เห็นพัฒนากันจัง เดียวก็จีนมี J-20 อลังการงานสร้าง สหรัฐก็พัฒนา F-35จนเกินเวลาขายจริง พัฒนาอยุ่นั้นละออสเตเลียเขาก็รอแล้วรอเล่าฝูงบิน F-35 ที่จะมาแทน F-18 แต่ก็ไม่ได้สักที เรามีแต่มองถึงว่า เออมันหายตัวได้ มันสามารถเอาไปรบในประเทศด้อยพัฒนาได้สบายๆหมู แต่ไม่คิดเลยว่า เอ้า มันมีการพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเจ้าเครื่องบิน stealthแล้วนี้ ว้า แบบนี้จะล่องหนไปเพื่อ....??
เทคโนโลยีแบบ stealth ใช่ว่าจะตรวจจับไม่ได้ แต่เขาสร้างมาเพื่อให้มันตรวจจับยากขึ้น
ผมถึงได้เอ่ย ประเด็นนี้มาไงว่า ถ้ามีเทคโนโลยีที่ตรวจจับได้เลย100% อาจจะสัก10ปีหรือ15ปี ล่้องหนไปก็หมดค่า ครับ
แล้วคืดหรือว่าUSA เขาไม่สะดุ้งเรื่อง จีนพัฒนาJ-20 ผมว่าเขาคงรู้ข่าวมานานแล้ว แล้วอาจซุ่มพัฒนาระบบตรวจจับที่ใช่ได้100% ในเร็วๆนี้ด้วย
ถึงเสตลธ์จะโดนจับได้จิง แต่ให้เลือกระหว่างเสตลธ์กับธรรมดา เสตละธ์ก็ดีกว่าอยู่แล้ว มันก็ต้องพัฒนาแข่งกันไปเรื่อยๆครับ ไม่งั้นสมัยนี้ก็ใช้มีดแทงกันสิ เหมือนปืนกับเกราะ ปืนเจาะได้แรงขึ้น เกราะก็ทำออกมาให้หนาขึ้น ปืนก็ต้องทำกระสุนที่เจาะด้ลึกขึ้น ใครยอมแพ้เลิกพัฒนาก็แพ้เห็นๆ ถึงมันจะดูเปลืองตังค์ ก็เค้ารวยเค้าไม่สนปากท้องพวกอดตายหรอกครบ
งั้นผมขอถามและกันว่า กองทัพทั่วโลกเขาใช้อะไรในการตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่บินเข้ามาในอาณาเขตของเขา ?? (เรดาร์ใช่มั๊ย ?)
เทคโนโลยีแบบ stealth จะเป็นการลดการตรวจจับจากเรดาร์ , อินฟาเรด โดยการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของเครื่องให้เกิดการบิดเบือนคลื่นเรดาร์ แทนที่คลื่นเรดาร์เมื่อมากระทบตัวเครื่องแล้วจะสะท้อนกลับไปในทิศทางเดิม ก็จะเกิดการหักเหไปทางอื่น ที่ไม่ได้มาจากแหล่งต้นกำเนิด ทำให้เรดาร์ที่แพร่คลื่นออกมาไม่ได้รับสัญญาณสะท้อนกลับ จึงทำให้ตรวจจับเครื่องบิน Stealth ไม่ได้
อีกอย่าง ก็ยังมีการใช้วัสดุที่ทำหน้าที่เหมือนกับดักคลื่นเรดาร์ (วัสดุที่มีคุณสมบัติที่เรียกว่า re-entrant triangles) คือ เมื่อคลื่นเรดาร์สัมผัสกับพื้นผิว แทนที่จะสะท้อนกลับ ด้วยโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษจะทำให้คลื่นเรดาร์ทะลุเข้าไปในพื้นผิว และสะท้อนไปมาอยู่ภายในวัสดุนั้นจนคลื่นหมดพลังงานในการเคลื่อนที่ จนไม่มีการสะท้อนคลื่นออกไปยังแหล่งกำเนิด หรือไม่ก็ใช้การเคลือบพื้นผิวทั้งหมดด้วยวัสดุดูดซับคลื่นเรดาร์เพื่อลดการสะท้อนของเรดาร์
ในส่วนที่คุณว่า "ระบบตรวจจับที่ใช่ได้100%" ??? มันคิดได้ แต่ทำขึ้นมาอีกนานนนมาก คงไม่ 10-15 ปีหรอก
ถามว่า ทำไมถึงอยากได้กันนัก
ก็ต้องตอบว่า "ยุคนี้" ประเทศไหนๆ ก็ต้องการ บ.Stealth ครับ
แล้วถามต่ออีกว่า แล้วยุคนี้ มันจะมีประเทศไหนครอบครองเรด้าที่พัฒนาจับ บ.Stealth ได้ 100% ที่ไม่ใช่แค่จุดเล็กๆ บนจอเรด้า/ ถึงจับได้..แล้วมันก็ต้องมีจรวดต่อสู้อากาศยานประสิทธภาพสูงด้วย
ขนาดจรวด S-400 missile ก็ยังต้องรอให้เข้ามาในระยะยิงหวังผลของจรวดก่อน ถึงล็อกเป้าแล้วกดยิงได้ (แค่จรวด S-400 คิดว่า มันราคาถูกเร้อ)ไม่มีจรวดยิงได้ไกลๆ "ถึงเรด้าจับได้ ก็ได้แค่มองตาปริบๆ" เรด้าจะมีระยะการตรวจจับที่ไกลกว่า จรวดที่ใช้ยิงเสมอ
มี บ.Stealth ที่มีกำลังขับของเครื่องยนต์สูง กินน้ำมันน้อย วัสดุตัวเครื่องก็ซึมซับ และสะท้อนเรด้าได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมกับเทคโนโลยีทั้งฮาดแวร์ และซอฟแวร์อันก้าวล้ำสุดๆ
(สามารถบินเข้าไปปฏิบัติการแซกซึม และถอนตัวออกมาได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ศัตรูแทบไม่รู้ตัว นี่คือ บ.ยุคนี้)
แหม..จขกท.ก็อย่าไปกล่าถึงยุคที่มี บ.Sealth และเรด้าตรวจจับ บ.Sealth ได้ 100% ที่มีขายกันเกลื่อนกลาดตลาดสิ, และเรด้าที่พัฒนาให้ตรวจจับ บ.Sealth ได้ 100% ในยุคนี้ ถ้าจะมี ก็มีแต่ชาติมหาอำนาจ ชาติร่ำรวยเท่านั้นแหล่ะครับ ยุคนี้ ชาติเล็กชาติน้อย ไม่มีปัญญาซื้อระบบเทคโนโลยีสูงๆ ราคาแพงๆ มาใช้หรอกครับ (ประเทศทั่วโลก มีเป็น100ๆ ประเทศ)
และมันไม่ได้มีแค่นี้ มันใช้ได้ทั้งเรื่องการค้า การเจรจาต่อรองต่างๆ ทั้งด้านเศษฐกิจและอื่นๆ ที่ประเทศไหนๆ ก็ให้ความเกรงใจ
เรด้า ก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน เช่นภูมิศาสตร์ของประเทศ เช่น ภูเขาเยอะ,ระดับต่ำแบบต้นไม้-หลังคาบ้าน ไม่ใช่ว่าจะตรวจจับได้ทั้งหมด/ เรด้าที่จะพัฒนาตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วประมวลผลเป็นภาพ 3D แสดงเป็นรูปร่างเลยว่า อะไรเป็นอะไร (ไม่ใช่แค่เป็นจุดเฉยๆ) อืม..เห็นอยู่ในหนังสตาวอร์นะ"มันยังอีกยาวไกล-สำหรับเรด้าแบบนี้"
แต่ บ.Sealth มันเกิดแล้ว "ในยุคนี้" ชาติไหน-ประเทศไหน มันจะไม่อยากมีวะ
จริงอยู่ที่ stealth เป็นเครื่องที่จะทำการหักเหเรดาห์ไปทางอื่นเพื่อทำให้ตรวจจับได้ยากขึ้น
มันไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ เพียงแค่คลื่นที่สะท้อนกลับมามันน้อยมากเพราะส่วนใหญ่หักเหไปทางอื่น
มันเลยจับไม่คอยได้ แต่ถ้ายิ่งบินเข้ามาใกล้คลื่นเรดายิ่งแรง คลื่นที่สะท้อนกลับมาได้ก็เยอะขึ้นจนจับได้
แต่เครื่องพวกนี้ยังมีจุดบอดคือพอมองจากข้างบนมันก็แค่จานเหล็กแผ่นนึง
เพราะฉะนั้นหากมันเจอกับเครื่องบินตรวจการเรดาห์ ที่มีเพดานบินสูงกว่า สองคำ จบ เห่
ส่วนวัสดุ re-entrant triangles ผมไม่ค่อยทราบอะไรนั้นครับ
เอิ๊กๆ...ถึงขนาดขนเรด้า มาจับเลยหรือนี่
มันก็เหมือนสมัยก่อนนั้นล่ะ สมัยนั้นที่Tigerติดปืนใหญ่88 เกราะหนายิงฟันแทงไม่เข้า...ใครๆก็อยากได้
ต่อมาแล้วเป็นไงล่ะ? Tigerที่ว่าแน่ เจออาบาร์ม ขับไปยิงไป Tigerหมุนป้อมยิงแทบไม่ทัน...ก็จบอยู่ดี
ที่คุณพูดมันก็ถูก คืออีกเดียวมันก็ล้าสมัย มันก็หมดยุค มันก็ไม่มีใครเอา...แต่อีกเดี๋ยวนั้นน่ะ นานเท่าไหร่ล่ะ?
ยิ่งเป็นยุคที่ยังไม่มีอะไรมาแทนstealth...ผมว่าอย่างน้อยก็อีก25ปี ถึงstealthจะล้าสมัย
และถ้าจะต้องให้้ล้าสมัยโดยสมบูรณ์แบบ ชนิดที่ว่าโอ๊ยชื่อบอกว่าล่องหนตรวจจับยากไปเท่านั้นข้าก็ยิงได้...ก็คงต้องยุคเหลน สมัยที่เค้ารบกันด้วยเครื่องบินรบที่อาวุธอาจเปลี่ยนจากมิซซายเป็นเลเซอร์ การสู้รบการกลับมาเป็นการdog fightไล่กวนกันด้วยความเร็วระดับมัค3แทนแล้วล่ะมั่งครับ
ปล แต่ถึงจะล้าสมัยยังไงมันก็ฆ่าคนได้ ขึ้นอยู่กับว่าฆ่าได้กี่คนเท่านั้นเอง...ฉะนั้นอาวุธมันไม่มีวันหยุดพัฒนาหรอกครับ และยังไงมนุษย์ก็ยังชอบอาวุธดีๆในยุคของตัวเองอยู่ดีล่ะครับ
ได้ข่าวว่ามีการดำเนินการวิจัย กันอยู่นะครับ โดยเรด้าร์แบบนี้ ไม่ได้อาศัยหลหลักการสะท้อนของคลื่นสัญญาณ และจะใช้อีกเสาเป็นตัวรับ หรือไม่ก็ใช้ดาวเทียบ
โดยจะต้องใช้หลายตัว หลายเซล เพื่อจะตรวจจับในพื้นที่ขนาดกว้างๆ ได้
คิดแบบนี้ ก็เหมือนซื้อรถรุ่นใหม่ คอมรุ่นใหม่
เด๊่ยวมันก็ตกรุ่นทั้งนั้นแหละ
ถ้าเราไม่พัฒนา เราก็ถอยหลัง เหมือนนับหนึ่ง ถ้าไม่นับหนึ่ง จะไปสอง สามได้มั้ย
เค้าพัฒนา stealth ถ้ามีเรดาร์ที่ตรวจจับได้ เค้าก็ต้องพัฒนาขึ้นไปอีกให้ตรวจจับไม่ได้
เทคโนโลยีไม่มีวันสิ้นสุดหรอกครับ
ผมจึงได้ถามไงว่าถ้าในระยะเวลาไม่เกิน5ปีนี้ มีเทคโนโลยีที่ตรวจจับได้100%เลย แล้วเครื่องบินยังไม่ได้ขายให้ประเทศที่สั่งจอง
แล้วคิดดูดีๆนะครับ ถ้าเป็นคุณยังอยากจะได้หรือไม่ เป็นผมคงไม่เอาเงินระดับหลายล้านๆบาทไปซื้อเทคโนโลยีที่ล่องหนไม่ได้จริงๆหรอกครับ
ยอมเอาเงินมาพัฒนาเครื่องบินที่มีอยู่ดีกว่า เพราะผมว่าไม่เกิน5ปีนี้ มันมาแน่เรดาห์ตรวจการเครื่องบินล่องหนตามรูปกระทู้ ด้านบนหลักการนั้นเลย!!
แล้วจรวดแบบ sam หรือขีปนาวุธที่มีคุณลักษณะตรวจจับได้ยากนี่ ในโลกนี้มีไหมครับ แบบประมาณว่ายิงจรวดออกจากเครื่อง f-22 แล้ว ตัวจรวดที่ยิงออกไปก็มีคุณลักษณะตรวจจับได้ยากเช่นกัน