ใครที่มีข้อมูลหรือภาพทหารที่ปฎิบัติการที่ซูดานบ้างโปรดเเบ่งปันกันด้วยนะจ๊ะ
หมู่เรือปราบโจรสลัดโซมาเลีย อ่าวเอเดน กลับถึงไทย กองทัพเรือ ญาติ ต้อนรับอบอุ่น
130 วัน ทหารเรือไทยร่วมนานาชาติปราบโจรสลัดโซมาเลีย เมืองซาลาล่าห์รัฐสุลต่านโอมาน อ่าวเอเดน กลับคืนสู่อ้อมอกแผ่นดินสยาม ผู้บัญชาการทหารเรือ ข้าราชการ ครอบครัว และประชาชนทุกหมู่เหล่าต้อนรับเนืองแน่น ไออุ่นรักแห่งความห่วงใย มีทั้งคราบน้ำตาและรอยยิ้ม ทัพเรือประสบความสำเร็จ การควบคุมบังคับบัญชาระยะไกล จาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ไปยัง หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ระยะห่าง 7,000 กิโลเมตร ได้ทันที หรือ Realtime อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (20 มกราคม 2554) พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีต้อนรับ เรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงปัตตานี โดยมี พลเรือตรี ไชยยศ สุนทรนาค ผู้บัญชาการ กองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ และผู้บังคับหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดโซมาเลีย พร้อมกำลังพลประจำหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ที่เดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย เมืองซาลาล่าห์รัฐสุลต่านโอมาน ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึงได้มีข้าราชการระดับสูง ผู้แทนหน่วย ภาครัฐ เอกชน ประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะครอบครัวข้าราชการ ทหาร จำนวนมากที่รอคอยการกลับมาคืนสู่อ้อมอกในวันนี้
พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ตามที่ กองทัพเรือ ได้จัด เรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงปัตตานี พร้อมเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ เบลล์ 212 จำนวน 2 เครื่อง และชุดปฏิบัติการพิเศษของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ประกอบกำลังเป็นหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดกองทัพเรือ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย โดยออกเดินทางจากสัตหีบเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2553 ระหว่างเดินทางเข้าพื้นที่ปฏิบัติการในอ่าวเอเดน หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ได้แวะเยี่ยมท่าเรือฐานทัพเรือชางงี สาธารณรัฐสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2553 และออกเดินทางจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2553 หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด เดินทางต่อไปถึงเมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2553 เวลา 16.30 น. ซึ่งเป็นเมืองท่าสุดท้าย ที่หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด จะแวะพักเรือและกำลังพล จากนั้นได้ออกเรือเดินทางจากเมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา วันที่ 21 กันยายน 2553 จากนั้นได้เดินทางถึงท่าเรือเมืองซาลาล่าห์ ณ รัฐสุลต่านโอมาน ในวันที่ 27 กันยายน 2553 เวลา 07.30 น. รวมระยะเวลาการเดินทาง 17 วัน ระยะทาง 4,256 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 7,840 กิโลเมตร และเริ่มออกปฏิบัติการกับกองกำลังผสมทางเรือนานาชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยมีวงรอบการปฏิบัติการดังนี้
ซึ่งจากการรับรายงานจาก พลเรือตรี ไชยยศ สุนทรนาค ผู้บังคับหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด และเก็บสถิติวงรอบการปฎิบัติภารกิจ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2553 – 2 มกราคม 2554 หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพเรือ และภารกิจในการปฏิบัติร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือนานาชาติ Combined Maritime Forces (CMF) คุ้มครองเรือสินค้า และ เรือประมงไทย คุ้มครองเรือสินค้านานาชาติ ป้องกันและขัดขวางการกระทำอันเป็นโจรสลัดการปฏิบัติงานในพื้นที่ แบ่งการปฏิบัติงาน เป็น 4 แบบ คือ คุ้มกันกระบวนคอนวอย (CONVOY) เรือสินค้าไทยและนานาชาติ ในช่องทางแนะนำสำหรับการเดินเรือ (Internationally Recommended Transit Corridor-IRTC) โดยการจัดเรือคุ้มกันเดินทางผ่านอ่าวเอเดน ปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือ นานาชาติ (CMF) โดยการจัดเรือลาดตระเวน ในพื้นที่รับผิดชอบ ในช่องทางแนะนำสำหรับการเดินเรือ (Internationally Recommended Transit Corridor-IRTC) ในอ่าวเอเดน และพื้นที่ตามแนวชายฝั่งโซมาเลีย คุ้มครองและช่วยเหลือเรือประมงไทย โดยการเยี่ยมเรือประมงไทยที่ได้รับสัมปทานการทำประมงกับประเทศต่าง ๆ คุ้มกันเรือประมงไทยที่เดินทางผ่าน ช่วยเหลือเรือประมงไทยจาก การกระทำอันเป็นโจรสลัดและช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ประสบภัยในทะเล สกัดกั้น และขัดขวางการปฏิบัติการของโจรสลัด
และยังเปิดเผยอีกว่า ผลการปฎิบัติในห้วงเวลาที่ผ่านมา คุ้มกันกระบวนคอนวอย 12 เที่ยว เรือสินค้า 61 ลำ ในจำนวนนี้เป็นเรือไทย 5 ลำ เรือสินค้านานาชาติ 56 ลำ จาก 23 ประเทศ คุ้มกันเรือสินค้าที่เดินทางผ่านพื้นที่ขณะลาดตระเวนใน IRTC จำนวน 1,703 ลำ คุ้มกันเรือลำเลียงยุทโธปกรณ์ ชื่อ MV Kapitan Danilkin ของ กองกำลังเฉพาะกิจที่ 980 ไทย ดาร์ฟู ซึ่งเดินทางไปส่งยุทโธปกรณ์ ที่ ท่าเรือประเทศซูดาน โดยให้การคุ้มกันอย่างใกล้ชิด เป็นกรณีพิเศษและเฝ้าติดตามจนถึงที่หมายโดยปลอดภัย ตามที่ กองทัพไทย สั่งการ เยี่ยมเรือ Thor Achiever ซึ่งเป็นเรือสินค้าไทย และทำการคุ้มกัน ให้คำแนะนำการปฏิบัติในการนำเรือผ่านเส้นทาง IRTC ขึ้นเยี่ยมเรือประมงไทยชื่อ อ.ศิริชัยนาวา 4 และ อ.ศิริชัยนาวา 12 บริเวณนอกชายฝั่งประเทศเยเมน จำนวน 2 ลำ และได้ให้ความช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้ที่เจ็บป่วยบนเรือ และคุ้มกันเรือประมงไทย 3 ลำ เดินทางผ่านพื้นที่ปฏิบัติการโจรสลัดจากทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย สู่พื้นที่ทำการประมง ในประเทศอิหร่านได้อย่างปลอดภัย
ส่วนผลการปฎิบัติที่น่าประทับ ก็คือ เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2553 ช่วยเหลือลูกเรือประมง อ.ศิริชัยนาวา 11 จำนวน 23 คน ที่ประสบภัยในทะเลจากเรืออับปาง จากการถูกเรือรบไม่ทราบสัญชาติยิงจม หลังจากถูกโจรสลัดขึ้นยึดเรือบริเวณชายฝั่งเยเมนสกัดกั้นและขัดขวางการกระทำอันเป็นโจรสลัด จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 23 ตุลาคม 2553 และ 28 ตุลาคม 2553 เป็นผลสำเร็จ เรือสินค้าในกระบวนคอนวอยปลอดภัย ช่วยเหลือในการเก็บกู้วัตถุระเบิด บนเรือสินค้าไทยที่ถูกโจรสลัดโจมตี ใน 23 ธันวาคม 2553 การเข้าช่วยเหลือลูกเรือสินค้า HANIBAL II สัญชาติปานามา ชื่อ นาย ATEB NIZAR สัญชาติตูนิเซีย อายุ 35 ปี ตำแหน่ง พ่อครัวประจำเรือ ที่ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบ ต้องการการรักษาพยาบาลโดยเร่งด่วน โดยนายแพทย์ประจำเรือได้ให้การตรวจรักษาในเบื้องต้น ก่อนที่จะลำเลียงผู้ป่วยด้วยอากาศยาน ไปส่งยัง เรือรบเยอรมัน ชื่อ FGS HAMBURG เพื่อรักษาต่อไป การช่วยเหลือเรือสินค้าไทย ชื่อ MV THOR NAUTILUS ซึ่งถูกโจรสลัดพยายามปล้น และถูกยิงด้วยอาวุธ ใน 23 ธันวาคม 255 และการไล่ ติดตามเรือสินค้าไทยชื่อ MV THOR NEXUS ที่ถูกโจรสลัดจับยึด พร้อมลูกเรือ 27 คน และการพยายามเข้าขัดขวางการส่งกำลังบำรุงของโจรสลัด ระหว่าง 25 – 31 ธันวาคม 2553
นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยในต่างแดน เพราะระหว่างการเดินทางเข้าพื้นที่ปฏิบัติการและระหว่างอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการ ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับคนไทยในต่างประเทศ เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้น ๆ เพราะ การนำธงชาติและกำลังรบของไทย ไปปรากฏตามสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศศรีลังกา รัฐสุลต่านโอมาน สาธารณรัฐจิบูตี ราชอาณาจักรบาห์เรน และ สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ อีกทั้งได้อนุญาตให้ชาวไทยในต่างแดน เยี่ยมชมเรือ ได้กล่าวแสดงความภาคภูมิใจที่เรือรบไทยได้เดินทางมาถึงราชอาณาจักรบาห์เรน นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกทั้งกำลังพลได้เข้าร่วมกับคนไทยทำพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ ครบ 84 พรรษา ร่วมกับ ข้าราชการสถานทูตไทย ประจำราชอาณาจักรบาห์เรน และประชาชนชาวไทยในราชอาณาจักรบาห์เรน กว่า 400 คน ณ โรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงมานามา ราชอาณาจักรบาห์เรน โดยในงาน ผู้บัญชาการหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ได้รับเชิญขึ้นกล่าวถึงการมาเยี่ยมของ หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ภารกิจ การปฏิบัติเพื่อให้ประชาชนชาวไทยในบาห์เรนได้รับทราบด้วย
ผลที่กองทัพเรือได้รับ ซึ่งการนำเรือรบที่ชักธงไทยไปต่างแดน เรือรบนั้นเปรียบเสมือนอธิปไตยของประเทศไทยเป็นการแสดงถึงเอกราชและอธิปไตยของประเทศไทย และชาวไทย ให้ชาวโลกในน่านน้ำต่างแดนเห็น แสดงออกถึงความร่วมมือกับนานาชาติ ในการคุ้มครอง และรักษาผลประโยชน์ทางทะเลให้กับชาวไทย และมวลมนุษยชาติ เป็นการแสดงแสนยานุภาพและขีดความสามารถของกองทัพเรือไทยให้นานาชาติได้เห็น เป็นการป้องปรามให้ชาติอื่น ๆ เห็นถึงความสามารถของกองทัพเรือและประเทศไทยก้าวเข้าสู่เวทีโลก และก้าวเข้าสู่การเป็นกองทัพเรือชั้นนำในภูมิภาค เป็น Wold Class Navy เป็นการทดสอบและแสดงขีดความสามารถในการควบคุมบังคับบัญชาระยะไกล จาก ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ไปยัง หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ซึ่งห่างไกลถึง 7,000 กิโลเมตร ได้ทันที หรือ Realtime อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศ และกองทัพเรือให้พี่น้องชาวไทยและต่างประเทศทราบโดยทันที โดยผ่านเครือข่ายสื่อสารกองทัพเรือมายังสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3
ขอบคุณ พัชรพล ปานรักษ์ อ.สัตหีบ
ฝากอีกอัน กำลังรบแห่งราชนาวี