วันก่อนผมได้พานักเรียนไปเข้าค่ายที่ค่ายของทหารพรานและได้พูดคุยกันกับทหารพราน ในชั้นผู้น้อยหลายท่าน ได้ทราบถึงความคิดเห็นของทหารพราน(หลายท่านเคยผ่านการรบมาแล้วหลายครั้ง)ที่มีต่อนักเรียนนายร้อยในปัจจุบันว่า นักเรียนนายร้อยหลายคน(ส่วนใหญ่)ทำตัวเป็นคนละชั้นกับทหารชั้นผู้น้อย จนทหารพรานบางท่านคิดว่าโดนดูถูกจากนักเรียนนายร้อยบางคน หลายท่ายบอกว่ามีนักเรียนนายร้อยแค่ไม่กี่คนที่ทำตัวติดดินอยู่กับทหารชั้นผู้น้อย รวมทั้งได้ใจทหารชั้นผู้น้อย ในความคิดของผมนะครับถ้านักเรียนนายร้อยทำตัวออกห่างจากทหารชั้นผู้น้อย ไม่ได้ใจทหารชั้นผู้น้อยนั้นประเทศเราจะอันตรายนะครับ ผมอยากให้ทหารในชั้นนายร้อยขึ้นไปได้รับรู้ถึงความคิดและได้ใจของทหารชั้นผู้น้อยที่ถ้าถึงคราวมีสงคราม ทหารชั้นผู้น้อยนี่แหละที่จะต้องไปเป็นแนวหน้าร่วมรบกับพวกท่านหรืออยู่หน้าพวกท่านเวลาเข้ารบกันจริงๆ
เรื่องจริง...ที่ ขำไม่ออกครับ...หุหุ
เค้าถูกสอนมาให้เป็นนายคน บางคนดีแทบใจหาย บางคนร้ายเสียจนอยากจะให้ย้ายไปเร็วๆให้พ้นเขตกองร้อยนับรอเลยก็มี บางคนอายุแค่ 20 ต้นๆแสดงอำนาจบาตรใหญ่ด้วยการชี้นิ้วสั่งจ่าหรือหมู่แบบขี้ข้าก็มีมาแล้ว ชอบสรรหาการทำโทษแปลกออกโรคจิตนิดๆมาเล่นไอ้เณรก็มีหรือว่า ทุกอย่างข้าคุมได้เป็นต้น
แต่พอออกสนามของจริงโดนปืนใหญ่ฝ่ายตรงข้ามสักชุดสองชุดเท่านั้นสติแทบแตกเสียงสั่งทางวิทยุดูตื่นเต้นควบคุมอารมย์ตัวเองแทบไม่อยู่ ต้องได้จ่ากองร้อยข้างๆเป็นคนนำแทนแต่สำหรับผู้หมวดใหม่ วิ่งลนลานชนต้นมะขามล้มไม่เป็นท่าขนาดไอ้เณรยังดูถูกว่าทีอยู่กองร้อยแดกกรูจัง แต่โดนของจริงทำลนลาน
เวลาสวนกันในตลาดก็ทำมองด้วยหางตาว่าไอ้นี่นายสิบ คนละเกรด ต้องนั่งโต๊ะแยกกัน สโมสรแยกหมู่ แล้วความสามัคคีมันจะเกิดไหม
อึม กระทู้นี้ คงต้องรอให้ ท่าน Dboy กะ FW190 มาตอบหละครับ ถึงจะได้มุมที่น่าสนใจ แต่สำหรับผมเอง
มองว่า จปร ตอนนี้เป็นสถาบันที่ผลิต นักวิทยาศาสตร์ มากกว่าผลิตนักรบครับ นายร้อย จรป จบแล้วก็ได้ วทบ. ด้วย
ที่สำคัญคือการปรับเปลี่ยนหลักสูตร เมื่อไม่นานมานี้ ประมาณ 8-9 ปี จากหลักสูตร 5 ปี เป็น 4 ปี ที่สำคัญคือวิชาที่เรียน มีวิธีที่เกี่ยวกับ
ฝึกเป็นนักรบน้อยมาก ถามว่า นายร้อย จปร ฝึกภาคสนาม กีวัน กี่สัปดาห์ ต่อปี ทหารเกณฑ์ ผึกภาคสนามปีละ กี่วันกี่สัปดาห์
ผมว่าควรตัดวิชา ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ออกไป แล้วเพิ่มเรื่อง ภาษา สังคม จิตวิทยา และหลักสูตรการรบ จะดีกว่ามั้ยครับ
ผมเคยได้ยินเพื่อน ๆ บ่นให้ฟังว่า เดี่ยวนี้นายทหาร จปร ที่จบมาใหม่ ๆ รบไม่เป็น ฟังแล้ว รู้สึกหดหู่ใจมากครับ
ไม่เอาไม่พูดดีกว่าครับ อันตราย
อันนี้ผมพอเข้าใจอยู่นะครับว่าเกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาด้วย
บัณฑิตสมัยนี้ ไม่ว่าจากสถาบันไหน จะรู้จักแค่คำตอบ หรือผลลัพท์
เพราะระบบการศึกษาของเราเน้นในเรื่องระบบท่องจำ ไม่ได้เน้นในเรื่องคิดวิเคราะห์
บัณฑิตของเรารู้แค่ว่า ถามแบบนี้ ต้องตอบแบบนี้
แต่ทำไมต้องตอบแบบนี้ ไม่รู้
บัณฑิตส่วนใหญ่รู้แค่ว่า magerity right แต่ไม่เคารพ minority rule
บอลไทยยังแพ้ลาวได้ ทหารไทยจะรบแพ้บ้างจะเป็นไร
ที่ผมยกตัวอย่างมาไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้จริงๆ
1+1=..?<---หลักสูตรไทย
?+?=9 <---หลักสูตรต่างชาติ
ยกตัวอย่างนะครับ ของต่่างชาติจะมีตัวแปลมากกว่าหลากหลายกว่า
เราเรียนตามหลักสูตรเป๊ะๆเก่ง
แต่ต่างชาติคิดริเริ่มและหลากหลายกว่าเรา
เห็นด้วยกับกับคุณ โต้งนะครับ นักรบก็ควรเป็น...นักรบ
คุณ น่าคิด ก็พูดน่าฟัง ...อยู่ที่ผู้มีอำนาจจะมองออกและกล้าที่จะปรับเปลี่ยนให้ใช้เป็นแผนพัฒนาใหม่ๆไม๊...
ณ สถานที่หนึ่งไม่ไกลนัก เป้นสถานที่ศึกษาดูงาน ของนนร.แห่งหนึ่ง
ได้นำคณะมาดูงานด้านวิศวกรรม ณ หน่วยงานภาครัฐที่ขึ้นชื่อว่ามีงบประมาณหมุนเวียน
ในแต่ละปีที่มหาศาล นักการเมืองต่างๆ ก็แย่งกันคุมหน่วยงานนี้ เมื่อหน่วยงานภาครัฐแห่งนั้น
บรรรยายจบก็ให้ โอกาส นนร. และคณะซักถามข้อสงสัย
ทันใดนั้นเอง ก็มี นนร. คนหนึ่งมาสะกิด กระซิบถาม staff ของหน่วยงานภาครัฐแห่งนั้นว่า
" พี่ครับๆเจ้านายของพี่ได้ค่าเปอร์เซนต์ในแต่ละงานเท่าไรครับ"
นั้นคือคำถามของ นนร. ที่จะจบไปเป็นนายใน อนาคต เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบจริงๆ
คุณโต้ง..ครับ...บางครั้งเรื่องจริงรับกันไม่ได้นะครับ..หุหุ
มียิ่งกว่านี้อีก ครับ เจอกันจะเล่าให้ฟัง
แต่ นายทหารรุ่นใหม่ๆ เก่งๆ นิสัยดีๆ ก็ มีมากนะครับ....ต้องว่าเป็นคนๆ ไปนะครับ....
ผมเข้าใจฟามรู้สึกนี้ดีการดูถูกทหารชั้นผู้น้อยไม่เหมาะสมเพราะถึงเขาชั้นยศน้อยกว่าแต่ประสบการณ์ยุธวิธี และความรักชาติของพวกเราก็ไม่น้อยไปกว่า นักเรียนนายร้อย
แต่เท่าที่เจอในหน่วยนายร้อยสายตรงจะดีมากจะเป็นได้ทั้งเพื่อนพี่ผู้บังคับบัญชา แต่สำหรับผู้ที่เป็นประทวนก่อนที่จะเป็นสัญบัตรจะคิดว่าศักศรีของพวกเขายิ่งใหญ่แต่ถ้าไม่มี
พวกผู้น้อยอย่างผมละก็ผมคิดว่าพี่เขาคงลำบากเหมือนกัน
พัน.จจ
เป็นทหารเหมือนกัน ก็ให้เกียศกันเเละเท่าเทียมกันสิ
ยศอำนาจเเค่ทางผ่านนอกเวลาราชการก็ไม่ต่างกัน บางที่อาจเป็นไข้โป้งตาย
ก็ได้นะเกรียจนักพวกดูถูกคน เมื่อวานไปอ่านกระทู้มามีคนนึงมันเม้นว่า ทหารพรานก็เเค่เครื่องมืออย่างนึก ที่ถูก เพราะว่าไม่มีการศึกษาเสือกเรียนโง่เอง
เลวมากไม่คิดเลยว่าจะมาจากคนไทยด้วยกันเผลอพวกเดียวกันอีก หมดใจเลยอุสาศรัทา ศรัทามาตั้งเเต่เด็กยันโต ถึงว่าละบางคนเป็นทหารโดยสายเลือด บางคนเป้นโดยอาชีพ พอกันที่ระบบสังคมเมืองไทย
ถ้าที่ผมเขียนมันรุนเเรงไปต้องขอโทษด้วย
โดยทัศนคติของผมเเล้ว ผมยินดีเเละรู้สึกเป็นหนี้พี่ทหารพรานทุกท่านมาก
เเม้ว่าบางท่านจะมาด้วยเงินบ้างมาด้วยความรักชาติหรืออะไรต่อมิอะไร พวกท่านถือว่ามีความเสียสละจากบ้านจากครอบครัวมา
เงินเดือนน้อยถูกดูถูกเหยียดหยามว่า เป้นทหารรับจ้าง หลายหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำความดีให้ประเทศนี้ ขอให้ท่านท่านทั้งหลายมีความสุข
ขอให้ครอบครัวของท่านเเละคนที่ท่านรักตลอดทั้งพี่น้อง พ่อเเม่ครูอาจารย์ ของท่านมีความสุขได้กินอิ่มนอนหลับสบายบนเเผ่นดินที่ท่านรักษาอยู่นี้ขอ ให้ลูกหลานของท่านเป็นคนดีของสังคมเป้นลูกที่ดีของท่าน ของจงสุขใจในความเสียสละนี้เถิด พวกท่านคือทหารของพระราชา เป้นทหารโดยสายเลือดเเละสันดารเเล้ว
มีชีวิตอยู่เหมือนเป็นหนี้สักวันคงได้เเทนคุณเเผ่นดิน ขอให้มีความสุขครับ