พึ่งโพสตอบไปครับ  กระทู้ข้างล่าง พยามยามอย่าเปลื้องกระทู้ โดยที่เนื้อหาเหมือนกันครับ

เรือ LPD ที่ต่ออยู่ที่สิงคโปร์ (หน้าตาเหมือนของสิงคโปร์แต่ภายในต่างกันบ้าง)ได้ข่าวว่าจะปล่อยลงน้ำกลางเดือนหน้าครับ บางทีกำหนดเวลาตามแผนอาจคลาดเตลื่อนไปบ้างเพราะขึ้นอยู่กับงานที่ทำจริง สภาพอากาศ กำหนดการของประธานและอื่นๆ คงต้องติดตามข่าวเอา ปัจจุบันทุกเหล่าทัพเห็นความสำคัญของการประชาสัมพันธ์ ดังนั้นเมื่อมีกำหนดการสำคัญๆพวกนี้เช่นการรับมอบ กริปเปน บ. AEW ฮ.Mi -17 ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน ทีวี วิทยุมักจะได้รับเชิญให้ไปทำช่าว ดังนั้นถ้าดูข่าวทั่วไปทุกวันอยู่แล้วก็คงไม่ตกข่าวหรอกครับ

สำหรับเรือ OPV ที่ปัจจุบันต่อที่อู่ราชนาวีมหิดล สัตหีบ คงต้องหลัง ต.ค.54 ไปแล้ว อู่เราออกแบบเป็นอู่ซ่อมเรือครับ เมื่อมาต่อเรือจึงต้องใช้เวลามากกว่าอู่ต่อเรือที่อังกฤษที่เป็นผู้ออกแบบเรือชั้นนี้ นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีในอู่ด้วย เช่นเครนยกของ อู่ต่อเรือเอกชนที่เขาออกแบบไว้ต่อเรือเป็นหลัก เขามีเครนที่ยกน้ำหนักได้มาก ถ้าเรามีเครนเล็ก เราจะต่อเรือเป็นบล็อกใหญ่ๆไม่ได้ ต้องมาปรับแบบให้ทำเป็นบล็อกเล็กๆเพื่อยกไปประกอบเป็นบล็อกใหญ่อีกที การต่อเรือสมัยใหม่  เขาต่อในลักษณะคว่ำ เพราะจะเชื่อมได้ง่าย เมื่อทำเป็นบล็อกเสร็จแล้วต้องยกทั้งบล็อกแล้วพลิกให้หงายซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายถ้ามีเครนไม่ใหญ่พอ

สงสัยจะวิชาการมากไปหน่อย เป็นข้อมูลครับ จะได้เข้าใจว่าไม่ใช่ของง่ายๆต้องใจเย็น เรายังเป็นมือใหม่ในการต่อเรือรบขนาดใหญ่(ไม่มากนัก) แต่ถ้ารัฐบาลเห็ว่าการพึ่งพาตนเองของ ทร.ในลักษณะนี้เป็นเรื่องดี ก็น่าจะสนับสนุนให้ต่อลำที่2 ที่3 เพราะเสียค่าแบบไปแล้ว(และค่าแบบจะถูกลงไปเรื่อยๆ) และเราสามารถปรับแก้ไขแบบตามความต้องการได้ในระดับหนึ่งด้วย ต่อไปก็จะได้ออกแบบ และสร้างเรือขนาดนี้(เท่าๆกับเรือฟริเกตส่วนใหญ่ของ ทร.)ได้เองทั้งหมด ยกเว้นอุปกรณ์ ที่ยังอีกห่างไกลพอสมควร

ขอบคุณ คุณโย่งครับที่ให้รายละเอียด