หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เครื่องบินรบของจีน ไว้ใจได้แค่ไหนครับ

โดยคุณ : Jakkathorn เมื่อวันที่ : 05/03/2011 08:54:24

อยากจะขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆผู้เชี่ยวชาญน่ะครับ ว่า เครื่องบินรบของจีนผลิตนี่ อย่างเช่น เครื่อง เจ-10 หรือ เจ-11 นี่น่าไว้ใจ น่าเชื่อถือได้มากหรือน้อยแค่ไหน

เพราะเคยเห็นมีคนเปรียบเปรยไว้ว่า ไม่ต่างอะไรจาก "โลงศพบินได้" เลยน่ะครับ เลยอยากจะรู้ว่ามันดีหรือไม่ดีแค่ไหน





ความคิดเห็นที่ 1


แล้วมันไม่ดียังไงอธิบายที ผมยังไม่ค่อยได้ยินบินจีนตกเลยได้ยินแต่บินรัสเ๊ซียตกประจำ มันก็แล้วแต่นักบินด้วยอยู่ที่ประสบการณ์ แล้วก็เครื่องบินถ้าหมั่นดูแลตรวจก็พอที่จะไว้ใจได้ อาวธก็ดีไม่มีหมกเม็ดใส่เต็มๆ แถมถูกอีกตังหาก แต่อาจจะอายุการใช้งานน้อยไปหน่อย เนื่องจากเทคโนโลยียังสู้อเมริกาไม่ได้ (ไม่รู้ผมมั่ว555+)

โดยคุณ wanon6 เมื่อวันที่ 02/12/2010 19:16:07


ความคิดเห็นที่ 2


ของอย่างนี้ผมว่ามันอยู่ที่ประสบการณ์และทัศนคติจริงๆนะ ปากีสถานเป็นชาติหนึ่งที่ใช้อาวุธจีนมายาวนาน โดยเฉพาะอากาศยาน ตั้งแต่ JJ-5 ต่อเนื่องมาจน J-10 และ JF-17 รถถังหลักก็จากจีน เรือฟริเกตล่าสุดก็จากจีน ผมอ่านแทงโก้เล่มล่าสุด เขาบอกว่าปากีสถานนำ JF-17 เข้าสู่สมรภูมิรบจริงแล้ว

ส่วนไทยเราแทบจะเรียกได้ว่าเข็ดกับอาวุธหลักจากจีน จะมีก็เรือรบที่พอจะไปวัดไปวาได้

โดยคุณ phongrapee เมื่อวันที่ 02/12/2010 20:50:46


ความคิดเห็นที่ 3


ต้องเข้าใจหลักการของจีนก่อนครับ

จีน เน้นผลิตเยอะ ราคาถูก ซ่อมไม่คุ้ม ฉะนั้น เครื่องบินจีน คง คล้าย ๆ กัน

ดูอย่าง SU-27 รุ่นแรกของจีนที่เอาสิทธิบัตรของ รัสเซีย ไปสร้าง ประจำการหลัง F16 บ้านเรานานพอดู ปัจจุบันเริ่มปลดประจำการแล้ว

โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 02/12/2010 21:59:46


ความคิดเห็นที่ 4


บำรุงรักษาตามรอบ ครบถ้วนสมบูรณ์ ก็ใช้งานได้ตามปรกติ ตามอายุการใช้งานของมัน แม้ว่า เมื้อเที่ยบกับฝั่งตะวันตกแล้ว อายุการใช้งานของมันออกจะน้อยกว่าอยู่บ้างก็ตาม แต่ของที่ยังอยู่ใน อายุการใช้งาน มีปืน มีจรวดที่ อยู่อายุการใช้งาน มันก็ทำงานได้ตามนั้นครับ

โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 03/12/2010 00:57:47


ความคิดเห็นที่ 5


สัมพันธ์หมีขาว-มังกรชื่นมื่น ใกล้ตกลงซื้อขายซู-35
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2553 16:23 น.
 
เครื่องบินไอพ่นขับไล่ซู-35 เป็นเครื่องบินขับไล่ ซึ่งทำได้หลากหลายหน้าที่ และเป็นเครื่องบินขับไล่ ซึ่งทันสมัยที่สุดเท่าที่รัสเซียเคยขายให้ต่างชาติ - เอเยนซี่
       เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ - หมีขาวส่งสัญญาณ ต้องการขายเครื่องบินไอพ่นขับไล่ ซู-35 รุ่นที่ 4 และระบบขีปนาวุธเอส-400 เสริมเขี้ยวเล็บพญามังกร หลังจากเคยผิดใจ ที่พญามังกรแอบก็อปปี้เครื่องบินรบของตน
       
       สื่อมวลชนท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารระบุว่า จีนได้สั่งซื้อเครื่องบิน ซู-35 แฟลงเกอร์-อีเอส (Su-35 Flanker-Es) ถึง 48 ลำ ซึ่งมากพอสำหรับการสร้างฝูงบินขับไล่ 2 ฝูงประจำกองทัพอากาศแดนมังกร
       
       อย่างไรก็ตาม สำหรับความชัดเจนในเรื่องนี้ นาย แอนโทนี หว่องตง ประธานสมาคมการทหารระหว่างประเทศแห่งมาเก๊ามองว่า จำนวน 48 ลำนับว่ามีเหตุผล เพราะในข้อตกลงเมื่อปีที่แล้วในการสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ซู-33 ซึ่งสามารถบินขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินได้นั้น รัสเซียยังขอให้จีนซื้อจำนวน 48 ลำ เนื่องจากรัสเซียจะมีกำไรได้ก็ต่อเมื่อมีการสั่งซื้อเกิน 40 ลำ
       
       ด้านผู้เชี่ยวชาญคนอื่นคาดว่า รัสเซียจะไม่ส่งมอบซู-35 และระบบขีปนาวุธเอส-400 ให้แก่จีนจนกว่าจะถึงปี 2560 เนื่องจากสองฝ่ายยังเจรจาข้อตกลงกันอยู่ โดยรัสเซียยังไม่ระบุอาวุธทั้งสองชนิดในรายการสินค้าส่งออกแก่จีน
       
       ด้านโรโซโบโรเน็กซ์พอร์ต (Rosoboronexport) บริษัทผู้ส่งออกอาวุธ ซึ่งเป็นของรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่าพร้อมเจรจากับจีนในเรื่องนี้ ขณะที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินซูคอย (Sukhoi) ของรัสเซียระบุว่า มีแผนเริ่มการส่งมอบซู-35 แก่ลูกค้าต่างชาติในปีหน้า และผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ในช่วง 10 ข้างหน้า จากรายงานของสำนักข่าวอาร์ไอเอ-โนโวสติ ในกรุงมอสโคว์
       
       ทั้งนี้ พญามังกรเคยยกเลิกข้อตกลงสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ซู-33 หลังจากทดลองเครื่องขับไล่ เจ-15 (J-15) ที่ผลิตขึ้นเองได้สำเร็จ ซึ่งหลายคนระบุว่า จีนลอกเลียนแบบซู-33 ของรัสเซีย ซึ่งเป็นเครื่องบินไอพ่นขับไล่ ทันสมัยที่สุด ที่รัสเซียขายให้ต่างชาติ โดยหมีขาวร้องเรียนว่า เครื่องบินขับไล่หมวดเจของจีนนั้น เป็นแค่การลอกเลียนแบบชั้นเลวเครื่องบินซูของตน และจีนถูกรัสเซียขึ้นบัญชีดำเมื่อปีที่แล้ว
       
       จนกระทั่งสื่อมวลชนรายงานเมื่อเดือนก่อนว่า ปักกิ่งรื้อฟืนเจรจาข้อตกลงซื้อซู-33 ใหม่ หลังจากพบว่า เครื่องยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับเจ-15 นั้น สู้เครื่องยนต์ของหมีขาว ที่ใช้สำหรับซู-33 ไม่ได้
       
       นอกจากซู-35 และระบบขีปนาวุธเอส-400 แล้ว มอสโคว์ยังตัดสินใจเสนอขายเครื่องยนต์ไอพ่น RD-93 จำนวน 100 เครื่องให้แก่จีน ซึ่งจะนำไปประกอบเข้ากับเครื่องบินขับไล่ไชน่า-1 (Fighter China-1) ซึ่งเป็นเครื่องบินขนาดเบาหลายบทบาท ที่จีนพัฒนาร่วมกับปากีสถานอีกด้วย
       
       อาร์ไอเอ-โนโวสติระบุว่า พัฒนาการล่าสุดนี้น่าจะมีส่วนช่วยทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่กระชับแน่นแฟ้นที่สุดระหว่างจีนกับรัสเซีย โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังยินยอมหันหน้ามาเจรจาข้อขัดแย้งระหว่างกัน เช่นปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาด้านเทคโนโลยีอาวุธของรัสเซีย
       
       ทั้งรัสเซียและจีนต่างต้องการถ่วงดุลความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ในย่านเอเชียและแปซิฟิก นอกจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างชาติมหาอำนาจทั้งสองในปัจจุบันนับว่าดีและแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะชาติทั้งสองมีความเท่าเทียมกัน และต่างพึ่งพาอาศัยกัน นายเฉิง อี้จวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์กับรัสเซียประจำสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนระบุ
       
       นอกจากนั้น เขาระบุว่า จีนลดการนำเข้าอาวุธจากรัสเซียในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการพัฒนาอาวุธในประเทศ แต่สำหรับเทคโนโลยี ที่ซับซ้อนทันสมัยแล้ว จีนยังจำเป็นต้องร่วมมือกับรัสเซีย โดยนักบินอวกาศของจีนทุกคนก็ได้รับการฝึกจากรัสเซียเช่นกัน

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000170347

โดยคุณ ocean เมื่อวันที่ 03/12/2010 07:43:00


ความคิดเห็นที่ 6


ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันเพราะไม่เคยขับ -  -

 

แต่ถ้าเอาตามความรู้สึก ผมว่ายังฝากความหวังไม่ค่อยได้

โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 03/12/2010 08:23:35


ความคิดเห็นที่ 7


JF-17 เทียบได้กับ F-16ADF เราหรือเปล่าครับหรือต้องเป็น J-10 ถึงจะเทียบได้

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 05/12/2010 23:24:46