พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ คุณดวงพร พุ่มหิรัญ ภริยา เป็นประธาน กระทำพิธีปล่อยเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่แบบอู่ลอย ลงน้ำ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2554 ณ อู่ต่อเรือบริษัท ST Marine ประเทศสิงคโปร์
เรือยกพลขึ้นบกแบบอู่ลอย เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ซึ่งกองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัท ST Marine ต่อเรือ มีกำหนดแล้วเสร็จในปลายปี 2555
เรือลำนี้มีระวางขับน้ำ 7,600 ตัน (เท่ากับเรือหลวงจักรีนฤเบศร) ความยาวประมาณ 141 เมตร กำลังพลประจำเรือ 151 นาย สามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ไปกับเรือได้ จำนวน 2 ลำ
ภารกิจของเรือลำนี้คือ ปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก คุ้มครองผลประโยชน์ของชาติในทะเล ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล และลำเลียงขนส่งสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง
เพิ่มเติม
ที่มาของรูปภาพ http://www.facebook.com/kmkoryorpor
ส่วนระบบอาวุธจะเป็น
76 มม. 1 กระบอก
30 มม. 2 กระบอก
0.50 นิ้ว 6 กระบอก
เอาไว้รบกับเขมร แล้วมันจะเข้าปากแม่น้ำโขงได้ป่าวครับ ประเทศไทยจงเจริญ
เดี๋ยวๆครับเดี๋ยว เรือ 911เราระหวางขับน้ำ 11,000ตันไม่ใช่เหรอครับ ท่าข้อมูลผมผิดก็ขออภัยด้วยครับ
แต่ว่าขอบคุณสำหรับข่าวครับ Lpdเราปล่อยลงน้ำแล้วดีใจจัง
เรือ จักรีนฤเบศ (911)
ความยาวตลอดลำ 182.6เมตร
กินน้ำลึกสูงสุด 6.12เมตร
ระวางขับน้ำสูงสุด 11,485.5 เมตตริกตัน
ที่มา สมรภูมิ
เพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่ FACEBOOK ของ กยพ.กร เลยครับ มีรูปการฝึกของทร มากมาย
หายสงสัยกันซักทีนะครับ เพราะเห็นมี พี่-น้อง บางท่านบอกเราซื้อมือ 2 มา
เรียนคุณ nonarmy ยานเกราะยกพลคงเป็น AAVP-7A1 เหมือนเดิมครับ เพราะยังใช้งานได้ดี แค่ซ่อมบำรุง12จาก36 คัน เท่านั่น และยังใช้งานกันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ไม่ว่าจะUSA เกาหลีใต้ รวมถึงชาติอื่นๆ ยังไม่ล้าสมัย และยังไม่ใช่โครงการเร่งด่วนอะไรครับ ส่วน ฮ.ประจำเรือก็มีหลายแบบครับ หลักๆ คงเป็น 2 MH-60S ครับ แต่จริงๆแล้ว จะใช้ ฮ.อะไรก็ได้ครับ ทร.เรามีหลายแบบ ส่วน CVH-911 มีระวางขับน้ำปีมาณ 12000 ตัน (ตัวเลขกลมๆ) ไม่ใช่ 7600 ตัน ครับ ยินดีกับ ทร.ด้วยครับ
"เอาไว้รบกับเขมร แล้วมันจะเข้าปากแม่น้ำโขงได้ป่าวครับ ประเทศไทยจงเจริญ" ทำไมต้องเอาไปรบกับเขมรด้วยล่ะครับท่าน hukikada เราเอาไว้ป้องกันประเทศและช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่เหรอครับ ....ประเทศไทยจงเจริญ.....
ขอแสดงความยินดีกับ กองทัพเรือด้วยครับ
ไทยเราไม่ชอบรุกรานใครอยู่แว้ว....
ที่หน้าแปลกนั้นก็คือ ไม่มีประตูระบายพลทางด้านหน้าของเรือ และก็จะเป็นเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสาม ของกองทัพเรือ
ประตูระบายพลมันอยู่ด้านหลังครับด้านหน้ามันเป็นเเบบเก่าส่วนที่ใหญ่เป็นอันดับสามของทร.นั้นก็เพราะอันดับ1คือรล.จักรีนฤเบศร2รล.สิมิลันอันดับ3ก็คงเป็นรำนี้
ผิดงานแล้วมั้งครับ คุณ hukikada
เรียนท่าน nonarmy ร.ล. สิมิลัน เป็นอันดับ1 (22000ตัน) , ร.ล.จักรีฯ อันดับ2 (12000ตัน) ครับ
นอกจากรถ AAV ของ นย.แล้ว เรือลำนี้ออกแบบให้ใช้เรือระบายพลขนาดที่บรรทุกยานเกราะล้อยางยูเครนได้ เรือระบายพลที่ว่านี้ใช้ water jet วิ่งได้เร็วกว่า 20 นอต(เร็วกว่าเรือระบายพลรุ่นเก่ากว่า 2 เท่า)จึงไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้ฝั่งมาก (เรือไม่ได้ออกแบบให้เข้าใกล้ฝั่งเหมือนเรือ LST) เรือระบายพลจะต่อที่บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด หวังว่าลำต่อไปน่าจะต่อทั้งลำใหญ่ลำเล็กในประเทศได้
ที่เราไม่ใช้ประตูหัวเรือเพราะต้องสร้างท่าพิเศษให้ขนถ่ายแบบที่สิงคโปร์ทำ จึงปรับให้เป็นประตูข้างครับ
ดูไปแล้วน่าสงสารทหารที่จะประจำเรือลำนี้ ไม่ค่อยได้พักผ่อน เพราะจะต้องรับงานหนักแน่นอนเนื่องจาก ทร.คงต้องใช้เรือนี้ให้คุ้มค่าที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการฝึกหลักสูตรต่างๆ
ในที่สุดทร.ก็มียุทโธปกรณ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง ไล่ๆกับ JAS-39,SF340 AEW ของ ทอ. และรถเกราะBTR กับฮ.MI-17 ของ ทบ. เห็นแล้วชื่นใจจริงๆครับ
ในช่วงปี 54-55 นี่ ทร.คงได้ยุทโธปกรณ์ใหม่หลายอย่าง เช่น เรือ LPD ลำนี้ (คงจะขอพระราชทานชื่อ อ่างทอง แทนลำเก่าซึ่งเป็นเรือ LST) เรือ OPV ถ้าไม่มีปัญหาอะไรคงปล่อยลงน้ำปลายปีนี้ เช่นเดียวกับเรือ ตกฝ.ชุด 994-996 และฮ.ลำเลียงอีก 2 ลำก็คงมาถึงเร็วๆนี้เช่นกัน ยานใต้น้ำขนากเล็ก ก็ได้ทราบว่าลงน้ำไปทดลองแล้วครับ