ARTHUR (Artillery Hunting Radar )
Weapons Location Systems เป็นเรด้าร์เคลื่อนที่สำหรับค้นหาที่ตั้งของจุดฐานยิงจรวด ฐานยิงปืนใหญ่ ในระยะ 40กิโลเมตร ของ SAAB
900ล้านบาท คิดว่าเป็นไงบ้างครับ เจ้านี่ น่ามีไว้สักชุดไหมครับ
ล่าสุด เกาหลีใต้เพิ่งซื้อไปล็อตแรก 6 ชุด ไว้รับมือกับปืนใหญ่เกาหลีเหนือ
ผมว่า มันก็ใช้ได้ทั้งสองแบบนะ ทั้งก่อน และ หลัง แต่ก็ต้องประสานงานกับ UAV ด้วยนะ ถึงจะมีประสิทธิภาพ
เอาไวหาที่ตั้งของรถยิงจรวดแบบหลายลำกล้องโดยไม่รอให้เขาโจมตีก่อนแล้วถึงรู้แบบพวกซีซาร์
ก็ดีนะครับ ควรจัดหามาอย่างยิ่ง ส่วนมากการปะทะกันยุคนี้ แรกๆ ก็ด้วยพลทหาร หน่วยลาดตระเวน หนักหน่อย ก็ดวนกันด้วยปืนใหญ่
ดังนั้น สงครามยุคนี้ "ปืนใหญ่อัตราจร-ปืนใหญ่,ปืนใหญ่รถถัง" มีโอกาศได้ใช้งานมากที่สุด-ถึงมากที่สุด (เพราะส่วนมาก หลังจากดวนปืนใหญ่ สงครามก็จบ และเจรจากัน นี่คือสงครามยุคนี้ จะเกิดสงครามแบบเต็มรูปแบบ คงยากจริงๆ เพราะทั้งสองฝ่ายก็ไม่อยากให้เกิด) แต่ระหว่างการเจรจา ก็มีการยิงกัน แบบว่า เจรจาไป ยิงไป
ใครค้นหาเป้าหมายได้ก่อน ก็สามารถทำลายได้ก่อน เมื่อค้นพบเป้าหมายศัตรู ย่อมจะประสานไปยังปืนใหญ่ เพื่อทำการตั้งพิกัด-ยิงตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ แม่นยำ สูงสุด
เรามีสายสัมพันธ์ในการซื้อเครื่องบิน Jass-39 Gripen จากสวีเดน มาแล้ว ก็ไม่น่าจะยาก
ประสานงานระหว่างดาวเทียม และ เครื่องตรวจจับการยิงปืนใหญ่ ย่อมจะสามารถส่งพิกัดที่ถูกต้อง แม่นยำ กลับมาให้ฐานปืนใหญ่ เพื่อตั้งพิกัดการยิงตอบโต้ได้อย่างแม่นยำ
น่าซื้อนะ ผมว่า...แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ถ้าเราไม่รู้ว่า ปืนใหญ่ข้าศึกอยู่ตรงไหน ทำให้การยิงตอบโต้ เป็นแบบ-ยิงเข้าป่า เข้าดง ไม่รู้ว่าจะถูกหรือเปล่า
ได้ 2 ตัวนี้มานี่ แหล่มเลย ฮุๆ
เอามาจับคู่กับ ปืนใหญ่เฮาวิตเซอร์เคลื่อนที่ที่ระยะยิง 40 กิโล แบบเจ้าซีซ่าร์ได้พอดีเลย
UAV เอาไว้ตรวจการ ค้นหาเป้าหมาย การเคลื่อนที่ของกำลังพลข้าศึก และแจ้งเตือนมายังกองบรรชาการ
UAV เอาไว้ตรวจการ ค้นหาเป้าหมาย การเคลื่อนที่ของกำลังพลข้าศึก และแจ้งเตือนมายังกองบรรชาการ
AN/TPQ-36 + UAV ไงครับ มีใช้มานานพอควรแล้ว
มันถึงได้แม่นอย่างกับจับวาง ราบเป็นกองๆ อย่างที่เป็นข่าว
นี่ก็รอดูภาพข่าวอยู่ครับว่า นายพลโทอายุแค่ ๓๓ จะปรากฎกายครบสามสิบสองหรือเปล่า...
จริงๆแล้วระบบเรดาห์ตรวจตำแหน่งฐานยิงปืนใหญ่ของข้าศึก เราซื้อมาใช้ตั้งแต่หลังสงครามร่มเกล้าแล้ว แต่ของยี่ห้ออะไรมิทราบได้ เพราะสงครามคราวนั้นเราพลาดที่ตรวจตำแหน่งปืนใหญ่ของลาวไม่ได้ ส่วนยุคหลังๆก็คาดว่า ทบ คงทยอยซื้อระบบเรดาห์ประเภทนี้เข้าประจำการพอสมควร เนื่องจากจำเป็นมากสำหรับชี้เป้าให้ฐานปืนใหญ่ของเรา
แหม...พี่เสือใหญ่ตัดหน้าผมไปนิด แต่ดีแล้วครับ เพราะผมไม่รู้ชนิดของเรดาห์ที่เราใช้งานอยู่ ของคุณครับพี่
ผมก็จำขี้ปากเค้ามาอีกทีแหละครับคุณชาย เวปเจ้าโยน่าจะมีข้อมูลรูปภาพอยู่นะครับ..
อันนี้ครับ ที่ท่านเสือใหญ่พูดถึง เรามีมานานแล้วครับ
รูป 2 นี่ของเราเองตอนฝึก
ภาพจาก คุณ Skyman ครับ
ขอบคุณครับที่ให้ความกระจ่าง
ไปดูเพิ่มเติม AN/TPQ-36 ระยะจับไกลสุด กระสุนปืนใหญ่ 18 กม จรวด 24 กม แต่สมัยใหม่ระยะยิงปืนใหญ่ยิงได้ไกลขึ้นเรื่อยๆ
BM-21 ยิงได้ 30-40กม(แต่ไม่เเม่นยำ) คงต้องจัดหาตัวใหม่ๆมาใช้ในจุดสำคัญๆ ในห้วงเวลาตึงเครียด ในอนาคต
หรือถ้ามี ตัวปืนใหญ่เราสามารถยืดระยะยิงเกินระยะตรวจจับของข้าศึก ทำให้ความได้เปรียบมากขึ้น(กระสุนต่อระยะ)
เวลายิงปืนใหญ่ถล่มเขาพระวิหาร ทหารน่าจะใช้กระสุนฟอสฟอรัส จะทำให้ทหารเขมรที่หลบในบังเกอร์หรืออาคาร ถูกความร้อนเผาตายดำเป็นตอตะโก แบบเดียวกันกับที่อิสราเอล ทิ้งระเบิดถล่มพวกเฮสบาเลาะห์ แต่พลาดไปโดนโรงเรียน อาคารเรียนไม่เป็นไร แต่เด็กนักเรียนกับอุปกรณ์การเรียนถูกความร้อนระดับเกิน 1,000 องศา เผาตายดำเป็นตอตะโก
กระสุนฟอสฟอรัส...เขาห้ามใช้-ไม่ใช่หรอครับ
ทหารทั้งสองประเทศจากบ้าน จากลูกเมีย ครอบครัว ของตัวเองมา ก็เพื่อปกป้องประเทศของตัวเองทั้งนั้นแหล่ะครับ นี่คืออาชีพรั้วบ้านของพวกเขา ทหารหลายคน-เป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ แม้จะอยู่คนละประเทศก็ตาม
ใจจริง ผมอยากให้ทั้งสองประเทศ "มานั่งร่วมโต๊ะ เจรจากัน" แบ่งเขตแดนให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย ตกลงให้เส็จสรรพเรียบร้อยไปเลย
ทำมุด หรือ เสาเข็ม เท่าเสาไปฟ้า ยาวๆ ใหญ่ๆ ฝังลงไปในดินเลย ภายในมุด และเสาเข็มเหล่านั้น ก็ฝังเครื่องอิเล็กทอเน็กไว้ในตัว ฝังตั้งแต่ช่องบก-ยันไปถึงอ่าวไทยเลย
เพื่ออนาคตลูกหลาน ในภายภาคหน้า ที่จะได้ไม่ทะเลาะกันอีก จะได้เอาเวลาไปนั่งคิดพัฒนาประเทศ ไม่ต้องมาพะวงแต่เรื่องสงคราม...
กระสุนฟอสฟอรัสนนั้นใช้ยิงใส่วังของสองพ่อ-ลูกต้นตอแห่งปัญหาเลยดักว่าครับ หรือDTIก็พอ ส่วนการตราจจับพิกัดของปืนใหญ่และเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องนั้น ในทางปฏิบัติแล้วเราใช้ดาวเทียมธีออสเพื่อภารกิจนี้ใด้หรือไม่ ผมหมายถึงผิดวัตถุประสงค์หรือข้อห้ามใดๆในการใช้ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรมาใช้งานทางทหาร แล้วถ้าใช้ธีออสใด้ ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าระบบเรดาร์สนามหรือไม่ครับ?
เอาไวหาที่ตั้งของรถยิงจรวดแบบหลายลำกล้องโดยไม่รอให้เขาโจมตีก่อนแล้วถึงรู้แบบพวกซีซาร์ |
หลักการของอาเธอร์(สะกดถูกเปล่าครับ) คือการยิงเรดาร์แบบ high-precision phased array ขนาดทำการกลางๆ ตรวจจับวิถีของจรวด หรือกระสุนปืนใหญ่ แล้วคำนวณหาที่ตั้งในรูปเหนือ ตะวันออก และความสูงจากพื้นดินของเครื่องยิง ยังทำงานแบบเดี่ยวหรือประสานกัน 2-4 เครื่องก็ได้
::: ใช้กับพวกที่วงโคจรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่ได้นะครับ อย่างพวก จรวดนำวิถี หรือจรวดร่อน ครุยส์แบบ Tomahawk พวกนี้ต้องใช้ดาวเทียมหาเป้าความร้อน
สรุปว่าต้องให้ข้าศึกยิงมาก่อน ค่อยคำนวนหาพิกัดของข้าศึก
ถึงว่าปืนใหญ่สมัยใหม่ต้องเป็นอัตตาจร ยิงแล้วต้องรีบย้ายก้น อิอิ
ผมเคยเห็นแถวบ้านผม แต่ผมไม่บอกหรอกว่าแถวใหน (ความลับทางการทหาร มั้ง <ต้องมีมั้ง..ด้วยเพราะไม่แน่ใจ>) มันคล้ายๆแบบนี้แหละ เป็นรถบรรทุก 4 ล้อ (ไม่รู้ชื่อรถ) มีตัวถังใหญ่ๆอยู่บนรถ มีเสายาวๆขึ้นข้างบน และเป็นแฉกคล้ายๆเสาโทรศัพย์อะครับ ท่านไดรู้แล้ว ช่วยบอกหน่อย ขอรูปด้วยครับ
เข้ากับนโยบายของบ้านเรา คือ ไม่ยิงใครก่อน แต่ถ้ายิงเราก่อนก็โดนเราตรวจจับและยิงกลับทันทีอย่างแม่นยำ ช่างเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับบ้านเราเนาะ
ตอนนี้เรายังได้เปรียบอยู่ เนื่องจากความทันสมัยของระบบเรดาร์และความสามารถในการเคลื่อนที่ได้เร็ว
แล้วต่อไปถ้าข้าศึกจัดหาอาวุธแบบเดียวกันนี้มาได้บ้างล่ะครับ (คิดว่าน่าจะได้แบบไม่ยากด้วย)
-เขายิงก่อน แล้วก็ย้ายที่ตั้งใหม่ เราตรวจจับได้ แต่จะยิงได้ทันก่อนที่เขาจะย้ายหรือเปล่า
-เรายิงเสร็จแล้วก็คงต้องย้ายหนีบ้าง ถ้าเป็นปืนใหญ่อัตตาจรก็น่าจะทัน แต่ปืนใหญ่ลากจูงล่ะ ? เอาฮ.เกี่ยวหนีจะทันมั๊ย
หรือสิ้นสุดยุคปืนใหญ่แบบเก่านี้แล้ว ต้องเอาไปเป็นเป้าหลอกสถานเดียว?