อาจจะตอบไม่ตรงคำถามเท่าไหร่นะครับก็สรุปง่ายๆเลยเกิดจากการแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจและปัญหาการเมืองภายในเป็นสำคัญครับไฟในลุกอยู่แล้วมีคนเอาน้ำมันมาราด

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การโค่นเดียมนั้นเกิดขึ้นในปี1963นะครับ
ในประเทศที่ไม่มั่นคงอย่างเวียดนามใต้ มีความขัดแย้งมากมายที่ทำให้มีการก่อรัฐประหารอยู่เนืองๆดังต่อไปนี้

ครั้งแรกเกิดในปี1960 พันเอกเหงียน จัน ธี แห่งหน่วยพลร่ม จะยึดอำนาจเดียม แต่ถูกพวกซีไอเอของอเมริกันหักหลัง แจ้งให้พวกเดียมเตรียมกำลังดักรอไว้ ผลก็คือทหารที่จะรัฐประหารตายเรียบ

ครั้งที่สองในปี1962 นักบินเวียดนามใต้เอาเครื่องบินเอ-1 สกายเรดเดอร์ไปทิ้งระเบิดใส่ทำเนียบรัฐบาล แต่ปรากฏว่าเดียมไม่อยู่เลยรอดไป นักบินต้องบินหนีไปอยุ่ในกัมพูชา (หากสำเร็จเดียมตาย จะต้องมีการรัฐประหารแน่ๆ)

ครั้งที่สามนี้ขอเล่ายาวหน่อยเพราะเป็นครั้งที่สำเร็จและสำคัญ
ว่ากันว่าสองครั้งแรกก็อาจจะเกิดความปัญหาเรื่องการกดขี่พระพุทธศาสนาของเดียมนั้นเอง แต่ครั้งที่สามนี้เกี่ยวเนื่องสุด

ก่อนอื่นขอเล่าไปตั้งแต่ยุคหลังเดียนเบียนฟูโน้น ฝรั่งเศสได้พ่ายแพ้และถอนทหารกลับบ้าน  ตามข้อตกลงเจนีวาที่มัดมือชกบอกว่า เวียดนามจะต้องถูกแบ่งเป็นสองส่วนที่เส้นขนานที่17 โดยตอนเหนือให้เป็นเวียดนามเหนือ ภายใต้การนำของลุงโฮจิมินห์ และให้ถอนพวกเวียดมินห์ที่อยู่ทั้งในเวียดนามใต้ ลาว เขมร เข้าไปในเวียดนามเหนือให้หมด ส่วนเวียดนามใต้ให้เป็นของจักรพรรดิเบ๋าได๋ ผู้มีอำนาจมากในเวียดนามตัวกลาง(อันนัม)โดยเฉพาะเมืองเว้ และมีโง ดินห์ เดียมเป็นนายกรัฐมนตรี

โง ดินห์ เดียมเป็นคาธอลิกที่เคร่งครัดมาก พี่น้องเขาก็เป็นคริสต์กันหมด ในขณะที่ชาวเวียดนามใต้เกือบทั้งหมดนับถือพระพุทธศาสนา ทีนี้เพื่อให้มีพวก ประกอบกับเวียดนามเหนือเกิดการกลัวคอมมิวนิสต์ และทางเหนือก็มีชาวคริสต์อยู่มาก เพราะพวกฝรั่งเศสได้เผยแพร่ไว้ตอนยึดครอง ก็เลยอพยพมาทางใต้กัน โดยคุณสหรัฐ ได้จัดเรือมารับส่งทีเดียว (หลังสงครามอินโดจีน ข้อตกลงเจนีวาระบุว่าชาวเวียดนามมีสิทธิจะเลือกว่า จะอยู่กับเหนือหรือใต้ ทำให้แห่กันลงใต้ ส่วนทหารเวียดมินห์กับพวกคอมมิวนิสต์ก็แห่กันขึ้นเหนือ) สหรัฐหวังว่าชาวคริสต์ที่พามาส่งจากทางเหนือ จะช่วยเดียมป้องกันไซง่อนไว้ได้อย่างมั่นคง

ต่อมาเดียมก็เริ่มการโค่นล้มกษัตริย์ นั้นคือจักรพรรดิเบ๋าได๋ ด้วยการให้ลงประชามติ ผลก็คือปลดจักรพรรดิ จนต้องลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศส และทำให้เดียมและพี่น้องเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินเวียดนามใต้  และเริ่มมีการเข้ามาช่วย(แทรก)ของสหรัฐอเมริกัน ที่ทำให้ฝรั่งเศสที่อยู่แถวๆนั้นโวยวาย(เซ็งตั้งแต่ปลดเบ๋าได๋ที่เป็นพวกของตนเองแล้ว) อเมริกันได้นำเข้าสินค้า และอาวุธมาด้วย ช่วยเหลือด้านการทหารให้กับกองทัพแห่งชาติเวียดนามใต้ที่สร้างขึ้นใหม่แทนที่ฝรั่งเศส

แต่เดียมก็ยังไม่ค่อยมั่นคง เพราะมีศัตรูอยุ่นั้นคือ พวกกองกำลังติดอาวุธลัทธิศาสนาต่างๆ ซึ่งไม่ถูกกฏหมายนั้นคือ กาวได๋ ฮาวหัว บิน ซู เยน และเจ้าเดิมคุณคอมมิวนิสต์ ซึ่งตอนที่เขาบอกให้ขึ้นเหนือก็ไม่ได้ไปด้วยหรอก แอบฝังตัวเป็นเซลล์เล็กๆอยู่ตามที่ต่างๆในเวียดนามใต้ รวมทั้งปะปนมากับชาวคริสต์ที่คุณสหรัฐนำเข้ามาให้ถึงที่ด้วย พวกคอมฯตอนนี้อยู่ในระยะฟักตัว คือเผยแพร่ลัทธิหาคนอยู่ แอบแฝงไม่แสดงตัวแบบสามพวกแรก เดียมจึงจัดการพวกลัทธิ แก๊งค์พวกนี้ก่อน โดยยุให้กาวได๋กับฮาวหัวตีกัน ด้วยการให้ทหารตนปลอมเป็นพวกหนึ่งไปยิงอีกพวกหนึ่ง จากนั้นก็ปราบไปเรื่อยๆ จับหัวหน้ากลุ่มมายิงเป้า(หรือวิธีอื่นเช่นกิโยติน แขวนคอ)  โดยกับกลุ่มบิน ซู เยน นี้ทำการรบกันในไซง่อนเลยทีเดียว เรียกว่า Battle of Saigon (1955)
http://en.wikipedia.org/wiki/Battle_for_Saigon

ว่ากันว่ากลุ่มต่างๆที่ถูกทลาย หลายคนหันไปเข้ากับพวกเวียดกง

ต่อ (กดส่งก่อน เพราะพิมพ์ตอบนิคทีไร ล็อคอินหลุดตลอด เพราะพิมพ์ยาวนานไป)

ทีนี้เดียมก็ไม่เหลือศัตรูแล้ว นอกจากพวกเวียดกงคอมมิวนิสต์ ที่ตอนนี้ยังแอบซุ่มเงียบไม่ทำอะไร จนปี1957ก็ออกลาย ยิงถล่มสถานที่ราชการของรัฐบาลเป็นครั้งแรก ฝ่ายรัฐบาลพยายามปราบปรามแต่ก็ยังไม่สำเร็จ คุณสหรัฐก็ได้ทีส่งขายอาวุธ ส่งที่ปรึกษาทางทหารเข้ามา

ปัญหาใหญ่ของเดียมเกิดจากศาสนานั้นเอง กล่าวคือเดียมให้ความสำคัญแต่กลับศาสนาคริสต์ของเค้า มีพี่ชายเป็นพระราชาคณะของคริสต์ในเวียดนามใต้ ชือโงดินห์ถึก ในทุกวงการเกิดเรื่องสองมาตรฐาน กล่าวคือ ใครก็ตามที่เป็นคริสต์ได้รับการเลื่อนขั้น ได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนพุทธ ทำให้บางคนต้องไปเข้ารีตเป็นคริสต์ นโยบายของเดียมเริ่มสุดโต่งและสร้างความเจ็บช้ำแก่ชาวพุทธในเวียดนามใต้ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่เช่น ทุกบ้านต้องมีรูปปั้นพระเยซู บ้านไหนทำหายจะได้รับโทษหนัก ทุบพระพุทธรูปทิ้งแล้วเรารูปพระเยซูมาวางแทน ห้ามพระออกอากาศรายการทางวิทยุแต่คริสต์ออกได้ฯลฯ

ช่วงปี1963หนักข้อสุด เช่นห้ามพระสวดมนต์เพราะเป็นการสาบแช่งรัฐบาล(เฮ้ย) และก็เกิดเรื่องเมื่อวันวิสาขบูชาชนกับวันสำคัญของคริสต์(จำไม่ได้วันอะไร) รัฐบอกห้ามชักธงพระพุทธศาสนา ในขณะที่คริสต์ทำได้เต็มที่ คนทนไม่ได้ก็เลยออกเดินขบวนประท้วง ทหารก็เลยสลายม็อบด้วยปืนและระเบิด แต่พอมีคนตายก็ไปโทษว่าเป็นฝีมือของมือที่สามหรือไอ้โม่ง คือเวียดกงซะงั้น

ในขณะที่ประชาชนลุกฮือนั้น แทนที่เดียมจะผ่อนปรนนโยบายกดขี่และสุดโต่งของเขา เขากลับยิ่งเมินเฉย แต่ผลงานการสั่งปราบชาวพุทธมักจะมาจากโง ดินห์ นูห์น้องชายผู้คอรัปชั่นของเขา ที่มีอำนาจมาก โง ดินห์ ถึกพี่ชายผู้เป็นพระราชาคณะสูงสุดของคริสต์ในเวียดนามใต้ รวมทั้งโง ดินห์ คาหน์อีกคน พวกนี้ได้สั่่งให้ทหารคริสต์ล้อมลวดหนามวัด ส่งทหารไปยิงทุบตีชาวพุทธ พระ นางชี ที่สวดมนต์กันอยู่ในวัด บาดเจ็บล้มตายกันมากมาย ระเบิดเจดีย์ที่ซาลอย อ้างว่าเจดีย์เป็นที่ซ่อนอาวุธของเวียดกง และโทษเวียดกงว่าอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายต่างๆ ทั้งที่ตอนนั้นเวียดกงไม่ได้ทำอะไรเล้ย นั่งดูอยู่เฉยๆในชนบท หันไปทำลายสะพาน รางรถไฟ ซุ่มโจมตีทหารตามชนบทโน้น

เหตุการณ์เข้าขั้นวิกฤต เมื่อพระนามว่า กวาง ดึ๊ก ได้ทำการประท้วงด้วยการราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวเองกลางกรุงไซง่อน โดยเขียนจดหมายก่อนตายขอให้เดียมหยุดการรังแกชาวพุทธ เป็นภาพถ่ายที่ทำให้โลกตะลึง จนอเมริกันชักไม่อยากเล่นด้วยและไม่อยากช่วยเดียมอีกต่อไปแล้ว และยิ่งเกิดกระแสโกรธแค้นของชาวเวียดนาม เมื่อมาดามนูห์ ซึ่งเป็นภรรยาของโง ดินห์ นูห์น้องชายของเดียม ได้ประกาศว่า "หากพระองค์ใดทำบาร์บีคิวโชว์ให้เห็นอีก ชั้นก็จะปรบมือให้ พร้อมทั้งบริจาคไฟแช็คและน้ำมันให้" นอกจากนี้ยังเกิดการรบกันระหว่างทหารพุทธกับคริสต์ที่เมืองมีโธ

เหล่านายทหารสำคัญๆและทหารพุทธเริ่มเห็นว่าจะต้องไล่เดียมสักที เพราะประชาชนไม่เอาแล้ว และการกระทำกดขี่ศาสนาพุทธที่เกิดไป โดยมีหัวหน้ารัฐประหารสำคัญคือ หัวหน้าเสนาธิการกองทัพเทียน วัน ดง และนายพลสำคัญๆอย่างเยื้อง วัน มินห์,ทราน เทียน เคียม,เล วัน คิม,เหวียน ฮู โก แผนการเริ่มขึ้น 11โมง วันที่ 1 พฤศจิกายน 1963 โดย ทราน วัน ดง ได้เรียกนายทหารสำคัญมาประชุมกันที่กรมเสนาธิการ และได้จับกุมทหารที่เข้าข้างเดียมไว้ทั้งหมด พอบ่ายโมงได้ส่งรถถัง36คันเข้าโจมตีทำเนียบรัฐบาลซึ่งพวกทหารคริสต์ยึดไว้ แต่ต่อมาก็ต้องยอมจำนน และพบว่าเดียมกับนูห์ได้หนีไปทางลับ

แต่สุดท้ายเดียมก็หนีไม่รอด ทั้งคู่ถูกพบหนีไปซ่อนในโบสถ์ย่านคนจีนในไซง่อน เรียกว่าเจ๊อะเลิ่น ในขณะที่กำลังถูกทหารพาไปท้ายรถเกราะเอ็ม113 ทั้งคู่ก็ถูกยิงทิ้งตายคาที่ตรงนั้นเอง ภายหลังยังได้ถ่ายภาพศพเดียมไปให้พวกอเมริกันดูด้วย

ว่ากันว่าการรัฐประหารครั้งนี้สำเร็จเพราะอเมริกันสนับสนุนเพราะเห็นว่าเดียมใช้งานไม่ได้แล้ว จึงต้องการเขี่ยทิ้ง โดยนายพล เยื้อง วัน มินห์(บิ๊กมินห์) ได้ติดต่อกับซีไอเอก่อนว่าอย่าแทรกแซงการรัฐประหารครั้งนี้ เพราะกลัวจะล้มเหลวแบบปี1960 ที่ซีไอเอสนับสนุนเดียม แต่คราวนี้ซีไอเอสนับสนุนพวกรัฐประหารจึงทำให้สำเร็จ

หลังจากเดียมถูกโค่น ประชาชนต่างออกมาแสดงความยินดีทหารที่ออกมาก่อรัฐประหารครั้งนี้กับทั่วบ้านทั่วเมือง ออกมายินดีกับทหารที่นั่งรถถังอยู่ตามจุดต่างๆ เหล่านายทหารที่ก่อรัฐประหารกลายเป็นวีรบุรุษไปในชั่วข้ามคืน (เหตุการณ์คุ้นๆกับบางประเทศเมื่อปี49) ได้มีการแต่งตั้งให้บิ๊กมินห์เป็นเป็นผู้นำ ส่วนมาดามนูห์กับ โง ดิน ถึกอยู่ต่างประเทศพอดีทำให้รอดตัวไปได้

ช่วงปี1964 การเมืองของเวียดนามใต้ยังไม่นิ่ง รัฐบาลทหารได้ประกาศว่าจะสู้กับเวียดกงให้เต็มที่ แต่ความพ่ายแพ้ก็ปรากฏอยู่เนืองๆ จนคุณอเมริกันปวดเฮด บ่นว่าไอไม่เข้าจาย ทำไมยูสู้ไม่ได้ (ตอนหลังมาเองก็สู้ไม่ได้เหมือนกันนั้นแหละ) มีคู่แข่งคนหนึ่งคือนายพลเหงียน คานห์อยากเป็นผู้นำบ้าง ก็ก่อรัฐประหารแบบไม่นองเลือดเลย โดยสองคนนี้สลับกันเป็นผู้นำไปมาปีเดียวหลายรอบ ในที่สุดครั้งหลังก็กำจัดให้เหงียน คานห์ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศได้สำเร็จ และได้ให้พลเรือนมาเป็นผุ้นำครั้งแรกคือ พาน คัก ชู

ในปี1965 เวียดนามใต้ ก็มีรัฐบาลที่เข้มแข็งที่สุดนำโดย นายกรัฐมนตรี เหงียน เกา กี และประธานาธิบดี เหงียน วัน เทียว เป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งที่สุดในการสู้กับพวกเวียดกง เป็นรัฐบาลกันไปจนไซง่อนแตกในปี1975กันโน้นเลยทีเดียว ในปีเดียวกันนี้ยังเป็นปีที่สหรัฐอเมริกันส่งทหารประจำการมาเต็มอัตราเป็นครั้งแรก

และหลังจากนั้นก็เป็นไปอย่างที่รู้ๆกันอยู่แล้วครับ

พี่แทน หรือ ใครก้ได้ครับ ไม่ทราบว่าหน่วยทหาร ARVN นิโดนถ่ายโอนให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์มั้ยครับ หลังปี 75 ที่พี่เวียดใต้ แตก คือว่ายอมแพ้ยอมจำนนแล้วยังมีทหารทีมีฝีมืออยู่แต่เพียงเปลี่ยนเครื่องแบบและระบอบการปกครองหรือเปล่าว?

ถามต่อจากกระทู้ที่แล้วมาสินะ คราวที่แล้วที่ผมไม่ตอบเพราะผม"เหนื่อย" ยิ่งตอบจขกท.ก็ยิ่งยิงคำถามมาเรื่อยๆ น่าจะลองหาคำตอบดูนะครับ หรือว่าหายากจริงๆจะตอบพอที่ทราบละกัน

ตอบภาพหลังทหารเวียดนามใต้และชาวเวียดนามใต้ทั้งหมด ถูกส่งเข้าค่ายอบรมลัทธิคอมมิวนิสต์ หรือที่ตะวันตกเรียกกันว่าค่ายล้างสมองนั้นแหละครับ ทีนี้พวกอดีตทหารเวียดนามใต้ก็คงต้องเข้าเป็นทหารในกองทัพเวียดนามที่รวมประเทศแล้ว ใครไม่ยอมคงไม่พ้นถูกเข้าค่ายใช้แรงงานหนัก ไม่ก็ยิงเป้าหรือประหารแบบในจีนแดง ตอนที่ยึดครองได้ใหม่ๆละครับ

ว่ากันทหารเวียดนามที่รบกับไทยเราตามชายแดนเขมรหรือช่องบกก็เป็นทหารอดีตเวียดนามใต้นะครับ

อ่าว ... ที่รบกับไทยแล้วถ่อยล่นไปเวียดใต้หร๊อครับ ถ้าเวียดเหนือเราจะผลักดันได้หรือปล่าวหว่าเก่งเรื่องขุดรูอยู่ก็เวียดเหนือชนะมะกันมาซะด้วย ^ ^

ไม่ว่าจะเวียดไหนไทยเราก็เข้มแข็งอยู่แล้ว

เวียตนาม สมัยนึงเหมือนสามก๊ก
ก๊กแรกชาวพุทธ ใครจะไปใครจะมาเป็นใหญ่ก็ได้ ทั้งๆที่เป็นคนส่วนใหญ่ของเวียตนาม
ก๊กสอง คอมมิวนิสต์ที่ร่วมกับสหายจีนช่วยกันโค่นเจียงไคเช็คและรบญี่ปุ่น
ส่วนก๊กสุดท้าย ก๊กชาวเวียตนามคาทอลิค ที่เข้ารีตและใกล้ชิดกับฝรั่งเศสที่ตอนนั้นเป็นใหญ่
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง  ฝรั่งเศสและชาวเวียตนามคาทอลิคพยายามให้ฝรั่งเศสเข้ามามีอำนาจอีก
แต่พวกคอมมิวนิสต์ตั้งขบวนการเวียตมินห์ ต่อสู้ฝรั่งเศสจนได้ชัยชนะที่เดียนเบียนฟู ฝรั่งเศสต้องถอนตัวออกจากเวียตนาม
พวกเวียตนามคอทอลิค(โดย นายโงดินเดียม)จึงขอความช่วยเหลือจากสหรัฐ ซึ่งประธานาธิบดีไอเซ่นฮาว ตกลงให้ความช่วยเหลือเวียตนามใต้ (จากข้อตกลงหลังศึกเดียนเบียฟู แบ่งเวียตนามเป็นของเขต เวียตนามเหนือให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียตนามบริหารประเทศ ส่วนเวียตนามใต้ กำหนดให้มีการจัดการเลือกตั้งเพื่อกำหนดว่าจะรวมกันอยู่ภายใต้การปกครองของคอมมิวนิสต์
หรือแยกเป็นอีกประเทศในระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย (เหมือนเกาหลี) ประธานาธิบดีไอเซ่นฮาวยอมให้โง ดิน เดียมยกเลิกการเลือกตั้งเพราะกลัวเวียตนามใต้เป็นคอมมิวนิสต์โดยการเลือกตั้ง พวกอเมริกันหลายคนจึงเรียก สงครามเวียตนามว่า The Unpopular War )
ในช่วงนี้เวียตนามใต้มีการปกครองโดยรัฐบาลชาวคาทอลิคครอบครัวโงได้เป็นทั้งประธานาธิบดีโง ดิน เดียม
สังฆราชและนายโง ดิน นูห์ น้องชายของเดียมเป็นหัวหน้าตำรวจลับ(เหมือนเกสตาโป) โดยนางนูห์ภรรยาเป็นผู้มีอำนาจมากอีกคนหนึ่ง ตำแหน่งสำคัญๆในรัฐบาลและกองทัพเวียตนามใต้เป็นของชาวเวียตนามคาทอลิคเท่านั้น
ในขณะที่พวกเวียตมินห์ปรับเป็นเวียตกงเพื่อทำสงครามรวมชาติ เวียตนามใต้กลายเป็นแดนของความขัดแย้งของทั้งสามก๊ก
ในเมืองมีการปะทะกันระหว่างชาวพุทธและชาวคาทอลิค ที่ปรึกษาทางทหารของสหรัฐที่เข้ามาช่วยรบกับเวียตกงพบว่า ทหารเวียตนามใต้ที่เป็นชาวพุทธไม่เต็มใจรบกับเวียตกง เพราะถือว่าสงครามที่รบกันเป็นสงครามของพวกคาทอลิคกับพวกคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่สงครามของชาวพุทธ
นอกจากนั้นความขัดแย้งยังขยายตัวถึงพระสงฆ์พุทธเผาตัวประท้วง
จึงมีการปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลเวียตนามใต้ของตระกูลโง ซึ่งอาจมองว่า ๑ สหรัฐเป็นตัวการที่อยู่อยู่เบื้องหลัง เปลี่ยนหมากที่ไม่ดีออกไป หรือ ๒ กลุ่มนายพลคาทอลิคในกองทัพเวียตนามใต้ ต้องการลบภาพความขัดแย้งระหว่างศาสนา
ไม่ว่าใครจะอยู่เบื้องหลังผู้ที่ทำการปฏิวัติโค่นตระกูลโงคือ นายพลเดือง วัน มินห์ หรือมินห์ใหญ่ (Big Minh)
ซึ่งเป็นชาวพุทธ ต่อมาท่านเดือง วัน มินห์ถูกยึดอำนาจโดยนายพลเหงียน คานห์ (อำนาจกลับไปอยู่ในมือกลุ่มคาทอลิคอีก)
และต่อมานายพลเหงียน คานห์ก็เสียอำนาจให้ นายพลเหงียน วัน เทียว(นี่ก็คาทอลิค มีญาติชื่อเหงียน เกา กี เป็นผบ.ทอ.เวียตนามใต้ และเป็นคนเขียนหนังสือเรื่อง สิ้นชาติ)
ท่านเดือง วัน มินห์ถูก House Arrest ในกรุงเทพฯ ซึ่งคุณพ่อของผมเป็นนายทหารฝ่ายไทยที่ดูแลท่านกับครอบครัว
ท่านและภริยาเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักมาก ผมได้มีโอกาสเป็นไกด์นำท่านเที่ยวเชียงใหม่
พอสงครามเวียตนามใกล้จะสิ้นสุดประธานธิบดีเหงียน วัน เทียวได้ลี้ภัยในอังกฤษ
ท่านเดือง วัน มินห์ได้รับการปล่อยตัว ทุกคนคาดว่าท่านจะไปสหรัฐ แต่ท่านไม่ทำ
ทั้งๆที่ไม่มีโอกาสรบชนะ ท่านนายพลเดือง วัน มินห์เดินทางกลับประเทศเวียตนามใต้และ
ทำหน้าที่เป็นประธานาธิบดีคนสุดท้ายของเวียตนามใต้
ท่านพยายามให้มีการวางอาวุธ เจรจายอมแพ้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสีย แต่ทั้งทหารเวียตนามใต้หลายหน่วยไม่ยอม
และฝ่ายคอมมิวนิสต์เองก็ต้องการภาพการได้รับชัยชนะด้วยกำลังทหาร ความพยายามของท่านจึงไม่สำเร็จ
ท่านประธานาธิบดีเดือง วัน มินห์จึงถูกจับ มัดมือไพล่หลังให้ทหารเวียตนามเหนือถือปืนจ่อหลังเดินประจาน
ท่านถูกจับขังหลายปี ครั้งล่าสุดผมได้ข่าวว่าท่านได้รับการปล่อยตัวและส่งไปอยู่กับครอบครัวในสหรัฐ

ถูกต้องตามที่ท่าน Tan02 ว่าไว้เกี่ยวกับอดีตทหารเวียตนามใต้ ที่ถูกส่งมากัมพูชา
ในความเห็นของผมและเพื่อนๆที่ติดตามสถานการณ์ในตอนนั้นตลอดเวลา เราเห็นว่า รัฐบาลเวียตนามหลังรวมชาติต้องการทำอะไรซักอย่างที่จะควบคุมอดีตทหารเวียตนามใต้ และหล่อหลอมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอดีตเวียตกงหรือทหารเวียตนามเหนือ ไม่มากกว่านั้น จึงรุกเข้ากัมพูชา ส่งอดีตทหารและคนรุ่นใหม่ๆมาประชิดชายแดนไทย สร้างสถานการณ์ให้คนเหล่าต้องประจำอยู่ใน
แนวหน้านานๆ(แทนการขังคุก) มีการฝึก การเตรียมพร้อม รวมทั้งการอบรมปลูกฝังความคิด ใครที่ไม่ปรับตัว หนีทหารก็โดนประหาร เหมือนกับชายแดนไทยเป็นที่เนรเทศอย่างไซบีเรียนสำหรับพวกเวียตนาม โดยเฉพาะอดีตทหารเวียตนามใต้
ตรงข้ามกับที่ หลายคน(ที่เกิดไม่ทันตอนนั้น)บอกว่า ตอนนั้นเวียตนามจะบุกไทย