ล่าสุดเดินทางมาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว ขอบคุณคุณ topza แห่ง TAF สำหรับภาพครับ
ประจำการใกล้บ้านผมเลยครับ ว่างจะแวะไปชม
เพิ่มเติมครับ
หยาด นภาลัย ป่าวครับ....
ล้อเล่นครับ
ดีใจมากๆ...ที่ น้องกริฟ มาซะที
ยอดเยี่ยมครับ ไม่มีอะไรจะบรรยายไปมากกว่านี้ครับ
กริเฟ่นน่ารักและสวย แต่ใจกระผมมีSU-30เป็นสายเลือดครับ ได้แค่มองครับ
มาแล้วกิ้วๆ อย่าลืม ขับไปอวดเพื่อนบ้านเราแถวๆ ปราสาท มั้งนะครับ ว่าชาวโลกเขาไปกันถึงไหน
สวย หยาดเยิ้ม จังวุ้ย ^^
ช่างงดงามอะไรเยี่ยง งี้ๆๆๆ
จำได้ว่าตอนที่ F-16 : VIPER มาถึงบ้านเรา คนไปชมแน่นดอนเมือง ทั้งหนังสือสงคราม และสมรภูมิ จับไปเป็น
นายแบบต่อเนื่องหลายเล่ม จากนี้ถึงเวลาเจ้า JAS - 39 : GRIPEN แล้วครับ ราศรี "ซุปตา" จับทีเดียวครับผม
เล่นบินมาถึง ดึก ๆ ว่าแต่ ตอนเข้าน่านฟ้าบ้านเรา มี viper มา คุ้มกัน ไหมเนี่ย
บรรยากาศงานคะ ^^
^
^
รูปที่4 ข้างบนเห็นแล้วรู้สึก....เอ่อ . . บรรยากาศแบบว่า T-T
ยินดีด้วยกับฝูง ฉลามบิน สดๆซิงๆ พยายามจะดูข่าวจากทางทีวีเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูเลย หรือยังไม่ทำ สกู้ปกันนะ
งดงามจริงๆ เลย หนูกริฟ
jet ป้ายแดง ทำประกันชั้นหนึ่งได้ป่าวครับ
ระบบดาต้าลิงค์ คงจะได้ทดสอบเร็วๆนี้ใช่ไม๊..
บินเกาะฝูงกับ f-5และ f-16 คงเท่น่าดู
อยากให้เข้าร่วม กับเขา วิจัยจรวดอากาศสู่อากาศ เพื่อจะได้มั่นใจในการต่อยระยะเกินสายตา คงจะทำให้ ทอ.น่าเกรงขามขึ้นเยอะ
สวย เเรง เร็ว ขอบคุณ ทอ.ไทย จริงๆๆๆครับ
"ผู้ฝูงกริพเพนการันตีเล็กพริกขี้หนู ไซส์เครื่อง..ไม่สำคัญเท่าอาวุธ-นักบิน
คมชัดลึก : เครื่องบินกริพเพน 6 ลำที่กองทัพอากาศสั่งซื้อจากสวีเดนเดินทางมาถึงประเทศไทย และมีพิธีต้อนรับที่กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี โดยมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ เมื่อ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ขับเครื่องบินเอฟ 5 อี จาก จ.อุบลราชธานี มาเป็นประธานรับมอบ
ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนเป็นโครงการที่ดำเนินการจัดซื้อมาตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2550 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพื่อทดแทนฝูงบินเอฟ 5 อี ที่จะปลดระวาง หลังจากใช้มานานกว่า 30 ปี
กองทัพอากาศไทยเริ่มเจรจากับกองทัพอากาศสวีเดน เมื่อปี 2548-2549 ภายใต้วงเงิน 34,400 ล้านบาท แบ่งการจัดซื้อเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 (ปี 2551-2555) จำนวน 6 ลำ วงเงิน 19,000 ล้านบาท ระยะที่ 2(2555-2559) จำนวน 6 ลำ วงเงิน 15,400 ล้านบาท
ส่วนเหตุผลที่กองทัพอากาศเลือกกริพเพน คือ เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่มีประสิทธิภาพบินได้คล่องแคล่ว รบได้หลากหลายรูปแบบ มีระบบการทำลายสูง
สามารถทำการรบได้หลากหลาย ทั้งการรบด้วยระบบอากาศสู่อากาศ อากาศสู่พื้นดิน และอากาศสู่ทะเล โดยมีคู่ต่อกรที่พอสมน้ำสมเนื้อ คือ เอฟ 18 และ ซู-30
น.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย ผู้บังคับฝูงบิน 701 ถือเป็น "ผู้ฝูงกริพเพน" คนแรก ซึ่งมีดีกรีเป็นถึง "นักเรียนอันดับ 1" ของโรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐอเมริกา และอดีตนักบินเอฟ 16 ฝีมือเยี่ยม ซึ่งการันตีถึงประสิทธิภาพของฝูงบินกริพเพนได้เป็นอย่างดี
เขาเล่าว่า หลังจากนักบินกริพเพน 4 คนแรกเดินทางไปฝึกที่ประเทศสวีเดนตั้งแต่เดือนมีนาคม-ธันวาคม 2553 ขณะนี้นักบิน 6 คนแรกได้เดินทางกลับมาถึงกองบิน 7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีครูการบินจากสวีเดนตามมาเป็นพี่เลี้ยงไปอีก 2 ปี
น.ท.จักรกฤษณ์ กล่าวว่า นักบินทั้งสี่คนถือว่าโชคดีมากที่ได้รับการฝึกในฝูงบินของประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นฝูงบินมืออาชีพ มีความสามารถสูง มีครูการบินที่มีประสบการณ์และมีการทำงานที่เป็นระบบ
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนระบบการฝึก เช่น "ซิมูเลเตอร์" หรือแบบจำลองการฝึกบิน ซึ่งช่วยในการฝึกบินเป็นอย่างมาก และยังได้มีโอกาสเรียนรู้จุดบกพร่องของนักบินชุดก่อนๆ เช่น เช็ก และฮังการี ซึ่งจัดซื้อกริพเพนเข้าประจำการเช่นกัน จึงถือว่ามีประโยชน์มาก
น.ท.จักรกฤษณ์ระบุว่า ขณะนี้นักบินที่มาฝึกที่ฝูงบิน 7 ประเทศสวีเดน มีเที่ยวบินประมาณ 30 ชั่วโมงบิน จากที่กำหนดไว้ 100 ชั่วโมงบิน โดยกริพเพนเป็นเครื่องบินที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี บินไม่ยาก และมีอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ เยอะมาก จึงมีปุ่มค่อนข้างเยอะ
สำหรับความรู้สึกที่ได้เป็นนักบินกริพเพนฝูงแรกในประวัติศาสตร์ น.ท.จักรกฤษณ์ตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า "ผมภูมิใจมากที่สุด" ก่อนจะการันตีว่า ฝูงบินกริพเพนมีสมรรถนะสูง และคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์กับเงินภาษีประชาชนที่เสียไปแน่นอน
ผู้ฝูงกริพเพน ยังยกตัวอย่างบางส่วนเพื่ออธิบายความไฮเทคของระบบกริพเพน เช่น ระบบดาต้าลิงก์ หรือระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี
ฉะนั้น เครื่องกริพเพนด้วยกันจะสามารถส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันได้สูงสุดถึง 16 เครื่องในเวลาเดียวกัน นอกจากนั้นเครื่องซาบยังสามารถส่งข้อมูลมายังสถานีภาคพื้น รวมทั้งเรดาร์ภาคพื้นที่เรามีทั่วประเทศไทย ประมวลผลข้อมูลการรบส่งกลับไปให้กริพเพน
นักบินกริพเพนจึงเปรียบเสมือนว่า คนธรรมดามี 2 ตา แต่นักบินกริพเพนจะเหมือนมี "ตาสับปะรด" คือ มีตารอบตัว และสามารถมองเห็นสถานการณ์การรบได้จากด้านบน
กริพเพนจึงสามารถเอาชนะข้าศึกที่ไม่มีเทคโนโลยีนี้ อาจจะ 1 ต่อ 4 หรือแม้กระทั่ง 1 ต่อ 8 นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า เราไม่จำเป็นต้องมีเครื่องจำนวนมาก แต่จำเป็นต้องมีบุคลากรที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ และทำงานเป็นทีมได้
ที่สำคัญ ระบบเชื่อมโยงยุทธวิธีที่กองทัพอากาศพัฒนาขึ้นจะถูกนำไปใช้เชื่อมโยงกับ"กองทัพเรือ" และ"กองทัพบก" หรือกระทั่งเครื่องบิน "เอฟ 16" ในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อให้เปรียบมวยกันปอนด์ต่อปอนด์ระหว่างกริพเพนกับเพื่อนบ้านในภูมิภาค เช่น ซู-30 หรือเอฟ 18 ผู้ฝูงกริพเพน ก็มองว่า ไม่อยากให้เกิดการเปรียบเทียบ เพราะจะมองว่าเป็นการยั่วยุ อีกทั้งภารกิจของกริพเพนก็มุ่งปกป้องอธิปไตยมากกว่าการรุกรานใคร
ทว่า เขาก็พูดให้ฉุกคิดว่า ในการรบสมัยใหม่ไม่จำเป็นว่า เครื่องใหญ่ หรือบินได้ไกลแล้วจะได้เปรียบ เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมาก เช่น ระบบเรดาร์ ระบบอาวุธ หรือความสามารถของนักบิน
"เครื่องที่มีขนาดใหญ่ใช่ว่าจะได้เปรียบเครื่องที่มีขนาดเล็กเสมอไป เพราะการรบสมัยนี้ไม่ใช่การบินแบบประจันหน้าแล้วยิงเข้าใส่กัน แต่เป็นการมองจากจอเรดาร์แล้วค่อยปล่อยอาวุธ ดังนั้น จะต้องมองเรื่องระบบอาวุธ และตัวนักบินเป็นหลัก"
นั่นเป็นการพูดแบบทิ้งไว้ให้คิดของผู้ฝูงกริพเพนในทำนองว่า เครื่องบินรบไซส์ "เล็กพริกขี้หนู" แบบกริพเพนก็อาจสอยเครื่องบินรบไซส์เฮฟวี่เวตได้ไม่ยาก
ขณะที่ น.ท.ยุทธพงษ์ ผลชีวิน หัวหน้าแผนกยุทธการทหารอากาศ กองบังคับการกองบิน 7 หนึ่งในทีมนักบินกริพเพนชุดแรก กล่าวว่า หลังจากนักบิน 4 คนแรกทำการฝึกจากประเทศสวีเดนเสร็จแล้ว
ขณะนี้นักบินอีก 6 คนที่เหลือก็ได้เดินทางถึงสวีเดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะสำเร็จการฝึกในเดือนมิถุนายนนี้ โดยในการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนถือเป็นเครื่องบินที่มีศักยภาพสูง โดยมีระบบสนับสนุนเครื่องบินแจ้งเตือนภัยทางอากาศและสถานีควบคุมภาคพื้น
ระบบดังกล่าวจะทำให้ "การป้องกันภัยทางอากาศ" ของกองทัพอากาศสมบูรณ์แบบมากขึ้น และจะเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจทางอากาศได้หลากหลายยิ่งขึ้น
"ผมอยากให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทัพอากาศได้พยายามหาเครื่องบินและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการได้มาซึ่งเขี้ยวเล็บทางอากาศ" น.ท.ยุทธพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
น.ท.เจริญ วัฒนศรีมงคล ว่าที่รองผู้บังคับการฝูงบินกริพเพน กล่าวในทำนองเดียวกันว่า รู้สึกดีใจมากที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญมอบหมายให้รับภารกิจที่สำคัญสูงสุดเช่นนี้
"กริพเพนเป็นเครื่องบินฝูงใหม่ที่ท้าทายนักบินทุกคน การเป็นคนกลุ่มแรกหมายถึงความหวังที่ทุกคนฝากไว้ ดังนั้น การวางพื้นฐานต่างๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญ และไม่ใช่งานง่าย ภารกิจที่รออยู่ข้างหน้าถือว่าท้าทายมาก” น.ท.เจริญกล่าวด้วยความมุ่งมั่น
น.ท.ณัฏฐวุธ ดวงสูงเนิน ทีมนักบินกริพเพน บอกเล่าความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฝูงกริพเพนว่า ภารกิจในอนาคตนับเป็นงานที่ท้าทายมาก ขณะที่การมีกริพเพนเข้าประจำการก็จะเป็นการเพิ่มเขี้ยวเล็บครั้งสำคัญของกองทัพอากาศในภูมิภาคอาเซียนเลยทีเดียว
จุดที่กริพเพนมีเหนือกว่าเครื่องรุ่นอื่น คือ "ระบบป้องกันภัยทางอากาศ" ซึ่งจะประกอบกำลังกัน 4 ส่วน คือ 1.ระบบเครื่องบิน 2.ระบบเรดาร์ 3.ระบบอาวุธ และ 4.ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่จะทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติภารกิจ
"กริพเพนเป็นเครื่องที่จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะกองทัพอากาศที่ดี และมีประสิทธิภาพ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณ แต่อยู่ที่คุณภาพ ฉะนั้น เราไม่ต้องมีเครื่องบินเยอะ แต่มีเครื่องที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง และเหมาะกับการใช้กำลังทางอากาศดีกว่า"
จากคำการันตีของนักบินชั้นหัวกะทิของกองทัพอากาศไทย เชื่อว่า ฝูงบินกริพเพนจะสามารถปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติทะเลทั้งในฝั่งอ่าวไทย และทะเลอันดามันได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
ไม่ต้องถามอีกน่ะครับว่าจะสู้ su30 หรือ f18 ได้มั๊ย ถ้าไม่ได้ ทอ.คงไม่จัดหาให้เสียงเงินภาษีเราหรอกครับ
ในที่สุดก็มาถึงดีใจมาก อยากให้ขับไปอวดแถวเข้าพระวิหารจังอยากลองของใหม่
สวยงาม
คุณปู่ในโรงจอดคงรู้ตัวแล้วว่าจะได้ไปอยู่ที่อื่นแบบนิ่งๆ คงเหนื่อยมามากแล้วกันการรับใช้ชาติ ได้เวลาพักซักที ขอบคุณที่คุ้มหัวผมมาตลอด ขอบคุณนักบิน ช่างเครื่อง และกองทัพอากาศที่ดูแลรักษาคุณปู่อย่างดี
ขอบคุณครับ
ผมว่า ทอ.จัดหาเครื่องได้เหมาะจริงๆครับ ทั้งเล็ก เร็ว คล่องตัวสูง ระบบอาวุธ เรดาร์ ไม่เป็นรองใคร เหมาะกับภูมิภาคบ้านเราที่มีแต่ป่ากะภูเขาสูง
แต่ที่สำคัญที่สุดผมว่านักบินนะ ถ้าเครื่องดี นักบินไม่ดีก็เสียของเปล่า แต่นักบินไทยไม่แพ้ใครในโลกอยู่แล้ว
แจมด้วย 1 ภาพครับ
ฝีมือเยี่ยมเหมือนเดินครับ คุณโมกข์ ขออนุญาตSave นะครับ