หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เยือนเกาหลี ....

โดยคุณ : Napster เมื่อวันที่ : 02/04/2011 23:11:30

ประวิตร ท่องเมือง กิมจิ อุ่นเครื่องดูเรือดำน้ำเยอรมนี-รถถังเกาหลี

ความพยายามในการจัดหา "เรือดำน้ำ" ของกองทัพเรือที่ดำเนินการมาหลายทศวรรษดูเริ่มมีความหวังขึ้น เมื่อรัฐบาลได้ไฟเขียวให้กองทัพจัดทำความต้องการยุทโธปกรณ์ในเชิงยุทธศาสตร์ ผ่านแผนที่เรียกว่า  Mo- dernization  plan  vision 2020 เพื่อให้รัฐบาลพิจารณา และอนุมัติโครงการตามสภาพของงบลงทุนของแต่ละเหล่าทัพ

จากการให้สัมภาษณ์ของ พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พบว่า เรือดำน้ำมือสองจากประเทศเยอรมนี 6 ลำ แบ่งเป็น เรือดำน้ำที่จะปฏิบัติงานดูแลน่านน้ำอ่าวไทยและอันดามัน รวม 4 ลำ และเป็นอะไหล่ 2 ลำ วงเงิน 7.7 พันล้านบาท มีแพ็กเกจเหมือนกับการจัดซื้อ ทั้งอาวุธ (ตอร์ปิโด) การฝึกศึกษาซิมูเลเตอร์ การจัดตั้งกองเรือ และฐานทัพเรือ  ซึ่งคาดว่าจะอยู่บริเวณแหลมเทียน หรือเกาะพระ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สำหรับเรือดำน้ำชั้น U206A ที่กองทัพเรือได้จัดหาเข้าประจำการ มีระวางขับน้ำ 500 ตัน มีการปรับสภาพครึ่งชีวิต หรือ  MidLife  Upgrade เมื่อปี 1990 โดยเฉพาะระบบการยิงให้สามารถใช้งานได้ต่อไปได้อีก ซึ่งหากคณะรัฐมนตรีของไทยอนุมัติ ก็จะใช้งบประมาณตั้งแต่ปีนี้ และผูกพันงบประมาณ ตั้งแต่ปี 2555 ไปจนถึงปี 2558 โดยกองทัพเรือเยอรมนีก็จะดำเนินการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ทั้ง 6 ลำ โดย 4 ลำแรกจะมีการติดระบบภายในใหม่ พร้อมทั้งติดเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากการปฏิบัติการของเรือดำน้ำเยอรมนีอยู่บริเวณทะเลบอลติก ซึ่งมีสภาพหนาวเย็น ส่วนอีก 2 ลำ ก็จะจัดไว้เป็นเรืออะไหล่ ซึ่งเรือทั้งหมดที่มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ คาดว่าจะใช้ได้มากกว่า 10 ปี

สำหรับในภูมิภาคนี้ มีเรือดำน้ำของเยอรมนีประจำการอยู่บ้าง โดยเฉพาะมิตรประเทศอย่างเกาหลีใต้ ที่เมื่อสิบปีก่อนหน้า ได้ซื้อเรือดำน้ำชั้น  U209 เข้าประจำการ 1 ลำ ก่อนที่จะต่อยอด ในการผลิตเรือดำน้ำชั้น  UA 214 อีกประมาณ 9 ลำ โดยใช้เทคโนโลยีเยอรมนี ภายใต้การสนับสนุนขององค์กรรัฐ อย่าง Korea  Defense  Industry ซึ่งอุตสาหกรรมการต่อเรือของเกาหลีถือว่าได้รับการยอมรับ และมีหลายประเทศในภูมิภาคนี้เป็นผู้ซื้อ

ยิ่งปัญหาเรื่องงบประ มาณของประเทศ ที่ต้องทุ่มเทไปกับสิ่งที่จำเป็นกว่า ยิ่งทำให้การซื้ออาวุธโครงการใหญ่ขนาดนี้ถูกโจมตีอย่างหนักอย่างที่ยากจะปฏิเสธ แต่ในความจำเป็นของการทำหน้าที่ของกองทัพในการเตรียมความพร้อม การผลักดันให้โครงการนี้เกิด หลังจากที่ผ่านมา 60 ปี ไม่มีวี่แวว  มันคือ "ความหวังครั้งสุดท้าย" ภายใต้ตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ชื่อ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ

"ผมไปเยือนมาเลเซีย แล้วเขาบรรยายให้ฟัง ยังสะอื้นอยู่ในอก ทั้งนี้ถ้าเราไม่มีเรือดำ น้ำ การปฏิบัติการก็ไม่ครบ 3 มิติ ผมได้ตั้งกองบัญชาการกองเรือดำน้ำ โดยให้ พล.ร.ต.สุริยะ พรสุริยะ เป็น ผบ.กองเรือดำน้ำคนแรก รวบรวมทหารเรือที่จบจากต่างประเทศ มาหาความรู้โดยรวมวิทยาการไว้ที่เดียว แม้ว่าจะไม่ได้เรือดำน้ำก็ไม่เป็นไร แต่อยากให้รวบรวมเอาไว้ เรามีเรือดำน้ำต่อไว้เองเป็นตัวเป้าขนาดเล็ก และเรือดำน้ำขนาดเล็กอีกหนึ่งลำ มีโอกาสดีเมื่อไหร่ เราก็สามารถบริหารโครงการได้" พล.ร.อ.กำธร กล่าวแบบเผื่อใจ

แต่กระนั้น  ต้องยอม รับว่าการมีเรือดำน้ำถือเป็น "แต้มต่อ" ที่สำคัญในยุทธ ศาสตร์ภาพรวมของกองทัพ สร้างความเกรงขามให้ประ เทศคู่ขัดแย้ง เพราะฉะนั้น ฐานทัพจอดเรือดำน้ำจึงเปิดเผย เพราะหากเรือดำน้ำออกจากที่จอดเมื่อไหร่ ก็จะสร้างความกังวลใจให้กับประเทศที่มีข้อขัดแย้ง เพราะการปฏิบัติการโดยปกติจะอยู่ระหว่าง 3 สัปดาห์-1เดือน ซึ่งสภาวะแวดล้อมใต้ทะเล จึงมีความเสี่ยง ความกดดัน มากกว่าการปฏิบัติการบนอากาศ

"การฝึกกำลังพลจึงต้องมีความเคี่ยวกรำ ต้องดูความพร้อมทั้งร่างกายและสภาพจิต ที่ต้องดูว่ารับแรงกดดันได้แค่ไหน เพราะใต้น้ำลงไปเป็นโลกที่เราไม่รู้ว่ามีอะไร" พล.ต.สุริยะ พรสุริยะ ผบ.กองเรือดำน้ำระบุ

จึงไม่แปลกที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม จะเดินทางไปเกาหลีใต้ เพื่อดูงานด้านการซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะเรือดำน้ำจากเยอรมนีที่ไทยสามารถได้รับความช่วยเหลือจากการฝึกศึกษาให้กำลังพลของไทยได้ รวมไปถึงการไปดูรถถังเกาหลี รุ่น  K1A1 ที่ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีจากสหรัฐ คล้ายกับรถถัง  M-1 แม้จะไม่เทียบเท่า แต่ประสิทธิภาพ ความก้าวหน้า และทันสมัย มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง จากที่มีข่าวทำนองว่า รถถัง Oplot จากยูเครนกำลังมาแรง  เพื่อจัดหาเข้ามาทดแทน  M-41 ที่กำลังจะปลดประจำการ

แม้ปัจจุบัน กองพันทหารม้าที่ยังคงใช้  M-41/  A3 อยู่ ประกอบด้วย  ม.พัน.4 รอ. สังกัด พล.ร.1 รอ.- ม.พัน.8 สังกัด พล.ร.3  จ.นครราชสีมา, ม.พัน.9 สังกัด พล.ร.4 จ.พิษณุโลก, ม.พัน.16 สังกัด พล.ร.5 จ.นครศรีธรรมราช หรืออาจจะไปแทนรถถังของ ม.พัน 2 รอ. ของ พล.ร.2 รอ. เพื่อให้สอดรับการยุทธศาสตร์แนวชายแดนด้านไทย-กัมพูชา

นอกจากนั้น ในส่วนของกองทัพบกยังรอการส่งมอบรถหุ้มเกราะล้อยาง   BRT 3E1 จากยูเครน ที่กองทัพบกจัดหาในระยะแรก 101 คัน และ ระยะที่ 2 จำนวน 121  คัน ขณะนี้มีการส่งมอบในระยะแรกแล้ว 14 คัน คาดว่าจะดำเนินการส่งมอบให้ครบตามจำนวนได้ในปี 2555

ไม่นับรวมเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk รุ่น M อีก 3 ลำ ที่กองทัพจัดหาตามแผนงบฯ ปี 54 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความทันสมัย โดยพัฒนาให้มีใบพัดพิเศษพร้อมเครื่องยนต์ ที 700-GE-701 ดี โดยให้กำลังสูงสุด 2,000 แรงม้า มีคอมพิวเตอร์ระบบจัดการยานพาหนะร่วม และห้องนักบินที่มีอุปกรณ์แบบใหม่ มีระบบตรวจสภาพอากาศเมฆฝน ที่เหมาะกับสภาพอากาศที่แปรปรวนในประเทศไทย ทั้งนี้ กองทัพบกมีแผนในการจัดหา  Black Hawk เข้าประจำการให้ครบ 33 ลำ

แนวทางการจัดหาอาวุธเข้าประจำการของเหล่าทัพ ต่อไปนี้กองทัพมีความพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จในรัฐบาลยุคนี้ เพื่อลดความเสียดทานในการเปลี่ยนรัฐบาล ที่อาจจะมีใครมาวิ่งเต้นเปลี่ยนแปลงได้ แต่สิ่งที่กองทัพต้องทำมากที่สุดในขณะนี้ คือ การให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจ เพราะถ้าทุกอย่างมีเหตุผล ก็ไม่ต้องเกรงจะถูกต่อต้านหรือคัดค้าน.

แนวทางการจัดหาอาวุธเข้าประจำการของเหล่าทัพ ต่อไปนี้กองทัพมีความพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จในรัฐบาลยุคนี้ เพื่อลดความเสียดทานในการเปลี่ยนรัฐบาล ที่อาจจะมีใครมาวิ่งเต้นเปลี่ยนแปลงได้ แต่สิ่งที่กองทัพ

ต้องทำมากที่สุดในขณะนี้ คือ การให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจ เพราะถ้าทุกอย่างมีเหตุผล ก็ไม่ต้องเกรงจะถูกต่อต้านหรือคัดค้าน





ความคิดเห็นที่ 1


อ้างอิงครับ http://www.ryt9.com/s/tpd/1120672

โดยคุณ Napster เมื่อวันที่ 02/04/2011 09:37:38


ความคิดเห็นที่ 2


ผมเองก็ลูกหลานทหารครับเห็นด้วยและขอสนับสนุนอย่างเต็มที่ครับ

โดยคุณ funmode77 เมื่อวันที่ 02/04/2011 09:55:34


ความคิดเห็นที่ 3


ผมได้กลิ่น (อันเหม็นเปรี้ยว) ของถังหมักกิมจิมาแต่ไกลโน่นน่ะครับ 555

โดยคุณ HRTBRKONE เมื่อวันที่ 02/04/2011 10:06:18


ความคิดเห็นที่ 4


ดูจากบทความนี้ น่าคิดตาม http://aagth1.exteen.com/20100901/k1a1

โดยคุณ alexoff เมื่อวันที่ 02/04/2011 10:11:47


ความคิดเห็นที่ 5


K1A1มีโอกาสเกิดแล้วอิอิ โปรกิมจิมีเฮ

โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 02/04/2011 10:16:56


ความคิดเห็นที่ 6


ผมไม่ใช่ทหาร  ตระกูลผมก็ไม่มีใครเป็นทหาร  และสมัยก่อนผมก็เคยด่ากองทัพว่า  ทำไมซื้ออาวุธแพงๆจะเอาไปสู้กับใคร แต่ตอนนี้ผมต้องโษตัวเองว่าก่อนจะว่าคนอื่นต้องศึกษาดูอะไรซะก่อน  ตอนนี้ผมเปลี่ยนความคิดแล้วครับว่า  สมควรที่กองทัพจะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ และต้อเปลี่ยนการสู้รบให้เป็นแบบดิจิตอล  มากขึ้น  ผมเองยังไม่เข้าใจอะไรมากนักแต่ก็พยายามศึกษาจากเวปต่างๆ  สรุปก็คือ  เดินทา

ทุกโครงการได้เลยครับ

โดยคุณ สึนามิ เมื่อวันที่ 02/04/2011 11:12:49


ความคิดเห็นที่ 7


สาธุขอให้ได้จริงด้วยเถอะ อยากมานานแล้ว

โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 02/04/2011 11:35:02


ความคิดเห็นที่ 8


ดีใจ มากๆ ที่กองทัพ จะเลือก K1A1 

ตามแหลมมากๆ เยี่ยม

โดยคุณ gend0 เมื่อวันที่ 02/04/2011 12:06:53


ความคิดเห็นที่ 9


ท่านไปเกาหลีใต้ ขากลับอย่าลืมเิอา K9 มาฝากด้วยนะครับ


โดยคุณ evill เมื่อวันที่ 02/04/2011 12:11:29