควร กระสุนมาเป็นสาย ยกเว้นปืนสไนค์เปอร์ที่บรรจุแม็ก ระยะยิงหวังผลได้ไกล(มีคนยิงเข้าเป้าขนาดเท่าหัวคนที่1200 เมตร ทั้งทหารและบุคคลทั่วไป) อำนาจการยิงรุนแรง ด้วยขนาดที่ใหญ่จึงไม่เหมาะที่ทหารราบจะนำติดตัวไปได้ครั้งละมากๆ เหมาะกับชุดยิงสนับสนุน ต้องใช้ทหารสองนายถึงได้ผลดี(ยกเว้นแรมโบ้) หรือติดกับรถสนับสนุนต่างๆในกองทัพ ที่เห็นทั่วไปจะติดปืน m60 หรือปืนที่ใช้ขนาดกระสุนเดียวกัน

กระสุนทั้งสองชนิดเป็นกระสุนมาตรฐานของกองทัพเรา

โดยคุณ hong เมื่อวันที่ 18/11/2010 01:33:35


ความคิดเห็นที่ 6


กระสุน 5.56NATO เป็นกระสุน ที่มีหัวกระสุนเล็ก เบา ความเร็วสูง วิถีราบเรียบมาก ถือว่ามีความแม่นยำสูง เหมาะที่จะใช้กับพื้นที่โล่ง เมื่อเอามาใช้ในพื้นที่รกทึบ ป่าใผ่ อย่างบ้านเรา หัวกระสุนทีียิงออกมาถ้าไปกระทบอะไรก็จะเฉ ออกนอกทิศทางได้ง่ายมาก ในเมืองนอกการล่าสัตว์ในป่าทึบ ระยะไม่ไกลนิยมใช้กระสุนที่ความเร็วไม่สูง หัวกระสุนหนัก จะช่วยในการทะลุทะลวงได้ดีกว่า อย่างพวก .30-30 Winchester ที่ใกล้เคียงกับ 7.62x39 (ลูก AK)หรือ .308 Winchester/7.62 NATO
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 24/11/2010 09:21:06


ความคิดเห็นที่ 7


หลังสงครามเวียตนามฝรั่งทหารผ่านศึก ชอบเขียนด่ากระสุน 5.56ว่า ไม่มีอำนาจ หยุดยั้ง บ้างก็บอกว่า ต้องยิงที่หัวเท่านั้น จึงจะอยู่ ราวสองปีที่แล้วมีเรื่องจากอิรัก นาวิกอเมริกันหมู่หนึ่งเจอพวกระเบิดพลีชีพวิ่งข้ามถนนเข้าหา เลยประเคนให้ด้วย M16, M4 และ M249 ไม่อยู่ครับ มือระเบิดวิ่งเข้ามาจนได้ระยะแล้วกดระเบิด นาวิกตายไปหลาย เจ็บเยอะ รอดไม่กี่คน ไม่ได้บอกว่า โดน5.56NATOแล้วไม่ตาย แต่ถ้าต้องการ ให้หยุด เลือกอะไรที่หนักๆ ไว้ ดีกว่า
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 24/11/2010 09:33:26