เราน่าจะจัดหา BM-21 มาใช้บ้างนะครับ เพราะเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงมาก แต่ราคาไม่แพง โดยน่าจะจัดหาแบบเร่งด่วน จำนวนมาก อย่างน้อยเมื่อเรามีไว้
ก็เป็นอาวุธป้องปรามได้เป็นอย่างดี และครองความเหนือกว่าในเรื่องอำนาจทำลายได้อย่างวางใจได้เลย (เชียร์ให้ซื้อเลยครับ)
ไม่เห็นด้วยถึงที่สุดครับ แล้วจะสร้าง DTI-1 มาทำไมครับ BM-21 อาวุธโบราณ type-85 เราก็มีจะซื้อมาทำไมครับ
อีกอย่าง DTI-1 เหนือกว่าหลายเท่าแถมเงินอยู่ในประเทศ
รบกวนนะครับ
คงคิดว่าBM-21มีจรวดหลายลำกล้องลูกดกกว่ามั้งครับ
แต่ของเราใหญ่กว่า อำนาจทำลายล้างเยอะกว่า
ปริมาณลำกล้องไม่สำคัญเท่าท่อใหญ่ครับ ยิงไกลฯและไกลครับได้เปรียบกว่าเยอะ
ขอขอบคุณครับ
อ่าความคิดผมก็เช่นเดียวกับคุณ pop04 นั้นละครับ
BM-21 ของประเทศเพื่อนบ้านก็ให้มันเป็นเป้าซ้อมมือF-16ไปครับ หรือ เป็นเป้ายิงเล่นๆของDTI-1 ไปถ้ารู้ตำแหน่ง ระยะเรายิงไกลกว่ครับ
แต่ที่แน่ๆ เดือนมกราคมนี้ ผมตั้งหน้าตั้งตา รอคอยการมาของกริฟเพน 3 ลำอยู่ ใครทราบก็ช่วยแจ้งด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
เอามาทำไมครับ เก่าก็เก่า ของเรามีคอมพิวเตอร์ช่วยในการยิงด้วยนะครับ BM21 นี่คำนวณการยิงเองล้วนๆ ดูกันดีๆครับอย่ามาคิดอะไรกันให้โอเวอร์ไปกันใหญ่ รถถังเก่าแต่ทาสีใหม่ซื้อต่อเขามาจากคลังเก็บอาวุธเก่า ก็พิมพ์กันอยู่นั้นแหละ ช่วยกันภูมิใจในกองทัพของเรากันครับ ไม่ได้เป็นรองใครทั้งนั้นในแถบนี้
การที่เราสามารถผลิต จรวดDTI-1 ได้แล้วนั้น จรวดหลายลำกล้องในลักษณะเดียวกันกับ BM-21 ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนักครับ เพราะจรวดไม่ได้มีระบบอะไรซับซ้อนไปกว่า DTI-1 ครับ และ DTI มีแผนที่จะพัฒนาจรวดหลายลำกล้องระยะยิงประมาณ 40-60 กม.อยู่เช่นกัน ส่วนจรวด BM-21 นั้นระยะยิงไกลสุดที่ 40 กม.ครับ(จรวดรุ่นเก่าระยะมียิงอยู่ที่ 20 กม.)
ขออนุญาติเรียนถามเพิ่มเติ่มหน่อยครับ ตัวจรวด DTI-1 เอง เราก็ผลิตได้เองใช่ไหมครับ
แล้วราคาต่อลูกนี่เท่าไหร่ครับ
จรวดหลายลำกล้องเราเคยผลิตและใช้งานในสนามรบจริง จรวดเห่าไฟตอนศึักร่มเกล้าไงครับ เราเลิกใช้งานมานานแล้ว กัมพูชาเพิ่งจัดหา bm 21มาใช้งานน่าจะเอาไว้ตอบโต้ปืนใหญ่สนามของเรามากกว่า ไม่รู้ว่าเคยใช้งานจริงบ้างหรือยัง อย่าไปตื่นเต้นครับ
กริปเป้นทั้งหมดจะมาวันที่ 23กุมภาพันธ์ นี้ครับ ตามที่ท่านท้าวทองไหลบอกมา
ตัวจรวด DTI-1 เราก็ผลิตเองครับ เจ้าตัวจรวดนี่ละตัวสำคัญของโครงการ
เพราะจะเป็นการต่อยอดจรวดแบบต่างๆที่กองทัพต้องการใช้
ต่อไปผมว่าคงมีมาเชียร์ให้กองทัพใช้ T-55 กับ BTR-60 แน่ๆ
โอ้เกิดอะไรกับประเทศนี้
BM-21 อาจจะเป็นรุ่นเก่าแต่ประสิทธิภาพการทำลายยังเหมือนเดิม
แค่รถยิงคันเดียวก็ทำความสูญเสียมากให้หมู่บ้านที่ถูกยิง
ต้องเกาะติดที่ตั้งของมันตลอดเวลา และทำลายก่อนมันถูกนำมาใช้งาน
วีดีโอ การทดสอบยิง BM-21 ของเขมร เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2010
สนับสนุนกองทัพ..เอาเงินไปลงทุนDTI1 คุ้มกว่าแน่นอน
อาวุธพวก Multi launcher Rockets System จะเป็นรุ่นใดก็ตาม มันก็น่ากลัว
NORINCO 107 mm (12-round) Type 63 (รุ่นเก่าที่จีนปลดประจำการแล้ว)
วีดีโอ อำนาจการทำลายของ Type 63
ระยะยิงของ DTI 180 กม นะครับ แต่ BM21 40 กมนะครับ กว่าBM21 จะวิ่งมานะจุดที่ระยะยิงถึง DTI ยิงไปตั้งแต่ 3 วันที่เเล้ว เเล้วมั้งครับบ
ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ
ความเห็นผมเหมือนคุณ jazz เลยครับ จรวดพวกนี้ถึงมันจะเก่า แต่มันของจริง แค่คันเดียวก็สร้างความเสียวให้กับฐานได้มากมาย ยิ่งมันมาเป็นกองพันนะ ต้องทำลายมันก่อนเท่านั้น ไม่งั้นเละ
ถ้าเพื่อนบ้านเราเคลื่อนเจ้า BM21 มาใกล้ ๆ ชายแดน ผมว่ากองทัพคงไม่อยู่เฉยแน่ครับ เตือนไม่ฟัง คราวนี้ผมว่าได้เห็นมาวเวอร์ริคสมใจ ม๊อบหล่ะ เหอ ๆ
BM-21มีใช้ในสงครามกลางเมืองกัมพูชา สามารถใช้ยิงถล่มเป้าหมายข้าศึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขมรจึงเห็นความสำคัญและจัดหามาเพิ่มเติม(มือสอง) จรวดที่จัดหามาเพิ่มน่าจะมาจากจีนที่มีระยะยิงเพิ่มขึ้น ส่วนเครื่องยิงเป็นของเดิม
ข้อดีของBM-21คือราคาถูก ยิงได้เร็ว ค่าซ่อมบำรุงต่ำ การใช้งานไม่ซับซ้อน สรุปว่าคุ้มค่า แต่ถ้าจะให้จัดหามาใช้ไม่เห็นด้วย ควรจะจัดหารุ่นใหม่หรือไม่ก็สร้างเองจะดีกว่า
อย่างท่านเด็กทะเลว่าเราผลิตDTIได้จรวดอย่างBM-21ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เห็นด้วยว่าเราควรพัฒนาเอง แต่ DTI-1 ของเราเองนั้น กำลังการผลิตยังน้อยอยู่ กลัวจะไม่ทันการณ์น่ะสิครับ
แล้วขอแย้งนิดนึง ระยะ DTI-1 มีลูกยาวก็จริง แต่ BM-21 เคลื่อนที่เร็วกว่า การใช้งานง่ายกว่า แต่ก็มีลูกสั้น ซึ่งเป็นข้อเสียเปรียบ แต่ประเทศ ก.มีเจ้าพวกนี้เยอะมาก ส่วนเรามีน้อยไปหน่อย เท่านั้นเองครับ
แล้ว BM-21 เหมาะสำหรับกลยุทธ์ยิงแล้วหนี ยิง 1 ชุด ย้ายจุดยิง แถมยังซ่อนพรางได้ง่าย เพราะมันเล็กมากๆ ถึงเราจะครองอากาศได้ แต่ก็หาชุดยิงพวกนี้ยากมากๆครับ
เจ้า BM-21 ตัวนี้ เคยละลายฐานปืนใหญ่เคลื่อนที่ M109 ของอิสราเอล ในสงครามเลบานอนครั้งแรกมาแล้วนะครับ
ดังนั้นพิษสงค์เจ้าตัวนี้ นับว่าเจนจัดน่าดู ก็พูดๆไว้ ไม่อยากให้ประมาทกันน่ะครับ ด้วยความเคารพครับผม
บีเอ็ม-๒๑ ยังทันสมัยและเป็นภัยคุกคามหน่วยกำลังตามชายแดนของเราอยู่ ภายในระยะยิงของมัน ฐานปืนใหญ่ จุดรวมพล คลังสรรพาวุธต่างๆ ไม่เหลือแน่ครับหากโดนซัลโวมาทั้งกองร้อยหรือกองพัน ปืนใหญ่เราถ้าจะกลัวก็เจ้านี่แหละครับ คล่องตัว ซ่อนพรางสะดวก ตรวจพบได้ยาก (สกั๊ดในอิรัคคันใหญ่กว่าตั้งเยอะเมกันกะอังกฤษยังหาไม่ค่อยจะเจอเลยครับ) อำนาจการทำลายล้างสูง ถ้าจะมีไว้ใช้บ้างกองพันสองกองพันก็ไม่เห็นจะน่ารังเกียจอะไรนี่ครับ
ระยะยิงพอๆ กับปืนใหญ่ ความแม่นยำน้อยกว่า แต่มาทีเป็นสิบๆ ลูก ใครมันจะไปหลบพ้นละครับ ทางแก้มีสามอย่าง คือหนึ่งอยู่ให้ห่างระยะยิงของมันไว้ (๒๕-๔๐ กม. โดยประมาณ) กับสองค้นหาและทำลายให้ได้ก่อน และสุดท้ายหาที่กำบังที่แข็งแรงมั่นคงที่สามารถป้องกันด้านข้างได้ดี
ลองถามคุณปู่คุณตารุ่นทหารเสือพรานในลาวดูซิครับ ท่านเหล่านั้นน่าจะทราบถึงพิษสงของจรวดไม่นำวิถีประเภทนี้ดี...
เรียนท่านสมาชิกบางท่าน ผมก็พอจะทราบนะครับว่า BM-21 เป็นไง
แต่ถ้าจะให้กองทัพเราซื้อมาใช้ ซื้อมาเพื่ออะไรครับ แล้วจะตั้งขึ้นมาทำไมครับ DTI
พัฒนาของตัวเองมาใช้ไม่ดีกว่าหรอครับ
แล้วก็ใช่ว่าจะรบจะเอาอาวุธพวกนี้มายิงใส่กันเร็วๆนี้ อย่าดีก็ซ้อมรบโชว์กันไปโชว์กันมา
แล้วกระทู้นี้มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าครับ
ปล. สมมุตินะครับ ลุงคนหนึ่งในหมู่บ้านเสียเงินทดลองทำบั้งไฟล้านสำเร็จเพื่อจะใช้เป็นตัวแทนบั้งไฟของหมู่บ้านแต่จำนวนยังน้อยอยู่
มีชาวบ้านในหมู่บ้าน เดินมาบอกไปซื้อคนอื่นดีกว่าลูกเล็กกว่าแต่ได้ปริมาณเยอะกว่า คนที่เขาคิดเพื่อที่จะให้หมู่บ้านตัวเองพึ่งพาตัวเองได้จะรู้สึกยังไงครับ
ทั้งที่เขาก็ทำได้ครับ ไอ้พวกลูกเล็กๆ
ถ้าจะเอา Bm-21
สอย แบบนี้ ดีกว่าครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/M270_Multiple_Launch_Rocket_System
BM-21 เมื่อมาเปรียบเทียบกับDTI-1ของเราผม ผมว่าDTI-1ของเราชนะ นะครับ เพราะระยะยิงมันต่างกันเยอะ แต่ในการจัดการเจ้าBM-21 มันก็ต้องอยู่ที่ว่าใครเก่งกว่ากัน
BM-21 มันก็เครื่องยิงจรวดประเภทเนี้ยล่ะครับ ข้อดีคืออย่างที่หลายท่านกล่าวไปแล้วสามารถโจมตีเป้าหมายเป็นพื้นที่กว้างๆได้ดี แต่ข้อเสียคือมันหาได้ง่ายด้วยเรดาห์ตรวจจับการยิง เรียกว่าเป็นอาวุธที่หวังผลได้ดีในเชิงยุทธศาสตร์ ถ้าเปิดฉากยิงปูพรมก่อนโดยที่ฝ่ายตรงข้ามทะลึ่งไม่มีข้อมูลมากพอทำให้เขาทราบจุดรวมพล หรือจุดสำคัญๆจนก่อให้เกิดความสูญเสียในตอนเปิดฉากการรบ และอาจจะทำให้ศูญเสียทั้งขวัญ กำลังพลในระดับนึงเลยทีเดียว
แต่ทางแก้ในยุคนี้ส่วนใหญ่ก็คือโจมตีทางอากาศ แค่นี้ก็ไม่รอดแล้วล่ะครับ อีกอย่างมันเป็นเครื่องยิงจรวดคนล่ะขนาดนั้น เรียกว่าขนาดเล็กกับขนาดหนักเลยก็ว่าได้ ของเราใช้ยิงได้ดีเช่นกันหากเรามีข้อมูลที่ชัดเจนกว่า เพราะยิงได้ไกลหัวรบรุนแรงกว่า และหัวรบสามารถใช้ลูกเล่นเช่น คัตเตอร์บอม เป็นต้น และการนำไปใช้ก็คือหลักนิยมในด้านยุทธศาสตร์ ของเราอาจจะเรียกว่าเน้นยิงในแนวลึกเพื่อตัดการส่งกำลัง ศูนย์บัญชาการไปเลย สรุปไปเลยคืออะไรที่BM-21ทำได้ เราก็ทำได้นั้นแล แค่อยู่ที่ว่าใครจะได้ข้อมูลในการโจมตีมากกว่ากัน อีกอย่างเราเองก็มีการวิจัยขนาดเล็กล 160m.m. เพื่อเข้าประจำการเช่นกัน เหตุผลคือไม่จำเป็นต้องซื้อครับ แค่เน้นปรับปรุงระบบควบคุมการยิงเท่านั้นเอง
BM21 เป็นอาวุธทางยทธวิธี แต่ของเราเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ ครับ
ผมขอยกตัวอย่างครับ
- ผมมีปืนไรเฟิล 1 กระบอก และอีกฝ่ายมีปืนแก๊ป 5 กระบอก
- ผมยิงระยะสูงสุดได้ 100 เมตร และอีกฝ่ายยิงได้ 10 เมตร
ถามถึงบริมาณ ผมอาจจะแพ้เชิงปริมาณ
แต่ประสิทธิภาพ ผมชนะครับ +ระยะการยิง แต่ต้องประกอบกับความชำนาญ
สมมุติ ราคาปืนแก๊ป 5 กระบอก เท่ากับปืนไรเฟิล 1 กระบอก +ความทันสมัย
ปริมาณและประสิทธิภาพและความจำเป็นจะตอบโจทย์ได้ดีครับ
ปริมาณมากประสิทธิภาพน้อย ทำให้พ่ายแพ้ได้
ปริมาณน้อยแต่ประสิทธิภาพมาก พลิกกลับมาชนะ
สรุปครับ ปืนแก๊ปยิงออกได้ครั้งละ 5 กระบอก ระยะยิงต่ำ และเป้าหมายไม่ชัดเจน
ปืนไรเฟิล ยิงออกได้ครั้งละ 1 นัด แต่ผมสามารถยิงได้ก่อนระยะยาว และเห็นเป้าหมายได้ ชัดเจน
เป็นแค่เหตุการตัวอย่างในเชิงคุณภาพ และปริมาณครับ ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ ที่ให้เกิดการแสดงความคิดเห็น
อย่างที่คุณเด็กบ้านนอกว่าไว้ครับ บีเอ็ม-๒๑ คืออาวุธทางยุทธวิธี ส่วนดีทีไอ-๑ คืออาวุธทางยุทธศาสตร์ เอามาเปรียบกันไม่ได้ การใช้งานและวัตถุประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกันครับ
ระยะยิงใกล้สุดของดีทีไอ-๑ อยู่ที่ ๖๐ กม. ไกลสุด ๑๘๐ กม. การวางกำลังจะอยู่ในพื้นที่ไกลจากแนวรบหรือชายแดนมากๆ เลือกพื้นที่ตั้งยิงได้ตามใจ สังเกตุดูก็ได้ว่าแคร่รถเป็นเพียงรถบรรทุก ๑๐ ล้อ ธรรมดา ไม่ใช่ออร์เทอเรน เพราะไม่จำเป็น
ของบีเอ็ม-๒๑ ระยะยิงใกล้สุดน่าจะประมาณ ๒๐ กม. ไกลสุด ๔๐ กม. การวางกำลังจะอยู่ในแนวหน้าใกล้เป้าหมาย แคร่รถต้องขับเคลื่อนในภูมิประเทศได้ดี
ภารกิจโจมตีทางลึกระยะทางไกลๆ เอาบีเอ็ม-๒๑ มายิงก็ไม่ได้เพราะยิงไม่ถึง ขณะเดียวกันระยะยิงใกล้ๆ เอาดีทีไอ-๑ มายิงก็ข้ามหัวเป้าหมายไปหมด แล้วจะว่าอันไหนดีกว่ากันได้อย่างไร
อะไรที่เราผลิตหรือมีส่วนร่วมคิดร่วมผลิตก็ซื้อหามาเถอะครับ ไม่ได้มีใครเห็นต่าง เห็นด้วยอยู่แล้ว แต่อะไรที่เราผลิตเองไม่ได้หรือไม่ได้ผลิตเองจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ หากว่าดีว่าเหมาะกับภารกิจที่ต้องปฏิบัติก็ควรจัดหามาใช้ กรณีนี้เจ้าของกระทู้ถามว่าควรจะจัดหาบีเอ็ม-๒๑ มาใช้ไหม หลายท่านก็บอกว่าไม่ควร บางท่านก็บอกว่าก็ดี อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดเห็น ไม่ว่ากันอยู่แล้วแต่อีกหลายๆ ท่านเอาไปเปรียบกับดีทีไอ-๑ ซึ่งอันนี้ไม่ถูกต้อง อย่างที่อธิบายไปข้างบน
ดีทีไอยังไม่มีแผนพัฒนาจรวดทางยุทธวิธีระดับเดียวกับบีเอ็ม-๒๑ ครับ เนื่องจากหลักนิยมของเรา ระยะยิงขนาดนี้ ใช้ปืนใหญ่เป็นหลักครับ...
ศอว.ศอพท
ก็กำลังพัฒนาจรวดขนาด 160 มม.อยู่ไม่ใช่หรอครับ
จะซื้อทำไม BM-21 เก่าแก่ ใช่ของไทยดีกว่า 160 มม. ก็มี
รอพัฒนาเสร็จก่อนละกัน อาจจะดีกว่า BM-21 สะอีก
ในระยะ20-40ก.ม. นั้นปืนใหญ่อาจจะไม่ได้เปรียบในเชิงปริมาณ แต่ถ้าแง่ความแม่นยำต่อเป้าหมาย เวลาในการยิงหลายเป้าหมายพร้อมกัน รวมถึงเคลื่อนที่ ตรงนี้ BM-21ทำไม่ได้ หากเขาเริ่มยิง ในขณะเดียวกันคือเราเริ่มทำการตอบโต้ไดเด้วยความแม่นยำกว่า อีกอย่างBM-21 เสียเวลาในการบรรจุใหม่ที่นานกว่าครับ ซึ่งระยะเวลาที่นานกว่าทำให้เรายิงตอบโด้เรื่อยๆด้วยความแม่นยำที่มากกว่าต่อเป้าหมาย
อีกอย่างเรายังไม่แน่ชัดที่ว่า เขมรเขาใช้ BM-21 หรือ แกรด ตัวอัพเกรดที่ใช้ลูกจรวดที่มีระยะยิง40ก.ม. เพราะรุ่นมาตราฐานเดิมนั้นระยะยิงอยู๋ระหว่าง20กว่ากิโลเมตร เท่านั้น และจากภาพส่วนนึงยังเป็นระบบของจีน ไทพ์-81 ซะมากกว่า
ผมคิดว่าเอาเงินที่จะซื้อ BM-21 ไปซื้ออาวุธ+จรวดเพิ่มให้กับเครื่องบินรบของเราดีกว่าครับ
ถ้าเขมรใช้ BM-21 ยิงมาจริง เราก็คงใช้เครื่องบินรบในการตอบโต้อยู่แล้วหละครับ
ซึ่งเครื่องบินรบเราคงพร้อมอยู่แล้วหละครับ เพิ่มอาวุธอีกหน่อยเอาไว้ถล่มแบบต่อเนื่องไม่ต้องกลัวหมด หุหุหุ
ผมมีความคิดเห็นเหมือนท่าน เสือใหญ่ครับ ที่ผมตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อ ให้เป็นส่วนเสริมของจรวจ DT-1 เพื่อที่เราจะได้มีทั้งอาวุธระยะใกล้และไกล เพื่อความอ่อนตัวของภารกิจ
ครับ