หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เตือนภัย "เรื่องจริง กลับรถใต้สะพานต้องระวัง "

โดยคุณ : ลมหมุนวน เมื่อวันที่ : 23/03/2011 19:57:40

เผื่อเพื่อนผู้ใช่รถคนใดเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ก็ตั้งสติให้ดีนะครับ 



กลับรถใต้สะพานต้องระวัง โดยเฉพาะตอนกลางคืน

เรียนเพี่น้องทุกท่าน
สิ่งที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้  เป็นเรื่องที่น่าระทึก  ที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ   เชิญติดตามได้เลยครับ

เมื่อคืนวันพุธ  หลังจากได้นัดหมายแผนการทำงานกับทีมงาน และ แยกย้ายกันกลับบ้าน  ตัวผมแวะเลยไปส่งแฟนกลับบ้าน แล้วออกจากบ้านแฟนมาเวลาประมาณ 4 ทุ่ม
ขณะกลับรถใต้สะพานลอย  แถวพัฒนาการ-เทิดไท  มุงสู่ถนนเพชรเกษม-ราชพฤกษ์ เพื่อกลับบ้านบางใหญ่   
กลับรถ ตั้งลำสู่ทางตรง ยังไม่ทันเร่งความเร็วเลย  มีรถมอเตอร์ไซค์ ชะลอมาปาดหน้า  จอดรถขวาง  ชายคนหลังไม่สวมหมวกกันน๊อค เห็นหน้าได้ชัดเจน  เดินส่ายตรงมาที่รถผม   

“ ซวยแล้วกรู “  ความนึกคิดแบบนี้ ออกมาทันที  แล้วยื่นมือไป กด ล๊อคประตูทันที   
เหลือบสายตาไปที่กระจกมองหลัง    มีรถยนต์จอดต่อท้ายอย่างใกล้ชิด   ข่างประหลาดใจยิ่งนัก

“ คุณแน่นักเหรอ  ขับรถปาดหน้ากรู  คุณลงมาเลย “ ว่าแล้วก็กระชากประตู   

เหอะๆๆๆ  มุกหมาๆ  ดีนะที่รู้ทันล๊อคประตูไว้ก่อน    ผม แง้มกระจกลงนิดหน่อย  แล้วถามว่า
“ ผมปาดคุณที่ไหนเหรอ  ถนนมีช่องเดียวมาตลอดทาง “
“ คุณไม่ต้องพูดมาก  ลงมาพูดกับกรูให้รู้เรื่อง  นักเลงมากนะคุณเนีย “  สุภาพชนตะโกนมา พร้อมกระชากประตูรถอีกที
แล้วถอยหลังไปหน่อย  ถลกชายเสื้อ เพื่อจะคว้าปืนที่เอว

“ คุณท่าจะบ้านะ “  คือคำตอบสุดท้ายที่ผมสนทนาด้วย    แล้วปิดกระจก
เหยียบเบรก เหยียบคันเร่งเต็มที่   มอเตอร์ไซค์ที่ขวางหน้า เหมือนรู้ตัว คนขับเริ่มขยับรถออกด้านซ้าย   แล้วผมก็เคลื่อนออกมาอย่างช้าๆ  เมิ่อขับผ่านมอเตอร์ไซค์ ก็เหลือบมองกระจกมองหลัง   แล้วก็ขับรถกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย

ภาพที่ผมเห็นในกระจกมองหลังคือ แทนที่สุภาพชน จะวิ่งตามมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ตามหาเรื่องผมต่อ  กลับยืนคุยกับรถคันหลัง

ผมสรุปได้เลยว่า  มันวางแผนมาปล้นครับ
1.   ด้วยที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่กับแผนงาน  ผมรู้ตัวดีว่า ผมขับรถช้ากว่าปกติ  ไม่มีทางปาดหน้าใครแน่นอน ให้แซงตลอด อีกทั้งเป็นถนนเลนดียว เพื่อมุ่งสู่ที่กลับรถใต้สะพาน  ( เขาอาจจะคิดว่า คนขับเป็นผู้หญิง  เหยื่อที่หมายตาเนื่องจากมองจากระยะไกล เพราะผมขับช้าตราเต่าจริงๆ )
2.   เมื่อเพิ่งกลับรถ รถย่อมยังไม่มีความเร็ว เหมาะกับการปาดหน้าแล้วจอดขวาง  เพราะรถจะเบรกทัน  เขายังมีความปลอดภัย ลงมาเดินส่ายได้ต่อ
3.   รถที่ตามประกบหลัง มีประโยชน์มาก  คือ
3.1         หลอกลวงให้หลงผิด นึกว่ามีคนช่วย มีคนรู้เห็น
3.2         หากเขาสามารถเปิดประตูรถผมได้  คนในรถคันหลัง คงจะย้ายมารถผมแน่นอน
3.3          เขาจอดปิดท้ายผม  ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะถอยหลังหนี หรือ เพิ่มระยะทางเร่งความเร็วพุ่งชนได้เลย
4.   บ้านเมืองนี้  คนพกปืนขี่รถจักรยานยนต์กันเกลื่อนเมืองขนาดนั้นกันเลยหรือ  มีปัญหา( ที่สร้างขึ้นมาเอง ) นิดหน่อย ปืนพร้อมใช้งานทันที
5.   ผมคงไม่ใช่เป้าหมายโดยตรง  ทำงานอาจจะยากขึ้นหน่อย ไม่เสี่ยง เลยปล่อยผมออกมาอย่างลอยนวล

ที่บรรยายมานี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผม โดยที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นบนท้องถนนในตัวเมือง กทม.   
หากผมล๊อครถไม่ทัน อะไรจะเกิดขึ้น   
หากผมไม่กดคันเร่งจนมิด  เขาจะหลบมั๊ย   

หากผมขาดสติ  ตกใจเกินเหตุ  ผมคงไม่มีโอกาสมาเขียน mail ไม่มีโอกาสมาดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้กับทีมงานในวันนี้ ก็เป็นได้   

ขอบคุณทุกท่าน ที่ได้อ่านจนถึงบรรทัดนี้   ที่เล่ามาทั้งหมด เผื่อจะเป็นประโยชน์ในยามคับขันที่อาจจะเกิดขึ้นกับได้
ขอให้สิ่งศักด์สิทธิ์  ที่ทุกท่านนับถือ  จงบันดาลให้เรื่องแบบนี้ อย่าเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก คนที่เรารู้จักเลยครับ

ที่มา  http://webboard.sanook.com/forum/3389875_เรื่องจริง_กลับรถใต้สะพานต้องระวัง.html

เป็นFWDที่ค่อนข้างจะมีสาระน่ะครับเลยนำมาลงให้อ่าน





ความคิดเห็นที่ 1


ถ้าพกปืนไปฟาดสักเม็ดสองเม็ดน่าจะเข็ด

โดยคุณ MALEz เมื่อวันที่ 21/03/2011 03:13:22


ความคิดเห็นที่ 2


อืม...อุทาหรณ์สอนใจ-เตือนใจ ได้ดีครับ

โดยคุณ seetha456 เมื่อวันที่ 21/03/2011 06:40:20


ความคิดเห็นที่ 3


ขอชื่นชมในการควบคุม สติ ครับ ใครเจอครั้งแรกถ้าไม่รู้ทันอาจตกเป็นเหยื่อก็ได้นะครับ

แถวพัฒนาการเด็กแว๊นเยอะครับ(เพราะผมอยู่พัฒนาการ)แถนนี้ สลัม เยอะครับ อาชญากรเลยเยอะตามไปด้วย

เจ้าหน้าที่ควรจะกวดขันกันให้มากกว่านี้นะครับ เด็กแว๊นเกลื่อนเมืองไปหมด สร้าความเดือดร้อนมาไม่รู้เท่าไรแล้ว..

โดยคุณ smoke2joice เมื่อวันที่ 21/03/2011 16:08:05


ความคิดเห็นที่ 4


คุณ MALEz ผมเป็นคนเล่นปืนคนนึง (ไม่ใช่บีบีกันนะ)

จุดจบของการใช้ปืน จะอยู่ที่ 3 แห่ง

1. โรงพัก

2. โรงพยาบาล

3. โลงศพ

ดังนั้นปืนจึงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะใช้

แต่รูปแบบการใช้ปืนของผมเป็นแค่การขู่ ลูกซองยิงขู่คนมาขโมยเงาะ ยิงขึ้นฟ้า ใช้ลูกปรายยิงนก ใส่ยอดต้นเงาะใก้ลๆกับต้นที่คนร้ายกำลังขโมยอยู่ โป้งเดียว วิ่งหมดเลยของก็ทิ้งไว้ไม่เอาไปด้วย

ล่าสุดขู่กระรอก เข้ามาแทะผลไม้ในสวน เจอกระบอกไม้ไผ่ เจาะรู ใส่แก๊สก้อน หยอดน้ำ จุดตูมเข้าให้ เล่นเอากระรอกตกใจขนาดตกต้นไม้เลย

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 21/03/2011 23:22:07


ความคิดเห็นที่ 5


ท่านน่าคิดครับ

ถ้าเหตุการณ์ เป็นแบบนั้น  ฝ่ายตรงข้าม คว้าเอวจะชักปืนขู่  เป็น ผมก็ คงต้อง..ชิงเป็นฝ่ายลงมือก่อนแล้วหละครับ....

 

เรื่องอื่นว่ากันทีหลังแล้วหละครับ   เอาชีวิต รอดไว้ก่อนหละครับ....

โดยคุณ CAPT.TOM เมื่อวันที่ 23/03/2011 08:57:40