อยากศึกษาสงครามทางทะเลในยุคใหม่ อะไรนำความพ่ายแพ้มาสู่อาร์เจนติน่า เป็นเพราะกลัวเรือดำนํ้าอังกฤษใช่ไหมครับ เลยไม่กล้าส่งเรือไปใกล้เกาะฟอล์คแลนด์ ทำให้ขาดการส่งกำลังบำรุงแก่ทหารบนเกาะ???
เอ่อ เรื่องสงครามทางเรือไม่ค่อยทราบนะครับ รู้แต่เรื่องสงครามทางอากาศ
ก็คือตอนแรกน่ะนะครับ เมื่อปี2525(ถูกป่าวหว่า ไม่ชัวร์ จำได้ว่าช่วงเดียวกับตอนสงครามเวียตนาม) ทางอาร์เจนติน่าคิดว่าหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ที่แต่เดิมเป็นของอังกฤษมานานแล้วน่ะ ควรจะเป็นของตัวเองครับ เนื่องจากหมู่เกาะฟอร์คแลนด์อยู่ใกล้อาร์เจนติน่ามากกว่าหมู่เกาะอังกฤษ ก็เลยส่งกำลังทหารของตนเองขึ้นไปยึดหมู่เกาะฟอร์คแลนด์(ทางอาร์เจนติน่าคิดว่าหมู่เกาะฟอร์คแลนด์อยู่ไกลจากอังกฤษมาก อังกฤษคงจะไม่สนใจ) แต่อาร์เจนคิดผิดครับ พอข่าวที่อาร์เจนติน่ายึดหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ไปถึงอังกฤษเท่านั้นแหละครับ อังกฤษส่งกองเรือมาหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ทันที พร้อมด้วยเครื่องบินแบบHarrier Gr.3และSea Harrier(จำไม่ได้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่เป็นเรือธงชื่ออะไรนะครับ แต่ไม่ใช่HMS Ark Royalแน่ เพราะArk Royalที่ประจำด้วยบ.F-4 Phantom ถูกปลดระวางไปก่อนแล้ว) ซึ่งการรบครั้งนี้ทางอังกฤษเป็นฝ่ายได้เปรียบ เนื่องจากว่าทางอาร์เจนติน่า มีเพียงเครื่องบินรบแบบ Mirage III และSuper Etendard ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นเก่า รวมทั้งสนามบินของอาร์เจนติน่าที่อยู่ใกล้หมู่เกาะฟอร์คแลนด์มากที่สุด ยังอยู่ไกลมาก(จำระยะทางไม่ได้ครับ) ทำให้บ.รบ สามารถอยู่เหนือหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ได้ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น(อยู่นานกว่านี้ น้ำมันไม่พอจะกลับBase) ไม่เหมือนกับทางอังกฤษที่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน ทำให้บ.พร้อมที่จะขึ้นสกัดกั้นบ.ของอาร์เจนติน่าตลอดเวลา ทำให้ทางอาร์เจนติน่าตกเป็นฝ่ายสูญเสียอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายทางอาร์เจนติน่าต้องยอมถอยออกจากหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ครับ ก็สรุปได้ว่าที่อาร์เจนติน่าแพ้เพราะอาวุธด้อยกว่า แล้วก็การส่งกำลังบำรุงไม่ดีครับ รวมทั้งไม่สามารถครองอากาศเหนือบริเวณสมรภูมิได้อีกด้วย
เสริม - ช่วงแรกของสงครามอาร์เจนติน่าเป็นฝ่ายได้เปรียบนะครับ เนื่องจากเรือของอังกฤษที่เฝ้าอยู่ในหมู่เกาะฟอร์คแลนด์ในตอนแรก มีประสิทธิภาพต่ำกว่าของอาร์เจนติน่า(รู้สึกว่าจะเป็นแค่เรือปืน ไม่มีระบบอาวุธนำวิถี)
- สงครามหมู่เกาะฟอร์คแลนด์เป็นสงครามเดียวที่บ.แบบHarrier ได้ทำการรบอากาศ-สู่-อากาศ จนถึงปัจจุบันครับ
- การสูญเสียของอังกฤษ รู้สึกว่าจะมีเรือรบของอังกฤษ 1 ลำ(HMS Sheffield) จมจากการโจมตีด้วยอาวุธปล่อยอากาศ-สู่-พื้น แบบExocet จากบ.แบบSuper Etendardของอาร์เจนติน่า
ความรู้ใหม่ ดีมากเลยขอบคุณคำถามและคำตอบครับ ชอบคำถามแนวแบบนี้จัง ได้ฟังประวัติศาสตร์ไปด้วย
จริง ๆ สงครามคราวนั้นอาเจนติน่างบไม่มีครับเลยสู้ไม่ไหว อีกทั้งกองเรือรบเป็นเรือปืนสมัยสงครามโลกทั้งนั้น(ติดจรวดบ้างบางลำ)
อีกอย่างคือการรบทางอากาศสู้อังกฤษไม่ได้เลยครับเพราะเครื่องแฮริเออรืพร้อมขึ้นสกัดกั้นเครื่องบินอาเจนติน่าตลอดเวลา
แต่แม่้กระนั้นใช่ว่าอังกฤษจะไม่สุญเสียนะครับอังกฤษเสียเรือรบถึง 4 ลำ(จม+1 คอนเทนเนอร์) ไม่นับที่เสียหายจนใช้งานไม่ได้่อีกหลายลำ
1.hms sheffield ระวางขับน้ำ 4,820 tonnes สถานะ "จม" (Exocet)
2.hms coventry ระวางขับน้ำ 4,820 tonnes สถานะ "จม"(Exocet)
3.hms antilope ระวางขับน้ำ 3250 tonnes สถานะ "จม"(ระเบิดขนาด 1000 ปอน์ด)
4.hms ardent ระวางขับน้ำ 3250 tonnes สถานะ "จม"(Exocet)
5.Atlatic Conveyer ระวางขับน้ำ 14520 tonnes สถานะ "จม"(Exocet*2)
ตอนนั้นอาเจนเริ่มถังแตกก่อนที่จะจบสงครามด้วยซ้ำ ถ้าอาร์เจนติน่ามีเครื่องเติมน้ำมันกลางอากาศและฝรั่งเศสยอมส่ง Exocet
จำนวนที่เหลืออีกราว 10 นัดให้ก่อนนี่ อังกฤษน่าจะจบแบบศพไม่สวย
ถ้าจำไม่ผิด อาร์เจนติน่ามีแท็งค์เกอร์นะครับ kc-130 จำนวน 2 ลำ
ในระหว่างสงครามได้เติมน้ำมันให้กับ Super Etendard ตามจุดนัดพบระหว่างฐานบินกับกองเรืออังกฤษ
ถ้าอาร์เจนฯได้จรวด Exocet ครบตามจำนวนที่สั่งซื้อ อังกฤษอาจเสียหายหนักกว่านี้ครับ
Super Etendard ของอาร์เจนฯ ขณะเติมน้ำมันจาก KC-130H
ช่วงนั้นอังกฤษมีเรือดำนํ้าหลายลำเข้าปฎิบัติการ
the Total Exclusion Zone คือโซนที่อังกฤษประกาศรัสมี 200ไมล์จากเกาะ อังกฤษจะจมเรือทุกอากาศยานทุกเครื่องลำที่เข้ามาในรัศมีจากหมู่เกาะฟอล์คแลนด์
-H.M.S. Conqueror เป็นเรือดำนํ้าพลังงานนิวเคลียร์ลำแรกของอังกฤษ สามารถจมเรือลาดตระเวณอาร์เจนติน่า General Belgrano เก่าสมัยสงครามโลกได้ด้วยตอร์ปิโด 2 ลูก ระยะ 2000 หลา
-H.M.S. Onyx ดีเซล
-H.M.S. Spartan ดีเซล
-H.M.S. Splendid ดีเซล
เป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้กองเรือของอาร์เจนติน่าจึงกลับท่าเรือ ส่วนเรือดำนํ้าอาร์เจนติน่า ไม่ค่อยมีบทบาทนัก
การรบทางอากาศ กว่า 90%(อาร์เจนติน่าเสียเครื่องบินไปราว 100 ลำ รวมทั้ง C-130 2เครื่อง) เป็นผลงานของแฮริเออร์(Sea Harrier , Harrier GR Mk 3)
ซีแฮริเออร์ 28 ลำ มาจากเรือบรรทุกเครื่องบิน H.M.S. Invincible กับเรือบรรทุกเครื่องบิน H.M.S. Hermes
ส่วนการสู้รบบนเกาะ ทหารอาร์เจนติน่า กว่า 12 000 นาย ยอมแพ้ถูกจัีบเป็นเชลยกว่า 11 300 นาย ตายประมาณ 600 นาย ดูต่างจาก อิโวจิมา(
Battle of Iwo Jima) ที่ทหารญี่ปุ่น มีเวลาดัดแปลงที่มั่นมากกว่า ใช้ทหาร 20 000 นาย สู้กับทหารอเมริกัน 70 000 นาย กับเรือปืน+เครื่องบินอีกนึงโขยงได้ เพียงแต่ถูกจับเป็นเชลยน้อยมาก ไม่ตายก็ ฮาราคีรี
ขอเดาว่า ถังแตกครับ แต่เขาก็สู้นะครับ ที่ยอมแพ้ก็เพราะไม่มีอะไรจะสู้มากกว่า
เอ๊กโซเซต์ หมดคลังเพราะฝรั่งเศส ไม่ขายให้มั้งครับ อาเจนฯเลยแพ้ ส่วนทางอากาศ เอตองดาร์ท น่าจะเหนือกว่า แฮริเออร์
เวลานั้นอาร์เจนติน่าไม่พร้อมที่จะรบครับ แต่ผู้นำทหารเผด็จการลากประเทศตัวเองเข้าสู่สงคราม นัยว่าเพื่อเบี่ยงเบนความไม่พอใจของประชาชนคนอาร์เจนไตน์เองที่มีต่อปัญหาเศรษฐกิจในเวลานั้น โดยการสร้างกระแสคลั่งชาติ เรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนตนเอง (คุ้นๆ แฮะ) และสุดท้ายก็เข้ายึดเกาะฟอร์คแลนด์ที่มีนาวิกโยธินหลวงอยู่เฝ้ารักษาการณ์เพียง ๘๐ นาย
จริงๆ แล้ว หากอาร์เจนติน่ามีโอกาสได้เตรียมความพร้อมกำลังรบให้ดีกว่าตอนตัดสินใจบุก เช่นได้รับมอบเอ็ตโซเซต์ครบจำนวนที่สั่งซื้อแล้ว เรือดำน้ำได้ทำบทบาทที่แท้จริงคือก่อกวนและเข้าทำลายกองเรืออังกฤษแทนที่จะใช้เพียงแค่ส่งเสบียงและรับส่งคอมมานโด รวมถึงการปรับปรุงรันเวย์ของสนามบินหลังยึดปอร์ตสแตนเลย์ได้ให้รองรับฝูงบินเจ็ตทั้งแดกเกอร์และสกายฮอร์คได้ (มีเวลาตั้งเป็นเดือนกว่าอังกฤษจะยกกองเรือมาถึง) รับรองอังกฤษกระอักเลือดมากกว่าที่เกิดขึ้นจริงแน่ เผลอๆ อาจจบลงด้วยการเจรจาแบ่งผลประโยชน์กัน (แต่ก่อนว่ามีแต่แกะ พอมีใครสักคนปากโป้งว่ามีปิโตรเลี่ยมอยู่รอบๆ หมู่เกาะด้วยที่นี้ก็เป็นเรื่อง)
งานนี้ลำพังอังกฤษคนเดียวเอาตัวไม่รอดหรอกครับ เดินทางมาตั้งไกล สายส่งกำลังบำรุงยาวเหยียด สภาพอากาศติดลบแถมลมแรงชมัดญาติ ระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าก็ทั้งเล็กทั้งสั้น (หมายถึงระยะตรวจจับนะครับ) มีติดอยู่กับ ฮ. ซีคิงส์ไม่กี่ลำ อาวุธปล่อยนำวิถีสำหรับสอยเครื่องบินทั้งซีดาร์ต ซีวูฟล์ฟ ซีแคต ต่างก็มีข้อจำกัดในการใช้งาน อาวุธปืนอาวุธปล่อยระยะประชิดก็ยังไม่มีใช้กัลเรือสักลำ (ยกเว้นอินวินซิเบิลที่ได้ฟาลังซ์มาใช้แล้ว) ที่รอดมาได้แบบผู้ชนะก็เพราะความบ้อท่าของอาร์เจนติน่าซะเป็นส่วนใหญ่ อเมริกันเองก็เป็นแบ็คอัพให้อังกฤษ ให้ทั้งข้อมูลภาพข่าวจากดาวเทียมและที่ดักรับฟังได้ เขารู้เราแต่เราไม่รู้เขา อาร์เจนติน่าก็เจ๊งไม่เป็นท่าซิครับ
ซีแฮร์ริเออร์เป็นพระเอกได้เพราะสามารถตั้งรับอยู่รอบๆ กองเรือได้ คอยให้เครื่องบินอาร์เจนติน่าบินมาจนจะสุดพิสัยบินแล้วถึงค่อยเข้าสกรัม ได้ไซด์ไวน์เดอร์แอลมาใหม่ๆ มาด้วย (มุมจับเป้าด้วยอินฟาเรดได้กว้างกว่าไซด์ไวน์เดอร์ทุกรุ่นในเวลานั้น) บวกกับความคล่องตัวทางการบิน ผลออกมาซีแฮร์ริเออร์ชนะใสๆ
ผลจากการรบครั้งนี้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน อุตสาหกรรมต่อเรือรบต้องหาวัสดุมามาใช้แทนอลูมินั่มเนื่องจากเวลาติดไฟแล้วดับยาก เกิดควันพิษมากมายเป็นเหตุทหารเรือเสียชีวิต โดยเฉพาะส่วนที่เป็นซูเปอร์สตรักเจอร์ รื้อระบบตรวจจับและป้องกันภัยทางอากาศใหม่หมด รวมถึงการรื้อฟื้นแนวคิดการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่แบบอเมริกันมาใช้อีกครั้ง (เข้าใจว่าปัจจุบันยกเลิกไปอีกแล้ว)
นึกได้ประมาณนี้แหละ เหตุเกิดตั้งแต่ปี 82 สามสิบปีแล้วนะครับ...
สนับสนุนคุณเสือด้วยครับ
การบุกของอาร์เจนติน่ามาจากเหตุผลทางการเมืองมากกว่าการทหาร ผลก็เลยเป็นแบบนี้เอง
การที่อเมริกาเข้าข้างอังกฤษก็เพราะต้องถือว่าเป็นพันธมิตรที่ตัดกันไม่ขาด แล้วยังถือเหตุที่อาร์เจนตินาบุกก่อนเข้าไปอีก
ถ้ามองอีกอย่างหนึ่ง สมัยนั้นมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ (ผู้ได้ชื่อว่าเป็นหญิงเหล็ก จากเหตุการณ์นี้ ) ถูกอาร์เจนติน่ามองว่าไม่กล้าสู้ เลยว่าเต็มหน้าตัก แต่แธตเชอร์ก็ขอตามไปดู อาร์เจนติน่าซึ่งไม่ได้ถือไพ่ตัวเต็ง ได้แต่ลักไก่ เลยไม่รอด
สงครามฟอร์คแลนด์ทำให้Exocetแจ้งเกิด (เช่นเดียวกับซีซ่าร์ที่แจ้งเกิดเต็มตัวในกรณีพิพาทชายแดน)
ฟาลังค์ไม่มีบทบาทใดๆในสงครามครั้งนี้ (ผลงานของฟาลังค์ไม่เคยปรากฏในการรบจริงนอกจากซ้อมรบ)
เรือทุกลำของอังกฤษที่ติดตั้งระบบ ซีวูลฟ์ Ok ทุกลำ (type 22)
แต่ที่มีปัญหาต่ออาร์เจนติน่า มากที่สุดจนน่าเป็นเหตุสำคัญให้แพ้สงคราม คือการระงับการส่งมอบExocet โดยฝรั่งเศส และอันนี้ควรเป็นข้อมูลในการพิจารณาจัดหาอาวุธจากฝรั่งเศสด้วยครับ
ถ้าเรือบรรทุกเครื่องบินของอังกฤษทั้ง 2 ลำถูกจมละก็ สงครามฟอร์คแลนด์คงเปลี่ยนไปครับ
แด่อนุสรณ์สงคราม
The Royal Navy destroyer Sheffield burned after being hit by an Argentine anti-ship missile during the Falklands War, which, despite recent tensions, seems unlikely to get a second installment // Royal Navy
http://militarytimes.com/blogs/scoopdeck/2010/02/19/falklands-war-2-on-the-horizon-nah-well-nah/
![]() |
||||
HMS Coventry listed to port and sank twenty minutes after being hit by bombs from Argentine A-4 Skyhawks on 25th May. Her Lynx HAS.2 was still lashed to the deck, with a live Sea Skua missile on its port pylon.
|
http://www.hmfriends.org.uk/falklands25th.htm
And heres HMS Ardent ablaze in the Falklands war ... same aluminium superstructure.
เรือดำน้ำอาร์เจนติน่า U209 ? ลอบผ่านแนวป้องกันกองเรือฟรีเกต UK เข้าไปได้ ยิงตอร์ปิโดใส่เรือบรรทุกเครืองบินUK ถูกเป้าแต่ห้วรบไม่ทำงาน
ตอนนั้นดูเหมือนเรืออาร์ครอยัล ยังไม่ถูกปลดประจำการได้ร่วมรบกับอินวิซิเบิล แต่หลังจากสงครามเลิกไม่นานก็ถูกปลด
ตาสว่างเลย ถึงรู้ว่า อาเจน ถังแตก แล้วยังรู้เรื่องดักฟังและภาพทางอากาศจาก อเมริกาอีก
เพราะว่าอเมริกาสนับสนุน ช่วยเหลืออังกฤษ แบบลับๆ ทำให้ทุกวันนี้อังกฤษ ถือเป็นบุญคุณต้องทนแทน อเมริกาว่าอย่างไร อังกฤษสนับสนุนตลอด ลองสังเกตุซิครับ
จากวิกิพีเดีย
สหรัฐอเมริการลงคะแนนสนับสนุนการแก้ปัญหาของสหประชาชาติที่ 502 (ให้กองกำลังอาร์เจนตินาออกไป) นอกจากนี้ยังให้อุปกรณ์ตรวจจับเรือดำน้ำ และจรวด AIM-9L ล่าสุดแก่อังกฤษ
ฝรั่งเศสลงคะแนนสนับสนุนการแก้ปัญหาของสหประชาชาติที่ 502 (ให้กองกำลังอาร์เจนตินาออกไป) ฝรั่งเศสเอบรมนักบิน Harrier ของอังกฤษให้รู้จักกับอากาศยานฝรั่งเศสที่ใช้โดยอาร์เจนตินา ฝรั่งเศสและอังกฤษยังร่วมกันป้องกันไม่ให้อาร์เจนตินาจากการได้รับ Exocets ในตลาดต่างประเทศ
นิวซีแลนด์ ส่งเรือฟรีทเกตเพื่อช่วยแทนเรืออังกฤษที่จะไปร่วมรบจากมหาสมุทรอินเดีย
ชิลี ให้ข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับทหารอาร์เจนตินาและระบบเรดาร์เตือนภัยล่วงหน้า
อังกฤษกับอเมริกันเค้ากอดคอเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นมาก่อนหน้านี้นานแล้วครับ ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นเอาตอนกรณีฟอล์คแลนด์
รูปเรือรูปสุดท้ายของคุณ seaman หมายเลข 26 ดูเหมือนเป็นเรือลาดตระเวณอาวุธนำวิถีอเมริกัน Belknap ที่เสียหายจากการชนกับเรือบรรทุกเครื่องบินเคนเนดี้ในปี 75 ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โครงสร้างซูเปอร์สตรักเจอร์เป็นอลูมินั่มเหมือนกับเรืออังกฤษ เสียหายจากเพลิงไหม้หนักเหมือนกัน เจตนาอาจแค่นำมาเทียบให้ดูว่าเรือในยุคนั้นสร้างจากวัสดุเหมือนๆ กัน แต่ไม่ใช่รูปเรืออาร์เดนท์แน่นอน (อาร์เดนท์เป็นเรือฟริเกตชั้นอเมซอน)...
ขออภัยครับ ภาพผิวคิวไปหน่อย ขอลงภาพที่เหลือให้ดูใหม่นะครับ
|
![]() The Atlantic Conveyor burned out after being hit by a single Aerospatiale AM39 Exocet ASCM launched by an Argentinian Super Etendard strike fighter. Twelve sailors were killed in this attack. It is unclear whether the warhead exploded or the damage was produced wholly by residual propellant igniting the ships flammable stores (UK MoD image).
|
![]() ![]() Type 21 Frigate HMS Ardent burning after being hit by 1,000 lb aerial bombs, delivered by low flying Argentinian A-4 fighters. The Ardent sank. Twenty two sailors died in this attack (unknown source, UK MoD images).
|
![]() ![]() Type 21 Frigate HMS Antelope explodes and later sinks after being hit by 1,000 lb aerial bombs, also delivered by low flying Argentinian fighters. An Army bomb disposal expert and one sailor died in this attack (BBC, UK MoD images).
|
![]() RFA Sir Galahad burns after being hit by three 1,000 lb bombs, delivered by Argentinian A-4 Skyhawks in dive attacks. This attack killed 48 personnel (UK MoD image).
|
หลังสงคราม ทร. อังกฤษ เจอบทเรียนสาหัสสุดๆครับ ตั้งแต่ไป บังเอิญเพิ่งปลดประจำการเรือบรรทุกเครื่องบิน แท้ๆอย่าง อาร์คโรเยล (ประจำการด้วย เครื่องบิน แฟนทอม และบัคคาเนียร์) แล้วแทนที่ด้วยเรือ บรรทุก เทียมๆที่บรรทุกเครื่องบินได้แค่ แฮริเออร์ อย่างเฮอเมส และอินวิวิเบิล ซึ่งแฮริเออร์ ก้ทำได้แค่คุ้มกันกองเรืออยู่ในอ่าวครับ ทำอะไรมากไม่ได้เพราะ เชื้อเพลิงไม่พอที่จะรบเชิงรุกครับ ดีที่มีระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าที่ติดตั้งบน ฮ, อย่าง ซีคิง ครับทำให้ มันพอจะสร้างซื่อเสียงได้ด้วยการไล่ยิง เอ ๔ ของอาร์เจนตินา หมดไปกว่า ๕๐ ลำ ความจริง เอ ๔ นี่มันสามารถรับมือ แฮริเออร์ ได้สบายครับ ถ้ามันไม่ต้องแบกระเบิดมาเพียบแถมยังต้องบินจนเกือบจะสุดระยะบินของมัน (บินระยะต่ำเรื่ยระดับน้ำทะเลเพื่อหลบเรด้าห์ อังกฤษ พอถึงเวิ้งอ่าวที่กองเรืออังกฤษซ่อนตัวอยู่ค่อยโผขึ้นทิ้งระเบิดครับ)
เครื่องบินอีกแบบของอาร์เจนก็ ซุปเปอร์เอตังด้าห์ ที่สั่งจากฝรั่งเศส มาพร้อม จรวดเอกโซเซ่ นี่ก้เพิ่งซื้อมาใหม่เอียมแค่ไม่กี่ตัวครับแด่คุณภาพ ทำเอาอังกฤษ สะอื้นเลย ลำพังตัวจรวดไม่เท่าไหร่ครับเพราะรบกันต้องมีการเสียหายอยุ่แล้วแต่ เรือพิฆาตอังกฤษ สองลำที่จมทั้งเชฟฟิลด์ และ โคเวนตี้ ดันเป้นเรือที่ออกแบบมาแบบลดคุณภาพแบบ เรือบรรทุกเครื่องบินข้างบนเสียอีกน่ะซิครับ แต่เดีม อังกฤษมีธรรมเนียมต่อเรือด้วยเหล้กชั้นดี แถมด้วยระบบป้องกันความเสียหายตามมาตราฐาน แต่ในช่วงปี ๗๐ อังกฤษ ต่อเรือฟรีเกต และเรือพิฆาต ขาย ต่างประเทศ โดยเฉพาะ อิหร่าน โดยใช้วัสดุ และลดสเปคเรื่องความปลอดภัยที่ต่ำกว่าของ ที่ใช้ในอังกฤษเอง สงสัยคงต่อขายเพลินไปหน่อยครับ หรือมันไม่เคยเกิดปัญหา เรืออังกฤษ ที่ต่อใช้เองในช่วงนั้นจึงใช้สเปคและวัสดุ แบบเดียวกับ อิหร่าน ด้วย ดังนั้น เรือ พิฆาตอังกฤษทั้งสองลำที่จม ก้เลยได้รับบทเรียนที่ลืมไม่ลงครับ
ฝรั่งนี่สุดท้ายก็ครบไม่ได้ทั้งนั้น ดูอย่างสงครามอินโดจีนซิ ที่ไทยสั่งซื้อเครื่องบินมารบกับฝรั่งเศษแต่
ประเทศผู้ผลิตไม่ส่งมอบให้ซะงั้น..
ยังไงก็ขอเพิ่มเติมหน่อยนะครับ
สาเหตุของสงครามนั้นเริ่มมาจากการที่ ก่อนหน้าสงครามประมาณ 10 ปีนั้น ได้เกิดการรัฐประหารโดยทหารขึ้นโดยอ้างเหตุว่ารัฐบาลนั้นบริหารประเทศได้ไม่ดี แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น และแล้วประชานิยมในตัวผู้นำเผด็จการทหารก็ลดลงครับ ฉนั้นจะทำอย่างไรละ เพื่อดึงคะแนนประชานิยมกลับมา คำตอบก็คือสงครามครั้งนี้แหละครับ
ต่อมาก็ขอพูดถึงเรื่องทางทหารบ้างนะครับ ตอนแรกนั้นบรรดาเหล่าเสนาธิการของอาเจนนั้นคิดว่าอังกฤษจะไม่ตอบโต้โดยการยึดเกาะคืนครับ แต่หารู้ไม่ว่าขณะนั้น อังกฤษเองภายใต้นายกรัฐมลตรีหญิงคนแรก คือ มากาแรต เทรดเชอ ก็สูญเสียความนิยมเช่่นเดียวกัน เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่ดี อัตราคนตกงานในประเทศพึ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วนี่แหละครับถือได้ว่าเป็นความโชคดีของเธอที่อาเจนบุกเกาะฟอกแลน แต่นนั่นก็ไม่ใช่หนึ่งในความโชคดีของอังกฤษครับ ในช่วงนั้น เนื่องมาจากฐานะทางเศรษฐกิฐอันย่ำแย่ของประเทศ ทำให้ต้องมีการตัดลดงบประมาณครั้งใหญ่ ซึ่งกองทัพเรือก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ในแผนการนั้น เรือยกพลขึ้นบกของอังกฤษจะถูกปลดระวาง และถ้าไม่มีเรือประเภทนี้ อังกฤษก็ไม่สามารถเอาเกาะกลับมาเป็นของตนเองได้ครับ ข้อต่อมาก็คือจรวจ Exocet ที่ยังไม่ได้รับครบตามจำนวนที่สั่งไว้ ประเด็นต่อมาคืออเมริกาไม่ได้ขัดขวางไม่ให้อังกฤษแย่งเกาะคือ แต่ช่วยสนับสนุนด้านของกรองและอื่นๆ ลองคิดดูนะครับ กองทัพเรือสหรัฐนั้นมีความสามารถในการเอาชนะกองทัพเรืออังกฤษได้อย่าสบายๆ
ต่อมาในเรื่องของการรบเลยนะครับ ด้านกำลังทางอากาศนั้น กองทัพอากาศอาเจนติน่าต้องปฎิบัติการจากฐานทัพบนฝั่งซึ่งกว่าจะเดินทางมาถึงบริเวณเกาะแล้วนั้น ก็เหลือน้ำมันในการปฎิบัติการน้อยมากกก สิ่งที่อาเจนควรจะทำ ก็เหมือนที่คนก่อนหน้านี้ comment ไว้คือ น่าจะขยายลานบินที่ stanley เพื่อรองรับอากาศยานอย่าง MirageIII,Super Etandart etc สิ่งนี้ทำให้ประสิทธิภาพในการรบของอาเจนติน่าลดลงอย่างมากกกครับ เรื่องต่อมาก็คือ อังกฤษได้รับขีปนาวุธแบบ sidewider L ซึ่งใหม่สุดจากโรงงานเลยครับ ขนาดอเมริกายังไม่ได้ใช้เลยยยยลองคิดดู สิ่งนี้สร้างความได้เปรียบอย่างมากให้แก่ Sea harrier ของกองทัพเรืออังกฤษ ทั้งสมรรถณะ เวลาในการครองอากาศ เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ก็สามารถเข้าสู่บริเวณการรบได้อย่างรวดเร็วครับ
เอาเท่านี้ก่อนนะครับ เดียวมาต่อเพิ่ม