หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ไทยควรมี กองพันม้าอากาศ หรือไม ? ...แถม รูป เจ้านกน้อย

โดยคุณ : arcobaleno เมื่อวันที่ : 07/12/2010 23:56:54

ตอนผมเรียน รด.ปี3 มี ครูฝึกท่านหนึ่ง ยศพันตรี ท่านบอกว่า ควรจะมี กองพันม้าอากาศ สัก 1 กองพัน เอาไว้ แถว ชายแดน พม่า หรือ แถวเขมร เพื่อ สามารถในการป้องตัวเอง เผื่อ วันดีคืนดี เพื่อนบ้านเกืดบ้าเลือดขึ้นมา เพราะมี เจ้าม้าอากาศ มีขีดความสามารถในการรบสูง ใช้เวลาไปถึงแนวรบได้เร็ว กว่า ม้ายานเกราะ เเละ เหล่าราบ ....พี่ ๆ คิดว่าไงครับ...









ความคิดเห็นที่ 1


จริงๆควรมีครับ และควรมีนานแล้วด้วย อย่างน้อยหนึ่งกองพันครับ............................แต่ติดขัดด้วยงบประมาณ คือถ้าจะให้เต็มกองพัน ตั้งมีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลาง อาจเป็น ฮิวอี้สัก สี่ถึงห้าสิบลำ มีสเก้า อีกสิบลำ แถมด้วยฮ.โจมตีอีก เจ็ดแปดลำ....................... รวมความแล้ว ม้าอากาศกองพันเดียว ใช้เฮลิคอบเตอร์เท่ากับจำนวนที่กองทัพบกมีใช้งานค่อนกองทัพ  ซึ่ง ถ้าจัดซักพันนึง ทั้งค่าตัวจัดหาคอบเตอร์ ค่าซ่อมบำรุง คงเล่นขนหน้าแข้งหมดขา แถมอาจลามไปถึงขนอย่างอื่นด้วย............................... แต่ปัจจุบันเราก็มีการจัดไว้แล้ว ร้อย นึงครับ แต่คอปเตอร์ที่ใช้งานจริง ยังต้องใช้ส่วนกลางอยู่............อา แดง ผู้ล่วงลับ เคยบอกว่า ที่เลือกเหล่าม้าเพราะอยากเป็นม้าอากาศ แต่ ตั้งแต่จบนายร้อย จนเป็นนายพล ม้าอากาศก็ไม่เกิดซักที.................ก็คงด้วยดังนี้ครับ.................

มีอีกหน่วยนึง ที่ใช้พาหนะเป็นคอปเตอร์ในการรบ  คือพวกรบพิเศษ ส่งทางอากาศ  ................. พวกนี้เป็นคอมมานโด ใช้ในการคลี่คลายปัญหาวิกฤติการ สามารถเข้ารบได้ตลอดยีบสี่ชั่วโมง เป็นกำลังเคลื่อนที่เร็วเข้าเร็วออกเร็ว ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึง เดวต้าฟอร์ซ ของไอ้กัน หรือนึกถึงเรื่อง แบล็คฮอว์คดาวน์ อ่ะนะ............... ของไทยก็จัดขึ้นหนึ่งกองพัน  มีชื่อเล่นว่ากองพันในฝัน (คือไม่รู้ว่า ดีดั่งที่ฝัน หรือว่า ยังเป็นกองพันที่อยู่ในฝัน คือยังไม่ตื่นก็ไม่รู้)  จัดมาจากหนึ่งกองพันคอมมานโดของกรมรบพิเศษ หน่วยบัญชาการรบพิเศษ..............จ้า...................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 03/12/2010 22:45:04


ความคิดเห็นที่ 2


ขอแสดงความเห็นหน่อย เหตุที่ไม่ได้ตั้ง ม.อากาศ น่าจะเป็นเพราะ

1. ใช้งบสูง ต้องมี ฮ.ประเภทต่างๆ (ลำเลียง ลว. โจมต๊) เป็นของตัวเอง

         ไม่ share resource กับใครๆ

2. สถานการณ์เปลี่ยน จึงจัดกำลังขนาดเล็ก แต่ทันสมัยดีกว่า

โดยคุณ jammy เมื่อวันที่ 04/12/2010 00:12:00


ความคิดเห็นที่ 3


ถามว่าควรจะมี มั้ย มันก็ควรครับ เพราะสามารถเข้าพื้นที่ได้เร็ว กว่าทหารม้า หรือ ทหาราบ อย่างน้อยก็ใช้ในการเข้าตรึงพื้นที่จนกว่า กำลังรบหลักจะมาถึง

แต่ก็อย่างที่หลายท่านว่า คงจะต้องจัดซื้อ ฮิวอี้ ( UH-1 ) อีกหลายฝูงหรือ ซีนุ๊ก ( CH-47 ) อีกจำนวนหลักโหล

และถ้าอยากทันสมัย ก็คงไม่พ้นต้องซื้อ เหยี่ยวดำ ( UH-60 ) ที่ราคายังไงก็ดูแพงกว่า ฮิวอี้

ไม่รวม ฮ.โจมตี สนับสนุน ที่ถึงจะเอา ฮ.ลำเลียง มาดัดแปลง ก็คงก็ไม่เท่า ฮ.จู่โจมแท้ๆ ซึ่งก็คงจะต้องเป็น AH-1 ( ส่วน AH-64 คงได้แต่นอนฝันถึง )

 

สรุปควรจะมี ( นานแล้ว ) ครับ แต่ติดที่ ค่าใช้จ่าย

โดยคุณ ecos เมื่อวันที่ 04/12/2010 01:51:05


ความคิดเห็นที่ 4


ท่านพี่ ecos ครับ แล้ว AH-6 ล่ะ ครับพอ ฝันถึงได้ป่าว ...ผมว่า คง เหมาะกับ 3 ชายแดนใต้ 


โดยคุณ arcobaleno เมื่อวันที่ 04/12/2010 03:28:28


ความคิดเห็นที่ 5


มีได้มันก็ดีครับ แต่ติดเรื่องเงินนั่นแหละครับ ส่วนตัวคิดว่า จะให้ใช้ ฮ.โจมตี ตามแนวชายแดน ไทย-พม่า ผมคิดว่าเสี่ยงนะครับเพราะว่า อย่าลืมว่าชายแดน ไทยพม่า ส่วนใหญ่มันเป็นแต่ภูเขาสูงชันมีป่าไม้เยอะ ดังนั้น ฮ.อาจจะเสี่ยงที่อาจจะโดน จรวดปะทับบ่ายิง จำพวก SAM ระยะไกล้ สอยเอาได้ เพราะภูมิประเทศเป็นใจให้ทหารราบมากกว่า และการค้นหาเป้าหมายก็คงเป็นเรื่องยากถ้าจะต้องค้นหากำลังรบทหารราบฝ่ายข้าศึกในป่า และด้วยปัจจัยสำคัญคือ ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง ซึ่งอาจจะเป็นชัยภูมิที่ดีที่จะใช้อาวุธต่อสู้อากาศยานซุ่มยิงฮ.โจมตีฝ่ายเราได้ดังนั้นผมก็คิดว่ามันเป็นการเสี่ยงอย่างมากในความคิดที่จะใช้ฮ.โจมตีเข้ากดดันทหารฝ่ายข้าศึกที่ซุ่มซ่อนตัวอยู่บนเขาเพราะอาจจะโดนสวนด้วย สากกะเบือบินได้ จนฝ่ายเราต้องกลับบ้านเก่าได้นะครับ ผมว่าชายแดนไทย-พม่าไม่ต้องทำอะไรมากครับ ปล่อยให้มันเข้ามาแล้วก็เอาF16 ไปทอยระเบิดใส่กะบาลมันแล้วก็บินกลับก็พอแล้วครับ หลักนิยมในการใช้ฮ.โจมตี ผมว่ามันน่าจะเหมาะกับภูมิประเทศชายแดนฝั่งตะวันออก ติดกับ ลาว เขมร มากกว่าครับ เพราะมีภูเขาน้อยและเป็นที่ราบน่าจะประสบความสำเร็จในการปฎิบัติภารกิจมากกว่าครับ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าจะใช้ฮ.ขนส่งทหารราบในชายแดนไทย-พม่าคิดว่ายังไงซะควรจะใช้ฮ.สนับสนุนส่งกำลังพลหลังจากที่ทหารราบยึดภูมิประเทศได้แล้วดีกว่าครับ ลดการสูญเสียได้มากกว่าครับ

ป.ล.ถ้า Black Hawk มันแพงยังไงก็ยังมีน้อง มิมิ เอ้ย MI 17 อยู่นะครับ ไม่แพงด้วยแถมบรรทุกได้มากอีกต่างหาก ไม่สนกันบ้างหรอครับ


โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 04/12/2010 03:44:15


ความคิดเห็นที่ 6


ดีครับสนับสนุนmi 17 ถ้าโจมตีเเป็นka 50-52น่าจะเจ๋งนะครับ


โดยคุณ nathekop เมื่อวันที่ 04/12/2010 05:02:38


ความคิดเห็นที่ 7


เรามีแล้วมิใช่หรือครับ ทหารม้าอากาศ

โดยคุณ mayakri เมื่อวันที่ 04/12/2010 08:01:32


ความคิดเห็นที่ 8


อยากได้ กองพลทหารภูเขามากกว่า การมี ฮ. ช่วยน่ะดี แต่ในที่สุดก็ต้องทหารเดินเท้าที่จะต้องวิ่งขึ้นลงดอยวันละห้า หกลูก ส่วนถ้าจะมีหน่วยรบที่ใช้ ฮ.เป็นหลักเห็นด้วยกับคุณกบ ให้เป็นกองพัน หรือกรมจู่โจม จากสภาพวันนี้ขอเป็นหน่วยบิน กลางที่สามารถขนทหารบก หรือนาวิกได้ทั้งกรมเข้าพื้นที่ได้ในเที่ยวเดียว รองจากทหารภูเขาอยากได้กองพลทหารราบยานเกราะ ครับ
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 04/12/2010 10:17:10


ความคิดเห็นที่ 9


อืม  คือผมไปอ่านหนังสือมา Top Gun , Tango เห็นตรงบล็อกที่ Update การซื้ออาวุธของประเทศต่าง ๆ มีเจ้า Mi 17 นี้ด้วย ซึ่งลงว่าเรากำลังจัดหา 7 ลำครับ

ข้อมูลผิดถูก รบกวนผู้รู้ด้วยครับ

โดยคุณ supot เมื่อวันที่ 04/12/2010 22:02:57


ความคิดเห็นที่ 10


มิ-๑๗  แจ๋ว ไม่แจ๋ว................แบล็คฮอว์ค ทำงี้ ได้ป่าว??????????????

http://www.youtube.com/watch?v=PP0bYf9ZW-0&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=VtsA4A0tL04&NR=1

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 05/12/2010 02:13:16


ความคิดเห็นที่ 11


ชุดนี้............. เค้าทำงานด้วยกัน ที่เวียตนาม

สะเก๊าท์ http://www.youtube.com/watch?v=CKLfQP40Tw4

แอตแต็ก http://www.youtube.com/watch?v=nH-ky99AuH0&feature=related

ยูถิลีตี้ http://www.youtube.com/watch?v=RISrJKp-_Yo&feature=related

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 05/12/2010 03:21:17


ความคิดเห็นที่ 12


บทเพลงนี่.............. สามารถเปลี่ยนความรู้สึกจากทัศนวิญญาณที่เห็นได้เนอะ.......... เหมือนสมัยเด็กๆเป็นบ่าวแวงน้อย ยี่สิบปีก่อน เคยเหน็บเฮ้ดโฟน ฟังเปียโนคลาสสิคสไตล์ไทย พวกค้างคาวกินกล้วย ขณะที่เพื่อนๆมันกะลังหรรษากะกาตูนผู้ใหญ่.......ว่าไปก็หูฟัง ตาก็ดันเหลือบไปเห็นของมัก...........มันรู้สึกสากๆจะว่าโดนก็ไม่ใช่ แปลกๆยังไงบอกไม่ถูก อว่ะ.........มันหอมๆตุ่ยๆ เหมือนกินส้มตำปลาร้าดิบๆที่ยังไม่ต้ม มันหอมๆเหม็นๆคาวๆ ชวนกลืนชวนอ้วกยังไงไม่รู้.............เช่นเดียวกัน โตเป็นผู้ใหญ่ เวลามาพักที่บ้านกุงเทพ ขับรถติดๆ ชอบเปิด แซ็กซ์ แบบป๊อบแจ๊ซเคนนี่จี ข้างนอกวุ่นวายร้อน จิ๊หาย ตับแตก ข้างในเปิดแอร์เย็น ฟังแซกซ์ลากยาวพี่จี ใครจะปาดจะตบ ช้างแม่  ว่าไปก็ดีเหมือนกันเนอะ. กรุณา คิดอย่างสมองขวานะจ๊ะ

http://www.youtube.com/watch?v=nH-ky99AuH0&feature=related

 

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 05/12/2010 03:45:02


ความคิดเห็นที่ 13


ถ้าคุณเป็นคอหนังสงคราม เรื่องแรกที่คุณไม่ควรจะพลาดคือเรื่อง เซฟวิ่ง ไพรเหวต ไรอั้น ของพอมด สปิวเหบิก .............เรื่องนี้ จะทำให้คุณเห็นอีกด้านของสงคราม นอกจากฉากแอ้กชั่นดุดัน ที่ได้ชื่อว่าสมจริงที่สุดเท่าที่เทคโนโลยี่ถ่ายทำยุคนี้ทำได้............ง ยังมีแกเศร้าเงียบๆอีกหลายฉาก ซึ่งถ้าถึงแล้ว นั่งดูน้ำตาไหลได้เลย ... (ผมน้าตาซึมกะฉากหนึ่ง ซึ่งภายหลังฉากนั้นก็ได้รับการวิจารณ์จากนักวิจารณ์หนัง).........................

มีหนังแนวจับฉ่ายอยู่เรื่องนึง ออกฉายราวสิบห้าปีก่อน ............ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคอเมริกันเสรีนิยม ยุคหกสิบ ผ่านตัวละครซึ่งในเรื่องเป็นชายป่วยด้วยโรคออทิสหติก  ในเรื่องมีฉากสั้นๆเกี่ยวกับสงคราม น่าดูมาก ชื่อเรื่อง ฟอเรสท์ กั๊ม.............ลองหามาชมนะครับ

 

http://www.youtube.com/watch?v=JdsMqRaz2WY

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 05/12/2010 04:08:17


ความคิดเห็นที่ 14


- เดิมทีเดียว ร้อย.บิน.พล.ม.๒ รอ. ได้รับการเปลี่ยน อจย. จาก ร้อย.บิน.พล.ม./ร. เป็น ร้อย.ม.อากาศ (ฝากการบังคับบัญชาไว้กับ พล.ม.๒ รอ.) โดยได้ส่งคืน อากาศยานปีกติดลำตัว คือ บ.ต.๑๙ คืน ศบบ. เพื่อรอรับ อากาศยานประเภทปีกหมุน ตาม อจย.
ของ ร้อย.ม.อากาศ โดยได้รับอากาศยานจาก หน่วย ศบบ. คือ  ๑.) ฮ.ท.๑ (ขนส่ง)  ๒). ฮ.ท.๒๐๖ (เจ็ทแรงเยอร์) ไว้จำนวน หนึ่ง เพื่อดำรงความพร้อมรบไว้ในระดับหนึ่ง โดยภารกิจทั่วไปคือ การสนับสนุนการฝึกของ รร.ม. ศม. และ แสดงให้ นายทหารนักเรียนหลักสูตร ต่าง ๆ ในกองทัพ และต่างเหล่าทัพฯ ชม เช่น 
วปอ., ปรอ., วทบ.,นทน.รร.สธ.ทบ., และ รร.ต่างเหล่าทัพ รวมถึง นายทหารมิตรประเทศฯ ที่ขอเยี่ยมชม ศูนย์การทหารม้า 
 การจัดโดยทั่วไป ตาม อจย. มีดังนี้  1.บก.ร้อย.ม.อากาศ
			2.ตอนปฏิบัติการฯ
			3.มว.ม.อากาศ (ใช้ ฮท.๑ ในภารกิจ ลำเลียงทางอากาศ)
			4.มว.ลว.อากาศ (ใช้ ฮ.ท.๒๐๖ ในภารกิจ ลาดตระเวณทางอากาศ และ ชี้เป้าทางอากาศ)
			5.มว.อว.กากาศ (ใช้ ฮ.จ.๑ ในภารกิจ โจมตีทางอากาศ)
			6.มว.บร.และ ซบร.
โดยภารกิจ ของ ร้อย.ม.(อ.)ที่ 1 นั้น มีเพียงแค่ไว้โชว์ และ สนับสนุนการฝึก ศึกษา ของหลักสูตร ต่าง ๆ ใน ทบ. และ เหล่าทัพเท่านั้น อันเนื่องมาจาก ศบบ. ในฐานะ หัหน้าเหล่าสายวิทยาการการบิน ของ ทบ.ไม่ได้แจกจ่าย อากาศยานให้หน่วยลูก เช่น ร้อย.บินพล.ร./ม. และ ร้อย.ม.อากาศ อย่างทั่วถึง
ทำให้เกิดความขาดแคลนอากาศยาน สำหรับการฝึกอย่างเต็มที่ แต่ ภารกิจตามวงรอบของหน่วยบิน เช่น การฝึกบินตามวงรอบ การฝึกบินเดินทาง การฝึกบินกลางคืน การจัดและตรวจสอบมาตรฐานการบินของนักบินฯ ประจำกองสังกัดหน่วยบิน 
การสำรวจและบริหารทรัพยากรการบิน นั้น ทาง หน.หน่วยสายวิทยาการคือ ศบบ. ยังคงกระทำอย่างต่อเนื่อง
เพียงแต่ ร้อย.ม.อากาศ ก็ขาดแคลน อากาศยาน สำหรับการฝึก และปฏิบัติภารกิจ ดังเช่น ร้อย.บ.พล.ร./ม. ทั่วไป แต่ ตาม อจย.การจัดนั้น มีเต็มรูปแบบ แต่รวมการไว้ที่ ศบบ. เช่น มว.อว.อากาศ เดิม มีการจัดอากาศยาน ปีกหมุนโจมตี ไว้ ก็ใช้ ฮ.จ.๑ ของ หน่วยบินปีกหมุนโจมตี กอง บ.ปีกหมุนที่ ๓ 
มว.ลว.อากาศ ก็ใช้ ฮ.ท.๒๐๖ ของ กองบินปีกหมุนที่ ๓ เพิ่มเติม  มว.ม.อากาศ ก็ ใช้ ฮ.ท.๑ เพิ่มเติม จาก ศบบ. (คือรวมการไว้ที่ ศบบ.) หากมีภารกิจ จึงเรียกมาใช้ได้

- ส่วนการปฏิบัติการรบ ตามรูปแบบ ร้อย.ม.อากาศ นั้น ไม่ต้องพูดถึง เพราะมีปัญหาเรื่องเดียว คือ สป.๓ (อ.) เท่านั้น เพราะว่า ร้อย.ม.อากาศ มีอากาศยานมาก 
จึงทำให้เกณฑ์การใช้ สป.๓ (อ.) มากเกินจำนวน จึงทำให้เกิดการขาดห้วงอากาศของ  สป.๓ (อ.) ยังไม่ต้องพูดถึง สป. อีกหลายประเภท เช่น อาวุธ กระสุน ระเบิด ฯลฯ
คือถ้าหาก คิดจะใช้ ร้อย.ม.อากาศ ในการรบ ขอให้ นึกเป็นคำตอบสุดท้ายก็แล้วกัน หากแต่ปรับ อจย. ร้อย.ม.อากาศเป็น ภารกิจ ลาดตระเวณ โจมตี / ระวังปีกของหน่วยดำเนินกลยุทธ์
นั้นเหมาะสม เพราะอำนาจการยิง ของ ร้อย.ม.อากาศ หากปรับเป็น ร้อย.ม.อากาศ (โจมตี)  นั้นเหมาะสมเพราะโจมตี และ ลาดตระเวณ และทำหน้าที่เป็นส่วนกำบัง และ หน่วงรั้งข้าศึก ในกรณี หน่วยดำเนินกลยุทธ์ 
รบด้วยวิธีถอย และทำหน้าที่เป็น ส่วนกำบัง เหมือนทหารม้าลาดตระเวณ ได้เป็นอย่างดี หากเป็น ภารกิจ ลำเลียง ลาดตระเวณ โจมตี นั้นไมเหมาะสม เพราะ ภารกิจ ลำเลียง กับ ลว. โจมตี ควรแยกให้ชัดเจน
ไม่เชีนนั้น จะเกิดสายการบังคับบัญชา ผิดพลาด การสั่งการณ์ สับสน สิ้นเปลือง สป.๓ (อ.)  อย่างยิ่ง .....
โดยคุณ Discovery เมื่อวันที่ 05/12/2010 17:31:56


ความคิดเห็นที่ 15


ควรมีแต่ไม่มีตัง 5555 อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ถ้าเป็นไปได้

UH-1 เปลี่ยนเป็น MI17V5 ให้หมด

AH-1F เปลี่ยนเป็น KA-50/52 หรือนำมาเพิ่ม



โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 05/12/2010 23:38:37


ความคิดเห็นที่ 16


เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ ka 50-52 รัสเซียเองยังไม่ค่อยจะมีใช้เลย ครับ  ไม่ถึง 50 ลำเลยมั้ง

แต่ถ้าได้ก็เอาหมดแหละ แหะๆ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 06/12/2010 01:35:14


ความคิดเห็นที่ 17


ท่านกบครับชอบทั้งสองเรื่ิองครับตอนเป็นม้วนดูจนเสียงไหล ka-52รัสเซียนำเข้าประจำการน่าจะ20ลำเองครับเลยไม่มีลูกค้าสั่เท่าไหร่เนื่องจากกลัวเรื่องสายการผลิตและส่งกำลังบำรุงครับ

โดยคุณ nathekop เมื่อวันที่ 06/12/2010 20:39:38


ความคิดเห็นที่ 18


ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณDiscovery ผมก็จำได้ว่าเรามี ม.อากาศแล้ว เพราะตอนไปอบรมจำได้ว่ามีการพูดถึงเหมือนกัน และถ้าความจำไปม่ผิดพลาดแม้ว่าจะฝากการบังคับบัญชาที่ พล ม.2 แต่หน่วยอยู่ที่สระบุรี รึไงผมก็จำไม่ค่อยได้ 

โดยคุณ heart2319 เมื่อวันที่ 06/12/2010 21:13:54


ความคิดเห็นที่ 19


ไม่ควรมีครับ

โดยคุณ dboy เมื่อวันที่ 07/12/2010 03:21:00


ความคิดเห็นที่ 20


ไม่ควรมีครับ  ถึงแม้ว่าจะมีการบริหารจัดการที่ดีแล้ว การเอา ฮ.ไปสุมรวมกันเพื่อใช้งานเพียงอย่างเดียวสำหรับประเทศโลกที่สามอย่างเรานับว่าแพงมากครับ

แต่หากเรากระจายออกไปใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกหน่วย และดึงกลับมารวมการใช้ได้ในเวลาที่ต้องการ จะเป็นการบริหารจัดการยุทโธปกรณ์ราคาแพงและเปราะบางประเภทนี้ได้ดีที่สุดครับ

ส่วนประเด็นอากาศยานตกนั้นเป็นธรรมดานะครับ ทำไมแบล๊กฮ๊อคถึงต้องดาวน์ ก็เพราะบนฟ้าส่วนใหญ่มันมีแต่แบล๊กฮ๊อคบินนี่ครับ ประกอบกับหลักนิยมการร่อนเข้าโจมตีที่หมายของสหรัฐฯและรัสเซียก็ต่างกันไปอีกครับ ทำให้ ฮ.ถูกออกแบบให้มีขนาดต่างกันและแลนดิ้งต่างแนวกันไปโดยสหรัฐฯจะใช้ในภารกิจที่คิดค้นเฉพาะตัวเองเลย เรียก Air assault Operation โดยมักใช้ในเขตของกองพลน้อย ในขนาดกำลังประมาณกองร้อยทหารราบเพื่มเติมกำลังถึงกองพันหย่อนกำลัง ส่วนของรัสเซียจะไม่ ร่อนลงบนที่หมาย แต่จะร่อนลงในพื้นที่ที่ปลอดจากการต่อต้าน เจ้า MI 17 จึงตัวใหญ่กว่าเพราะอัตราเสี่ยงน้อยกว่าครับ 

โดยคุณ Ifeelsogood เมื่อวันที่ 07/12/2010 12:56:57