ปัญหาใหญ่ของบ้านเราคือ ต่างคนต่างมีอีโก้ มากกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด  โครงการดีๆ ไม่ว่าจะปืน รถเกาะ จรวด หรือแม้กระทั่งเครื่องบิน จึงสงบนิ่งไปไม่รอด เพราะคนร่วมโครงการเอง

วิจัยออกมาแล้วไม่มีตังผลิต รัฐไม่ให้งบมาซื้ออาวุธ

ผมเองก็อยากเห็นกองทัพยืนบนขาตัวเองให้มากกว่านี้ แต่ก็เป็นตามที่ท่านท้าวบอกล่ะครับ ปัจจัยภายใน(ความไม่ร่วมมือกันขององค์กร)และปัจจัยภายนอก(การล็อบบี้ของผู้ค้าอาวุธต่อผู้ใหญ่ในกองทัพ) ทำให้การพึ่งพาตัวเองของกองทัพต้องขาดช่วงลง

ไทยเรายิ่งทนงในขนาดของกองทัพแต่ว่าปัจจัยที่จะดำรงอำนาจของกองทัพนั้นไม่มี เราไม่สามารถผลิตอาวุธได้เอง แต่ถึงจะผลิตได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เกิด เหลียวหน้ามองหลัง ดุลยภาพของกองทัพอาเซี่ยน เปลี่ยนแปลงมากไปทุกที่  มาเลย์ก้าวหน้าถึงขนาดจะส่งมนุษย์อวกาศแล้ว เครื่องบินเล็กก้ผลิตได้เอง  สิงคโปร์เองก็ผลิตอาวุธก้าวหน้าจนเป็นผู้ส่งออกได้ อินโดเองก็ผลิตยุทธยานยนต์เพื่อใช้เองรวมถึงผลิตอากาศยานได้แล้ว

แต่ไทยเรายังคงไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย เพราะในนายทหารระดับสูง เห็นแต่คอมมิชชั่นหรือ หรือการเมืองในประเทศล้มเหลวเพราะประเทศไทยการเมืองเป็นเพียงของเล่นและผลประโยชน์ หรือประชาชนคนไทยรู้จักแต่สิทธิ แต่ไม่รู้จัก "หน้าที่" ของพลเมือง  ผมคิดว่าเพื่อนๆคงมีคำตอบของตัวเอง....   อยู่ในใจ

พระอัจฉริยะภาพของในหลวง : เรือ ต. 991

(ขอพระองค์ทรงพระเจริญ)

"พอเพียง" คือ การยืนด้วยลำแข็งของตัวเอง ยืนด้วยตัวเอง เดินด้วยตัวเอง ให้ได้ก่อน

อ่ะ โทษทีครับ ใครอยากดูข้อมูลเชิงลึกของเรือลำนี้ ที่ลิ้งค์นี้ครับ

พระอัจฉริยภาพของในหลวง : เรือ ต. 99+10% = เรือ ต. 991

http://www.navy22.com/smf/index.php?topic=17674.0

ศักยภาพประเทศไทย "สามารถสร้างอาวุธ ส่งออกขายได้ด้วยซ้ำ" ถ้ามีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งที่งบประมาณของกระทรวงกระลาโหม ได้ตั้ง 100,000 - 200,000 ล้านบาท ต่อปี มีมากกว่าทุกๆ กระทรวมด้วยซ้ำ เจียดมาพัฒนาส่วนนี้ บ้างครับ ให้มีการพัฒนาต่อเนื่อง อย่าให้ขาดช่วง

อย่างปืนประจำกายทหาร เช่นแบบ ปืน M16 นี่ ก็พัฒนาในแบบของเราเองได้ มันไม่ได้มีเทคโนโลยีซับซ้อนอะไร

พิมพ์ผิด ก็ขออภัยนะครับ พอดีกดเร็วเกินไป ไม่ได้ตรวจทาน

ตอนนี้กองทัพก็ พยายามดำเนินการอยู่ครับ  มีหลายโครงการที่เรากำหนดสเปค ให้ผู้ประกอบการภายในประเทศสามารถทำการผลิตได้เอง เช่นโครงการ รถช่วยรบ แบบ 50 ที่ผมเคยบอก วีโก ที่หน่าตาเหมือนฮ้มวี่  ใช้งานได้ดี เหมาะกับภูมิประเทศ ซ่อมบำรุงได้ ง่าย

และตอนนี้ ก็เริ่มเจกจ่าย ฮีโน่ สองตันครึ่ง สี่ล้อ บิ๊กฟุต รยบ 1 1/2  ตัน  รถยีเอ็มซี นั่นแหละครับ  รถบบรทุกทหาร ที่กำหนดสเปค โดย สพ.ทบ. ดำเนินการ ประกวดราคาโดยต้องเป็น การผลิตในประเทศ  รูปร่างหน้าตา เหมือน สองตันครึ่ง สี่ล้อ บิ๊กฟุต ของอเมริกัน นั่นแหละครับ

ค่อยเป็นค่อยไปครับเริ่มจาก ยุทธยานยนต์ หรือ สิ่งของที่ช่วยรบ ที่สามารถผลิตได้ในประเทศไปก่อน  พอ มีความชำนาญค่อยต่อยอดอย่างอื่นต่อไป

กองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าวแต่ย่างใดครับ...

ผมว่ากองทัพเรือไม่ได้ละเลยเรื่องการใช้อาวุธปราบ ด.แบบง่ายๆ เช่นจรวดปราบด. ระเบิดลึกไปเลยนะครับ ลองไปนับดูยังมีเรือที่ใช้อาวุธที่ว่านี้นับสิบลำ(แน่นอนว่าต้องเป็นเรือที่ใช้ปราบ ด.เท่านั้น-มิฉะนั้นจะเป็นการทิ้ง/ยิง มั่วเพราะหาที่ ด.ไม่ได้) ลองดู เรือมกุฎฯ เรือฟก.จีน 4 ลำ เรือตาปี คีรีรัฐ เรือ ตกด.ชั้นคำรณสินธ์ เรือปิ่นเกล้า   ที่เป็นข้อจำกัดในการติดรางปล่อยระเบิดลึกเพราะปัจจุบันเรือใหญ่มีดาดฟ้า ฮ.ท้ายเรือด้วย จึงติดตั้งรางปล่อยได้ยาก ต้องหาที่ติดใต้ดาดฟ้า ต้องเข้าไปดูในคลังสรรพาวุธจะเห็นว่าเรายังเก็บลูกระเบิดลึกไว้อีกจำนวนมากครับ และผมเห็นด้วยว่าการใช้อาวุธพวกนีในเขตน้ำตื้นมีผลในการทำลายขวัญคนประจำเรือดำน้าที่ถูกโจมตีมากทีเดียว แต่ถ้าเรือทิ้งความเร็วไม่พอก็อาจเสียหายจากแรงระเบิดของตัวเองได้

ประเทศไทย ทุกระบบ ทุกหน่วยงาน ล้วนมีการคอร์รัปชั่น เขาถึงบอกว่าไทยติดอันดับโลกเรื่องนี้ แก้อย่างไรก็ไม่หาย นอกจากประหารชีวิตพวกชั่วเหล่านี้ให้หมดจากแผ่นดินไทย ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างเหมือนที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยเช่นจีน เวียตนาม รับรองประเทศไทยแผ่นดินจะสูงกว่านี้  กองทัพไทยมีรถหุ้มเกราะ M-113 ใช้งานเป็นจำนวนมาก ก็ไม่รู้จักปรับปรุงเพิ่มเติมให้เป็นรถถังเบาหุ้มเกราะ ประเทศอิสราเอลประเทศที่มีพลเมืองแค่ 5 ล้านคนยังรู้จักดัดแปลงปรับปรุงอาวุธต่างๆ ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ  โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี่จากต่างประเทศ แถมส่งขายออกทั่วโลกได้ด้วย แม้่แต่ประเทศไทยก็ยังต้องซื้อจากของเขารายรายการ

ในส่วนตัวก็อยากเห็นกองทัพยืนบนขาตัวเองให้ได้มากที่สุดครับ ลดการนำเข้าให้มากที่สุด และจัดหาอาวุธได้ตรงตามภารกิจ ถ้าทำได้ กองทัพย่อมจะประหยัดงบไปได้อีกมากและอาจจะเป็นการช่วยเสริมสร้างงานให้กับประชาชนได้ และควรจะเปิดโอกาสให้เอกชนสามารถที่จะผลิตอาวุธประจำกาย อาวุธประจำหน่วย เพื่อขายกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงได้ครับ ส่วนอาวุธหนักก็ให้ DTI รับดำเนินการไป และผมเชื่อว่า หากอาวุธที่กองทัพจัดหามีขีดความสามารถที่เหมาะสม มีการจัดหาและผลิตเองได้ภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ผู้เสียภาษีให้กับรัฐทุกเดือนๆ ย่อมเต็มใจครับ

เมื่อวันก่อนออกช่อง 3 ว่ากองทัพเริ่มมีการพัฒนาอาวุธใช้เอง เป็นเรี่องที่ดีแต่ที่ว่าพัฒนาแล้วก็หยุดชะงักผมว่าเพราะการเมืองเราเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยเลยมีปัญหาเรื่องงบประมาณที่กระทรวงจะได้รับ ไหนจะโดนคอรัปชั่นอีก เอากันไป เหลือใช้กันจริงๆก็แค่ส่วนที่จำเป็น ส่วนที่เราพัฒนาผมเพิ่งเห็นเป็นรูปเป็นร่างจริงๆมีแค่เจ้า DTI-I

อีกอย่างถ้าเราจะผลิตอาวุธใช้เองควรจะเริ่มจากเล็กไปใหญ่ ดูแล้วพวกหมวกเคฟล่า กับเกราะกันกระสุน พวกอะไหล่รถถัง ยานเกราะจนถึงอะไหล่อากาศยาน เราก็เริ่มทำเองได้แล้วนะ แล้วก็มีโครงการผลิตปืนใหญ่อัตตาจรด้วย ต่อไปถ้ามีการสนับสนุนมากกว่านี้ผมว่าอีกเราอาจจะสร้างรถถังได้ซักคัน

ขอบคุณมากครับผู้พันต้อมที่เข้ามาชี้แจงในฐานะที่พี่เป็นบุคลากรของกองทัพ

ผมขอแสดงความเห็นต่อน่ะครับ

อันดับแรกเลย ผมอยากให้กองทัพเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และทัศนคติต่อเอกชนของไทยให้มากกว่านี้ และอยากให้กองทัพ หรือรัฐเข้าไปช่วยเหลือเขาสักหน่อยอาจจะเป็นในรูปแบบลงทุนร่วมหรือให้ทุน เพราะหลายสิ่งหลายอย่างวิศวกรไทยสามารถวิจัยและพัฒนาได้เอง ตลอดจนบริษัทเอกชนบางแห่งสามารถผลิตได้เอง ยกตัวอย่างเช่น

UAV. ผมว่า UAV ขนาดเล็กหรือกลางเอกชนไทยสามารถพัฒนาเองได้น่ะครับ หากได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐได้ระดับหนึ่ง เพื่อนๆอาจจะแย้งว่า ของแบบนี้ซื้อเขาอาจจะถูกกว่า แต่ผมว่าต่อไป UAVจะมีพัฒนาการที่สำคัญและใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้น แรกที่เราผลืตเองอาจจะสู้เขาไม่ได้ แต่ท่าได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผมว่าของไทยนี้แหละไม่แพ้ใครๆเหมือนกัน

หุ่นยนต์กู้ระเบิด ผมได้เห็นผ่านตามาเยอะแล้วว่าคณะวิศวกรรมหลายๆ มหาลัยสามารถวิจัยและสร้างขึ้นมาเองได้ ผมจึงอยากให้กองทัพมองเห็นจุดนี้ และเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆเหล่านั้นในการวิจัยและพัฒนาเพื่อที่จะนำมาใช้งานได้จริงเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย

ประเทศไทยเราเองยังบริษัทเอกชนที่เก่งๆ แต่เหมือนกลับถูกมองข้ามไป เช่น

บ.ชัยเสรี สามารถซ่อมคืนสภาพยุทธยานยนต์หลายๆให้กองทัพได้ และมีขีดความสามารถ ส่งกำลังบำรุงและซ่อมสร้างอุปกรณืของรถถังได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น สายพาน หรือล้อกดสายพาน  ตลอดจนมีขีดความสามารถในการพัฒนา ยานยนต์หุ้มเกราะได้ด้วย ผมอยากให้กองทัพได้ช่วยทดสอบยุทยานยนต์ของเขาและช่วยปรับปรุงให้เขา เพื่อที่กองทัพจะได้สั่งอาวุธที่ผลิตโอยคนไทยและเพื่อคนไทยได้สักที

บ.มาซัน สามารถผลิตเรือแบบต่างๆเพื่องกองทัพเรือได้ แต่ทว่าผมอยากให้กองทัพช่วยโปรโมทต่อต่างประเทศให้เขาด้วย เพราะท่าผลิตขายแต่ประเทศไทยมีหวังได้เจ๊งสักวัน

และ บ.ต่างๆอีกมากมายที่กล่าวมาไม่หมด

ตามความคิดผม ผมว่าคนไทยเองมีศักยภาพที่สูงพอสมควร ที่จะพัฒนาอาวุธและยุทโธปกรณ์ต่างๆเพื่อป้อนให้กองทัพได้ แต่กองทัพยังปิดตัวเองอยู่มาก ไม่ค่อยเปิดให้เอกชน(ไทย) ได้มีส่วนรวม และมักจะมองเห็นของที่ต่างประเทศผลิตดีกว่าของที่คนไทยผลิตกองทัพน่าจะระดมสองภาคเอกชน ไปมีส่วนรวมมากกว่านี้ และสนับสนุน บ.เอกชนไทยต่อต่างประเทศ เพื่อมิให้พวกเขาเหล่านั้นต้องล้มหายตายจากไปทีละรายๆ นั้นคือกองทัพไทยต้องเป็นฝ่ายริเริ่มซื้ออาวุธของคนไทยก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจต่อต่างชาติ  แต่ไม่ใช่ว่าหลับหาหลับตาซื้อมาทำขยะน่ะครับ กองทัพต้องกำหนดมาตราฐาณด้วย และกองทัพต้องช่วยในงานวิจัยของเอกชนด้วย แต่ว่าผมกลัวว่าเมื่อมีหน่วยราชการไทยลงไป เมื่อนั้นคอรัปชั่นมโหราฬจะตามมา......เอวัง......

ระดมสองภาคเอกชน เป็น ระดม สมอง

ผลิตโอยคนไทย เป็น ผลิตโดยคนไทย

ประเด็นที่ผมนำเสนอในครั้งนี้คือ ทำไมไม่ทำ

ด้วยขีดความสามารถของคนไทย ประเทศไทย ผมเชื่อว่าเราทำได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เห่าฟ้า ซึ่งในช่วงที่เราพัฒนานั้น มีทั้งศึกใน ศึกนอก รุมเร้าเราอย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าเราทำกันจริงๆ Hydra 70 ทั้งสามเหล่าทัพคงไม่ต้องซื้อมาใช้กันแล้วล่ะครับ

แม้แต่ DTI-1 ก็เถอะครับ แน่ใจเหรอครับว่า คณะกรรมการในการประเมินขีดความสามารถและความคุ้มค่าทางยุทธวิธี จะให้ผ่าน ซื้อเอาถูกกว่า

เพราะอะไรที่ผมจั่วแบบนี้

เพราะว่า จีน ได้ผลิตเพื่อใช้เอง และส่งออก มีโรงงานอยู่แล้ว การจะลงทุนสร้างโรงงานผลิตในประเทศ และปริมาณในการจัดหาเข้าประจำการ ไม่คุ้มค่าเท่ากับการจัดซื้อเข้าประจำการ

economy of scale แล้วมันก็ชนะด้วยเรื่องนี้ทุกทีสิน่า

ส่วนจะโดนแทรกแซงด้วยอำนาจอะไร อย่างไร นี่ผมขอออกตัวไว้ก่อน ม่ายรู้....ม่ายเห็น....

ก็เพราะเป็นแบบนี้แม้แต่ เขมร มันก็ยังไม่เกรงใจ

เข้ามาดูครับ  มันเป็นเรื่องปัจจัยภายในและภายนอกคงต้องแก้กันต่อไป

ที่แล้วๆมาเอกชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา และผิดกฎหมายของรัฐ งบประมาณในการสนับสนุนก็ไม่มี แต่เพิ่งมาแก้กฎหมายในช่วงปฎิวัตินี่ละครับ

ps.การพัฒนาอาวุธต้องใช้เวลา ถ้าอยากพัฒนาให้เร็วคือการซื้อลิขสิทธิ์ไม่ก็ร่วมกันวิจัยพัฒนากับมิตรประเทศ รวมถึงการพัฒนาคนและเครื่องจักรอุตสาหกรรมผลิตภายในประเทศเอง

ก็อีกนั่นละครับ ตอนนี้แก้กฏหมายให้เอกชนเข้ามาพัฒนาอาวุธได้ละ 

เหลือแต่งบวิจัย และจัดทำ มาเปนภาคปฏิบัิติ ส่วนที่ว่าทำไม๊ ทำไม ไม่ค่อยพัฒนา เพราะเรานี่เซ่นใหญ่ๆๆ

กัีนทั้งนั้นลองดูดิครับ ตอนผมไปสอบข้าราชการทหาร สังกัดกองทัพบกสมัยก่อน รับ คนจบวิทยาการคอมพิวเตอร์; เทคโนโลยีสารสนเทศ;

ล้วนเกี่ยวข้องกับไอทีทั้งนั้นรับสามตำแหน่ง ไผมก็เตรียมใบสมัครพร้อมลุยไปถึงปุ๊ปเจอ จนท.รับสมัคร เจอวุฒิบัตรผมบอกว่า

วท.บ."ศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์" มหาวิทยาลัยไหน(มีที่เดียวที่ตั้งชื่อแนวนี้ ) ไม่ขอบอกนะครับ จนท.บอกว่าวุึฒิมันไม่ตรง กับที่รับตามที่ระุบุไว้ ถ้าอยากให้ตรงต้องไปวิ่งให้ กพ.ออก

ใบรับรองว่า เปนวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในเหตุการณ์นั้นผมละอึ้งทึ่งสยอง เพราะคิดได้ยังไงว่า ต้องไปเอาใบรับรอง กพ. มาเพื่อให้ตรง

ก็เห็นทนโท่อยู่ว่าจบ คอมพิวเตอร์มา เห็นชัด มหาวิทยาลัยต้นๆของประเทศ ดันบอกว่าต้องให้ กพ.รับรอง ขนาดว่าใบสมัีครยังต๊องขนาดนี้

ยังไม่รวมไปุถึงเซ่น นู่นนี่นั่น ว่าต้องระัดับคนนู้นคนนี้ฝากอีก หน่ายครับหน่าย เลยไป เอกชนเลยดีกว่า สบายใจดีครับ  

นอกเรื่องมากไปอยากจะบอกว่า เมืองไทย ถ้าอยากให้มันรวดเร็วทันใจ ก็ต้องรวมองค์กรให้เปนอย่างที่เห็น มหาชน ที่พัฒนาอาวุธ ได้เหมือนแบบนาซ่าน่ะครับ

และเอกชนต้องเข้ามาพัฒนาเต็มตัว โดยรัฐค้ำประกันว่าจะเอางานวิจัยมาจัดซื้อแน่นอนน่ะครับ.... 

เรียนท่าน.................siam man 18

มีทุกหน่วยงาน....ดุลพินิจของบุคลากร บ่งบอกถึงคุณภาพ....โครตทำให้ไทยเสียโอกาส

เพราะคนแบบนี้แหละ กท.เราถึงยังต้องซื้อ ซื้อ และก็ซื้อ จะให้มีคนเก่งได้ไงถ้า มัวแต่เล่นพรรคเล่นพวก ดันลูกหลานตัวเอง แต่ตัดโอกาศคนอื่นที่มีความสามารถกว่าลูกหลานตัวเอง โดยความเห็นส่วนตัว ไม่ว่าจะยศสูงแค่ไหน ถ้าทำแบบนี้น่าจับ ถอดยศทั้งหมด แล้วสั่งขังลืมไปเลย ออกมาเดี๋ยวก็มาทำตัวเหมือนเดิม

เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงจะเอามาใช้ในเรื่องการสร้างอาวุธยังไม่ได้
คงต้องขอให้กลับไปศึกษาบทบาทหน้าที่ขององค์กรต่างๆก่อน
ประการแรก อยากให้ลองศึกษาว่านักออกแบบอาวุธ ในช่วงสองร้อยปีมานี้ใรบ้างที่เป็นทหาร
ผมพอนึกชื่อได้คนนึง แต่นักออกแบบอาวุธเกือบทั้งหมด เป็นพลเรือน
ตั้งแต่ Sam Colt ถึง Mikail Kalashinikov, Eugine Stoner หรือ Gaston Glock
งานการออกแบบอาวุธไม่ใช่งานของทหาร หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ไม่ใช่งานที่ทหารอาชีพถนัด
งานการออกแบบ สร้างอาวุธเป็นงานของอีกสายอาชีพProfessional
การคิดทำอาวุธในกองทัพส่วนใหญ่จึงเป็นการจับอะไหล่มาผสม ใช้งานหรือเป็นต้นแบบ
พอจะเอามาผลิตอย่างเป็นระบบ ในเชิงอุตสาหกรรม งานพวกนั้นเกือบทั้งหมดตกไป
อย่างปืนที่คิดในประเทศอันนั้น ระบบการทำงานเป็น AKที่ปรับย่อให้ใช้กระสุนของ M16
นั่นไม่ใช่นวัตกรรม หรือ การ Invent
ในช่วงนั้นกรมสรรพาวุธ ทบ.ก็ผลิต ปลย.๑๑ / HK33 อยู่
มีเหตุผลอะไรที่จะไปถอด ปลย.๑๑ ออกจากสายการผลิต หรือลงทุกเพิ่ม สร้างปืนอีกแบบ
ประการที่สอง ปืนของสิงค์ไปรและอินโดนิเซีย ที่ยกมาอ้างไม่ได้ออกแบบหรือผลิตในกองทัพของเขา
ปืนทั้งหมดนั่นผลิตโดยบริษัทผลิตอาวุธพลเรือน(อาจเป็นบริษัทของของรัฐบาลอีกทีก็ได้) แต่ไม่ใช่องค์กรในกองทัพ ปืนที่ยกมาอ้างเป็นเครื่องยืนยันว่าการคิด การออกแบบ หรือการผลิตอาวูธไม่ใช่เรื่องของทหาร

ผมเห็นด้วยถ้ารัฐบาลจะให้มีอุตสาหกรรมการสร้างอาวุธ แต่ควรเป็นองค์กรพลเรือน ที่ทำงานอย่างพลเรือนเหมือนที่อื่นๆในโลก
ถ้าอยากจะมองกองทัพในเชิงลบก็ช่วยไม่ได้ แต่กองทัพไทยไม่ได้แตกต่างกับกองทัพอื่นๆทั่วโลก
กองทัพสหรัฐก็ไม่ได้คิด ออกแบบ สร้างอาวุธเอง ทั้งๆที่มีเงินมากกว่าเรามาก
ทำไม เพราะถ้ากองทัพ หลงบทบาทมาออกแบบ ผลิตอาวุธใช้เอง
ก็จะเป็นการนำภาษีของประชาชนมาดำเนินกิจการที่แข่งกับประชาชน(ที่เขาเสียภาษี)
กองทัพ ทหารไม่ว่าจะชาติไหน ก็มีหน้าที่ในการป้องกันประเทศ
แต่การออกแบบ ผลิตอาวุธให้ทหารใช้ป้องกันประเทศ เป็นงาน หรือกิจการที่สงวนให้ประชาชน
อย่างสหรัฐเป็นเรื่องผิดรัฐธรรมนูญเลย
นอกจากนั้น ถ้าเป็นของบ้านเรา ใครร้อนวิชา ลองคิดลองทำพวกอาวุธ มี พรบ.อาวุธปืนใช้บังคับอยู่
เจอแค่ส่วนประกอบชิ้นเดียวของเครื่องลั่นไก ทหารก็ติดคุกหัวโตได้
ดังนั้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกับการสร้างอาวุธ ในภาพรวมของชาติเป็นสิ่งที่น่าจะทำ
แต่ต้องนำบทบาทหน้าที่ขององค์กรต่างๆมาพิจารณา  give the right job to the right man ด้วย
เรื่องที่เสนอมาไม่ใช่เรื่องของทหาร และไม่ใช่เรื่องที่ทหารถนัด
มีทหารบางคนเลือกเดินเส้นทางการออกแบบอาวุธ
แต่นั่นต้องถอดเครื่องแบบ ออกมาทำงานเต็มเวลาในสายงานที่ถูกต้อง
อย่าง Uziel Gal, Yisrael Gallili หรือ Zalman Shebs ครับ

คอรัปชั่นเป็นเหต..ฆ่าไม่ตาย ฆ่าไม่หมด

กฎหมายอ่อน เอาผิดลำบาก ถูกแทรกแซงจาก กลุ่มผลประโยชน์

ละเลยหน้าที่.....