2เครื่องยนต์ มีรัศมีทำการไกล
ครองอากาศได้เป็นอย่างดี มีน้ำหนักบรรทุกมาก
มีรัศมีการบินไกล สามารถบินไปส่งหลินปิงได้สบายๆ
ย้ำอีกครั้งนะครับว่า บข.21 เพราะ บข.20ตามที่ผมคาดหวังจะเป็น F/A-18ครับ
และถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ บข.22คือ F-35 ครับ(เสี่ยโยไม่เกิด) 55555
เเล้วถ้าท่านทักกี้ยังอยุ่จะเป็น su30 หรือ เปล่า ฟิ้วววววว(ไม่ได้การเมืองนะเค้าว่ามา)
ยกให้ SU 30
ในตอนนั้น ทุกฟังก์ชั่น สมบูรณ์แบบ
แถม ฝันต่ออีกนิด
ตอนนี้ บข.20 คือ JAS-39 ครับ
บข.19 คือ F-16
บข. 18 คือ F-5 ครับ
ถ้าชื้อ F-15 หรือเครื่องบินแบบอื่น ๆ ที่ไม่ซ้ำจากเดิมจะเป็น บข.21 ครับ
ย้ำอีกครั้งนะครับว่า บข.21 เพราะ บข.20ตามที่ผมคาดหวังจะเป็น F/A-18ครับ>>>>> ขยายความว่า
ตามความคาดหวังถ้าไม่เกิด วิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 บข.20 จะต้องเป็น F/A-18 C/D เพราะเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ไทยเรียกว่ามีฐานะ คาดหวังว่าจะครบฝูง 18 ลำ และผมฝันต่อไปอีกว่าหลังจากปลดF-5 เพราะเราไม่จำเป็นต้องยืดอายุการใช้งาน เราจะสั่ง เครื่องบินขับไล่ที่ครองอากาศได้นาน ซึ่งผมคิดว่า F-15 เหมาะที่สุด ก็ฝันว่าจะมาเป็น บข.21 และถ้าเป็นแบบที่ผมฝัน JAS-39 คงไม่มีโอกาสเกิดแน่นอน 5555 และ ทอ.ก็จะรอ F-35 เป็น บข. 22 จะเหมาะที่สุด
ว่าแล้วตื่นจากความฝัน 5555
ผมเห็นด้วยครับถ้าไม่ยกเลิกซื้อ F/A 18 C/D ทั้ง F-16 ADF กับ jas-39 ไม่ได้เกิดแน่นอนครับ เผลอๆ ตอนนี้ไทยอาจกำลังรอการส่งมอบ F/A 18 E/F Superhornet อยู่ก็เป็นได้แต่ก็ต้องถือว่ายังเป็นบข.20 อยู่นะครับ
โดย F-18 C เป็น บข.20 และ F-18 D เป็น บข.20ก.
ถ้าซื้อรุ่น E/F มาอีกจะเป็น F-18 E เป็นบข.20ข. และ F-18 F เป็น บข.20ค.
เอฟ 15 สุ้ระยะประชิดไม่ค่อยคล่องตัวรึเปล่าครับ
เคยเห็น ซ้อมรบกับ เอฟ 16 โดนเอฟ 16ล็อกเป้าก่อน
หรือว่าใช้ความแม่นยำล่อตั้งแต่ไกลๆ
แต่ผมก็ชอบนะ สวยดี แถมของพรีเมียมแพงโคตรๆ
ไม่ซีเรียสครับคุณ condor ผมแค่ฝันๆตามประสาแต่ที่ผมมองข้าม F/A-18 E/F เพราะมันค่อนข้างช้าครับ เลยมอง F-15 เพราะมีผลงานให้เห็นตั้งแต่สงครามอ่าว และพอมาดูประเทศเพื่อนบ้านในปัจจุบันนี้ มีหลายชาติที่ เครื่องบินขับไล่ที่มีพิสัยการบินไกล ครองอากาศได้นาน ทั้ง SU-30 และล่าสุดก็ F-15 T ของสิงคโปร์ผมเลยมอง(ฝัน)ว่า ทอ.ไทยควรจะมี บข.ที่ครองอากาศได้นาน และทำการรบทางอากาศได้แบบมีประสิทธิภาพสูง
อาวุธเข้ากับระบบที่ไทยมีอยู่ เลยมองที่ F-15 ครับ เพราะคาดว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดครับ 5555
ก่อนหน้านั้น ผมฝันว่ามันจะเป็น บข.20 ครับเพราะตอนนั้นดูแล้ว เครื่่องบินขับไล่กองทัพอากาศเหมือนจะผูกขาดอเมริกา แล้วต่อมากองทัพอากาศก็ประกาศว่า บข.20 เป็น F/A-18C/D ก็เลยฝันสลาย และพาลคิดว่าคงเป็น F/A-18อีกในฝูงต่อไป ก็เลยยังไม่นึกถึง บข.21
แต่ตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่า บข.20 เป็น JAS-39C/D ที่ไม่ใช่จากอเมริกา
นั่นฝันของคุณ nok
ส่วนนี่ ฝันของผม
ตอนนี้คงต้องรอให้เรามีระบบเศรษฐกิจที่มั่นคงมากกว่านี้เสียก่อน เราอาจหันกลับไปหาเจ้าตัวหนักๆอีกก็ได้
ฝันกลางวันนนนน..........ฝันเห็นดอกไม้หอมมมมมม
น่านอนนนน.........นอนไม่อยากจะตื่น......
ขออภัย เอาเพลงโฆษนาเมื่อนานมาแล้วมาฝาก อิอิ
สวยทุกรูปครับ
ว่าด้วย.........บข.๒๐ เริ่มจากเรามี บข.๑๙ ฝูงแรกคือ เอฟ-๑๖ แต่จำนวนยังเป็นรองข้าศึก เพื่อ่เพิ่มจำนวนเครื่องบินขับไล่ให้ครบห้าฝูง ทอ.ต้องจัดหาไฟ้ท์เตอร์อีก หนึ่งฝูง..........
เธอคนนี้ งดงามสูงใหญ่ หรูหราไฮโซ .............. หวังจีบมาเป็นหมายเลขยี่สิบ ...........แต่ท้ายก็ได้แต่ชะแง้แลตา...........
อ่อ ลืมไป..............ก่อนหน้าจะเจอไฮโซด้านบนนั้น............เคยติดพันกับเธอนางนึง.............ไปมาหาสู่กัน ขนาดผู้ใหญ่ฝ่ายโน้นคาดหวังยกให้เป็นยี่สิบ ลอแลกแจกแถม ...........แต่ท้ายผู้ใหญ่ฝ่ายเรา บ่ปลื้ม ..........หาว่าเธอ โลโซ..................
ว่าไปแล้ว เอฟ-๗ เอ็ม มีเค้าจะได้เป็น บข.๒๐ ขั้นดูตัวกันแล้ว(ติดแต่ยังไม่สวมแหวนมั่น)......ถ้าหากว่า ไม่เปลี่ยนตัว ผบ.ทอ. จากท่าน พล.อ.อ วรนาถ มาเป็น ท่าน พล.อ.อ เกษตร เสียก่อน
บข.-๒๐ ไม่เกิด แต่ยังคงเป็ฯ บข.๑๙ เพราะเราเลือกที่จะมีเอฟข๑๖ เป็นฝูงที่สอง.....................ยุคนั้นนอกจากเครื่องบินขับไล่แล้ว............... เครื่องบินโจมตี เอ-๓๗ ก็กำลังจะหมดวาระ............สาวน้อยสายเลือดละติน นาม เอเอ็มเอ็กซ์ กำลังจะขยับเข้าป้ายตำแหน่ง บจ.๗ แซงคู่แข่งอย่าง ฮอว์ค และ อัลฟ่าเจ็ท ด้วยคะแนนเฉียดฉิว.................. แต่แล้ว สาวเช็ค ผมบลอนซ์ นัยตาฟ้า นาม แอล-๓๙ ก็หยิบชิ้นปลามัน............... ไม่มี บจ.๗ แต่เกิด บข.ฝ.-๑ ขึ้นแทน ............งานนี้ทีเดียวสองฝูงเลย.............. เหตุผลคือว่า ใช้ในภารกิจโจมตีแทน เอ-๓๗ ได้ แล้วนอกจากนั้น ยังสามารถฝึกเปลี่ยนแบบทดแทน ชู้ตติ้งสตาร์ ที-๓๓ ที่หมดวาระลงได้อีกด้วย................เป็นที่น่าสังเกตว่า ท้ายที่สุด อัลฟ่าเจ็ท ที่ครั้งหนึ่งพลาดหวังจากการช่วงชิง ก็มีโอกาสได้ครองตำแหน่ง จอเจ็ด สมใจอยาก.......... หากแต่เธอกลับมาครั้งนี้ ในฐานะ คนเคยมีแฟนแล้ว...............
นี่ บข.๒๐ สวมแหวนมั่นแล้วแต่ถังแตกก่อน ว่าแล้วก็กลับไปสิบเก้าอีกตามระเบียบ .................. ในกระบวนซื้ออาวุธจ่ายตังแล้วไม่ได้ของ ที่ทราบจังๆ สองครั้ง...............ครั้งแรก ทัพเรือ ต่อเรือรบใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จากอิตตาลี่สองลำ(ไม่รวมเรือบรรทุกค้อบเตอร์) เป็นเรือลาดตระเวนเบาชั้น นเรศวร..............ง แต่เนื่องจากอิตตาลี่เข้าร่วมรบกะเยอรมัน เรือที่เราต่อจึงถูกสงวนสิทธิ์(ฟังดูเหมือนประกาศหัวหมอตามโบรชัวร์จังแฮะ) โดนนำไปรบในสงคราม แต่เค้าคืนเงินที่จ่ายให้ แต่สำนักข่าวไม่บอกว่าเค้าคืนดอกเบี้ยให้ด้วยมั้ย ถ้าคืนแล้ว ดอกเบี้ยนั้นไปตกอยู่กับใคร อันนั้นไม่รู้เจงๆ............. อีกครั้งคือ เราซื้อเรือบินรบจากไอ้กันฝูงนึง ส่งลงเรือมาแล้ว แต่มาโดนยึดที่ฟิลิปินส์ สาเหตุคือ เราดั๊นไปร่วมกับญี่ปุ่น................
บข.๒๐ เรารู้แล้ว....บข.๒๑ คงอีกไม่นาน ถ้าไม่มี บข.๑๙ ข/ค มากั้นซะก่อนนะครับ..ฮึๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ท่านท้าววววววววววววววววววววววววววว
มือ 1หรือ มือ 2 ละครับ
ท่านท้าวฯ ทำให้ตื่นเต้นอีกแล้ว เครื่อง บข.21 ที่ว่าอีกไม่นานเนี่ย หมายความว่าไม่น่าจะเกิน 5 ปี ใช่ไหมครับนั่น ลักษณะว่าไม่ใช่ JAS-39 และไม่ใช่ F-16 เพราะ F-16 เป็น บข.19 คืออารายหว่า...? ถ้าว่าต้องแข่งกับ บข.19ข.ค.ซึ่งน่าจะหมายถึง F-16C/D และสถานที่ที่น่าจะไปลง ถ้าไม่ไปลงที่ฝูง211 ก็ 102 งั้นเดาไปที่ เครื่องมือสองจากอังกฤษ ไม่ก็เครื่องรุ่นที่เคยมั่นหมายว่าจะเป็น บข.20 แต่ถังแตกขันหมากล่มจากอเมริกา ครับ เดาๆๆ
ถ้าเป็นไปตามท่านท้าวว่า............... ที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คือ มิราจ ราฟาล มิก-๒๙ ซู-๓๐..........ส่วน แจ้ซ นั่น เป็น ๒๐ แล้ว ก็ไม่ใช่ ๒๑
เก็ง.................
ถ้าเป็นของไอ้กัน มือหนึ่ง
เอฟ-๑๖ บล็อค ๕๒...........มีสิทธิ์เป็นไปได้
เอฟ-๑๕ อี .............. ถ้าว่ากันตามยุทธศาสตร์แล้ว เชื่อว่า ทอ. ฝันจนน้ำลายหก ........แต่ ราคาและค่าบำรุงรับได้ใหม
เอฟ-๑๘ อี................ อันนี้คล้ายตัวบนเด๊ะ ราคาจะซอฟท์กว่าอีเกิ้ลอีสักหน่อย แต่ก็ยังถือว่ารากเลือด
ไอ้กันมือสอง
บล็อค ๒๕,๓๒,๔๒,๕๒ มือสอง ................. อันนี้เป็นไปได้สูงมากๆ เพราะซื้อง่ายราคาถูก เจ้าของพร้อมขาย โดยเฉพาะพวก บล็อคเก่าๆ...........แถมพี่สิง ยังอาจโล๊ะให้เราก็ยังเป็นไปได้
ฮอร์เน็ท ซีดี..................นี่ก็เป็นไปได้ ของมะกันก็ยังพอมีโดยเฉพาะของนาวิกโยธิน ถ้าเค้าจะโล๊ะรอเอฟ-๓๕ เราอาจได้เห็น.......อีกราย มาเลย์ มีอยู่๘ นัยว่าไม่ครบองค์ อาจจะเลหลังให้เราเอาไปรวมกะมะกัน ส่วนเค้าเองก็รอรับ ต่ออี อีนี้ก็เป็นไปได้..........
เอฟ-๑๕ ซี ............... ตัวนี้ผมว่าโอกาสน้อย เพราะไอ้กันเองน่าจะเก็บไว้ใช้ เพราะแร้ปเตอร์อย่างที่ทราบ มันแพงมาก จะจัดหาครบทีเดียว เศรษฐีก็มีสิทธิ์ขนหน้าแข้งร่วง.......... อีกอย่าง ผมว่า แอร์สุพีเหรี่ย ประเภทครองความเป็นจ้าวอากาศโดยถาวร ผมว่าสำหรับเราไม่จำเป็นครับ...........เอาแบบข้ามไปตีหัว แบบ เอฟ-๑๕อี ดีกว่า
มีต่อ
ค่ายอื่น
อังกฤษ (บีเออี) มีอยู่สองแบบ อันแรก กริเป้น(เป็นดีลเล่อร์ให้ซ้าบ) อันนี้อย่างที่บอก เป็นยี่สิบแล้ว ตก ตรรก ........... อีกแบบ ยูโรไฟเตอร์............อุเหม่ ถ้าหวยออกตัวนี้ต้องบอกว่า โอ้แม่เจ้า.......... ในใจว่าโอกาส เข้าใกล้ศูนย์..............
จีน มีให้เลือกสองตัวเหมือนกัน...........
ซุเปอร์เจ็ด กับ เจ สิบ ..............เพื่อนว่าไง อันนี้ผมม่ขอออกความคิดเห็น....................
มาเจ้าสุดท้าย ...............ผมว่ารายนี้น่าจะแรงสุดสำหรับเทรนนี้...........
ซัก จี วร ที/เอ-๕๐ จากแดนเกาหลี (เกาหลีบน หรือ เกาหลีล่าง???)
ทุกครั้งที่จัดหาอาวุธ ในขั้นกำหนดความต้องการมักมีหัวข้อที่ว่า ................. เป็นเทคโนโลยี่ หรือ มีสมรรถภาพไม่น้อยไปกว่า บลาๆๆ แบบเดิมที่มี.................. ถามว่าแบบเดิมที่มีคืออะไร งานนี้ไม่ต้องเดา ไทกรีส แหงมๆ ............. แล้วถามว่า เจ้า อินทรีย์ทอง มีอะไรที่เป็นรอง ไทกรีส มั๊ย............... ราคาไม่แพง(คือว่าก็ไม่ถูกนะ แต่อย่างน้อยก็เป็นมือหนึ่งที่ราคาได้ยินแล้วไม่ลมออกหูเหมือนชาวบ้าน)................. ว่ากันตามยุทธศาสตร์ เก้าฝูงบินรบเรา สามฝูงเป็นเครื่องโจมตี บทบาทสนับสนุนการรบ ...... อีก ห้าเป็นขับไล่ ๑๐๒ เป็นอินเตอร์เซปเตอร์ ๗๐๑ ก็ อินเตอร์เซปเตอร์(แถมยิงเรือได้ด้วย สงสัยเป็นผู้หญิงเพราะชอบยิงเรือ) ๔๐๓ สไตร้ค์ไฟ้ทเตอร์(จะติดอำรามได้เร็วๆนี้) ๑๐๓ มัลติโรว์ไฟท์เตอร์ ขณะที่ ๒๑๑ ปัจจุบันไทกรีส เป็นอินเตอร์เซปเตอร์ ถ้าเปลี่ยนมาเป็น เอ-๕๐ จะเป็น บอมเบอร์ไฟท์เตอร์ กับบทบาทขัดขวางในพื้นที่การรบ ทอยระเบิดกลางวัน เป็นลูกหม้อของ ๑๐๓ ผมว่า .......ไอเดียนี้ไม่เลว .......จ่ายน้อยได้ของตรงและพอที่จะสนับสนุนภารกิจ ที่สำคัญเป็นมือหนึ่ง อยู่กับเราได้อีกเป็น สามสิบสี่สิบปี...................
ใครดูเรื่องทรานสะฟอรมเม่อร์ภาค๒ ตอนอิเซปติค่อน สู้กับ เดลต้าร์ฟอร์ซกลางทะเลทราย พระเอก น่าจะเป็นผบ.ร้อย สั่งให้ว.เรียกการโจมตีทางอากาศ...........เริ่มต้น เอแหว็ค สั่งฝูง เอฟ-๑๖ เข้าโจมตีที่หมาย ฟัลค่อล สี่ลำ พร้อมเอ็มเคแปดสอง บินเข้าทำลายเป้าตามคำสั่งและการนำร่องของเอแหว็ค................ ฝูงเหยี่ยวบินผ่านรอบเดียวปลดระเบิดลงตรงเป้า เสร็จภารกิจ กลับบ้าน(ง่ายโครต แต่เอวิโอนิค โดยเฉพาะการนำร่องต้องเจ๋งสุดกู่)................ จากนั้น เป็นหน้าที่ของเอ-๑๐ สองตัวลงมาเก็บสแปร์ ในบทบาทสนับสนุนการรบโดยใกล้ชิด ........เอสิบสองลำ บินโฉบสวนกันไปมา ซัดด้วยปืนใหญ่อากาศสามสิบ ตามด้วยทอยระเบิดเป็นระยะ .......ตลอดเวลาที่โฉบเมามันนี้ ต้องอยู่ในการคอนโทรลของผู้ตรวจการหน้า ซึ่งก็คือ คนชี้เป้าซึ่งอยู่ในทีมชุดรบ.............
นี่เห็นมั๊ยๆ................. ตอนสงครามร่มเกล้าเราก็พยายามทำอย่างนี้.............. เอฟ-๕ ลงทอยระเบิด(โจมตีขัดขวาง) ตามเก็บสแปร์ ด้วย โอวี-๑๐...............โฉบไปโฉบมา ปรากฎว่า ถ้ามาวิเคราะแล้ว ภารกิจโจมตีขัดขวางด้วยอาวุธมีความแม่นยำ ต้องบอกว่า เอฟ-๕ "อ่อน" (ภายหลังสงครามต้องนำมาติดฮัด กับ ระบบนำร่องด้วยแรงเฉื่อย (ไร้ระบบนำร่อง ไร้ความแม่นยำ)) แถมระบบป้องกันตัวเองก็ไม่มี พลุแฟล์ ช้าป ขาดหาย โดนสอยซะหนึ่ง จะตูดโบ๋กลับบ้านอีกหนึ่ง............. พอถึงช่วงเก็บสแปร์ แม่เจ้า ดาบแรกยังเจื๋อนชาวบ้านไม่เข้าเลย ดาบสองก็ใช่ว่าคม ดุ่ยๆๆๆ พร็อบเพลเล่อร์ บร็องโก้ กะจะทอยแม่นๆ โดนเข้าอีก ร่วงปีกขาด ............เฮ้อ อนิจจา นี่เค้าว่า ไม่เกิดศึกสงครามก็ไม่รู้ดอกว่าตัวเองเป็นยังไง.ดีแต่ทึกทักว่าตัวเองเจ๋ง.......ไอ้ใจหน่ะ รู้ว่าเกินร้อย.......แต่ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี หน่ะ ไม่รู้ล้าหลังหลุดโลกแต่ปางไหน.........รบทีก็มาร้องอ๋อ ที.....คนวางแผนหน่ะ ไม่ตาย วางแผนผิดวางใหม่ได้..............แต่ไอ้คนไปรบหนี่สิ ผิดแล้ว ตายแล้ว จะลุกขึ่นมายิงใหม่ มันทำไม่ได้............จึงได้แต่ฝาก ทั่ย เสธ.ๆ ทั้งหลาย...................
เอฟ-๑๖ เอ-๕๐ ดาบแรก.............. อัลฟ่าเจ็ท แอว สามเก้า เก็บสแปร์ งานนี้บ่ขี้เหร่ ดอก........................
ของอังกฤษ นั้นผมมองไปที่ ทอร์นาโดมือสอง จากเหตุผลที่มีข่าวว่ากองทัพอังกฤษมีการปรับลดอาวุธลง แต่พออ่านข้อความของ คุณกบ ก็นึกขึ้นได้ว่า ลืมเจ่า อินทรีย์ทอง F/A-50 ของเกาหลีใต้ไปได้ไงหว่า แต่ทีนี้มาคิดดูอีกที การจัดหาเครื่องบินรบมือหนึ่งของกองทัพอากาศที่ผ่านมามักจะมีการประเมิณและให้มีการนำเสนอข็อมูลจากบริษัทผู้ขายเพื่อเปรียบเทียบหาข้อมูลและเงื่อนไขมาตลอด แต่งานนี้ไม่มีข่าวคราวเลยในการนำเสนอข้อมูลอย่างเป็นทางการ แล้วถ้าเกิดมาจัดหา F/A-50 มาเลยดูมันจะผิดวิสัยของกองทัพอากาศ แถมมีถูกโจมตีจากหลายฝ่ายแน่นอน ในใจนั้นจึงยังเชื่อว่าเป็นเครื่องมือสองที่ยังมีสภาพดีและราคามิตรภาพจากมิตรประเทศอย่างแน่นอนครับ เพราะเครื่องลักษณะนี้สามารถที่จะพิจารณาจัดหาได้โดยที่ไม่ต้องมีการให้มีการเปรียบเทียบคุณสมบัติหรือเงื่อนไขกับเครื่องแบบอื่นๆเหมือนเครื่องใหม่มือหนึ่งหากมีงบประมาณจัดหาได้
ว่
ท่านเด็กทะเล ครับ.................ท่านทราบไหมว่า นี่คืออะไร....................
โอ่ะ......แม่เจ้า.........แล้วถ้าเจ้าดุ้นนั้น มาอยู่ที่ปีกเธอคนนี้หล่ะ........!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
กองทัพอากาศที่จัดว่าทันสมัยที่สุดในอาเซี่ยนคือสิงคโปร์....................สิงคโปร์ มีเอฟ-๑๕เอส(อี) เป็นกองหน้าฝ่ายรุก............บทบาทสไตร้ค์ไฟท์เตอร์ บรรทุกเยอะ บินไกลหมัดหนัก อาวุธยิงระยะไกลป้องกันตนเองได้จากอินเตอร์เปเตอร์ ของข้าศึกได้ เธอคือ" อาวุธเชิงรุก "เบอร์หนึ่งของภูมิถาค.........................
แต่ถ้าเป็น ทอร์เนโด ไอดีเอส.......... เดิมทีออกแบบมาเป็นเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด ภารกิจสไตร้ค์แอ้ตแถ็ค แบบเดียวกับ เอฟตองหนึ่ง หรือ ซู-๒๒ ซึ่งว่าไปแล้ว จะสู้สไตร้ค์ไฟเตอร์แบบ เอฟ-๑๕อี ไม่ได้ที่เรื่องอาวุธยิงป้องกันตัว................... แต่ถ้าเป็น ทอร์เนโด จีอาร์สี่ ติดจรวดปราบเรดาร์ แบบ อะลาร์ม หล่ะก็ โห่ะๆๆๆๆๆๆ แม่เจ้าว้อย(จริงๆ มันมีรุ่นสงครามอิเลคฯจริงๆคือรุ่น อีซีอาร์ นะ)........................งานนี้เรียนตามตรงครับ แม้จีอาร์สี่ จะติดบีวีอาร์ ไม่ได้ คือเป็นสไตร้ค์ไฟท์เตอร์แท้ๆไม่ได้ว่างั้นเหอะ แต่ถ้ามี อาลาร์ม มาด้วยหล่ะก็ ............. พี่สิงก็พีสิงเหอะ.............. งานนี้ ป้า พานาเวีย ท้าชน
ความฝันของผมนะครับ ไทยเราได้ร่วมพัฒนากับสวีเดน ขยายแบบ JAS-39 ให้ลำใหญ่ขึ้น บินได้พิสัยไกล
เครื่องเป็นแบบท่อคู่โดยใช้เครื่องยนต์ตัวเดิม เพื่อสะดวกต่อการดูแลรักษา
หางเสือเป็นแบบครีพคู่ ป้องกันการตรวจจับของเรด้า เห็นได้ยากขึ้น พอจะเป็นไปได้ไหมครับเนี่ย
บข. 21 มั่นใจว่าน่าจะเป็น F-35 ครับ ความเป็นไปได้และระยะยาว ตรงความต้องการ และมีการพูดถึงอยู่ตลอดมา
ลุ้นครับ F-35
เรียนคุณ ราฟ ..........ว่ากันเรื่องพิสัยบินนี่ ต้องอธิบายกันสักหน่อยครับ.....................พิสัยบินมีอยู่หลายแบบ แต่ที่มักนำมาเป็นข้อมูล คือ พิสัยบินไกลสุด และพิสัยบินรบ................
พสัยบินไกลสุดคือ เครื่องบินเปล่าๆ ไม่ติดอาวุธ บินขึ้นจากสนามบินหนึ่งไต่ขึ้นไปบนเพดานบินที่ประหยัดน้ำมันที่สุด (สูงยิ่งประหยัด) ปล่อยคลัชแตะคันเร่งเบาๆที่รอบเดินประหยัด(ความเร็วประหยัด) บินไปจนน้ำมันเกลี้ยงถัง เครื่องยนต์ดับ ตัวเครื่องเริ่มคล้อยหัวจะปักพื้น โดร่มสละเครื่อง เครื่องร่วงกระแทกพื้น ภาคพื้นดินวิ่งเอาตลับเมตรวัดจากจุดเทคออฟถึงจุดตก ได้ระยะเท่าใดเป็นพิสัยบินไกลสุด.............แต่จะเอาเป็นบรรทัดฐานทางเทคนิคไม่ได้ เครื่องบางยี่ห้อ ตัวเล็ก(แต่เซ็กส์ไม่จัด)น้ำหนักตัวเปล่านิดเดียว แต่ดันติด้วยตั้งดเครื่องที่มีเรโช แรงขับต่อน้ำหนักสูง ก็สามารถติดถังภายนอกได้เยอะ อย่างนี้ก็บินได้ไกลอีกเหมือนกัน....................
พิสัยบินรบ.............. พิสัยรบจะสั้นกว่าพิสัยอันบนเยอะ เพราะอย่างน้อยเวลาคำนวนจะต้องบินไปและบินกลับ.........ภารกิจก็สำคัญ เพราะมันจะไปสัมพัธ์กับน้ำหนักบรรทุก ยกตัวอย่างเช่น ภารกิจลาดตระเวณ เครื่องบินติดจรวดตามความร้อนสองนัด ที่เหลือติดถังน้ำมันแบบปลดได้ อย่างนี้ก็บินได้ไกล หรือถ้าบินรอบๆสนามบินก็บินได้นาน...........แต่ถ้าเป็นภารกิจโจมตตี ติดระเบิดหนักเอี้ยด แถมพื้นที่ติดถังสำรองก็ไม่มี .........อันนี้ก็บินได้ใกล้.....................รูปแบบทางยุทธวิธีก็สำคัญ การบินต่ำบินสูงมีผลต่อความสิ้นเปลือง เนื่องจากอากาศมีแรงเสียดทาน ที่ต่ำๆจะมีมวลอากาศมาก ฟิกชั่นก็มีมาก..........บางภารกิจ เครื่องโจมตีต้องหลบหลีกเรดาร์เล็ดรอดเข้าไป จำเป็นต้องบินต่ำทั้งขาไปและขากลับ โลว์-โลว์-โลว์ อย่างนี้สิ้นเปลืองมาก แบบ โลว์ ไฮ โลว์ ก็ประหยัดลงหน่อย ไฮ ไฮ ไฮ ประหยัดมาก แต่ถ้า สิบเอ็ด ไฮ โล นี่ ถ้ายักแล้วดันออก ก็ต้องควักมาจ่ายหน้าแห้ง.................
ส่วนใหญ่ข้อมูลเรื่องพิสัยรบ ถ้าเอาข้อมูลของแต่ละห้าง มาคอมแพร์กัน ก็จะปวดหมอง...........ปางเจ้าว่ากันตรงๆซื่อๆ บางเจ้าเล่นเอาตัวเลขที่ทำได้ดีสุดมาเป็นข้อมูล มันก็เปรียบกันไม่ได้................. ด้านล่างเป็นข้อมูลแต่ละเจ้า ที่ผมลอกมาจาก วิกิ..............มีต่อ
จะว่าเป็นตารรางก็ไม่ใช่.ไม่มีเส้นขีด..................เรียงตามลำดับดังนี้นะครับ ตัวเลขแรกเป็น นน.ตัวเปล่า ตามด้วย นน.วิ่งขึ้นสูงสุด(น้ำหนักทุกอย่างรวมกันที่สามารถเกาะอากาศข้นไปได้) พิสัยบินไกลสุด พิสัยรบ(อันนี้ดูผ่านๆอย่าไปคิดมาก) และก็ สุดท้าย เป็นแรงขับสูงสุด(แบบมีไฟแล่บออกตูส..ส)
ตัวแรก เอฟ-๑๕อี ๑๔ ตัน ๓๖.๗ ตัน ๓๙๐๐ โล ???? ๒๙๐๐๐ ปอนด์ คูณ ๒
มีต่อ
เอฟตองหนึ่ง ๒๑.๔ ตัน ๓๕.๓ ตัน ๔๒๐๐โล ๒๑๔๐ โล ๒๕๑๐๐ ปอนด์ คูณ๒
ซู-๒๔ ๒๒.๓ ตัน ๔๓.๗ ตัน ๒๗๗๕โล ๖๑๕ โล ๒๔๖๗๕ คูณ๒
ซู-๓๔ ๒๒ ตัน ๔๕.๑ ตัน ๔๐๐๐ โล ๑๑๐๐ โล ๒๙๗๖๔ คูณ๒
ซู-๓๐ ๑๗.๗ ตัน ๓๔.๕ ตัน ๓๐๐๐ โล ???? ๒๗๕๖๐ คูณ๒
จีอาร์๔ ๑๓.๙ ตัน ๒๘ ตัน ๓๘๙๐ โล ๑๓๙๐ โล ๑๗๒๗๐ คูณ๒
ซู-๒๒ ๑๒.๑ ตัน ๑๙.๔ ตัน ๒๓๐๐ โ ๑๑๕๐ โล ๒๔๖๗๕ ปอนด์
บล็อค ๕๒ ๘.๕ ตัน ๑๙.๒ ตัน ๔๒๒๐ โล ๕๕๐ โล ๒๘๖๐๐ ปอนด์
...............มีต่อ
วิเคราะ............เอฟ-๑๑๑ ซู-๒๔ ซู-๓๔ น้ำหนักมากพอๆกัน........แต่ถ้าเป็นน้ำหนักบรรทุก อีเกิ้ลอี และซู-๓๐ ก็แบกได้ไม่แพ้ สามคนแรก...............ทุกแบบมีสองที่นั่งเป็นมาตรฐานหมด ยกเว้น ซู-๒๒ และ เอฟ-๑๖.....................ทุกลำออกแบบเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด ยกเว้น เอฟ-๑๖ และ ซู-๓๐ เป็นมัลติโรล์.......................อีเกิ้ลอี ซู-๓๔ ซู-๓๐ เอฟ-๑๖ มีขีดความสามารถรบทางอกากาศด้วย บีวีอาร์ โดยเฉพาะ ซู-๓๔ มีเรดาร์ตรวจจับแบบ เพสอาร์เรย์....................ทุกบินทำความเร็วสูงสุดขั้นซุเปอร์โซนิค จึงจัดเป็นเครื่องบินขับไล่.....................ใครคิดอะไรได้ช่วยต่อด้วยครับ...........จบ อ่อ เอ่อ ลืม ทุกแบบเป็นแบบสองเครื่องยนต์ ยกเว้น ซู-๒๒ และเอฟ-๑๖ ไปจริงๆ แระ............
คุณกบโม้มันว่ะ
ขอบคุณครับคุณกบ
ขอรบกวนถามอีกครับ
อังกฤษมีแผนจะปลดเครื่องบินTORNADทั้งหมดเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการ อยากทราบว่าTORNADO มีคาใช้จ่ายในการปฏิบัติการสูง F16 , gripen มาก และถ้าเทียบกับF15 ,SU30 , SU34
ค่าใช้จ่ายของคุณราฟ คงไม่ได้หมายถึงค่าเสื่อมราคา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหนึ่งที่ต้องนำไปคำนสนจ้นทุน.......................ในที่นี้ น่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสองตัว คือ โอเปอเรติ้งคอสท์ และ เมนเทนแนนซ์คอสท ..................... แบบแรก ก็ได้แก่ ค่าเชื้อเพลิง ค่าหล่อลื่น ค่า ออเปอเรเตอร์ ซึ่งว่าไปแล้ว ทั้งหมดก็บริโภคได้ดุดันพอๆกัน เนื่องจากมีจำนวนเครื่องขนาดใหญ่ถึงสองเครื่อง ...........ที่ทราบแน่ชัดคือ เอฟ-๑๕ ใช้เครื่องยนต์ เอฟร้อย ของ แพรตและวิตถะนี ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ติดตั้งในเอฟ-๑๖ ด้วยจำนวนสองเครื่องย่อมต้องบริโภคมากกว่าเครื่องยนต์เดียวเป็นสองเท่า อันนี้แน่แท้.....................
เรื่องเมนเทนแนนซ์คอสท์.............ตัวนี้ต้งแยกเป็นพาร์ทออกไป ซึ่งผมเชื่อว่าเราทุกคนถ้าได้ใกล้ชิดทำบัญชีการจ่าย ก็คงไม่เป็นเรื่องยากเช่นเดียวกับบัญชีร้านโชว์ห่วย...............ติดที่ว่าเราคนนอก ข้อมูลด้านนี้เป็ยเรื่องทางทะหาร อะไรที่ขึ้นชื่อว่าข้อมูลทหารมันก็ดูยากเป็นธรรมดา(นี่แหล่ะ ถึงไมเมียเป็นทหาร (ขอดูยากมั่ก).........แต่ถ้าให้วิเคราะ พาร์น่าจะเบ่งได้เป็นสามหมวดหลัก ตัวแรกคือเครื่องยนต์ ตามด้วยเอวิโอนิคส์ และสุดท้าย แอร์เฟรมแอนด์แอคเซศซอรี่ส์...........เครื่องยนต์ถือเป็นพาร์ทหลักของเครื่องบิน สนนราคาเจ้านี่ไม่ค่อยจะถูกนัก มีอายุการใช้งานแตกต่างกันไปแล้วแต่แนวความคิดในการออกแบบ...............ตัวนี้ถ้าให้วิจารณ์ ต้องบอกว่าของค่ายรัสเซียจะออกบานอยู่สักหน่อย เนื่องจากอายุพาร์ทค่อนข้างสั้น แม้ว่าราคาอาจจะถูกกว่าของตะวันตกซึ่งอายุการใช้งานมากกว่า แต่คอสท์เรื่องการขนส่ง สต็อค และค่าแรงติดตั้ง ยังไงก็ไม่แพ้กัน ถอดเปลี่ยนทุกครั้งจ่ายเงิน ถอดหลายครั้งก็ต้องจ่ายหลายครั้ง อันนี้เป็นต้น................
มาเรื่องเอวิโอนิคส์ ผมจบไฟฟ้า ทำงานกับงานสายส่งไฟฟ้ามาสิบสองปี เกิดให้จับพลัดจับผลูเปลี่ยนงานมาทำโรงไฟฟ้า ได้สักสามปีแล้ว ที่นี่ได้ใกล้ชิดกับระบบอิเลคทรอนิคส์ ทำให้ทราบว่า เรื่องการซื้อหาอุปกรณ์จำพวกนี้เหมือนควักกระเป๋าจ่ายตังพาอีตัวถูกๆขึ้นห้องไม่มีผิด.........(แหะๆความหลังครับความหลัง)...........เริ่มแรกก็จ๊ะจ๋าเนาะๆเนอะๆดีดอก พอฟักกระเป๋าพาขึ้นห้อง แม้งง เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังทรีน..............พาร์ทระบบอิเลคทรอนิคเดี๋ยวนี้เค้าทำเป็นโมดูล ซ่อมง่ายประกอบคล่อง โดยเค้ายกถอดเปลี่ยนเป็นชุด ชุดนึงก็หลายตัง แล้วแต่เค้าจะตั้งราคามาโขกสับ................การถอดซ่อมประกอบด้วยตัวเองไม่ต้องพูดถึง .................หลังเซ็นสัญญาส่งมอบมันก็ทำงานดีอยู่หรอก แต่พอวารันตีหมดวาหลิดเท่านั้นแหล่ะ เจ้าพระคุณ มันเสียเอาเสียเอา (อีตอนมีวารันตีก็ดันไม่เสีย).......เสร็จเป็นรองเค้าแล้ว....ฟัน...โดนฟันหัวแบะ.............. จริงๆเรื่องพวกนี้มันมีหลายเจ้าให้เปรียบเทียบ ว่าแต่บางทีคนเป็นนายก็ดันแกล้งโง่. อ่ะนะ ก็ว่ากันไป............ถ้าพูดถึงควอลิตี้ ตรงนี้ผมว่าของยุโรปน่าจะโอเค แต่เรื่องกลยุทธการตลาดก็อีกเรื่อง ....เอเย่นในไทยนี่ บางทีก็แสบ......................นี่แหล่ะ จะก้าวไปเป็นกองทัพไฮเทค ต้องเตรียมเงินถุงเงินถังสำหรับเรื่องนี้ไว้ด้วย ...............เดี๋ยวจะเหมือน สตริงเรย์ กับ ทีๆเอส ฟังชื่อชั้นดูหรูหรา ระบบควบคุมขีปณะ ระบบวัดระยะด้วยเลเซอร์ ใช้ไปไม่ทันไร เสียหมด เพราะพาร์ทมันมีอายุ ทำไงไม่มีตังซ่อม สรุปทั้งกองพัน ใช้เล็งง่ามหนังสติ๊ก.................
สุดท้าย แอร์เฟรมและแอคเซซเซอรี่ .................ตัวนี้ผมว่ามันอยู่ที่ความเชื่อถือได้ของซัพพลายเอ้อร์ด้วย................พาร์ทคล้ายๆกัน แต่คนละบริษัท ทำไมราคาแพงกว่ากันฟ้ากะเหว...........ยกตัวอย่างเช่น พาร์ทของ บีที-๖๗ กับ จี-๒๒๒ ............บางตัวคล้ายกัน แต่ทำไม จี-๒๒๒ จึงแพงนัก...............คำตอบคือ ซัพพลายเอ้อร์ของจี-๒๒๒ มันเจ๊งแล้ว ไลน์ผลิตเลิกไปแล้ว พาร์ทก็หายาก ดีมานด์มากมันก็แพง...............นี่อันนี้ต้องระวัง...................จริงๆมันมีทางป้องกันอยู่วิธีหนึ่ง เราอาจจะเคยได้ยินในสัญญาเรื่องการประกันอะไหล่...........อาจระบุว่า ซัพพลลายเออร์ต้องประกันชิ้นส่วนอะไหล่ ภายใน สิบปี ยี่สิบปี อะไรก็แล้วแต่ ...........หมายความว่า ตลอดระยะเวลาประกันนี้เค้าจะต้องจัดหาอะไหล่ตามที่เราต้องการในราคาที่ต้องตกลงกันในสัญญา ซึ่งเมื่อผูกพันธ์กันเป็นเวลานานอย่างนี้ ซัพพลายเอ้อร์ต้องแบกรับความเสี่ยง เค้าก็ต้องมาชาร์จราคาเพิ่มในสัญญาอยู่แล้วเป็นธรรมดา.........คือยังไงก็มีแต่เข้าเนื้อนั่นแหล่ะ.....................เอ๋ว่าแต่ นี่ผมกำลังตอบเรื่องอะไร ..........ชักมึน
ภาพบางส่วนวันอำลา การบินของแฮริเออร์ที่อังกฤษก่อนปลดประจำการครับ
ภาพจาก เว็ป kapook.comครับ
ผมจำได้ว่า กองบิน ที่สุราษฏร์ ได้นำเจ้านี่ เข้าประจำการตั้งกะปี 2007 แล้วนี่หน่า...555
[url=http://www.izeeu.com][img]http://www.izeeu.com/images/SIy87451.jpg[/img][/url]
[url=http://www.izeeu.com][img]http://www.izeeu.com/images/yaS87544.jpg[/img][/url]
รูปไม่มาวุ้ย
บข.19 ข/ค = เอฟ-16 mlu?
เพราะถ้าทอ.ปรับปรุงทั้งfleet จริงๆ บข.21 คงไม่ได้เกิดอีกยาว ..............
ขอบคุณครับคุณกบ
ต้องรบกวนเยอะเพราะผมชื่นชอบTORNADO ดีใจมากถ้าเราซื้อเข้าประจำการเพราะถ้าได้ใช้สัก 15ปีก้น่าจะคุ้ม เสียดายที่หารูปตอนที่TORNADOมาเมืองไทย(น่าจะเป็นช่วงที่ทอ.สนใจ) ลงในหนังสือสมรภูมิเล่มเก่าหาไม่เจอเลยไม่ได้มีรูปให้ดู
คุณกบใช้ภาษาได้ดีมากๆเลย น่าชมเชยจริงๆ