หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เปรียบเทียบสมรรถนะ ของเครื่องบินขับไล่ในละแวกเพื่อนบ้าน

โดยคุณ : Aadokava เมื่อวันที่ : 05/04/2011 15:38:20

        บ.ขับไล่                           น้ำหนักวิ่งขึ้น                        แรงขับเครื่องยนต์                       อัตราแรงขับต่อน้ำหนัก

 SU-30 MKI                     40,565                           27,557/2                                1.14

 MIG-29 (9-13)                24,692                           18,300/2                               1.13

 MIG-29 SMT                   25,573                           18,300/2                                1.10

 JAS 39                           14,991                           18,097/1                               0.94

 

ดูเหมือน Jas 39 จะด้อยที่สุด





ความคิดเห็นที่ 1


SU-30 เรดาห์เขาดีกว่า(มาก)ครับ แต่ Jas-39 ทดแทนในส่วนนี้ด้วย อีรี่อายครับ

ตามความเห็นของผมเอง จะวัดกันจริง ๆ ต้องวัดด้วยจรวด ใครยิงไกลกว่า เร็วกว่า รวมถึงกลยุทธที่วิเคราะห์จากเรดาห์ด้วยครับ พื้น น้ำ อากาศ

โดยคุณ piyapart เมื่อวันที่ 03/04/2011 01:25:13


ความคิดเห็นที่ 2


ขอบคุณครับ

โดยคุณ Aadokava เมื่อวันที่ 03/04/2011 00:59:44


ความคิดเห็นที่ 3


เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักเยอะกว่าก็ต้องการ แรงขับที่สูงกว่าสิครับ กริฟเพนของเราเครื่องเล็ก แต่แรงขับก็สมดุลกับตัวแล้วครับ ถ้า เอาซูมาติดแรงขับต่ำๆคุณคิดว่ามันจะวิ่งขึ้นเหรอครับ

โดยคุณ art เมื่อวันที่ 03/04/2011 00:43:07


ความคิดเห็นที่ 4


ศึกษาหาข้อมูลมาให้เยอะกว่านี้จะได้รู้ว่า

ยาส39ไม่ด้อยกว่าเลยโดยเฉพาะmig29

 

โดยคุณ aeeclub เมื่อวันที่ 03/04/2011 00:43:47


ความคิดเห็นที่ 5


พูดแต่ข้อเสียเปรียบ  ข้อได้เปรียบไม่เห้นพูดเลย  ถ้าเจอกันตัวต่อตัวแล้วละก็สู้กริฟเฟนไม่ได้หรอกครับ  เพราะเราคล้องตัวกว่าเย้อะ  แถมระบบเรด้าก็ดีกว่า  ของเราเจอวูก่อนซูจะเจอเราด้วยซ้ำไปอะ

โดยคุณ สึนามิ เมื่อวันที่ 03/04/2011 00:44:42


ความคิดเห็นที่ 6


อยากรู้ว่าดีจริงไม่จริงต้องมา Dog fight ด้วยปืนกลอากาศสิครับ ถึงจะรู้ว่าของใครเจ๋งกว่า ไม่ว่าจะนักบิน หรือ เครื่องบิน อิอิ

โดยคุณ smoke2joice เมื่อวันที่ 03/04/2011 04:03:17


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าเอาประสิทธิภาพ ผมหมายถึงตัวเครื่องบินนะครับ JAS-39 ถือว่า ด้อยกว่า SU น่ะครับ

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 03/04/2011 05:06:38


ความคิดเห็นที่ 8


วัดกันแบบนั้ไม่ได้หรอกครับ อยู่ที่กลยุทธและวิธีการ มีของดี แต่ใช้ไม่คุ้นกับสิ่งที่มี มันก็เท่านั้นครับ

โดยคุณ spooky เมื่อวันที่ 03/04/2011 06:26:50


ความคิดเห็นที่ 9


สรุป jas39 ดีกว่า อย่าไปดู ที่แรงขับ เลยครับ ถ้าจะวัดกันที่แรงขับ เราก็แค่เอา jas39 ไปติดjetเพิ่มซักลำละ 4 เครื่อง - -

โดยคุณ BLOODTHAI เมื่อวันที่ 03/04/2011 07:10:18


ความคิดเห็นที่ 10


อันนี้พวกเราคงจะตัดสินกันไม่ได้หรอกครับ ทางกองทัพเขาเลิอกมา ก็ต้องมีดีบ้างเเหละ

โดยคุณ fuse3789 เมื่อวันที่ 03/04/2011 08:29:31


ความคิดเห็นที่ 11


ถ้าให้ตัวผมจัดอันดับนะ จากระยะไกลหัวต่อหัวไม่มีตัวช่วย

SU-30 MKI

JAS-39 Gripen

Mig-29 SMT

Mig-29

โดยคุณ tangdi7904 เมื่อวันที่ 03/04/2011 08:38:41


ความคิดเห็นที่ 12


เจ๋งไม่เจ๋งไม่ได้อยู่ที่เเรงขับมันอยู่ที่เรดาห์กลยุทธความชำนานของนักบินเเละอาวุธที่ติดอยู่บนเครื่อง

โดยคุณ nonarmy เมื่อวันที่ 03/04/2011 09:02:34


ความคิดเห็นที่ 13


ตามความคิดของผมนะครับ ทั้งSu-30 และ Jas-39 ออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องบินครองความได้เปรียบทางอากาศกับเครื่องบินสกัดกั้นทางอากาศ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าออกแบบมาให้มีความสามารถมาสู้กันได้อย่างสูสี ถ้าหากเปรียบเทียบจากสมรรถนะแล้วเครื่องบินครองความได้เปรียบทางอากาศส่วนมากต้องมีสมรรถสูงเช่นแรงขับและน้ำหนักบรรทุก เพื่อทำหน้าที่ครองอากาศ ส่วนเครื่องบินสกัดกั้นทางอากาศก็ต้องออกแบบให้ คล่องตัว ไต่ระดับได้เร็ว บินขึ้นลง-ส่งและส่งกำลังบำรุงได้รวดเร็ว ทำให้มีขนาดเล็ก แรงขับน้อยกว่า บรรทุกได้น้อยกว่า แต่บินขึ้นลงได้รวดเร็วโหลดอาวุธได้ง่ายกว่า สรุปก็คือสมรรถนะของเครื่องอยู่ที่หน้าที่ที่มันทำ ซึ่งหน้าที่ของSu-30 และ Jas-39 มันออกแบบมาเพื่อสู้กันอยู่แล้วครับ

โดยคุณ papopk เมื่อวันที่ 03/04/2011 10:51:29


ความคิดเห็นที่ 14


เรากำลังพูดถึงสมรรถนะ ของเครื่องบินล้วนๆนะครับ ถามว่าผมชอบjas 39 มั้ยก็ตอบว่าชอบมากๆเรยครับ แต่ผมมองแล้วยังงัยก็สู้SUไม่ได้นะ ขึ้นมา1-1 ไม่มีตัวช่วยSUเห็นก่อน ก็ยิงหมัดยาวไส่เราก่อน เครื่องSUก้แรงท่อคู่ด้วย พอมีประเดนนี้ขึ้นมา บ้างก้ว่าเรามี อีรีอาย บ้างก็นักบินเราเก่ง บ้างก้ว่ากลยุทธ คืออันนั้นก้ไช่ เหมือนกับ ซีวิค กะ เฟอร์รารี่ อะมาแดรกแข่งกัน ยังงัยๆเฟอร์รารี่ ก็สมรรถนะดีก่าอยู่ดีอะ ต่อไห้ชุมัคเกอร์มาขับ ซีวิค  ผมว่าก็สุ้คนธรรมดา ขับเฟอร์รารี่ไม่ได้หรอก คือต้องเข้าจัยนะว่าเรากำลังพูดถึงตัวเครื่องบินล้วนๆน่ะ แต่ถามว่าเราซื้อJAS มาเหมาะสมมั้ย ผมว่าเหมาะสมดีครับ ผมไม่ได้มีอคติอะไรจริงๆนะ

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 03/04/2011 14:25:29


ความคิดเห็นที่ 15


เดี๋ยวนี้เค้ารบกันด้วยระบบ Network กันแล้ว

ไม่มีใครเค้าดวลกันตัวต่อตัวแล้ว มันการันตีผลแพ้ชนะไม่ได้

ต่อให้เป็น MiG-21 ก็เหอะ ถ้ามัน BVR ได้ก็น่ากลัวทั้งนั้น

เปรียบเทียบสมรรถนะกัน เป็นแค่ทฤษฏี

รบกันจริง มันขื้นอยู่กับยุทธวิธีเป็นหลัก นักบินรบถึงต้องบินฝึกกันทุกวันไงครับ

โดยคุณ ZARAJEVO เมื่อวันที่ 03/04/2011 20:04:48


ความคิดเห็นที่ 16


ผมว่าเอาเครื่องยนต์วางให้แจส 39อีกสักเครื่องทุกอย่างน่าจะจบ และสู้ได้ทุกรูปแบบ ทางสวีเดนคงต้องไปปรับรุ่นใหม่ ให้ตรงความตัองการของ

ระบบต่างนะครับ ให้มันแรงพอกันครับ

ขอบคุณครับ

โดยคุณ jarong เมื่อวันที่ 04/04/2011 01:12:24


ความคิดเห็นที่ 17


จะคล้ายยูโรไฟร์เตอร์ประมาณนั้นเหมือนเลยครับ

โดยคุณ jarong เมื่อวันที่ 04/04/2011 01:20:40


ความคิดเห็นที่ 18


อย่าลืมกฏการปะทะด้วยนะครับ

 

เห็นก่อน ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยว่า เป็นมิตรหรือศัตรู ใช่เป้าหมายที่เราต้องการทำลายหรือเปล่า

 

โอกาสหมากัดกันยังมีอยู่ ไม่ใช่โบราณยกเลิกไปเลย

 

ล่าสุดตอนสงครามอ่าว เอฟสิบห้าเมกันยังต้องเข้าไปพิสูจน์ทราบเป้าหมายมิหยี่สิบเก้าอิรัคด้วยสายตานักบินอยู่เลยครับ ยกเว้นว่าเอแวคมันพิสูจน์ทราบให้เสร็จแล้วสั่งให้ยิงลูกเดียว (จริงๆ อาจจะหลายลูกก็ได้) แล้วหันหัวกลับเลย สอยพวกเดียวกันหรือไม่นักบินเครื่องเอฟไม่ต้องไปสนใจอยู่แล้วครับ เอแวครับไปเต็มๆ หากมีการผิดพลาด สอยพวกเดียวกัน อย่างกรณีเอฟสิบห้าเมกันสอยแบล็คฮอร์คพวกเดียวกันก็มีมาแล้ว

 

เฟรนลี่ไฟร์เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั้งสงครามบนบกและในอากาศ ด้วยว่าต่อให้มีระบบไอเอฟเอฟที่ดีเพียงไร การพิสูจน์เป้าหมายที่ดีที่สุดคือตาของนักบินหรือไม่ก็พวดยูเอวีต่างๆ นี่แหละครับ

 

เอาซูสามสิบหรือมิกญี่สิบเก้ามาดวลแบบคาวบอยดกันกับกริเป้น ถ้าไม่คำนึงถึงกฏการปะทะและการพิสูจน์ฝ่ายแล้ว ขึ้นอยู่กับใครเห็นใครก่อนและใครล๊อคเป้าได้ก่อน ระยะยิงของลูกยาวแต่ละฝ่ายคงไม่ต่างกันมาก สมมุติว่าต่างฝ่ายต่างกดปุ่มยิงพร้อมกันแล้วหันหัวกลับ ไม่แคล้วต้องเครื่องหักด้วยกันทั้งคู่มั้งครับ

 

ว่าแต่ชีวิตจริงมันจะเป็นอย่างนั้นหรือ ผมก็ไม่ทราบจริงๆ ครับว่า นักบินไฟเตอร์แต่ละประเทศมีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไรจนถึงขั้นกดปุ่มยิงจรวดหรือปืน ตัดสินใจเองได้เลยหรือว่าทุกขั้นตอนถูกควบคุมโดยผู้บังคับบัญชาที่สถานภาคพื้นหรือในเอแวค...

 

 

 

โดยคุณ เสือใหญ่ เมื่อวันที่ 04/04/2011 02:31:28


ความคิดเห็นที่ 19


ถ้าเปรียบ ซีวิค กะ เฟอร์รารี่ 

ผมขอเปรียบเทียบ พระนเรศวร กับ พม่า แล้วกัน

พระนเรศวรมีกำลังน้อยกว่า(สมรรถนะ) อาวุธน้อยกว่า(ระบบอาวุธแย่กว่า) ทำไมถึงชนะได้ ก็เพราะมีกลยุทธและฝีมือที่ดีไง

ทำไม อเมริกาแพ้สงครามเวียดนาม ทั้งที่อาวุธดีกว่า อะไร ๆ ก็ดีกว่า ก็เพราะว่าเวียดนามมีการปรับแผนกลยุทธมาเล่นแบบกองโจรไง 

ดังนั้นถึงสู้กัน 1:1 เราต้องหากลยุทธที่จะไม่ให้เสียเปรียบเค้าได้

แล้วอีกอย่าง ถ้าเรามี SU-30 แล้วอีกฝ่ายก็มี SU-30  แล้วมาสู้กัน ใช้ว่าจะเสมอกันต่างคนต่างบินกับบ้าน ต่างคนต่างโดนสอยร่วง ซ่ะที่ไหน 

แล้วโอกาสจะเจอกัน 1:1 ก็มีโอกาสน้อยด้วย เพราะเวลาบินจะเป็นเป็น คู่ กลยุทธก็จะสามารถยืดหยุ่นได้ 

 

โดยคุณ spooky เมื่อวันที่ 04/04/2011 03:36:22


ความคิดเห็นที่ 20


ถ้าผมเป็นคนจ่ายตังค์........เพื่อให้ทหารไทยได้ใช้

 

นาทีนี้ผมเลือก JAS

โดยคุณ jaidee8008 เมื่อวันที่ 04/04/2011 05:50:55


ความคิดเห็นที่ 21


ล้อฟรี กันเลยเชียว ถ้าตอนนั้นกองทัพเลือกน้อง ซู มาความเห้นก้คงจะเป้นอิกแบบนึงน่ะแหละ ซีวิคก็ซีวิค อูวท์...

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 04/04/2011 06:44:53


ความคิดเห็นที่ 22


    เปรียบอะไรที่ ไม่น่าเปรียบกันได้ เพราะสิ่งที่เปรียบเทียบมาหลายปัจจัย  ถ้าเปรียบเทียบแต่ละหัวข้อก็คงได้ เช่นระยะทำการบิน หรือระบบเรดาห์ ระบบอาวุธ อื่นๆ   เปรียบเทียบซะ  ห่างกันเกินไป  ไม่เปรียบเทียบเป็น กระต่ายกับเต่า เลยละครับ

โดยคุณ Troll เมื่อวันที่ 04/04/2011 16:47:39


ความคิดเห็นที่ 23


ผมก็มองเรื่องเนทเวอร์ค โดยเฉพาะถ้า DATA LINK สมบูรณ์ ทั้ง 3 มิติ

ไม่แน่ DTI-2 ก็จะทำงานก่อนที่ JAS-39 ได้บินขึ้นด้วยซ้ำ

โดยที่ SABB ก็ชี้เป้าให้ DTI-2 ทำงานไปก่อน ถ้า SU-30 เข้ามาและยัง ไม่ได้แปลงร่างปิดเรดาร์ เป็น สเตลส์ เสียก่อน

คิดเล่นๆ ครับ แสดงว่า ตอนนี้ DATALINK 3 DIMENSION ต้องสมบูรณ์จริงๆใช่ไหม อิอิ ล้อเล่น

รอดูการอัพเกรด ดาต้าลิงค์ กับ เรือ 2 ลำ ของกองทัพเรือด้วย....

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 05/04/2011 04:38:21