แล้วก็ท่าจำไม่ผิดจะต่อที่อู่ราชนาวีมหิดลครับ

ท่าน pop04 ผมคิดว่าเรือชุดปัตตานี มีแค่สองลำน่ะครับคือ ปัตตานีกับนราธิวาส แต่รูปที่ท่านนำมานั่นเป็นรูปเรือ OPV ที่เรากำลังต่อเองน่ะครับข้อมูลมีในเว็ปนี่ล่ะครับ ขออภัยที่ไม่ได้หามาอ้างอิงครับ

ไม่ต้องไฮเทคขนาดพี่กัน(พี่เกรียน)เค้าก็ใด้แต่แนวคิดเหมือนกันที่เรือสามารถใช้ใด้หลายๆภาระกิจในเรือลำเดียวกันซึ่งจะเป็นการประหยัดงบประมาณในการสร้างเรือหลายๆประเภทเพื่อครอบคลุมภาระกิจต่างๆใด้เยอะและรวดเร็วยกตัวอย่างเรือสามารถสนับสนุนการยกพลขึ้นบกและสามารถป้องกันตัวเองใด้ทั้ง3มิติ สามารถช่วยเหลือบรรเทาสาธารณะภัย โจมตีเชิงรุก ใด้ในเรือลำเดียวกัน เป็นต้น

ลำเดียวจะแพงกว่า เรือ หลายลำรวมกัน นะ ถ้าเกิดจัดเต็มยศ ให้ แต่ น่าสนใจ นะครับ ทร น่าจะหาสักลำ ไป ไล่บี้ โจรสลัด

คงอีกนานครับ สำหรับ LCS-2

เอาเรือดำน้ำก่อนล่ะมั้งครับ

แต่ถ้าไทยต่อเองได้น่าจะดีนะครับ

ไม่ต้องไฮเทคล้ำยุคอย่างพี่กันเค้าก็ใด้ราคาไม่น่าเกิน LPD จากสิงค์โปร์ซักเท่าไหร่นะครับทำเป็นแบบโมดูลไว้อัพเกรดทีหลังเรื่อยๆก็ใด้เราเอาแนวคิดมาทำไม่ใด้ก๊อปมาทั้งดุ้นทำตามเงินในกระเป๋าของเราผมว่าน่าจะไหว ซัก3ลำงามๆเอาใว้ขู่เพื่อนเราฝั่งอ่าวไทยเล่นๆจะใด้เลิกเกรียนซะทีเบื่อมัน

ถ้าจะเอา Multirole จริงๆ ผมชอบ Absalon class มากกว่า LCS-2

เงินมี ทุกอย่างก็มีได้ครับ แต่ที่สำคัญเงินนะมีไหม

ของเราใช่เรือประเภท LPD LHD จะเหมาะกว่าครับ

ตอนนี้รอ ๆ เมื่อไร Endurance จะมา

เมื่อไร OPV ชุดปัตตานีจะมาครบ 4 ลำ

OPV หลาย ๆ ลำตอนปกติก็ตรวจการณ์น่านน้ำระยะไกลคุ้มครองเรือปกติ

แต่พอเกิดสงครามก็แปลงร่างติด อวป. เป็น คอเวตได้ง่าย ๆ

ใช่ ชุดปัตตานี ไหมครับ

ท่านลมหมุนวนครับขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ พอดีผมก็งงๆ เพราะท่าน Banyat โพสไว้ว่า

เมื่อไร OPV ชุดปัตตานีจะมาครบ 4 ลำ ผมก็เห็นจะมีแค่ opv ชุดนี้เท่านั้นที่มาใหม่

ขอโทษด้วยครับ

ผมสนใจเจ้าตัวนี้ครับ กองทัพอากาศเรา สนใจเครื่องบินเขา จนสั่งซื้อแล้ว

แล้วกองทัพเรือเราจะสนใจ เรือเขาไหมนะ เอาแบบต่อที่สวีเดน1ลำ กลับมาต่อที่ไทย 1 ลำ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีเหมือนสิงคโปร์กับฝรั่งเศส

และ มาเลเซียกับเยอรมัน

Visby Class Corvette สวีเดน

RSS Formidable ฝรั่งเศส สิงคโปร์

MEKO A  เยอรมัน  มาเลเซีย

เครดิต Bloggang.com

ชุดปัตตานี คงมีแค่2ลำ อ่ะครับ เพราะไอ่ที่ต่ออู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช มันไม่เหมือนกันเลยนะครับ 

เรือชั้นวิสบี้ ผมคิดว่าทางราชนาวีเราเองก็คงสนใจไม่น้อย ท่าเอามาแทนพวกเรือ OPV ครบเครื่อง ดุดัน ทันสมัย รวมจนถึงฟอร์มิเดเบิ้ล เพราะแผนแบบเรือฟรีเกตใหม่ของ ทร.เราเอาฟอร์มิเดเบิ้ล เป็นมาตราฐาน  แต่ว่า อย่างที่เราๆท่านๆรู้กันกองทัพเรางปน้อยหากซื้อของแพงๆโครงการอาจจะล่มได้ เหมือนเรือดำน้ำที่เราเคยซื้อจากสวีเดน

ท่าจะสังเกตุให้ดี เรือชุดปัตตานีเราก็ไม่ได้อยู่อันดับหนึ่งในการประกวด แต่กลับได้รับการสั่งซื้อ ส่วน OPV ชุดใหม่นี้ถึงจะเป็นของยุโรปแต่ว่าตัดออพชั่นไปเยอะเหมือน โรงเก็บฮอก็ไม่มี

ผมจึงจะรอดูฟรีเกตชุดต่อไป ทร.จะเอายังไง ท่าไม่เอาเรือจีน(ขนาดเรือจีนที่ว่าถูกของที่ได้มายังไม่ครบเลย) ก็ต้องสู้กับราคาแพงระยิบของเรือยุโรป(จะสู้ค่าตัวสู่ขอไหวมั๊ย)

ส่วนเมโก้ตัดทิ้งเลยครับ ตอนนี้มีตังค์ก็ซื้อเรือเยอรมันไม่ได้หรอก

ทำไมเราไม่ดัดแปลงท้องเรือให้เหมือน LCS-2 ล่ะครับ สามารถเป็นเกราะป้องกันชั้นนอกใด้ ไม่มากก็น้อยล่ะครับ

ข้อเสียข้อนึงของเรือ 3 ท้องแบบนี้คือมันทนทะเลแค่ระดับ 5 เพราะมันจะเหวี่ยงลูกเรือจนคลื่นไส้ตายเสียก่อน - -

ขอสนับสนุน คุณ evill  อีก หนึ่งเสียงครับ ด้วยความชอบส่วนตัว...อิอิอิ  และเข้ากับกะทู้ multirole naval ship  เลยครับ อาจจะแพงแต่ได้ครบ 3 มิติ

HMDS เรือบัญชาการและสนับสนุนชั้น Absalon (L16,L17 ) ของเดนมาร์ก

  เรือชั้น Absalon ถูกจัดเป็นเรือประเภทเรือบัญชาการและสนับสนุนการรบซึ่งมีความอ่อนตัวในการปฏิบัติการสูง(Command Combat / Flexible support ship) เรือทั้งสองลำในชั้นต่อขึ้นที่อู่เรือ Odense Steel ของเดนมาร์ก โดยถูกออกแบบให้เป็นเรือบัญชาการที่มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการได้หลากหลายภารกิจ ทั้งการโจมตีเรือผิวน้ำ การโจมตีชายฝั่ง ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายกำลังทางทะเลทางยุทธศาสตร์ จนถึงภารกิจกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล

 เรือชั้น Absalon มีระวางขับน้ำสูงสุด 6,600ตัน ตัวเรือยาว 137เมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนตร์ดีเซล MTU 8000  2 เครื่อง กำลังรวม 22,300แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 24 น็อต โดยพิสัยทำการไกลสุดอยู่ที่ 9,000ไมล์ทะเล ที่ความเร็ว 15 น็อต กำลังพลประจำเรือ 100 นาย สามารถเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานและอื่นๆได้อีก 70 นาย ตัวเรือมีการออกแบบให้มีห้องดาดฟ้าบรรทุกเอนกประสงค์ภายในเรือ(flex deck)ขนาด 915ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับกำลังพลได้130นายซึ่งรวมถึงรถถังหลักขนาด 62ตันเช่น Leopard2 ซึ่งสามารถขึ้นลงเรือได้จาก Ramp ท้ายที่สามารถเปิดออกได้ขณะเรือเทียบท่าด้วย โดยเรือสามารถรองรับกำลังพลได้สูงสุด 300นาย  ตัวเรือมีโรงเก็บ ฮ.ประจำเรือซึ่งสามารถรองรับ ฮ.EH101 ได้2ลำ และลานจอด ฮ.ท้ายเรือนั้นมีความกว้างสามารถรองรับการลงจอด ฮ.ขนาด 22ตัน เช่น CH-47 Chinook ได้

  นอกจากนี้ยังมีเรือเร็วท้องแบบ SRC-90E ประจำเรือ 2-3 ลำ ใช้กำลังพลประจำเรือ 3นายและรองรับผู้โดยสารซึ่งอาจจะเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้อีก 9นาย

   เรือใช้ระบบควบคุมการรบแบบ Terma C-Flex โดยระบบปฏิบัติการ Workstation ภายในเรือในใช้ Windows2000 และตัว Server ใช้ระบบปฏิบัติการ Sun Solaris
ตัวตรวจจับของเรือมี Radar Thales SMART-S mk2 ซึ่งเป็นRadar ตรวจการณ์และจับเป้าหมาย 3D ย่านความถี่ S-band ระยะตรวจจับ 250กิโลเมตร  Radar ควบคุมการยิงแบบ  Saab CEROS 200  และ Terma Scanter 2001 ซึ่งเป็นRadar ตรวจการณ์พื้นน้ำย่านความถี่ X-band  รวมถึงระบบตรวจจับสัญญาณ Electronic ESM(Electronic Support Measures) ของ EDO แบบ ES 3701    Sonar แบบASO 94-01 ของAtlas Elektronik    รวมถึงแท่นยิงเป้าลวงของ Terma ด้วย  ในส่วนระบบอาวุธของเรือนั้น เรือชั้นนี้ติดตั้งปืนใหญ่เรือแบบ Mk 45 ขนาด 5"/54cal 1กระบอก โดยในอนาคตมีแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้ Mk45 Mod4  ขนาด 5"/62cal พร้อมจัดหากระสุนนำวิถีพิสัยไกล EX-171 ER ระยะยิง2 กิโลเมตร   ระบบป้องกันตัวระยะประชิดของเรือคือระบบ Millenium 2ระบบ ซึ่งเป็นปืนใหญ่กล Revolver ขนาด 35มม. สามารถยิงกระสุนแตกอากาศด้วยอัตราการยิง 1,000ต่อนาที โดยสามารถทำลายเป้าหมายอากาศยานได้ที่ระยะ 3.5กิโลเมตรและอาวุธปล่อยที่ระยะ 2กิโลเมตร และแท่นยิงอาวุธปล่อนนำวิถีความร้อนแบบ Stinger แฝดสอง2แท่นยิง

  เรือชั้น Absalon ติดตั้งอาวุธปล่อยต่อต้านเรือผิวน้ำ Harpoon Block II ได้ถึง 16นัด อีกทั้งยังมีแท่นยิงแนวดิ่งแบบ Mk56 VLS 6ท่อยิงอีก3ระบบ ซึ่งสามารถติดตั้งอาวุธปล่อยต่อสู้อากาศยานแบบ RIM-162 ESSM ที่มีระยะยิง 55กิโลเมตร ได้36นัดในชุดยิงบรรจุแบบ Dual Pack  นอกจากนี้ยังติดตั้ง Torpedo เบาต่อต้านเรือดำน้ำแบบแฝดสองหรือแฝดสามแบบ MU90 และสามารถบรรทุกทุ่นระเบิดเพื่อนำไปวางในทะเลได้300ลูกอีกด้วย

Credit: Danskeren

 http://www.navalhistory.dk/english/theships/classes/absalon_class(2004).htm
http://www.navalhistory.dk/english/theships/a/absalon(2004).htm