หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


๘ ธันวาคม ที่ไม่ควรลืม

โดยคุณ : Oldtimer เมื่อวันที่ : 08/12/2010 16:35:45

วันนี้ เมื่อ ๖๙ปีที่แล้ว กองทัพญี่ปุ่นเปิดฉากรุกใหญ่ จุดที่ดงที่สุดคงเป็นฐานทัพเรือสหรัฐที่ฮาวาย ฝรั่งตายไปบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเราๆ แต่ส่วนที่โลกรู้จักน้อยที่สุดคงเป็นการยกพลขึ้นบกในบ้านเรา ช่วงนั้นเป็นวันหยุดก่อนมีงานฉลองรัฐธรรมนูญ หลายหน่วยงานไปออกร้านในงาน ทหารได้ลาพัก แต่บางต่ายทหารมีการนัดให้ยุวชนทหาร(ยุวชนนายทหาร ซึงเป็นอาสาสมัคร อายุ ๑๕ ถึง ๑๗ ปี ได้ลูกเสือเอก และศึกษาในชั้นมัธยมปลาย ม.๗ และ ม.๘) ไปฝึกยิงปืนด้วยกระสุนจริง ยุวชนนายทหารจากโรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร ได้ไปรายงานตัวที่ค่ายทหารแต่ได้รับแจ้งจากครูฝึกว่า มีทหารข้าศึกยกพลขึ้นบก ขอให้ทุกคนออกไปช่วยทหารรบ เด็กยุวชนนายทหารได้อาสาออกไปรบ และหลายคนได้สละชีวิตในการปกป้องราชอาณาจักร




ความคิดเห็นที่ 1


เห็นทหารฝรั่งให้เกียรติผู้เสียชีวิตจากการรบ แต่ไม่เห็นเราให้เกียรติเด็ก ยุวชนชนทหารที่เสียชีวิตในการรบวันนั้นเลย ผมเห็นว่าวันอย่างนี้ เหล่านักศึกษาวิชาทหารควรจะต้องมาทำพิธีสวนสนามรำลึกถึง การรบและยุวชนนายทหารที่สละชีวิต แทนวันสถาปนาหน่วย ธงประจำหน่วยยุวชนทหารที่ได้รับพระราชทานควรได้รับการอัญเชิญมาร่วมในพิธี จึงขอจุดประกายในเรื่องนี้ครับ
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 07/12/2010 08:35:41


ความคิดเห็นที่ 2


ใช่ครับวันพรุ่งนี้(๘ ธันวาคม) เป็นวันที่สำคัญยิ่งสำหรับ รด. หรือ นศท. ครับเพราะวันพรุ่งนี้เป็นวันที่ รด.หรือ นศท. ทุกนายต้องไปพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม เนื่องในวัน รด. ซึ่งรายระเอียดก็อย่างที่กล่าวมาแหละครับ โดย รด. ทุกชั้นปีจะต้องเข้าร่วม ซึ่งเขาก็จัดพิธีนี้ในทุกๆปีนะครับแต่ก็คงไม่เป็นข่าวใหญ่โตอะไรเหมือนพิธีอื่นๆ เพราะอะไรผมก็ไม่ทราบ นี่ขนาดลองหาดูใน google ยังหาไม่เจอเลยครับ

โดยคุณ TH19 เมื่อวันที่ 07/12/2010 09:58:17


ความคิดเห็นที่ 3


...พรุ่งนี้วันที่ 8 พวกผมจะสวนสนามกันครับผมเรียน รด ปีที่ 3 แล้วครับ อยู่ศูนย์เชียงใหม่ มทบ.33 จะสวนสนามและกระทำสัติย์ปฏิญานกันที่สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีครับ โดยจะมีการสวนสนามของ รด ปี 2 ครับ ซึ่งผมปี 3 ร่วมปฏิญานตนอย่างเดียว แต่ตอนที่อยู่ปี 2 ก็ได้สวนสนามครับก็ขนลุกไปอีกแบบ (ฮา) ได้แบกปืน ปลย 88 สวนสนาม บางกองร้อยได้ เจเกอร์กับ HK
ในช่วงของพิธีการทางทหารก็จะมีการเล่าประวัติความเป็นมาของวันกำลังสำรองเรื่องก็ตามนั้นเลยครับเกี่ยวกับการยกพลขึ้นบกของญี่ปุ่นที่ประจวบฯ แล้ว ทหาร ตำรวจ และยุวชนทหารออกไปรบกับทหารญี่ปุ่นอย่างกล้าหาญ พิธีจะเริม บ่ายโมงกว่าๆ แล้วพรุ่งนี้ยังไง ผมจะหารูปการสวนสนามของ รด ศูนย์เชียงใหม่
มาลงในเวปให้ได้ชมกันครับ (เผลอๆ อาจจะมีคลิป) วันนี้เป็นวันซ้อม ดูน้องปี 2 ก็สวนสนามได้ดี เป็นลมไป 2-3 คน เพราะอากาศร้อนมาก แดดเปรี้ยงๆ เลย แต่ก็สวนสนามกันได้ดี โดยเฉพาะ รด หญิงครับ
จะเป็นการวิ่งสวนสนามแบบ ไทยเกิร์ลแรท (เขียนถูกหรือเปล่า) ทำกันได้ดีครับวันซ้อม วันนี้ซ้อมวันแรก
และเป็นวันซ้อมใหญ่ แล้วพรุ่งนี้วันจริงเลย (ฮา) คอยติดตามก็แล้วกันครับ อาจจะมีรูปมาลง...

โดยคุณ NightForce เมื่อวันที่ 07/12/2010 11:04:39


ความคิดเห็นที่ 4


แปดธันธ์แปดสี่นั้น ดัสกร

ญี่ปุ่นยกทัพรอน รุกบ้าน

ไทยชาติมาดหมายทอน ทัพหยุด อยู่ฤๅ

จึ่งร่วมฤทธิ์แรงต้าน ตื่นทั้ง ชายหญิง


ประวิงทัพญี่ปุ่นด้วย ทำนอง ยุทธพ่อ

รักชาติศาสตร์กษัตริย์ปอง ปกาสสู้

เลิศชายชื่อลำยอง วิศุภ-กาญจน์ เฮย

พลีชีพชูชาติกู้ เกียรติไว้ กลางสมร

โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 07/12/2010 21:16:18


ความคิดเห็นที่ 5


พิธีประดับเหรียญกล้าหาญบนธงชัยเฉลิมพลของกองบิน ๕  

และการจัดงานสดุดีวีรชน ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔          

ในวันนี้ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๓) กองทัพอากาศ ทำพิธีประดับเหรียญกล้าหาญบนธงชัยเฉลิมพลของกองบินน้อยที่ ๕ และพิธีวางพวงมาลาเพื่อระลึกถึงความเสียสละของทหารอากาศและครอบครัวชาวกองบินน้อยที่ ๕ ที่ได้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศชาติ โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนหน่วยราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมในพิธีฯ ณ กองบิน ๕ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วีรกรรมของทหารอากาศแห่งกองบินน้อยที่ ๕ หรือ กองบิน ๕ ในปัจจุบัน และประชาชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้ร่วมกันป้องกันรักษาอธิปไตยของประเทศไทยจากการรุกรานของทหารญี่ปุ่นในช่วงเริ่มต้นสงครามมหาเอเชียบูรพา เกิดขึ้นในตอนเช้ามืดของวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ เมื่อกองกำลังทหารญี่ปุ่นซึ่งมีกำลังพลประมาณ ๔,๐๐๐ คน พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเต็มกำลังรบ ได้ลำเลียงพลจากเรือรบที่จอดแอบซุ่มอยู่บริเวณด้านหลังเขาล้อมหมวก ได้ยกพลขึ้นบกที่บริเวณตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ อ่าวประจวบ อ่าวมะนาว เพื่อยึดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกองบินน้อยที่ ๕ เพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินทัพผ่านไปยังประเทศพม่าทางช่องทางด่านสิงขร และได้ปะทะกับกำลังทหารอากาศของกองบินน้อยที่ ๕ ภายใต้การนำของ นาวาอากาศตรี หม่อมหลวงประวาศ ชุมสาย ผู้บังคับการกองบินน้อยที่ ๕ อย่างดุเดือด โดยทหารอากาศของกองบินน้อยได้ต่อสู้ต้านทานอย่างสุดความสามารถ ด้วยกำลังทางอากาศและกำลังภาคพื้นดินที่มีอยู่ทั้งหมดเพียง ๑๒๐ คน แต่ก็ได้ทำการสู้อย่างสมศักดิ์ศรี โดยช่วยกันป้องกันกองบินไว้ได้จนถึงที่สุด ต่อมา รัฐบาลไทยในสมัยนั้นได้เจรจาตกลงกับรัฐบาลญี่ปุ่น จับมือเป็นพันธมิตรกัน และได้มีคำสั่งให้ยุติการสู้รบ ซึ่งภายหลังสิ้นสุดการรบอันยาวนานเกือบ ๓๖ ชั่วโมง ปรากฏว่าฝ่ายญี่ปุ่นซึ่งมีกำลังมากกว่าไทยหลายเท่าได้เสียชีวิตในสนามรบ ๔๑๗ คน ในขณะที่ฝ่ายไทยเสียชีวิต ๔๒ คน เป็นทหารอากาศ ๓๘ คน ยุวชนทหาร ๑ คน ตำรวจ ๑ คน และครอบครัวทหารอากาศอีก ๒ คน และยังมีข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตในเมืองประจวบคีรีขันธ์อีก ๑๔ คน ซึ่งการสู้รบที่กองบินน้อยที่ ๕ เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของการสู้รบที่แสดงให้เห็นถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารอากาศแห่งกองบินน้อยที่ ๕ ที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ให้แก่อนุชนรุ่นหลังตราบจนทุกวันนี้

เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติการต่อสู้อันกล้าหาญของนักรบแห่งกองบินน้อยที่ ๕ และวีรชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์   ที่ยอมสละชีวิตเป็นชาติพลี ปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้ ทางราชการจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ “วีรชน ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔”          ณ บริเวณที่ตั้งกองบินน้อยที่ ๕ โดยสร้างเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๔๙๓ ต่อมาได้ทำการปรับปรุงให้มีความสง่างามมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งประกอบพิธีอัญเชิญอัฐิของวีรชนผู้เสียชีวิต จากอนุสาวรีย์กองทัพอากาศ มาบรรจุไว้เมื่อปี ๒๕๓๒ โดยในวันที่ ๘ ธันวาคม ของทุกปี กองทัพอากาศได้จัดให้มีพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ และ    จัดงาน “สดุดีวีรชน ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔” เพื่อระลึกถึงวีรกรรมของเหล่าบรรดาทหารอากาศและยุวชนทหารที่สละ    แม้กระทั่งชีวิต เพื่อทำการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยจากอริราชศัตรู

 

ธงไชยเฉลิมพล หรือ ธงชัยเฉลิมพล

ธงไชยเฉลิมพล หรือ ธงชัยเฉลิมพล (สามารถเขียนได้ทั้งสองอย่างแต่ปัจจุบันในประกาศต่างๆในราชกิจจานุเบกษานิยมสะกดอย่างหลัง) เป็นธงประจำหน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะทรง         โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพระราชทานแก่หน่วยทหารเป็นคราวๆ ละหลายธง โดยประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา พระราชพิธีตรึงหมุด ธงชัยเฉลิมพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีนี้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ท่ามกลางพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ชั้นผู้ใหญ่ ทรงตรึงธงแต่ละผืนติดกับด้ามธง โดยทรงตอกฆ้อนเงินลงบนตะปูทองเหลืองอย่างแน่น     ธงหนึ่งมีรูตะปูประมาณ ๓๒ - ๓๕ ตัว ที่ส่วนบนของคันธงจะมีลักษณะเป็นปุ่มโลหะกลึงกลมสีทองภายในกลวง ปุ่มกลมนั้น     ทำเป็นฝาเกลียวปิด-เปิดได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงบรรจุเส้นพระเจ้า พร้อมด้วยพระพุทธรูปที่ได้เข้าพิธี     พุทธาภิเษกแล้ว ชื่อ พระยอดธง ลงในปุ่มกลมแล้วทรงปิดฝาเกลียวขันแน่น ทรงเจิมแป้งกระแจะจันทน์ที่ยอดธงทุกคัน พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา   ธงชัยเฉลิมพลจึงถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของทหาร เป็นเกียรติยศของหน่วยทหารนั้นๆ       เมื่อเวลาเข้าสู่สงคราม ทหารทั้งปวงต้องพิทักษ์รักษาธงชัยเฉลิมพลของหน่วยตนไว้ด้วยชีวิต ธงชัยเฉลิมพลจึงเป็นเครื่องนำความองอาจ กล้าหาญ แห่งหมู่ทหารทั้งปวง ให้เข้าต่อสู้ข้าศึกศัตรูให้ได้ชัยชนะกลับมาการปฏิบัติต่อธงชัยเฉลิมพลทุกขั้นตอน ต้องเป็นไปตามพิธีการ ระเบียบแบบแผนที่วางไว้อย่างเข้มงวดกวดขัน ในโอกาสที่จะเชิญธงชัยเฉลิมพลออกประจำที่ จะต้องเป็นพิธีการที่มีความสำคัญเกี่ยวกับเกียรติยศและเชิดหน้าชูตาเท่านั้น เช่น พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร และไปราชการสงคราม เป็นต้น

ความหมายของธงชัยเฉลิมพล มี ๓ ประการ คือ

ผืนธง                             หมายถึง          ชาติ

บนยอดธงบรรจุพระพุทธรูป    หมายถึง          พุทธศาสนา

เส้นพระเจ้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หมายถึง          องค์พระมหากษัตริย์

         ธงชัยเฉลิมพลของทหารอากาศ

         ธงชัยเฉลิมพลของทหารอากาศ มีลักษณะอย่างเดียวกับธงชาติ แต่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ         ๗๐ เซนติเมตร ตรงกลางของผืนธงมีดวงกลมสีฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยาว ๒ ใน ๓ ส่วนของความกว้างของผืนธง     ภายในดวงกลมมีอุณาโลมทหารอากาศ และมีชื่อหน่วยทหารสีแดงขลิบริมสีเหลืองเป็นแถวโค้งโอบใต้ดวงกลมสีฟ้า ผืนธงมุมด้านบนที่ติดกับคันธงมีรูปพระมหามงกุฎและเลขหมายประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์ที่พระราชทานเป็นตัวเลขไทย       สีเหลือง ภายใต้พระมหามงกุฎมีพระปรมาภิไธยย่อสีแดงขลิบริมสีเหลืองรัศมีสีฟ้าขอบธงด้านที่ติดกับคันธงมีเกลียวเชือก      สีแดงสลับดำ ด้านอื่นมีแถบจีบสีเหลืองกว้าง ๒ เซนติเมตร

 

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 07/12/2010 21:41:22


ความคิดเห็นที่ 6


วันนี้ผมแต่งชุดปกติเทาคอพับแขนยาวอินทรธนูแข็งมาปฏิบัติราชการ ณ ที่ตั้งปกติ... หลายคนถาม ผมมาเข้าเวร...?  ผมเลยตอบไปว่า แต่งแข่งกับเด็กที่เรียน รด.แถวบ้านครับ ... ขอสดุดีวีระกรรมที่กล้าหาญของยุวชนที่สละชีวิต ณ เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ด้วยความเคารพ

โดยคุณ Xmode เมื่อวันที่ 08/12/2010 03:03:25


ความคิดเห็นที่ 7


วันที่ ๘ ธันวาคมทุกปีจะมีการสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารที่กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ไม่แน่ใจว่าถ่ายทอดสดช่อง ๑๑ หรือช่อง ๕

โดยคุณ bird เมื่อวันที่ 08/12/2010 05:35:48