เผื่อเพื่อนผู้ใช่รถคนใดเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ก็ตั้งสติให้ดีนะครับ
กลับรถใต้สะพานต้องระวัง โดยเฉพาะตอนกลางคืน
เรียนเพี่น้องทุกท่าน
สิ่งที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ เป็นเรื่องที่น่าระทึก ที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ เชิญติดตามได้เลยครับ
เมื่อคืนวันพุธ หลังจากได้นัดหมายแผนการทำงานกับทีมงาน และ แยกย้ายกันกลับบ้าน ตัวผมแวะเลยไปส่งแฟนกลับบ้าน แล้วออกจากบ้านแฟนมาเวลาประมาณ 4 ทุ่ม
ขณะกลับรถใต้สะพานลอย แถวพัฒนาการ-เทิดไท มุงสู่ถนนเพชรเกษม-ราชพฤกษ์ เพื่อกลับบ้านบางใหญ่
กลับรถ ตั้งลำสู่ทางตรง ยังไม่ทันเร่งความเร็วเลย มีรถมอเตอร์ไซค์ ชะลอมาปาดหน้า จอดรถขวาง ชายคนหลังไม่สวมหมวกกันน๊อค เห็นหน้าได้ชัดเจน เดินส่ายตรงมาที่รถผม
“ ซวยแล้วกรู “ ความนึกคิดแบบนี้ ออกมาทันที แล้วยื่นมือไป กด ล๊อคประตูทันที
เหลือบสายตาไปที่กระจกมองหลัง มีรถยนต์จอดต่อท้ายอย่างใกล้ชิด ข่างประหลาดใจยิ่งนัก
“ คุณแน่นักเหรอ ขับรถปาดหน้ากรู คุณลงมาเลย “ ว่าแล้วก็กระชากประตู
เหอะๆๆๆ มุกหมาๆ ดีนะที่รู้ทันล๊อคประตูไว้ก่อน ผม แง้มกระจกลงนิดหน่อย แล้วถามว่า
“ ผมปาดคุณที่ไหนเหรอ ถนนมีช่องเดียวมาตลอดทาง “
“ คุณไม่ต้องพูดมาก ลงมาพูดกับกรูให้รู้เรื่อง นักเลงมากนะคุณเนีย “ สุภาพชนตะโกนมา พร้อมกระชากประตูรถอีกที
แล้วถอยหลังไปหน่อย ถลกชายเสื้อ เพื่อจะคว้าปืนที่เอว
“ คุณท่าจะบ้านะ “ คือคำตอบสุดท้ายที่ผมสนทนาด้วย แล้วปิดกระจก
เหยียบเบรก เหยียบคันเร่งเต็มที่ มอเตอร์ไซค์ที่ขวางหน้า เหมือนรู้ตัว คนขับเริ่มขยับรถออกด้านซ้าย แล้วผมก็เคลื่อนออกมาอย่างช้าๆ เมิ่อขับผ่านมอเตอร์ไซค์ ก็เหลือบมองกระจกมองหลัง แล้วก็ขับรถกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ภาพที่ผมเห็นในกระจกมองหลังคือ แทนที่สุภาพชน จะวิ่งตามมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ตามหาเรื่องผมต่อ กลับยืนคุยกับรถคันหลัง
ผมสรุปได้เลยว่า มันวางแผนมาปล้นครับ
1. ด้วยที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่กับแผนงาน ผมรู้ตัวดีว่า ผมขับรถช้ากว่าปกติ ไม่มีทางปาดหน้าใครแน่นอน ให้แซงตลอด อีกทั้งเป็นถนนเลนดียว เพื่อมุ่งสู่ที่กลับรถใต้สะพาน ( เขาอาจจะคิดว่า คนขับเป็นผู้หญิง เหยื่อที่หมายตาเนื่องจากมองจากระยะไกล เพราะผมขับช้าตราเต่าจริงๆ )
2. เมื่อเพิ่งกลับรถ รถย่อมยังไม่มีความเร็ว เหมาะกับการปาดหน้าแล้วจอดขวาง เพราะรถจะเบรกทัน เขายังมีความปลอดภัย ลงมาเดินส่ายได้ต่อ
3. รถที่ตามประกบหลัง มีประโยชน์มาก คือ
3.1 หลอกลวงให้หลงผิด นึกว่ามีคนช่วย มีคนรู้เห็น
3.2 หากเขาสามารถเปิดประตูรถผมได้ คนในรถคันหลัง คงจะย้ายมารถผมแน่นอน
3.3 เขาจอดปิดท้ายผม ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะถอยหลังหนี หรือ เพิ่มระยะทางเร่งความเร็วพุ่งชนได้เลย
4. บ้านเมืองนี้ คนพกปืนขี่รถจักรยานยนต์กันเกลื่อนเมืองขนาดนั้นกันเลยหรือ มีปัญหา( ที่สร้างขึ้นมาเอง ) นิดหน่อย ปืนพร้อมใช้งานทันที
5. ผมคงไม่ใช่เป้าหมายโดยตรง ทำงานอาจจะยากขึ้นหน่อย ไม่เสี่ยง เลยปล่อยผมออกมาอย่างลอยนวล
ที่บรรยายมานี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผม โดยที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นบนท้องถนนในตัวเมือง กทม.
หากผมล๊อครถไม่ทัน อะไรจะเกิดขึ้น
หากผมไม่กดคันเร่งจนมิด เขาจะหลบมั๊ย
หากผมขาดสติ ตกใจเกินเหตุ ผมคงไม่มีโอกาสมาเขียน mail ไม่มีโอกาสมาดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้กับทีมงานในวันนี้ ก็เป็นได้
ขอบคุณทุกท่าน ที่ได้อ่านจนถึงบรรทัดนี้ ที่เล่ามาทั้งหมด เผื่อจะเป็นประโยชน์ในยามคับขันที่อาจจะเกิดขึ้นกับได้
ขอให้สิ่งศักด์สิทธิ์ ที่ทุกท่านนับถือ จงบันดาลให้เรื่องแบบนี้ อย่าเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก คนที่เรารู้จักเลยครับ
ที่มา http://webboard.sanook.com/forum/3389875_เรื่องจริง_กลับรถใต้สะพานต้องระวัง.html
เป็นFWDที่ค่อนข้างจะมีสาระน่ะครับเลยนำมาลงให้อ่าน
ถ้าพกปืนไปฟาดสักเม็ดสองเม็ดน่าจะเข็ด
อืม...อุทาหรณ์สอนใจ-เตือนใจ ได้ดีครับ
ขอชื่นชมในการควบคุม สติ ครับ ใครเจอครั้งแรกถ้าไม่รู้ทันอาจตกเป็นเหยื่อก็ได้นะครับ
แถวพัฒนาการเด็กแว๊นเยอะครับ(เพราะผมอยู่พัฒนาการ)แถนนี้ สลัม เยอะครับ อาชญากรเลยเยอะตามไปด้วย
เจ้าหน้าที่ควรจะกวดขันกันให้มากกว่านี้นะครับ เด็กแว๊นเกลื่อนเมืองไปหมด สร้าความเดือดร้อนมาไม่รู้เท่าไรแล้ว..
คุณ MALEz ผมเป็นคนเล่นปืนคนนึง (ไม่ใช่บีบีกันนะ)
จุดจบของการใช้ปืน จะอยู่ที่ 3 แห่ง
1. โรงพัก
2. โรงพยาบาล
3. โลงศพ
ดังนั้นปืนจึงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะใช้
แต่รูปแบบการใช้ปืนของผมเป็นแค่การขู่ ลูกซองยิงขู่คนมาขโมยเงาะ ยิงขึ้นฟ้า ใช้ลูกปรายยิงนก ใส่ยอดต้นเงาะใก้ลๆกับต้นที่คนร้ายกำลังขโมยอยู่ โป้งเดียว วิ่งหมดเลยของก็ทิ้งไว้ไม่เอาไปด้วย
ล่าสุดขู่กระรอก เข้ามาแทะผลไม้ในสวน เจอกระบอกไม้ไผ่ เจาะรู ใส่แก๊สก้อน หยอดน้ำ จุดตูมเข้าให้ เล่นเอากระรอกตกใจขนาดตกต้นไม้เลย
ท่านน่าคิดครับ
ถ้าเหตุการณ์ เป็นแบบนั้น ฝ่ายตรงข้าม คว้าเอวจะชักปืนขู่ เป็น ผมก็ คงต้อง..ชิงเป็นฝ่ายลงมือก่อนแล้วหละครับ....
เรื่องอื่นว่ากันทีหลังแล้วหละครับ เอาชีวิต รอดไว้ก่อนหละครับ....