อยากทราบว่าตอปิโดกับระเบิดมันต่างกันยังไงครับ ในสงครามเกาะมิดเวที่ตอนนายพลมากูโมสั่งให้ปลดตอปิโดออกเพราะนึกว่าบ.ที่มาโจมตีมาจากบนบกแต่พอมีรายงานว่าบ.มาจากเรือแกก็สั่งให้ติดเข้าไปใหม่ เลยสงสัยว่ามันต่างกันยังไงและถ้าเป็นระเบิดธรรมดาจะจมเรือได้ไหมครับ
ลองกลับไปดูหนังเรื่อง โตรา โตรา โตร่าหรือไม่ก็ เรื่องเพริล์ฮาร์เบอร์ ดูครับ ฉากที่เครื่องบินญี่ปุ่นถล่มเรือของสหรัฐนะครับ จะอธิบายการทำการของตอร์ปิโดที่ทิ้งจากเครื่องบินได้อย่างดี
ส่วนที่นายพลนากูโมสั่งเปลี่ยนสลับไปมาระหว่างตอร์ปิโด กับ ระเบิดเพราะ ตอนแรกจะใช้เครื่องบินไปทิ้งระเบิดที่เกาะมิดเวย์ครับ แต่พอไปตรวจเจอว่ามีเครื่องบินที่บินมาจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ก็เลยสังเปลี่ยนจากระเบิดไปเป็นตอร์ปิโด เพราะเป้าหมายที่ต้องการทำลายจะเป็นกองเรือของสหรัฐแทนครับ
ตามความคิดของผมนะครับ ตอร์ปิโดน่าจะใช้โจมตีเรือได้ดีกว่าระเบิดครับ เพราะตอร์ปิโดจะวิ่งไปกับทะเลเป็นแนวมีโอกาสโดนเรือสูงครับ และเครื่องบินที่ทิ้งตอร์ปิโดมักจะบินเรี่ยน้ำทำให้โดนปตอ.ยากขึ้น(มั้ง) ส่วนการทิ้งระเบิดเครือ่งบินจะต้องบินเหนือเรือเป็นเป้าให้ปตอ.เป็นอย่างดี และการจะทิ้งให้โดนนั้นต้องอยู่เหนือเป้าหากทิ้งพลาดก็ลงน้ำจ๋อมแค่นั้น(แต่บางรุ่นหน่วงเวลาได้) การทิ้งระเบิดบ.ต้องดำดิ่งเข้าหาเป้าหมาย ในขณะที่บ.ทิ้งตอร์ปิโดจะอยู่ไกลจากเป้ากว่า และจะทิ้งตอร์ปิโดใส่ด้านข้างของเรือ เพราะมีโอกาสโดนมากกว่าหน้าและท้ายเรือครับ
คำถาม อยากทราบว่าตอปิโดกับระเบิดมันต่างกันยังไงครับ
จากที่อ่านมาคาดว่า จขกท คงจะรู้จักระเบิดดีแล้ว แต่ไม่รู้จัก ตอปิโดใช่หรือไม่ครับ
ตอบ ตอปิโด ก็คือลูกระเบิดที่ติดตั่งระบบขับเคลื่อน ทำไห้สามารถ เคลื่อนที่ไปสู่เป้าหมายที่เล็งไว้ได้เอง
โดยการเคลื่อนที่ไปใต้นํ้า
สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญที่สุดที่แตกต่างระหว่างตอร์ปิโดกับระเบิดก็คือ ระเบิดจะระเบิดบนเรือบริเวณเหนือแนวน้ำเพราะฉนั้นถ้าจำนวนระเบิดไม่มากพอหรือแจ๊คพอตระเบิดลงห้องเก็บกระสุนปืนใหญ่พอดีเรือจะไม่มีทางจมได้เลย ส่วนตอร์ปิโดจะระเบิดไต้แนวน้ำทำให้น้ำเข้าเรือ บางครั้งตอร์ปิโดลูกเดียวก็จมเรือได้ และตอร์ปิโดจะมีหัวรบหนักกว่าระเบิดมากจึงร้ายแรงกว่าระเบิดลูกต่อลูก
ความแตกต่างระหว่างการโจมตีด้วยระเบิดและตอฯ
หนึ่ง ยิงด้วยตอ เป้าจะใหญ่กว่า............คือถ้าดำทิ้งด้วยระเบิด(เครื่องเล็กใช้ดำทิ้ง เครื่องใหญ่ใช้ทอยทิ้ง(เช่นฝูงบี-๑๗ ทอยทิ้งไข่เหล็กใส่กองเรือ(ซึ่งจะถูกต่อต้านด้วยปืนคาลอเบอร์ขนาดใหญ่ (อาจเป็น แปดนิ้ว หรือสิบสองนิ้ว ซึ่งเป็นปืนเรือหลักยิงด้วยกระสุนลูกปราย)))) ทิศทางสู่เป้ามีสองมิติ คือบนล่าง ซ้ายขวา..............แต่ถ้ายิงด้วยตอ ทิศทางสู่เป้าเหลือมิติเดียว คือ ซ้ายขวา ส่วน บนล่าง ถูกบังคับด้วยระดับผิวน้ำ ซึ่งอาศัยกฏการลอย(คนน.)..............จะเห็นว่าโอกาสใช้ตฮ จะถูกเป้าได้มากกว่า(อย่าลืมมุมเล็งดัก)
สอง การดำทิ้ง เครื่องบินจะอยู่ในคิลเล่อร์โซน คือโซนอันตรายจากการถูกยิงด้วยปืนต่อสู้อากาศยาน มากและนานกว่า การบินเข้าหาใกล้ระดับแนวน้ำ
สาม เรื่องของ การระเบิด เหนือแนวน้ำและใต้แนวน้ำ ดังที่เพื่อนสมาชิกได้อธิบายแล้น...นนน..........
ระเบิดมาข้างบน ตอร์ปิโดมาข้างล่าง ถ้ามาพร้อมกันทั้งระเบิดและตอร์ปิโด แสดงว่าเรือโดนแซนวิช ถ้าโดนรุมหลายๆลูกแสดงว่าเรือโดนสวิงกิ้ง
ขอบคุณทุกคำตอบครับที่ให้ความกระจ่างครับ
ระเบิดใช้กับเป้าหมายบนบกและในทะเลได้ ทั้งการทิ้งระดับ และการดำทิ้งระเบิด
ส่วนตอร์ปิโด ใช้ทิ้งได้กับเป้าหมายในทะเลเท่านั้น เอาไปทิ้งบนบกมันก็ไม่รู้ว่าจะว่ายไปหาเป้าหมายได้อย่างไร การเล็งเพื่อทิ้งให้ถูกเป้าหมายบนบกแบบทิ้งลูกระเบิดคงทำได้ยากมากๆ ด้วยคงไม่มี นบ. คนไหนถูกฝึกมาให้ทำแบบนั้น
ที่นี้พอญี่ปุ่นเข้าใจว่าโดนเครื่องบินอเมริกันจากฐานบินบนบก (ก. มิดเวย์) จู่โจม เครื่องระลอกสองที่ติดตอร์ปิโดเตรียมพร้อมไว้เผื่อว่าจะเจอกองเรือบรรทุก บ. ของอเมริกัน (ที่ตอนนั้นตัวเองก็ยังหาไม่เจอ) จึงถูกสั่งให้เปลี่ยนตอร์ปิโดออก แล้วให้เอาระเบิดติดแทน หายนะจึงมาเยือนกองเรือบรรทุก บ. ของญี่ปุ่น ถือว่าค่อนข้างโชคร้ายมากๆ
ยุทธนาวีครั้งนี้ การข่าวที่แม่นยำ กับโชคที่เข้าข้างอเมริกัน เป็นตัวตัดสินผลการรบครับ ลำพังฝีมือ นบ. อมเริกัน เวลานั้นอ่อนด้อยกว่า นบ. ญี่ปุ่นเยอะมาก เตรื่องบินทุกแบบสมรรถนะก็สู้ของญี่ปุ่นไม่ได้ อเมริกันเวลานั้นเข้าสงครามด้วยความไม่พร้อมในเกือบทุกด้านครับ....
จริง ๆ แล้ว ถ้าย้อนไปดูจะพบว่า ตอนโจมตี เพิร์ลฮาเบอร์ ญี่ปุ่นพลาดที่จะจม เรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกา
(คงโชคดีเล็ก ๆ ที่ เรือบรรทุกเครื่องบิน ออกไป ฝึก เลยรอด)
สงครามทางเรือยุคใหม่ เลยเป็นการดวลกันระหว่างเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่ง ปิดฉาก เรือปืนโต อย่าเรือประจันบานไปเลย