ข้อมูลลิ้งค์ข้างล่างก็มีตั้งหลายกระทู้นิ U206A 6 ลำ

เเต่ระบบอาวุธไม่รู้อร้าาาาาาาาาาา

น่าจะเลือก Amur-950 สักลำยังจะดีเสียกว่า

ดีกว่าเป็นเป้าล่อตั้ง4-6ลำ ข้อมูลเสียงของ 206a เนี่ยคงอยู่ในฐานข้อมูลเสียงเรือรุ่นใหม่ๆกันทั้งนั้นแล้วล่ะเนี่ย สมัยนี้ไม่ใด้มานั่งปรับทิศฟังเสียงเหมือนสงครามโลก มีระบบคอมข้อมูลเทียบเคียงเสียง คอยช่วยฝ่ายโซน่าห์ ให้ง่ายขึ้นอีกเยอะ

สลับสับเปลี่ยนกันฝึกยังจะมีความกะตือรือร้นมากกว่า เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเทคโลโลยีใหม่ๆยังจะดีกว่า

งบไม่พอก็รออีกสักหน่อย ความคุ้มค่ามันจะมีมากกว่ากันเยอะเลย

ขออนุญาติตอบกระทู้ข้างต้นครับ

1. การที่จะซื้อเรือ รู้ยุทโธปกรณ์ ต่างๆ ต้องคำนึงถึง วงรอบการซ่อมทำและดูแลรักษา ถ้า ทร.ต้องการให้มีเรือ ดำน้ำ ใช้ตลอด 2 ลำ จะต้อง มีทั้งหมดถึงหกลำ คือ เข้าอุ่แห้งสองลำ และ เตรียมซ่อม สองลำ สองลำที่เตรียมนี้ พร้อมออกได้ภ้าฉุกเฉิน จะเห็นได้จาก การซื้อเรือ ต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีหกลำ เช่นชั้น formidable และ tiger ของสิงค์โปร แต่เรามีงบจำกัด จึงได้แค่สาม เช่นชุด ชลบรี หรือ สอง เช่นชุดปัตตานี

2.เทคโนโลยีใหม่ๆ ถ้ามีเรือวันนี้ กำลังพลก็พร้อมใช้งาน แต่ ยุทธวิธี และความคุ้นเคย ต้องใช้เวลา

3. เทคโนโลยี แค่ทำให้งาย ความรู้พื้นฐานต้องแน่น ซึ่ง 206 นั้น จะมาเป็นเรือครู ให้กับทหารเรือ ซึ่งเรือที่ได้มา มีระบบศูนย์ยุทธการแน่นอน

 ขอบคุณครับ

Amur-950  ฝันสลายเลยเรา

ขอถามหน่อยครับ งบ 7,700 ล้านบาท ซื้อ Amur-950 ได้กี่ลำครับ ^^

ทร.คิดถูกแล้ว และจะเป้นการเริ่มต้นอันแสนดีๆ

ก็ขอถามต่อ เรา ไม่ใด้มีเรือดำน้ำมานานเท่าไหร่แล้ว 5ปี/10ปี/20ปี/30ปี...? - -?

จะยืดเวลาออกอีกไม่ใด้เชียวหรือ

อย่างน้อยสามารถปฏิบัติงานการสงครามใด้จริง ถึงจะคุ้มค่า...กับเงิน..

ของเก่า..มาก ก็มีโอกาสเสี่ยง/ชำรุดในด้านอุปกรณ์ต่างๆ สูงถึงจะมีการปรับปรุงก็เถอะครับ

แต่ในเมื่อตัดสินใจไปแล้ว ก็มีเพียงแค่รอดูต่อไป (เพราะเราๆท่านๆเป็นเพียงผู้ชม..)

มีท่านใดชอบ รถเก่าปี1975บ้าง(สีโป้(ลีน่า) ค่อนข้างหนานะครับ)

หรือจะเลือก รถเก่าปี2000ดี

ตามกระทู้นี้เลยครับ

http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=13118&topic=เรือดำน้ำกองทัพเรือ???&PHPSESSID=517f3fe28b8bb68bce4378eb9e1b5203

http://www.defenseindustrydaily.com/

ถามแฟนหงส์ครับไม่ได้แชมป์มายี่สิบแล้วอยากจะรอต่อมั๊ย(จริงๆก็ไม่อยากครับแต่มันจนใจถามเองตอบเองT_T)

เท่าที่ดุการจัดงบแล้วมันผูกพันแค่ไม่กี่ปีผมคิดว่าอีกซักห้าปี ทร น่าจะมีโครงการจัดซื้อของใหม่มาเพิ่มนะครับ อันนี้ก็คงใช้ฝึกเบื้องต้นไปก่อน อีกอย่างถ้าซื้อของใหม่ตอนนี้ก็คงอีกหลายปีกว่าจะได้ประจำการ(พอดีทหารที่ฝึกไว้คงเกษียนก่อนมีโอกาสใช้จริงฮ่าๆ)แต่ผมว่าของเก่าก็มีข้อดีหลายอย่าง

ข้อแรก ได้เรียนรู้เทคโนโลยีเบื้องต้น ซึ่งเรายังไม่มี(หรือลืมไปแล้ว)เบสิคดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

สอง หากมันเสียบ่อยจริงช่างเราก็มีโอกาสซ่อมบ่อยจะได้เป็นเร็วอิๆ จริงๆอันนี้สำคัญนะครับเพราะถึงจะเป็นของเก่าแต่คนขายเค้าคงไม่ปล่อยใหพังง่ายๆหรอกไม่งั้นเสียชื่อเยอรมันหมด

อีกอย่างผมว่า ทร น่าจะหวังถึง การจัดสร้างพื้นฐานซะมากกว่า ทั้งพวกอู่ซ่อม จอดเก็บอะไรประมาณนี้ นอกจากเรือที่มีใช้แน่ๆ ที่สำคัญคือการขออนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่ม ที่แต่เดิมเราไม่มีกองเรือดำน้ำจะของบมาก็ลำบากแต่พอมีแล้วจะได้ของบได้คือยังก็เป็นงบประมาณประจำปีในกองทัพ ทั้งหมดนี่เหตุผลส่วนตัวล้วนๆครับ

เห็นด้วยครับ ที่ ทร. จะซื้อ 6 U209As มาใช้ฝึก และป้องกันประเทศก่อน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความชำนาญ หลังจากนั่น 4-5ปี ค่อยถอยป้ายแดงแรงๆ 1-2 ลำ ตามแผนต่อไป การที่เรา (อาจจะ) ได้ 6 U206As (ที่ได้รับการซ่อมและปรับปรุงมาบ้าง ไม่มากก็น้อย) นอกจากจะได้ใช้ฝึกแล้ว ผมยังมั่นใจว่า ยังสามารถใช้ในการป้องกันประเทศได้อย่างดี เพราะเมื่อประเทศในภูมิภาคทราบข่าวนี้ คงไม่มีใครกล้าสุ่มสี่สุ่มห้าทำสงครามใต้น้ำกับเราแน่นอนครับ และจากการที่ได้หาข้อมูลเรือ ด. ดังกล่าวแล้ว ความสามารถก็ใช่ย่อยนะครับ หากทำการปรับปรุงเครื่องยนต์ ซ่อมตัวเรือบางส่วน อัพเกรดระบบตรวจจับ และศูนย์ยุทธการให้ทันสมัย ก็คงพอป้องกันประเทศได้อย่างน้อย10-15ปี แน่นอน มั่นใจ

ถึงคุณๆทุกท่าน ช่วงที่เราไม่มีเรือดำน้ำคุณรู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น

ทางกองทัพเรือได้รับแจ้งจากชาวประมง และทางแท่นขุดเจาะน้ำมัน ว่าได้พบเห็นกล้องส่องผิวน้ำของเรือดำน้ำ ในบริเวรน่านน้ำไทยหลายครั้ง แล้วจะให้เรานั่งอยู่เฉยๆ หรอครับ ถ้าเราไม่เริ่มตอนนี้ แล้วจะเริ่มตอนไหนครับ  ถึงเราจะมีเครื่องบินและเรือปราบเรือดำน้ำก็จริงแต่ มันก็ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่เท่าไรพร้อมหรือยังที่จะให้เพื่อนบ้านเกรงใจเราบ้าง จะให้รอต่อไปยังไงงบมันก็มาไม่ถึงเรือดำน้ำหรอกครับ ถ้าเราไม่เริ่มซ่ะตั้งแต่ตอนนี้

ถึงว่ามนุษย์กบชอบไปดำน้ำแถวแท่นขุดเจาะ

ก็ชาวบ้านชาวประมง นี่ล่ะครับ เห็นมังกรเห็นพยานาค กันมานานแล้ว

ก็ไม่แปลกที่จะใด้เห็น ..กล้องเรือดำน้ำมานาน..มากเช่นกัน(หรือขวดแม่โขงลอยน้ำ)

ไม่ว่ากันอยู่แล้วนะ เราๆท่านๆมีหน้าที่เสียภาษีเพื่อให้ผู้รับผิดชอบนำไปใช้...ให้คุ้มค่า

และที่สำคัญคือ ผู้ใต้บังคับบัญชามีความปลอดภัยสูงกับสิ่งของที่ใด้มาฝึกฝนทักษะก็เพียงพอแล้ว

หวังว่ารัฐบาลต่อไป คงสนับสนุนกองทัพดั่งเช่น4-5ปีนี้ที่ผ่านมา

ขอตอบท่าน MALEz มนุษย์กบ หรือเต่าตะนุหงายหลังว่ายบนผิวน้ำกันแน่ครับ ที่โผล่พ้นน้ำอาจเป็น หางเต่าไม่ก็ หัวเต่าก็ใด้นะครับ

อย่าซีเรียสกันนะครับ แลกเปลี่ยนความคิดสนุกๆกันเท่านั้น

เพราะอย่างไร ผู้รับผิดชอบระดับสูงเท่านั้นถึงมีอำนาจตัดสิน มิใช่เราหรือท่านๆในที่นี้

ถึงคุณ spooky..

เป็นความจริงหรอครับ...แน่ชัดมากแค่ไหนข่าวได้กรองแล้วหรือยังครับ..แล้วท่านรู้ได้ยังไง

คือไม่ได้พาดพิงนะครับ...แต่อยากทราบว่าเป็นวคามจริงไหม ถ้าเป็นความจริงคงจะน่ากลัวเอาการเหมือนกัน..ทัพเรือเค้าคงไม่อยู่นิ่งเฉยแน่ๆ... จัดเรือดำน้ำไปก็ดี

ว่าแต่มันยิง ขีปนาวุธ จากเรือได้รึเปล่าครับ ไหนๆก็จะได้มาแล้วเลยอยากทราบครับ

7,700ล้าน ใช้ได้ประมาณ 10 ปี ก็คิดว่าคุ้มนะครับตกปีละไม่ถึง 1,000ล้าน แลกกับการเริ่มต้นของอาวุธชนิดนี้ เก่าหรือใหม่ถ้ารู้จักการเอามาใช้งานอย่างถูกต้องและมีความชำนาญมันก็น่ากลัวอยู่เหมือนกัน มีคมกริบกับมีดสนิมเคลาะ มันก็น่ากลัวกันทั้งนั้นใช่ไหมครับ

ถ้าจำไม่ผิดผมอ่านเจอใน เว็ปของกองทัพเรือนี้แหละครับ เดี๋ยวหาลิ้งมาให้ดูครับ

ขอแสดงความยินดีกับกองทัพเรือด้วยครับ

เบสิคสตาร์ทสำคัญที่สุด

ใช่ครับเหมือนมีดมีสนิม แต่โดนบาดทะยักแ-ก ตาย 555

เรือดำน้ำ U206A นั้นสามารถใช้ตอร์ปิโดนำวิถีขนาด 533 มม. DM2A3 ได้ แต่ไม่มีขีดความสามารถในการยิง ขีปนาวุธ ครับและคาดว่ากองทัพเรือคงไม่มีการปรับปรุงเพื่อให้ยิงจรวดนำวิถีเพราะเรือมีอายุมากแล้ว การปรับปรุงคงไม่คุ้มค่า แต่แค่นี้ก็น่ากลัวในอ่าวไทยแล้วอีกทั้งเรือรุ่นนี้ถูกออกแบบให้ปฏิบัติภารกิจได้ดีในน้ำลึก 20 เมตร ซึ่งอ่าวไทยลึกเฉลี่ย 30 เมตร

ในอนาตค คงได้ลุ้น  เรือดำน้ำ มือหนึ่ง จาก เยอรมัน ว่าจะได้กี่ลำ ใช้ฝึก กับซ่อมบำรุงของเยอรมัน แล้ว พอ ซื้อมาใช้จริงไปเอาของ ยี่ห้อ อื่น คงลำบากผู้ปฎิบัติงาน

คงเหมือน คน ที่ขับรถไม่เป็น ต้องขับรถไปทำงาน แต่เงินไม่พอซื้อรถใหม่ เลย ซื้อมือ 2 นี่เล่น BMW รุ่นเก๋ากึก ซะ   แต่พอขับคล่อง อีก 4-5 ปี คงต้องถอย ซีรี่ 7 แน่ๆ

เรื่องนี้จริงๆแล้ว ครม.ยังไม่ได้อนุมัติเลยครับ สงสัยเป็นเพราะเรือดำน้ำโผล่ขึ้นมา(แค่นิดเดียว)เลยเป็นข่าวใหญ่ ดำน้ำมาอยู่ตั้งนานแล้วครับตามแบบทหารเรือ ก็คงมีคนเห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง ท่านอาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข ให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วย บอกว่า เศรษฐกิจยังไม่ดี เรือดำน้ำต้องใช้เงินมากต้องคิดถึงการซ่อมบำรุงด้วย และว่าประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องมี แถมยังกล่าวหาว่า รัฐบาลกำลังเอาใจทหารเพื่อผลในการเลือกตั้ง (บางกอกโพสท์ วันนี้) ผมอ่านแล้วก็มีคำถามว่า เมื่อไรเศรษฐกิจไทยจะดี (จะต้องรอจนกัมพูชามีก่อนหรืออย่างไร) เรื่องค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงไม่ว่าเรืออะไรก็ต้องมี ทร.จึงตกลงใจซื้อเรือเก่าที่ในช่วง 10ปีไม่ต้องทำอะไรใหญ่อีกแล้ว ไม่ใช่เศษเหล็กเอามาซ่อม เพราะเยอรมันจะใช้ไปอีก 5 ปี แต่จำเป็นต้องปลดก่อน เรือจึงอยู่ในสภาพพร้อมใช้ แต่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับลำที่ใกล้หมดอายุให้ต่ออายุไปได้อีก 10 ปี ส่วนลำที่เหลือเพิ่งเปลี่ยนไป  เครื่องควบคุมการยิง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้รับการปรับปรุงมาแล้วในช่วงปี 1990+ อาวุธก็ได้มาทั้งหมด ทร.คงไม่บอกว่าได้ตอร์ปิโดมากี่ลูก (คงบอกได้กับครม.)เพราะฉะนั้นจะว่ามาฝึกดำเล่นก็คงไม่ใช่ แต่ใช้รบจริงได้ หรือถ้าจะเอา Mine Belt (ไม่ทราบว่าเอามาหรือไม่ เรือรุ่นนี้สามารถเอาคอนเทนเนอร์บรรจุทุ่นระเบิดอิทธิพลคาดไปบนลำตัวเรือได้ 24 ลูก) ก็สามารถวางทุ่นระเบิดได้ดวย ราคาเรือแท้ๆเป็นเหมือน อัลฟ่าเจต คือเป็นส่วนน้อยมากของวงเงิน ราคาจริงมาจากค่าปรับปรุงเรือให้ใช้ในเขตร้อน ค่าเปลี่ยนแบต ค่าฝึกอบรม ขนส่งเรือ ฯลฯ มากกว่า 

เวลาทบ.ขอตั้ง พล.ร.7 กับ พล.ม.3 ซึ่งเต็มโครงการ แสนกว่าล้าน แค่ตั้งโครง กองพลเดียว สามพันล้าน(ไม่มีอาวุธ) อาจารย์สุรชาติไม่เห็นออกมาคัดค้าน (เห็นมีแต่ website/blog ของคุณ skyman เท่านั้นที่ออกมาวิจารณ์อย่างเปิดเผย) สงสัยจะเป็นเพราะ ทร.ไม่มี Power อะไร และไม่ค่อยเข้าไปยุ่งกับการเมือง ก็เลยวิจารณ์ได้

สำหรับท่านที่เชียร์ให้ซื้อเรือใหม่ก็เห็นด้วยแต่แค่ซื้อเท่านี้ก็ยังมีคนต่อต้านเยอะ ซื้อ50,000 ล้านสงสัยตกไปตั้งแต่ยกแรก

คุณ โย่ง ครับ มันโดนครับ โดนใจจริงๆ

บิ๊กทร.ถกสุเทพก่อนชงจัดซื้อ"เรือดำน้ำ"6ลำ

• ภาพประกอบข่าว

คมชัดลึก : บิ๊กทร.ถก "สุเทพ" เล็งชงจัดซื้อ "เรือดำน้ำ" 6 ลำ วงเงิน 7.5 พันล้านบาทเข้าครม.ชี้รอบบ้านมีเรือดำน้ำหมดแล้ว เผยเป็น"มือสอง"อายุ 30 กว่าปี ปรับสภาพแล้วใช้ได้อีก 10 ปี แบ่งเป็นงบซื้อ 1.7-1.8 พันล. งบซ่อม-อัพเกรดอีก 5 พันกว่าล.

(28มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าวว่า กองทัพเรือ(ทร.) เตรียมเสนอโครงการจัดซื้อจัดหาเรือดำน้ำ จำนวน 6 ลำ ภายใต้วงเงินงบประมาณ 7,500 ล้านบาท จากกองทัพเรือประเทศเยอรมนี โดยมีรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่ได้เดินทางเข้าพบหารือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง พร้อมกับนำโปรเจ็คการจัดซื้อขัดหาเรือดำน้ำเข้าหารือ โดยได้ชี้แจงว่า ทร.ไทยมีความต้องการจัดหาได้เรือดำน้ำเข้าประจำการ เนื่องจากประเมินสถานการณ์ภัยคุกคามในประเทศรอบบ้านพบว่ามีปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะทางทะเล ซึ่งขณะนี้รอบบ้านมีเรือดำน้ำหมดอล้ว หากไทยไม่มีเกรงว่าจะไม่สามารถดูแลรักษาอธิปไตยได้เต็มที่

 รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายทหารเรือระดับสูงอธิบายเหตุผลความจำเป็นที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำว่า ขณะนี้กองทัพอากาศ(ทอ.) มีเครื่องบินขับไล่รุ่น "กริพเพน" แล้ว ส่วนกองทัพบก(ทบ.) ก็มีการจัดซื้อรถหุ้มเกราะยูเครน และเฮลิคอปเตอร์(ฮ.) รุ่น MI-17 จากประเทศรัสเซีย ทร.จึงมีแนวความคิดที่จะจัดหาเรือดำน้ำเพื่อ ปฏิบัติภารกิจร่วมกับเหล่าทัพอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับเครื่องบินกริพเพน เบื้องต้น ในการพูดคุยกับนายสุเทพได้มีการนำเสนอโคงการจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติ

 รายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า ในการจัดซื้อยังไม่มีความชัดเจนว่า จะใช้งบประมาณผูกพันระยะยาวหรือไม่ โดยเบื้องต้น เป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะใช้งบประมาณในส่วนของ ทร.เอง โดยปรับเกลี่ยจากงบประมาณปี 2555 หลังจากครม.อนุมัติวงเงินงบประมาณปี 2555 ให้ทร.ประมาณ 34,932.1 ล้านบาท ขณะนี้ได้ทำแผนจัดซื้อเบื้องต้นเสนอไปยัง พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตามแผนพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ ขณะที่การเสนอต่อครม.เป็นการขอเพื่อให้อนุมัติในหลักการก่อน

 รายงานข่าวเปิดเผยว่า งบประมาณปี 2555 ในส่วนกระทรวงกลาโหม ผ่านการอนุมัติแล้วด้วยวงเงินงบประมาณ 177,480 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทัพบก 86,663.4 ล้านบาท กองทัพเรือ 34,932.1 ล้านบาท กองทัพอากาศ 33,684.1 ล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทย 14,156.3 ล้านบาท สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 6,290.9 ล้านบาท กรมราชองครักษ์ 699.98 ล้านบาท สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม 1053 ล้านบาท โดยงบประมาณในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปี 2554 จำนวน 5.3% หรือ 8,978.7 ล้านบาท

 แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพ ระบุถึงเหตุผลการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า ขณะนี้ ทร.ได้มีการประเมินสถานการณ์รอบด้าน โดยเฉพาะความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งกับหลายประเทศรอบบ้าน ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน ซึ่งหากมีปัญหากระทบกระทั่งกัน และมีการเรือดำน้ำมาเข้ามาปิดน่านน้ำ ฝ่ายไทยเองก็จะไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะในปฏิบัติการด้านความมั่นคง เมื่อเขามีเรือดำน้ำเราก็ต้องมีเรือดำน้ำ เพื่อดูแลให้เกิดความเท่าเทียมกันกัน ซึ่งขณะนี้ประเทศรอบบ้านมีเรือดำน้ำไว้รักษาอธิปไตยหมดแล้ว ส่วนพม่าก็เตรียมรับจากจีนเร็วๆนี้เช่นกัน

 แหล่งข่าวคนเดิม ระบุว่า การดำเนินการขออนุมัติจาก ครม.ขณะนี้เป็นขออนุมัติในหลักการเท่านั้น จากนั้นทร.จะทำการปรับเกลี่ยงบประมาณที่ได้รับให้มีความเหมาะสมเพื่อไม่ให้ เกิดผลกระทบกับงบประมาณของประเทศระยะยาวต่อไป ซึ่งการจัดซื้อยังไม่มีความชัดเจนว่า เพราะในการจัดซื้อจะต้องรอดูว่าจะได้เฉพาะตัวเรือ หรือระบบอาวุธภายในด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องพูดคุยกันในรายละเอียดต่อไป

 ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงอีกรายให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในการจัดซื้อเรือดำน้ำครั้ง นี้ จำนวน 6 ลำ แบ่งเป็นเรือพร้อมใช้ 4 ลำ และเรือที่ต้องปรับปรุงซ่อมแซมอีก 2 ลำ อย่างไรก็ตาม เรือพร้อมใช้ทั้ง 4 ลำ ยังไม่ได้พร้อมใช้ในทันที ต้องปรับปรุงซ่อมแซมเพิ่มเติมอีกบางส่วน ขณะที่อีก 2 ลำที่เหลือต้องปรับปรุงซ่อมแซมขนานใหญ่ โดยทร.เสนอจัดซื้อเป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี 2554-58 โดยแบ่งบัญชีออกเป็น 2 ส่วน คือ งบจัดซื้อ จำนวน 1,700-1,800 ล้านบาท ส่วนงบที่เหลืออีก 5,000 กว่าล้านบาทเป็นงบซ่อมแซม และจัดซื้อจัดหาอะไหล่เพิ่มเติม

 แหล่งข่าวรายนี้เผยอีกว่า เรือดำน้ำรุ่น ดังกล่าวใช้วัสดุที่สามารถป้องกันทุ่นระเบิด และสามารถสะท้อนรังสีแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การปฏิบัติการในทะเลไทย ซึ่งมีระยะทางไม่ไกล และระดับน้ำไม่ลึก ส่วนที่มาในการจัดซื้อ เนื่องจากกองทัพเรือเยอมันต้องการต่อเรือดำน้ำรุ่นใหม่ แต่ทางรัฐบาลเยอรมันแนะว่า ควรขายเรือดำน้ำรุ่น เก่าที่ประจำการมานานออกไปก่อนเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ เมื่อกองทัพเรือไทยทราบข่าวจึงเกิดความต้องการที่จะจัดซื้อ เพราะอยู่ในวงเงินงบประมาณที่สามารถจัดหาได้ทั้งนี้ สำหรับเรือดำน้ำรุ่น นี้มีอายุการใช้งานมาแล้ว 30 กว่าปี เมื่อปรับสภาพแล้วจะสามารถใช้ได้อีกประมาณ 10 ปี ซึ่งมาพร้อมกับระบบอาวุธ เช่น ตอร์ปิโด เป็นต้น

 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำของ กองทัพเรือมีการเสนอแผนความต้องการมานานหลายสิบปี แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากทุกรัฐบาล เนื่องจากใช้งบประมาณในการจัดซื้อมหาศาล โดยในอดีตมีการเสนอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจาก ประเทศสวีเดน แต่ก็ต้องพับโครงการไป เนื่องจากมีสนนราคา 20,00-30,000 ล้านบาทต่อลำ รวมแล้ว 2 ลำเป็นเงินสูงกว่า 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่เรือดำน้ำจาก ประเทศชั้นนำ เช่น เยอรมนี สวีเดน รัสเซีย ฝรั่งเศส ฯลฯ ก็ล้วนแต่มีราคาสูงถึงลำละ 1,000 ล้านเหรียญหรือ 30,000 กว่าล้านบาททั้งสิ้น

http://www.komchadluek.net/detail/20110328/93079/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A3.%E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B36%E0%B8%A5%E0%B8%B3.html

งบจัดซื้อ จำนวน 1,700-1,800 ล้านบาท ส่วนงบที่เหลืออีก 5,000 กว่าล้านบาทเป็นงบซ่อมแซม และจัดซื้อจัดหาอะไหล่เพิ่มเติม

      สงกะสัยว่า 6 ลำ นี้ 2 ลำที่ใช้งานได้แต่ต้องอัพอีกนิดหน่อย 4 ลำที่เหลือซ่อมใหญ่

      เวลาส่งมอบ 2 ลำ กับ 4 ลำที่เหลื่อ  เยอรมันทำมาให้เรียบร้อย หรือ ส่งมาก่อนแล้ว 

      มาทำที่อู่เรือประเทศไทยhttp://www.youtube.com/watch?v=u5iEiDRyBeo

ซื้อเรือลำใหม่มายังจะดีกว่า

ซื้อเรือลำใหม่หรอ เหอะๆ

ง่ายๆ มีเงินปะล่ะ?

ถ้ามีเงินเอาใหม่เลยครับสนับสนุน....แต่งบแค่นี้ ก็แค่นี้นับว่าเป็นบุญแล้ว....

ถ้าจัดหามาใช้อยู่ในรัศมีการป้องกันภัยทางอากาศของเครื่องบินฝ่ายเรา  ก็ถือว่า U206A ที่ upgrade มาก็เหมาะสมแล้วครับ 6 ลำสามารถป้องกันภัยใต้น้ำได้เป็นอย่างดี  ยิ่งถ้าออกรบพร้อมกัน 6 ลำ  แบบรุมกินโต๊ะ 7500 ล้าน แลกกับเรือดำน้ำ 1 ลำใหม่ๆ หมื่นล้านขึ้นไปของเพื่อนบ้าน  คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ครับ

ซุ่มอยู่ในเวปนานพอสมควร  เรื่องเรือดำน้ำนี้ ถ้าได้ใหม่ย่อมดีกว่าแน่ แต่ถ้าไม่มีเงินแต่จำเป็นต้องใช้รุ่นเก่าก็ใช้ได้ ไม่ได้แปลว่าอายุ ๓๐ ปีแล้วไม่มีคุณค่าทางยุทธการ หลายท่านไม่มีความรู้ทางการทหารเลย ดูหนังอเมริกัน เดายุทธวิธี แล้วก็เอามาโพสความเห็นเชิงลบมากๆกับของเก่า ให้รอแต่ของใหม่เท่านั้น หลายท่านก็ได้แสดงความคิดเห็นที่ชาญฉลาดสมเหตุสมผลคืออ่านแล้วรู้ว่ามีความรู้ทางทหารเรือ  อาวุธอย่างไรก็เป็นอาวุธ ปัจจุบันเทคโนโลยีทางทหารไปไกล แต่ทหารก็ยังต้องฝึกการแทง การต่อสู้ระยะประชิด การลอดลวดหนาม ฯลฯ  ปืนm16 กี่ปีแล้ว ใช้ได้ดีไม๊ ยังดีอยู่(หมายถึงถ้าสภาพดี) ไม่ได้แปลว่าออกมาแล้วสามสิบปีแล้ว ห่วยทำอะไรไม่ได้ ปัจจุบันมีเครื่องคอมฯ เครื่องคิดเลข  แล้วการทดเลขด้วยกระดาษก็ยังมีความจำเป็น หรืออาจดีกว่าในหลายโอกาสซะด้วย  ปัจจุบันมี e book  แต่การอ่านหนังสือปกติก็ยังดีกว่า ทั้งหมดคือข้อเปรียบเทียบ  เรือดำน้ำ มีย่อมดีกว่าไม่มีเปนแน่...บางท่นบอกรอของใหม่  ลำละหลายหมื่นล้าน ขอหลักประกันหน่อยคับว่าจะได้เมื่อไหร่..ไม่มีใครตอบได้ ทหารเรือเขารู้ว่าจะใช้อาวุธที่มีอยู่ได้อย่างไรคับ  โพสไปก็นึกถึงลูกน้องผมหลายคน บอกจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกับทางบ้านเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่โทรศัพท์ที่ใช้ต้องตระกูลแพงๆ ราคาพันกว่าบาทไม่เอาบอกไม่ทันสมัย(ดูมัน) ผมก็สงสัยพันกว่าบาทมันก็ทำได้เหมือนเครื่องแพงเกือบทุกอย่างที่คุณสมบัติโทรศัพท์ควรมี  แต่ลูกน้องผมมันไม่เอา  สุดท้ายครับ ไปกู้เป็นหนี้สินกับไอ้บัตรต่างๆ ไอ้เราก็นึกด่ามันในใจ  อีกเรื่องของเรือดำน้ำครับ บางท่านบอกว่าเรายังไม่ควรมีเพราะความลึกของอ่าวไทย หรือเศรษฐกิจยังไม่ดี  ผมว่าอยู่ที่การให้ความสำคัญกับอธิปไตยของชาติครับมันเป็นจิตสำนึก กองทัพเรือต้องการหลักประกันในการปกป้องอธิปไตยของชาติ  แต่บางกลุ่มบอกยังไม่จำเป็น......ไอ้พวกที่บอกว่ายังไม่จำเป็น ผมจะเชื่อโดยสุจริตใจก็ต่อเมื่อ บ้านที่ครอบครัวหรือญาติมิตรที่เขารัก ไม่มีรั้วบ้านและระบบรักษาความปลอดภัยเลย.....ถ้าบ้านยังมีรั้ว  แล้วชาติมันจะไม่มีรั้วได้อย่างไร(สำคัญกว่าประเมินค่ามิได้) รั้วจะเก่าซักหน่อยก็ยังดีมีเงินแล้วค่อยปรับปรุง........ผมเป็นทหารเรือนะครับ....แต่เป็นนาวิก จึงเข้าใจกองทัพเรือ  และ ลึกซึ้งใน น้ำ ฟ้า ฝั่ง......

นิดนึงครับไม่ได้ติท่านในกระทู้นี้โดยเฉพาะครับ  พอดีอ่านเกี่ยวกับเรือดำน้ำมาหลายกระทู้ เห็นว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้สุดท้านก็เลยโพสครับ เข้าใจว่าพวกชอบติเกี่ยวกับเรือดำน้ำก็คงเข้ามาในกระทู้นี้เช่นกัน......

เห็นด้วยกับคุณ giggermania อย่างมากครับ

ไม่อยากจะโพสต์อะไรเลยเว็บนี้ อยากแต่จะแค่อ่าน แต่เห็นละอดไม่สนับสนุนไม่ได้ครับ

ที่ผมสนับสนุนความคิดของ ทร.  ในเรื่องการจัดหา ด.206 A จากเยอรมันในครั้งนี้ มีเหตุผลว่า  เมื่อตัดการซื้อของใหม่ออกไปเพราะสู้เงินไม่ใหวแล้ว เรือดำน้ำมือสองที่ใหม่กว่านี้ก็คือ 209 ของเกาหลีเอามาปรับปรุง หรือ ต่อใหม่แต่แบบใช้ของเก่าคือ209โดยเกาหลีอีกเช่นกัน งบประมาณที่มี(ประจำปีโดยไม่ขอเพิ่มจากรัฐบาล) ก็ยังคงสู้ไม่ใหว เพราะเราไม่อยากซื้อเรือมาอย่างเดียว อื่นๆจะจัดหาเพิ่มทีหลัง เช่นอาวุธ ระบบสนับสนุน ฯลฯ เพราะในอดีตที่ผ่านมาไม่เห็นเคยสำเร็จ

 เหตุผลสำคัญอีกเรื่องคือการฝึกอบรมการใช้เรือ และยุทธวิธีการใช้ ด. เป็นที่ทราบกันดีว่า เยอรมันเป็นชาติที่สร้างและใช้ ด.มามาก และนานกว่าชาติใดในโลก(ไม่นับ ด.นิวเคลียร์ )จึงมีประสบการณ์ด้านนี้สูงสุด ประสบการณ์ดังกล่าวสอดแทรกอยู่ในการออกแบบ และยุทธวิธีในการใช้ ด.ขนาดเล็ก เมื่อเราได้เรียน ได้ฝึกกับเยอรมัน มั่นใจได้ว่าเราจะได้รับการถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์มากกว่าเรียนกับ ทร.ประเทศอื่น คงต้องไปดูเองว่าประเทศอื่นๆที่จะขาย ด.ให้เรามีประเทศใดที่เคยใช้ ด.รบจริงมาบ้าง บางประเทศสร้าง ด.ขายก็จริงแต่ประเทศตนเองไม่ได้ใช้ ด.ดีเซลเลย บางประเทศเพิ่งสร้าง และใช้ ด.มาไม่กี่ปีนี่เอง บางประเทศก็สร้างดีมีเทคโนโลยีสูง แต่ไม่เคยมีประสบการณ์รบ ความรู้เรื่องการใช้จึงมีจำกัด  บางท่านอาจแย้งว่าเวลาเราไปต่อเรือต่างประเทศเขาฝึกให้แต่เรื่องการใช้เรือ ไม่ได้สอนเรื่องยุทธวิธี แต่ที่เยอรมัน เชื่อได้ว่าจากการที่มีนักเรียนนายเรือ และนายทหารเรือไทยไปศึกษาอย่างต่อเนื่องในกองทัพเรือเยอรมันประมาณ 50 ปี น่าจะเป็นเรื่องไม่ยากที่จะได้เรียนในหลักสูตรยุทธวิธี ด.(จริงๆเสปนก็เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่เรามีคนไปเรียนอยู่ต่อเนื่องเช่นกัน) สรุปแล้วเราน่าจะได้ประโยชน์เรื่ององค์ความรู้มากกว่าซื้อเรือแล้วมาลองผิดลองถูกกันเอง

มาลุ้นกันดีกว่าครับ   ว่าจะได้อะไรมาบ้าง  เช่น อาวุธ เรือพี่เลี้ยง  หรือการถ่ายทอดเทคโนโลยี  อาจจะทั้งหมดหรือบางส่วนก็ยังดีนะ

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ราคาถูกจริงๆครับได้เรือตั้ง6 ลำถึงจะเก่าไปหน่อยแต่คิดว่าเหมาะสมกับเมืองไทยและสภาพเศรษฐกิจตอนนี้

ไว้มีตังค่อยออกใหม่แล้วกัน

ขนาดสิงค์โปร์เองเขามีงบทางทหารมากกว่าเราเขายังจัดหาเรือดำน้ำเก่าจากสวีเดนเลยจัดหาตั้ง6ลำซึ่ง6ลำก้มีอายุ

อานามก็พอๆๆกับเรือดำน้ำU-206Aเลย30กว่าปีแนะที่สิงค์โปร์เขาจัดหาเรือเก่ามาเหตุผลเพราะต้องการนำ

มาเป็นเรือฝึกเขาเองก็ไม่เคยมีเรือดำน้ำมาก่อนเลยต้องการฝึกเพื่อความคุ้นเคยทุกวันนี้เขายังใช้อยู่เลย

ดังนั้นทร.จัดหาเรือดำน้ำเก่าจึงเป็นความคิดที่ถูกต้องผมไม่ขอคัดค้านอะไรเลยถ้าซื้อเรือใหม่แต่เราไม่มีความรู้

มันก็ไม่ต่างไปจากซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาแต่ขับรถไม่เป็น

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ คงเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการฝึกเรือดำน้ำ

ฝึกก่อนไม่ต้องรีบเอาของใหม่หรอก......//

เรือดำน้ำพลังงานดีเซล Amur-950

ครั้งหน้าเอาตัวนี้นะ อิอิ

อ่านผ่านมาเยอะแล้ว คนเชียร์ amur 950 มากเหมือนกัน แต่ลงไปดูในรายละเอียด ยังขายใครไม่ได้เลยนะครับ kilo ยังมีลูกค้ามากกว่า ของออกแบบใหม่เอี่ยมอย่างนี้ดูดีอย่างไรคนซื้อยังไม่ค่อยไว้ใจ เพราะประเทศผู้สร้างก็ไม่ได้ซื้อ ผมว่ายากครับ

ผบ.ทร.ยันซื้อเรือดำน้ำมือสองเยอรมันคุ้มค่า

คมชัดลึก :ผบ.ทร.ยันซื้อเรือดำน้ำมือสองเยอรมัน 6 ลำ ระบุยังเป็นเอกสารลับอยู่ที่รมว.กลาโหม เผยเคยบรรยายให้ นายกฯฟังที่ร.11 รอ. ช่วงศอฉ. ทุกหน่วยเห็นด้วย ลุ้น ครม อนุมัติ ปลายเดือน เม.ย.นี้ อยากทำให้เร็วที่สุดเพราะมีหลายประเทศต่อคิวซื้อ โอดโอกาสสุดท้ายในรอบ 60 ปี ยันคุ้มค่า รวมแพ็คเกจ ทั้งเรือ–อาวุธ--ก่อตั้งหน่วย เผยทำเพื่อชาติ ให้นร.นายเรือ ได้ปฏิบัติไม่ใช่เก่งแต่ทฤษฎี เป็นทหารเรือโง่- โบราณ ยันซื้อของเก่าไม่มีคอมมิชชั่น โต้ใช้ในอ่าวไทยได้

(30 มี.ค.)พล.ร.อ.กำธร  พุ่มหิรัญ  ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวระหว่างแถลงข่าวกองทัพเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถึงโครงการจัดหาเรือดำน้ำมือสอง  6 ลำจากเยอรมันวงเงิน  7.6  พันล้านบาท ว่า กองทัพเรือมีความต้องการในการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการมา 60 ปีแล้ว  หลังจากที่เราปลดประจำการเรือหลวงมัจฉานุ  ซึ่งเป็นเรือดำน้ำลำที่ 2  ในกลุ่มประเทศแถบอาเซียน และเป็นเรือดำน้ำลำแรกของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้กองทัพเรือเคยเสนอโครงการในการจัดซื้อมา 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือการจัดหาจากประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อประเทศญี่ปุ่นแพ้สงครามทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่ของเรือดำน้ำหมดไป อีกครั้งคือ การจัดซื้อจากประเทศอิสราเอลแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้วิทยาการของเรือดำน้ำของกองทัพเรือหยุดไปกว่า 50 ปี 
 
“นักเรียนนายเรือ เมื่อกลับมาจากการศึกษาต่างประเทศและนักเรียนจ่าทหารเรือ ไม่มีเรือดำน้ำใช้ จุดประสงค์ของกองทัพเรือ มีความเป็นห่วง ทั้งที่เราไม่ต้องการไปแข่งกับใคร แต่วิสัยทัศน์ของกองทัพเรือ ต้องเป็นกองทัพเรือชั้นนำในภูมิภาคนี้ ด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเพื่อนบ้านเราเรียนรู้มาเป็นสิบปีแล้ว การปฏิบัติการของกองทัพเรือ มีอยู่ 3 มิติ ผิวน้ำ อากาศ และบนบก โดยเฉพาะการปฏิบัติการสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก แต่กองทัพเรือยังขาดวิทยาการอีกหนึ่งสายคือใต้น้ำ เมื่อขาดสิ่งนี้ไปทหารเราก็ไม่ได้เรียนรู้ สมัยก่อนนักเรียนโรงเรียนนายเรือก็ได้แต่ความรู้พื้นฐานว่าเป็นอย่างไร บางครั้งต้องวาดภาพเอาเอง การที่เราศึกษาทฤษฎีแต่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริง ก็เหมือนการเรียนรู้ด้านวิทยาการแต่ไม่ได้ปฏิบัติ ผมคิดว่าการที่จะเป็นกองทัพเรือชั้นนำในภูมิภาคนี้ ตามวิสัยทัศน์กองทัพเรือ ทั้งนักเรียนนายเรือและนักเรียนจ่าของเรา จะต้องมีความรู้ในด้านนี้ ไม่อย่างนั้นก็โง่ตาย ย่ำอยู่กับที่ เป็นทหารเรือโบราณ  ถ้าเปรียบเทียบกับการเป็นทหารม้าแล้วเราขี่ม้าไม่ได้หรือเพื่อนบ้านขี่ยานเกราะกันแล้วแต่เรายังขี่ม้าเนื้อ เรายืนยันว่าไม่ได้แข่งกับประเทศใดหรือคุกคามประเทศไหน“

พล.ร.อ.กำธร กล่าวอีกว่า กองทัพเรือเข้าใจดีว่าประเทศเรามีปัญหาเรื่องงบประมาณ ดังนั้นการจัดหาของใหม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ถ้าเป็นเรืออย่างดีราคาไม่ต่ำกว่า  1   หมื่นล้าน   ถ้าสมมุติว่าเรามีกองเรือดำน้ำจะต้องมีประจำการอย่างน้อย 3 ลำ  ราคาประมาณ  3 - 4 หมื่นล้านบาท  ที่ผ่านมา เคยตั้งงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่ประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งข้างในไม่มีอะไรเลย ถือว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก เข้าใจว่าประเทศชาติไม่มีงบประมาณขนาดนั้น ตนเกษียณ หรือ ตายไปแล้ว ก็คงไม่ได้   ทั้งนี้เข้าใจว่า เรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข ก็มีความจำเป็น จะใช้งบประมาณมากมายไม่ได้ ต้องมีการเจียมตัว   การซื้อเรือดำน้ำที่ใช้แล้ว แต่ดูสภาพแล้วมีความปลอดภัย  เราไม่ต้องการเป็นกองทัพเรือที่เป็นที่หนึ่ง แต่ขอเป็นแนวหน้าในประเทศอาเซียน ตนมีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ อย่างน้อยซื้อมาก็ได้เรียนรู้ ทั้งนี้ ก่อนที่จะดำเนินการก็ได้ศึกษาในรายละเอียดและคุณภาพ อย่างรอบด้าน  แต่เรือเก่าก็เหมือนงูพิษแก่ กัดใครก็ตายเหมือนกัน

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า  โครงการนี้มีการเสนอขึ้นไปเป็นเอกสารลับ และยังไม่ได้ข้อยุติ อยู่ระหว่างการพิจารณาในระดับของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ขณะนี้ยังไม่ผ่านการอนุมัติในหลักการ เป็นเพียงการนำเสนอ ถ้าทุกอย่างผ่านขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะชี้แจงในรายละเอียดอีกครั้ง  ส่วนการจัดซื้อจะทันรัฐบาลที่จะยุบสภาต้นเดือน พ.ค.นี้หรือไม่นั้น ตนก็พยายามอยู่จะให้เร็วที่สุด ทำให้ทันปลายเดือน เม.ย.นี้เพราะ ถ้าไทยไม่เอาก็มีเจ้าอื่นต่อคิวซื้ออยู่  ทั้งนี้มีคนโจมตีว่าเรือดำน้ำไม่สามารถดำน้ำในบริเวณอ่าวไทยได้เนื่องจากน้ำตื้นนั้น เราก็ต้องดูว่าเรือดำน้ำที่เราซื้อมาใช้ในลักษณะที่เป็นระดับน้ำเหมือนอย่างเราหรือเปล่า ถ้าระดับน้ำใกล้เคียงกันก็ดำได้ ในหลักการด้านยุทธวิธีแล้วก็ต้องไม่อยู่ใกล้เรา ต้องอยู่ในที่ลึกในแนวหน้า ซึ่งได้มีการศึกษาว่าขณะเรือดำน้ำปฏิบัติการอยู่แม้แต่เครื่องบินก็มองไม่เห็น รวมถึงการปฏิบัติการตอนกลางคืนก็ไม่สามารถตรวจจับได้ ซึ่งประเทศไทยไม่ได้มีแค่อ่าวไทย มีหลายเส้นทางในการเดินเรือสินค้า โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน ซึ่งต้องดูทั้งสองฝั่ง   อย่างไรก็ตาม หลายคนโจมตีว่าอย่าให้ซื้อเลย บางคนบอกว่าดำไปแล้วไม่โผล่ ซึ่งทุกอย่างต้องมองให้รอบด้าน  

พล.ร.อ.กำธร กล่าวอีกว่า  ในการจัดซื้อจะมีการปรับงบประมาณประจำปีที่กองทัพเรือได้รับ และจะมีการผ่อนชำระในแต่ละช่วง ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน 5 ปี ซึ่งการผ่อนชำระในแต่ละช่วงจะต้องอยู่ในขีดความสามารถที่กองทัพเรือเจียดจ่ายได้  ไม่ใช่ซื้อเรือดำน้ำแล้วทำให้เกิดผลกระทบ ต่อเรือฟรีเกตและเรือผิวน้ำ รวมถึงเครื่องบิน ในทางที่แย่ลง ตนก็ไม่เอา กองทัพเรือ การจัดซื้อครั้งนี้ทำแบบแพ็คเกจ มีอาวุธมาให้พร้อม ซิมูเลเตอร์ ฝึกกำลังพล รวมถึงการปรับสภาพเรือดำน้ำมาให้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแบตเตอรี่ชุดใหม่ ซึ่งสามารถใช้ได้ 10 ปี แบตเตอรี่สามารถชาร์ตได้ ถ้าแพ็คเกจดีทุกอย่าง รวมอยู่ในนี้หมด เสียงบประมาณปีละ 200-300 ล้านบาท และ สามารถยืดระยะเวลาใช้งานเป็นสิบ ๆ ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า

 “ ผบ.ทร.ในอดีตมาถึงปัจจุบันก็มีแนวคิดทางเดียวกัน เพราะการวางยุทธศาสตร์ ทางเรือ มียุทธศาสตร์ หรือแนวทางปฏิบัติอยู่ เราไม่ได้นั่งเทียน กว่าจะได้ออกมาเป็นรูปร่าง ต้องศึกษาทุกด้าน ทั้งด้านการทหาร การเมือง เศรษฐกิจ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมต่างๆ ความคุ้มค่าในการปฏิบัติ โดยเปรียบเทียบว่า เรือฟรีเกตที่มีกำลังพล 100-200 คน เรือดำน้ำใช้แค่ 30 คน ค่าเบี้ยเลี้ยงก็ถูก เครื่องยนต์ก็ใช้แค่สตาร์ท หลังจากนั้นใช้แบตเตอรี่   ไม่ได้กินน้ำมันหนักหนา โดยสรุปคือการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ ถูกกว่าเรือผิวน้ำ ” 
 
เมื่อถามว่า   หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติ และ กองทัพเรือนำเข้าประจำการต่อไปอีกสิบปีถือว่ามีความคุ้มค่าใช่หรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า เราคิดที่คุ้มที่สุด เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและกองทัพ   เลือกสิ่งที่ดีที่สุด   เท่าที่ฐานะเราจะอำนวย คิดว่าคุ้มค่า ตนไม่ได้คิดคนเดียว มีคณะกรรมการ ซึ่งมีผู้มีความรู้ ผู้ทรงคุณวุฒิ ช่วยกันพิจารณา พอซื้อของเก่า ก็อย่ามาถามเรื่องค่าคอมมิชชั่น เพราะไม่มี เราทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อส่วนรวม โดยประเทศผู้ขาย ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเรามาก ความจริงราคาสูงกว่านี้ แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีเลยลดลงมา ทุกอย่างเป็นแพ็คเกจ แม้แต่อาคารโครงการ กองบัญชาการกองเรือดำน้ำ ที่พักกำลังพลในเมืองไทย พร้อมทั้งอาวุธด้วย ก็อยู่ในแพ็คเกจวงเงิน 7.7 พันล้านบาท    ไม่รู้จะคุ้มอย่างไร ปลายเดือนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะมีโอกาสอย่างนี้อีก ถ้าไม่ได้ก็ต้องหาเรือเก่าต่อไป ก็ต้องดูว่ามิตรประเทศไหนจะขายให้เราอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ฟังแล้วเห็นความจำเป็นของกองทัพเรือหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ไม่เฉพาะแต่ท่านนายกฯ ตนเคยบรรยายสรุปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องฟังมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เราประชุม ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เวลาว่างก็เชิญมาฟังบรรยาย ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน ทุกฝ่ายเห็นชอบหมด เรือดำน้ำในอาเซียนมีหมดแล้ว ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนามกำลังสั่งซื้อ 6 ลำ   รวมถึงพม่ากำลังส่งกำลังพลไปเรียนที่อินเดีย ทั้งนี้หากผ่านการอนุมัติแล้วจะใช้ระยะเวลาในการจัดซื้อ 2 ปีก่อนเข้าประจำการ ขณะนี้เป็นเพียงการขออนุมัติในหลักการ ผลออกมาเป็นอย่างไร กองทัพเรือยอมรับ แต่ด้วยความจำเป็นด้านยุทธศาสตร์ และเจตนาดีต่อกองทัพ จึงได้มีแนวคิดในเรื่องนี้ 
  
พล.ร.อ.กำธร ย้ำว่า เรือชุดนี้ประเทศเยอรมันยังใช้ประจำการอยู่ และยังสามารถใช้ได้ 6-7 ปี เพียงแต่เขาได้ต่อเรือดำน้ำลำใหม่ขึ้นมาแล้ว แต่ไม่อยากเพิ่มกำลังพล จึงนำกำลังพลชุดเก่าไปใช้ที่เรือใหม่  ทำให้เรือดำน้ำชุดเก่านี้ว่างอยู่ แต่มีการบำรุงรักษาต่อเนื่อง มีการรับประกัน ไม่ใช่เรืที่จอดไว้ในอู่เป็นสิบ ๆ ปี แล้วมาประกาศขายเป็นเศษเหล็ก  ซึ่งถือว่าเป็นโชคของกองทัพเรือไทยจึงได้รีบรับเอาไว้   ที่ผ่านมามีการปรับสภาพมิดไลฟ์อัพเกรดใหม่หมด และยังสามารถใช้ได้อีกนาน

“ ผมไปเยือนมาเลเซียแล้วเขาบรรยายให้ฟัง ยังสะอื้นอยู่ในอก ทั้งนี้ถ้าเราไม่มีเรือดำน้ำ การปฏิบัติการก็ไม่ครบ 3 มิติ ตนได้ตั้งกองบัญชาการกองเรือดำน้ำ  โดยให้ พล.ร.ต.สุริยะ พรสุริยะ เป็นผบ.กองเรือดำน้ำคนแรก รวบรวมทหารเรือที่จบจากต่างประเทศ มาหาความรู้โดยรวมวิทยาการไว้ที่เดียว แม้ว่าจะไม่ได้เรือดำน้ำก็ไม่เป็นไร   แต่อยากให้รวบรวมเอาไว้ เรามีเรือดำน้ำต่อไว้เองเป็นตัวเป้าขนาดเล็ก และเรือดำน้ำขนาดเล็กอีกหนึ่งลำ มีโอกาสดีเมื่อไหร่เราก็สามารถบริหารโครงการได้ และตามหลักการการปราบเรือดำน้ำ จะใช้เรือฟรีเกต 3-4 ลำ และ เฮริคอปเตอร์ 2  ลำ ถึงจะเอาอยู่ ดังนั้นเราสู้มีเรือดำน้ำ สู้กับเรือดำน้ำไม่ดีหรือ”พล.ร.อ.กำธรกล่าว  

http://www.komchadluek.net/detail/20110330/93371/ผบ.ทร.ยันซื้อเรือดำน้ำมือสองเยอรมันคุ้มค่า.html

ภาพรวมเป็นแบบนั้นจริงๆครับ นาย

แต่ถ้าได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วยจะเยี่ยมยอดมากครับ

ชัดเจนดีครับ สำหรับคำตอบของ ผบ.ทร.

ขออวย ผบ.ทร. คนนี้หน่อยล่ะกันครับ...ผมเห็นการพัฒนากองทัพเรือ ชัดเจนดีครับ และให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบของหน่วยงานในกองทัพเรือ...

เวลาท่านเกษียณ ผมล่ะอยากได้ หนังสือที่กองทัพเรือจัดทำเพื่ออำลา จังครับ...น่าจะมีเรื่องราวมากมาย และสาระความรู้ที่น่าสะสม...เพราะผมเองก็สะสมของอดีต ผบ.ทร. หลายท่าน ที่ผ่านมา...

สำหรับเรื่องอ่าวไทยน้ำตื้น ก็จะยิ่งเป็นข้อมูลสนับสนุนการจัดหา U-206A มากยิ่งขึ้น เพราะเป็นเรือดำน้ำสำหรับปฏิบัติการในทะเลน้ำตื้นอยู่แล้ว และเป็นแบบเดียวในโลกในขณะนี้...ซึ่งในขณะนี้ หลายประเทศก็ให้ความสำคัญในสงครามชายฝั่งมากขึ้น จึงเป็นที่มาของคุณสมบัติของเรือ LCS ซึ่งก็จะเน้นภาระกิจการปราบดำน้ำชายฝั่ง มากกว่า เรือดำน้ำน้ำลึก...ในอนาคต อาจจะเป็นได้ว่า เรือดำน้ำขนาดเล็ก อาจจะกลับมามีบทบาทอีกครั้ง...

ดีไม่ดี ถ้าใช้แล้ว แจ๋วจริง ๆ อาจจะได้เห็น U-206 Ai ในอนาคต เป็น เรือดำน้ำรุ่นใหม่ ติดตั้งระบบ AIP ระหว่างชับน้ำดำน้ำประมาณ 600 ตัน มาแข่งขันทางการตลาด กับ AMUR950 ก็เป็นได้ครับ 5 5 5 5 (AMUR950 ก็จัดเป็นเรือดำน้ำสำหรับปฏิบัติการใกล้ฝั่ง เหมือนกัน ระวางขับน้ำสูดแบบเล็กก็มีระวางขับน้ำไม่ถึง 1000 ตัน จัดว่าเล็กแต่แจ๋ว แต่ยังไม่มีใครซื้อ)

   ผมละชอบจังเลยAMUR950เอาไว้ผุบๆโผล่ๆแถวๆเลยเกาะช้างไปหน่อย...อิอิ

จะเก่ายังไงก็อันตรายครับ ดูเรือโชนัมของเกาหลีเป็นตัวอย่าง โดนเรือดำนำเก่าของเกาหลีเหนือ และก็ขนาดเล็กครับ ผลออกมา ก็อย่างที่เห็นครับ เรือโชนัมโดนหารสองจมอยู่ก้นทะแล

ยังไงก็น่ากลัวครับ เหมือนลูกปืน จะยิงจากปืนเก่าปืนใหม่ แต่ถ้าได้วิ่งออกจากกระบอกปืนแล้ว  ใครโดนไม่เจ็บ ก็ตาย เหมือนกันครับ

เรือเก่าหน่อยไม่เป็นไร สำคัญที่ระบบป้องกันตัว กับอาวุธล่ะครับ อยู่ใต้น้ำใครจะมาเห็นจิงมั้ยครับ