หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ข่าว ! ผ่าแผนช็อบอาวุธ 10 ปี กองทัพ

โดยคุณ : maxos เมื่อวันที่ : 14/02/2011 14:52:23

ผ่าแผนช็อปอาวุธ10ปีกองทัพ งบทะลุล้านล้าน-ผุด 2 กองพล! คมชัดลึก : การเมือง : รายงานการเมือง

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

 

คมชัดลึก : ด้วยระดับความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ที่กลุ่มเสื้อแดงค่อนขอดมาโดยตลอดว่า เป็น "รัฐบาลในค่ายทหาร" จึงถูกอีกฝ่ายโจมตีมาหลายปีแล้วว่า สัดส่วน "งบประมาณ" ของกองทัพมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการต่างตอบแทนให้กองทัพ

 

นอกจากนี้  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ตั้งธงชัดมาตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่า

 กองทัพควรมีงบประมาณในสัดส่วน 2% เมื่อเทียบกับจีดีพี เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพให้ทัดเทียมกับ "เพื่อนบ้าน"

 เมื่อธงของพี่ใหญ่ในกองทัพสะบัดแรงขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่ในการจัดทำ "ร่างแผนพัฒนาขีดความสามารถกระทรวงกลาโหม ปี 2554-2563 (Modernization Plan : Vision 2020)" จะมีแผนการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ขนานใหญ่

 แผนดังกล่าวได้กำหนดความต้องการโครงการพัฒนา และจัดหายุทโธปกรณ์หลัก แบ่งเป็น ความต้องการระดับสูงสุด 332 โครงการ วงเงิน 1,307,731.413 ล้านบาท และความต้องการระดับต่ำสุด 301 โครงการ วงเงิน 770,392.413 ล้านบาท

 งบส่วนนี้ยังรวมถึงการจัดตั้งหน่วยทหารขนาดใหญ่ในระดับ "กองพล" ถึง 2 กองพลด้วย นั่นคือ กองพลทหารราบที่ 7 (พล.ร.7) ที่ จ.เชียงใหม่ และกองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) ที่ จ.ขอนแก่น

 น่าสนใจว่า ทั้ง 2 กองพลถูกมองด้วยสายตาหวาดระแวงจากกลุ่มคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นหน่วยเฉพาะกิจเพื่อไล่ล่าเสื้อแดง เพราะที่ตั้งของกองพลอยู่ในพื้นที่ "สีแดงจัด" ทั้งภาคเหนือ และภาคอีสาน

 แต่วงในกองทัพยืนยันว่า เหตุผลในการจัดตั้งทั้ง 2 กองพลไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองในประเทศ หากแต่เป็นการเสริมเขี้ยวเล็บเพื่อถ่วงดุลอำนาจเพื่อนบ้าน "ฝั่งตะวันตก" และเพื่อป้องปรามเพื่อนบ้าน "ฝั่งตะวันออก"

 เขาเริ่มอธิบายจากฝั่งตะวันตกก่อนว่า จากการประเมินภัยคุกคามทางด้านทิศตะวันตก ตามเอกสารทบทวนยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม พ.ศ.2553

 การพัฒนากองทัพของเพื่อนบ้านมุ่งเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถโดยให้ความสำคัญกับ "ระบบป้องกันภัยทางอากาศ" สำหรับ "เมืองหลวงใหม่"

 ที่สำคัญยังมีข่าวการพัฒนา "โครงการนิวเคลียร์" โดยได้รับเทคโนโลยีจากรัสเซีย และเกาหลีเหนือ พร้อมจัดสร้าง "อุโมงค์ลับ" ตามแนวชายแดนนับร้อยอุโมงค์ ซึ่งอาจเป็นศูนย์บัญชาการทางทหารสำรอง หรือที่เก็บอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน

 "ประเทศนี้มีค่าใช้จ่ายทางทหารเฉลี่ยร้อยละ 3.5 ของจีดีพี เชื่อว่าในห้วง 4 ปีหลัง ได้ใช้งบประมาณทางการทหารไปถึงร้อยละ 20 ของจีดีพี"

 การพัฒนากองทัพของเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ทำให้อำนาจ "กำลังรบเปรียบเทียบ" ของกองทัพบกทั้ง 2 ประเทศในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3) ตามโครงสร้างปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป

 ประกอบกับหน่วยระดับกองพลที่มีอยู่ คือ กองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) ต้องแบ่งกำลังรับผิดชอบพื้นที่ทั้งฝั่งตะวันออก (ตอนบน) และฝั่งตะวันตก

 ขณะที่ กองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร.4) ต้องรับผิดชอบชายแดนตั้งแต่ภาคเหนือถึงภาคตะวันตก และยังมีการแบ่งกำลังลงไปปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ดังนั้นจึงมีการจัดตั้ง พล.ร.7 ขึ้นมา โดยเป็นแผนระยะยาวตั้งแต่ปี 2554-2568

 ที่สำคัญ คือ ใช้งบแค่ 47 ล้านเศษๆ เท่านั้น เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการปรับปรุงอาคาร สิ่งปลูกสร้างเดิมของ พล.ร.4 และไม่ใช่กองพลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อกำจัดเสื้อแดงแต่อย่างใด

 ส่วนเหตุผลในการจัดตั้ง พล.ม.3 ก็เช่นกัน คือเป็นการจัดตั้งหน่วยดำเนินกลยุทธ์ในระดับกองพลที่มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ มีเกราะป้องกัน และอำนาจการยิง กำลังชน สำหรับป้องกันประเทศ

 ขณะที่การจัดตั้งหน่วยก็ใช้หลักการเดียวกับ พล.ร.4 คือ การปรับปรุง และพัฒนาหน่วยทหารม้าที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เพื่อประหยัดงบประมาณ และสามารถจัดตั้งหน่วยได้ในระยะเวลาอันสั้น

 โครงสร้างของ พล.ม.3 จะมีกำลังรบหลักจำนวน 2 กรมทหารม้า โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 4 ระยะ เวลาดำเนินการ 10 ปี (2554-2563) และจัดตั้งอีก 1 กรมทหารม้า

 ส่วนการดำเนินการในระยะสุดท้ายจะดำเนินการในห้วงปี 2564-2568 แบ่งการดำเนินการเป็น 6 ระยะ เวลาดำเนินการรวม 15 ปี (2554-2568)

 วงในกองทัพย้ำเสียงหนักแน่นว่า การจัดตั้ง พล.ม.3 ไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อแดง แม้ผู้ที่มีแนวคิดริเริ่มจะเป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่เป็นยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศในระยะยาว สังเกตได้จากแผนจัดตั้งกองพลที่ใช้เวลานานถึง 15 ปี

 ด้านแผนการจัดหายุทโธปกรณ์หลักของแต่ละกองทัพที่น่าสนใจ เริ่มจาก "กองทัพบก" ซึ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นโครงการจัดหายานเกราะล้อยางรุ่นบีทีอาร์ 3 อี 1 หรือ "รถเกราะยูเครน" เฟสที่ 2 จำนวน 121 คัน วงเงินเกือบ 5,000 ล้านบาท

 "กองทัพเรือ" อาจมีโครงการจัดหา "เรือดำน้ำ" ซึ่งกองทัพเรือเสนอความต้องการมานาน แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณมหาศาล จึงไม่ได้รับการอนุมัติ นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับปรุงเรือหลวงจักรีนฤเบศร การจัดหาเรือฟริเกต ฮ.ประจำเรือ เครื่องบินโจมตีผิวน้ำ ฯลฯ

 "กองทัพอากาศ" มีโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ 18 ก/ข (กริพเพน) (ระยะที่ 2) 6 เครื่อง วงเงิน 16,222 ล้านบาท รวมทั้งโครงการปรับปรุงขีดความสามารถ (อัพเกรด) เครื่องบินเอฟ 16 จำนวน 6 ลำ วงเงิน 6,900 ล้านบาท

 นี่คือโครงการขนาดใหญ่ที่จะเป็น "ไฮไลท์" ที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลรุมถล่มอย่างแน่นอน ก่อนที่การจัดทำงบประมาณปี 2555 จะเสร็จสิ้น ซึ่งต้องติดตามกันว่า พลังอำนาจของกองทัพจะต่อรองให้งบที่ชงไปสูงสุดทะลุหลัก "ล้านล้าน" ถูกตัดไปมากน้อยขนาดไหน

ทีมข่าวความมั่นคง

คมชัดลึก





ความคิดเห็นที่ 1


ตั้งแต่ปฏิวัติมา กองทัพก็ใด้เสริมศักยภาพใด้อย่างเต็มที่ ก็ดีแล้วครับในระยะ20ปีที่ผ่านมาการจัดหากะท่อนกะแท่นใด้แต่ของ มือสองเก่าๆมา จากนี้ไปศักยภาพการต่อรองด้านการต่างประเทศน่าจะสูงขึ้น


โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 01/02/2011 22:37:16


ความคิดเห็นที่ 2


เห็นด้วยเช่นเดียวกัน.....................คิดดีแล้วจึงโหวต

โดยคุณ jaidee8008 เมื่อวันที่ 01/02/2011 22:50:12


ความคิดเห็นที่ 3


รถ 5,000 ล้าน ไม่แพง   

เสียเปล่าไปกับโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน(ล้มเหลว)....เป็นหมื่นล้าน

โดยคุณ jaidee8008 เมื่อวันที่ 01/02/2011 22:53:47


ความคิดเห็นที่ 4


ไม่เห็นแปลกตรงไหน ปกติงบกลาโหมก็ปีล่ะ 150,000 ล้านบาืท ขึ้นอยู่แล้ว * 10 ก็เกินล้านล้าน ก็อยู่ครับ เป็นงบปกติ อีกอย่างค่าเงินมันก็เฟ้อเรื่อย ๆ ปีสุดท้ายๆ กองทัพอาจจะได้งบ 250-300,000 ล้่านบาท / ปี ก็ได้

ไม่แปลก ผมประชาชนผู้เสียภาษี ขอสนับสนุนกองทัพในการดำเนินที่ถูกต้อง เห็นควร โปร่งใส ครับ

โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 01/02/2011 22:57:09


ความคิดเห็นที่ 5


อิอิ กองทัพเข้มแข็ง ประชาชนก็อุ่นใจ

ขอเพียงมีการจัดซื้อที่โปร่งใส จะได้เชียร์อย่างสบายใจ

โดยคุณ chaisoi3 เมื่อวันที่ 02/02/2011 00:08:03


ความคิดเห็นที่ 6


ยานเกราะล้อยางรุ่น BTR3E-1 หรือ "รถเกราะยูเครน" นี่มันทนระเบิดพวก IED เหมือนรถยนต์หุ้มเกราะ REVA 4x4 ได้หรือไม่ครับ ?

โดยคุณ jazz เมื่อวันที่ 02/02/2011 00:08:38


ความคิดเห็นที่ 7


  การตั้งงป.กลาโหมมันผิดตรงใหน? ขอเพียงแต่ขอให้การจัดซื้อจัดหานั้นทำโดยสุจริตกันจริงๆ ผมว่านักข่าวหรือคนที่มุ่งโจมตีนั้นคอยเกาะติดหรือตรวจสอบหรือเสนอตัวเป็นผู้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดหาอย่างใกล้ชิดดีกว่า อย่าเพิ่งออกตัวกันแรงหรือดังที่โบราณว่าติเรือทั้งโกลน อย่างอบต.แต่ละที่สร้างอะใรที่อภิมหาอลังการณ์ หรือสร้างอะใรธรรมดาๆแต่ราคามหึมา เครื่องบินที่ซื้อแล้ว(หลายลำด้วย)ยังต้องจอดอยู่ที่ต่างประเทศเพราะเก้าอี้ที่สั่งไปมีปัญหา หรือเดรื่องบินที่ผ่านกระบวนการจัดซื้อมาแล้วพอเอามาบินจริงทำอย่างใรๆก็ไม่ใด้ทุนคืนเสียที จนตอนนี้ก็ประกาศขายแบบไม่สนใจทุน รถ-เรือดับเพลิงที่มีปัญหา อะใรๆที่ซื้อมาแล้วใช้งานไม่ใด้จริง หรืออะใรที่เสียตังค์สร้างมาอย่างแพงแต่พังใวกว่าเวลาอันสมควร ข่าวเช่นนี้ก็มีให้ติดตามเหมือนกันนะครับ 

โดยคุณ Ikarus เมื่อวันที่ 02/02/2011 02:20:49


ความคิดเห็นที่ 8


    ทั้งหมดจัดไปตามนั้นเลยครับ ...

ปล.อาศัยตอนกำลังมีปัญหา ซื้อตอนนี้ดูถ้าคนค้านน้อย..เหอะๆ

โดยคุณ xman959 เมื่อวันที่ 02/02/2011 02:24:33


ความคิดเห็นที่ 9


อยากเห็นกองทัพเรือได้งบ พอๆกับกองทัพบกกับเค้ามั้งจังเลย 

โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 02/02/2011 03:57:05


ความคิดเห็นที่ 10


อิอิ กองทัพเข้มแข็ง ประชาชนก็อุ่นใจ

ขอเพียงมีการจัดซื้อที่โปร่งใส จะได้เชียร์อย่างสบายใจ

 


โดยคุณ : chaisoi3       วันที่ : 2011-02-02 00:0

 

เห็นด้วยครับ  ขอเพิ่มอีกนิด    ของที่จัดซื้อมาขอให้มีคุณภาพใช้ได้จริงแล้วเป็นประโยชน์ต่อกำลังพลด้วยครับ

โดยคุณ Tarvo21 เมื่อวันที่ 02/02/2011 04:45:08


ความคิดเห็นที่ 11


2% ยังน้อยไป น่าจะซัก 2.5%

 

สนับสนุนครับ แต่ต้องโปร่งใส และอาวุธมีคุณภาพ

โดยคุณ กุหลาบดอย เมื่อวันที่ 02/02/2011 07:12:22


ความคิดเห็นที่ 12


 งบแค่นี้/ปี  แต่ทำให้อุ่นใจ  ยังไงก็เห็นด้วย  ของที่มีอยู่ชักเก่าเต็มทีแล้ว

โดยคุณ thorn009 เมื่อวันที่ 02/02/2011 07:45:45


ความคิดเห็นที่ 13


ยังคงรอเครื่องบินรบแบบสองเครื่องยนต์อยู่ Cool

โดยคุณ FOR_ALL เมื่อวันที่ 02/02/2011 09:30:32


ความคิดเห็นที่ 14


ในแผนดังกล่าวก็น่าดีใจที่งบพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น แต่ผมก็กังวนว่ามันจะซ้ำรอยอย่าง GT200 กับ เรือเหาะ ในการจัดหาอาวุธ

โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 02/02/2011 19:53:26


ความคิดเห็นที่ 15


เห็นด้วยครับ กับงบกองทัพที่ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 03/02/2011 00:47:51


ความคิดเห็นที่ 16


เห็นด้วย.....แต่ต้องโปร่งใส....เหมือนการจัดหาJAS39ของทอ.นะครับ...สนับสนุนเต็มที่

โดยคุณ tui เมื่อวันที่ 04/02/2011 09:27:58


ความคิดเห็นที่ 17


    ถึงวันนี้แล้ว(04/02/54 15.00+)ผมว่าไม่ซื้อก็ดี ซื้อแล้วก็ไม่ได้ใช้!!!...

ปล.ดีนะที่เลยวันไหว้มาแล้ว ไม่งั้นคงไม่กินเป็ด?? ^0^

โดยคุณ xman959 เมื่อวันที่ 04/02/2011 11:50:50


ความคิดเห็นที่ 18


  อีกสิบปีข้างหน้ากองทัพเรือควรจะมีเรือดำน้ำได้แล้ว

โดยคุณ PIZZi เมื่อวันที่ 05/02/2011 12:19:00


ความคิดเห็นที่ 19


ผมทำงาน อบต. ถึงแม้จะเป็นหน่วยงานใหม่แต่ก็มีภารกิจรับใช้ปวงชนเหมือนกัน  การที่คนบางคนพูดว่าทำงานน้อยใช้เงินเยอะ กรุณาระบุมาเลยที่ไหน ใจเขาใจเราเถิดครับ

สำหรับกองทัพผมหนุนเต็มที่ มีนิวเคลียร์ได้ยิ่งดี ผมชอบ

โดยคุณ bird6757 เมื่อวันที่ 14/02/2011 03:52:25