เนื่องจากว่าอาวุธชนิดนี้ เป็นอาวุธที่มีคุณค่าทั้งทางยุทธวิธี และ จิตวิทยา ประกอบกับเทคโนโลยีในการนำวิถีที่ทันสมัยมากขึ้น CEP 50m เท่านั้นเอง ถึงแม้จะไม่โดนเป้าอย่างแม่นยำเหมือน โทมาฮ๊อค แต่ด้วยน้ำหนักของดินระเบิดก็เพียงพอที่จะลายเป้าหมายได้
บทเรียนจากส่งครามอ่าวครั้งที่ 1 PATRIOT ถึงแม้นจะยิงโดน Scud อย่างแม่นยำ แต่ด้วยส่วนที่ถูกทำลายเป็นเพียงแค่ส่วน Body แต่หัวรบไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย ในครั้งนั้นทั้ง ยิว และ ซาอุดี้ จึงบอบช้ำกันพอสมควร
ทำให้สงครามอ่าวครั้งที่ 2 จึงได้มีการใช้ ดาวเทียม เครื่องบินสอดแนม และ UAV ในการหา Scud แล้วถล่มด้วย โทมาฮ๊อค ก่อนจะตามกวาดล้างด้วยกองกำลังทางอากาศอีกครั้ง
ในขณะที่เพื่อนบ้านของไทย ที่มีแน้วโม้มจะใช้กำลังทางทหารต่อกันได้มีอาวุธชนิดนี้ แต่เป็นรุ่นที่ทันสมัยกว่าเดิม ยิงไกลกว่าเดิม ยิงแม่น กว่าเดิม ประจำการอยู่
http://en.wikipedia.org/wiki/Hwasong-6
วันดี คืนดี เกิดถูกลูกยาวยิงใส่ อาจจะเป็นที่เชียงใหม่ หรือ โคราช ถึงแม้นว่าจะไม่โดนที่ตั้งทางทหาร แค่ไปตกในตลาด มันไม่ได้หมายความบ้านเรือนเท่านั้นที่พังพินาศ แต่หมายถึงเศรษฐกิจ ของประเทศไทย ที่พังไปด้วย
ณ วันนี้เพื่อนบ้านเรามีอาวุธประเภทนี้เข้าประจำการแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นว่าเรามีอาวุธอะไรที่ใช้ต่อต้าน หรือ ถ่วงดุล เพื่อนบ้านเลย ในขณะที่คนไทยก็มัวแต่ดูถูกกันเอง ว่าทำไม่ได้บ้างล่ะ เทคโนโลยีไม่ถึงบ้างล่ะ แล้วบ้านเมืองมันจะไปรอดได้ไง (ว่ะ)
จากคลิปจะเห็นว่า ถึงตัว scud จะถูกยิง แต่หัวรบก็ยังคงตกลงทำลายเป้าหมายอยู่ดี
เวปเราผมว่าเพื่อนบ้านเราเค้าก็อ่านอยู่นะครับ คุณระแวงเค้าเค้าก็ระแวงคุณ สงครามบางทีก็เกิดจากความระแวง กรุณาระวังการโพสด้วยครับ เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งก็ทำให้คนฆ่ากันมาเยอะนะครับ น่าคิดๆๆๆ
ประสิทธิภาพการทำลายก็ลดลงไปเยอะไม่ใช่หรอครับ ดีกว่าตูมใหญ่ตั้งเยอะ
อยู่ ๆ เขาคงไม่ยิงหรอกครับ อีกอย่างคือลูกพี่เขากับเราหุ้นส่วนทางธุรกิจมันมากมายมหาศาล แต่เห็นด้วยที่ควรจะจัดหาระบบป้องกันขีปนาวุธพวกนี้ แต่อย่างว่า เวียดนามมีมาเป็นชาติและ เราก็ไม่ได้จัดหาอะไรเป็นเรื่องเป็นราว(อันนี้ผมนั่งเีทียน อยากทราบเหมือนกันว่าไทยเรามีระบบป้องกันจรวดพวกนี้แค่ไหน)
เรื่องใหญ่คงเป็นงบประมาณ ยังไงปีหน้าก็ได้เพิ่มอยู่แล้ว พ้นเรื่องปืืนประจำการใหม่ รถถังใหม่ ทีนี้กองทัพบกจะจัดรึเปล่า
ซื้อ Patriot มาประจำการซักไว้ซัก 1 กองพันดิ อิอิ
ระบบขีปนาวุธที่ทำลาย Ballistic Missile เรียกว่า ABM ซึ่งระบบABM มี2 เทรนด์
1.ระบบ เก่าแต่เป็นที่นิยม ทำลายยานนำกลับ(re-entry vehicles) พูดง่ายๆคือหัวรบนั้นเอง จะเป็นนิวเคลีย หรือธรรมดาก็แล้วแต่ โดยใช้ขีปนาวุธเข้าไปทำรายโดยตรง
ปัญหา ยิงไม่ค่อยโดน เนื่องจากยานนำกลับนั้นเร็วมาก 6-10 M หรือมากกวว่านั้น และ ถ้าเป็นระบบหลายหัวรบ ล๊อกเป้าอิสระ(MIRV) นี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่โดนแน่ และยังมีปัญหาระบบยานนำกลับปรับทิศทางด้วยเครื่องยนต์แรงดันต่ำ เพื่อเปลี่ยนวิถี ซึ่ง ABM ที่ตามอยู่ จะต้องคำนวนวิถีใหม่อีก ซึ่งทำให้โอกาศ ชนเป้าของ ABM ยิ่งน้อยลงอีก
ส่วน อเมริกา ทดสอบพลาดหลายครั้ง ทั้งที่แค่ทำลายหัวรบเดี่ยว รุ่นเก่า ซึ่ง มีขนาดหัวรบใหญ่ และความเร็วต่ำ ก็ยังพลาดบ่อย ไม่ต้องพูดถึง Ballistic Missile รุ่นใหม่ๆ ยิงไม่โดนแน่นอน
ข่าว --จีนพึ่งเปลี่ยนBallistic Missile รุ่นDF-16 มาแทนDf15 ติดที่ฐานยิงตรงข้ามไต้หวัน ซึ่งDF16 มียานนำกลับเล็กกว่า และความเร็วสูงกว่า เนื่องจาก DF16 มีช่วงMidcourse ที่สูงกว่า ยานนำกลับเล็กกว่า
2.ระบบทำลายช่วงนอกโลก ระบบนี้มีหลายช่วง ถ้าเป็นช่วงสำคัญเขาเรียกว่า Midcourse ซึ่งเป็นช่วงที่หัวรบใหญ่ยังไม่ปล่อยยานนำกลับ ซึ่งเท่ากับว่า หัวรบแบบ MIRV ยังไม่ถูกปล่อยออก ซึ่งถ้าทำลายช่วงนี้ ก็ถือว่าดีมากคือ
-หัวรบรวมมีขนาดใหญ่มาก
-หัวรบย่อย MIRV ยังไม่ถูกปล่อยออก
- ความเร็วไม่สูงมาก
แต่มีปัญหาสำคัญ
-การทำลายควรใช้การพุ่งชนได้เท่านั้น (kinetic kill)
-ระยะนี้อยู่ไกลมาก 800-3000 km จากพื้นโลก Ballistic Missileบางรุ่น อยู่สูงกว่านี้อีก โดยเฉพาะ ICBM สูงมากกว่า 2000++km
-ระบบตรวจจับต้องก้าวหน้า
ระบบนี้ทั้ง อเมริกา จีน ก็เร่งพัฒนาอยู่ จากข่าว
จีน ทดลอง ABM (Ground-Based Midcourse Missile Interception Test) เมื่อวันที่11/1/10 โดยใช้ hq9 ติดหัวรบแบบ KKV (kinetic kill vehicle) คล้ายๆกับที่ติดตั้งใน จรวด KT เพื่อทำลายดาวเทียมคราวก่อน ผลการทดสอบ Hq9 ประสบผลสำเร็จ
ซึ่งระบบABM เป็นระบบที่ปกป้อง ขีปนาวุธแบบ Ballistic เช่น ICBM ความพิเศษในการทำลายช่วง midcourse ด้วย หัวรบ KKV คือทำลายหัวรบตั้งแต่ยังไม่แยกตัว ซึ่งทำให้ระบบหัวรบแบบMIRV ที่ใช้ในICBM นั้นลดคุณค่าลง หรือไร้ประสิทธิภาพ
แถมข้อมูลน่าสนใจ ระบบABM แบบ Midcourse Missile Interception แบบใหม่ใช้ laser แทนหัวรบจลย์ (kinetic kill vehicle)
"China advancing laser weapons program
Technology equals or surpasses U.S. capability
Posted: November 22, 1999
1:00 am Eastern
By Jon E. Dougherty
? 2010 WorldNetDaily.com
Not only is the Chinese military advancing rapidly in the field of anti-satellite, anti-missile laser weapon technology, but its technology equals or surpasses U.S. laser weapons capabilities currently under development, informed sources have told WorldNetDaily.
According to Mark Stokes, a military author specializing in Chinese weapons development, Beijings efforts to harness laser weapons technology began in the 1960s, under a program called Project 640-3, sanctioned by Chairman Mao Zedong. The Chinese, he said, renamed the project the "863 Program" in 1979, after a Chinese researcher named Sun Wanlin convinced the Central Military Commission "to maintain the pace and even raise the priority of laser development" in 1979.
Today, Beijings effort to develop laser technology encompasses over "10,000 personnel -- including 3,000 engineers in 300 scientific research organizations -- with nearly 40 percent of Chinas laser research and development (R & D) devoted to military applications," Stokes wrote in an analytical paper provided to WorldNetDaily.
Chinas "DEW (Directed Energy Weapons) research (is) part of a larger class of weapons known to the Chinese as new concept weapons (xin gainian wuqi), which include high power lasers, high power microwaves, railguns, coil guns, (and) particle beam weapons," Stokes said. "The two most important organizations involved in R&D of DEW are the China Academy of Sciences and the Commission of Science, Technology and Industry for National Defense (COSTIND)."
To underscore Beijings fixation with laser weaponry, the Hong Kong Standard reported Nov. 15 that the Chinese have developed a laser-based anti-missile, anti-satellite system.
"Chinas system shoots a laser beam that destroys the [guidance systems] and causes the projectile to fall harmlessly to the ground," the paper said.
The report also noted that Beijing had "conducted tests of its new technology since August 1999," and said the system was similar to the laser defense system technology being developed by the U.S. Air Force."
จรวดของไทย ควรร่วมมือกะจีน เช่น DTI-1 พัฒนาต่อยอดให้มันสุดๆไปเลย อยากเห็น DTI ในแบบ ICBM จัง 555+ เมื่อถึงตอนนั้น คงน่าเกรงขามสุดๆ
ผมว่าตัว Iron Dome ของอิสราเอลน่าสนใจกว่าเยอะ(ถูกกว่าด้วย) ขนาดก้ไม่ใหญ่มากป้องกันเป็นพื้นที่ได้รัศมี 24-70-240 กม. ถือว่าไม่เลวเลยครับ
ถามคุณ talon นะ
ถ้าคุณคิดแบบนี้ คุณจะสนใจเทคโนโลยีทางทหารทำไม เสียเวลาเปล่าๆ
งั้นเรือดำน้ำ อย่าซื้อมันเลย รถถัง200คันก็อย่าซื้อมันเลย เพื่อนบ้านจะได้ไม่ระแวง คิดแบบนี้เหรอ
ถ้าคุณสนใจเทคโนโลยีทางทหาร โปรดน้อมเกล้าเอาประโยคใส่กระหม่อมไว้ด้วย
“แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์”
แล้วบอกอ่านมาตั้งแต่ วิง21
ดูหมัดหนักค่ายพี่หมีดีกว่า เห็นว่า เป็น S-500
ผมสนับสนุนแนวความคิดของ คุณน่าคิด ครับ การมีอะไรมารับมือหรือถ่วงดุลกับอาวุธของเพื่อนบ้านไว้บ้างนั้นผมว่าเป็นการดี ถือว่าไม่ตกอยู่ในความประมาท เพราะเราจะมาเชื่อว่า ช่วงนี้ เวลานี้ ภายในห้าปีสิบปีนี้ เรามีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้าน เรื่องปัญหารบรากันนั้นไม่ทางมีแน่ แต่ยืนยันได้หรือไม่ว่า ในพื้นฐานของความสัมพันธ์นั้นมันก็มีความขัดแย้งและระแวงกันอยู่ ส่วนการที่จะควรมีจรวดต่อต้านแบบใดนั้นคงต้องมองอีกทีครับ เพราะของแบบนี้ต้องดูประสิทธิภาพกันอย่างลึกซึ้งว่าดีจริง ประสิทธิภาพสูง คุ้มค่าและสมราคา ไม่ใช่ซื้อแพงเสียสุดกู่แต่เอาเข้าจริงเก็บจรวดแบบ สกัด ไม่อยู่หมัดก็ไม่คุ้มค่า อีกทั้งดินขับจรวดนั้นมีอายุการใช้งานเท่าไหร่ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง รวมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีสำหรับพึ่งพาตนเองในอนาคตเพื่อสามารถที่จะผลิตเองต่อไปได้หรืออัพเกรดเองในกรณีที่ดินขับหมดอายุครับ
ทำไมเราต้องเกรงใจเพื่อนบ้านด้วยหว่า ทั้งที่เพื่อนบ้านส่วนใหญ่ก็สะสมอาวุธกันอยู่แล้ว
ผมก็ว่าเหมือนคุณเด็กทะเลครับ "อย่าประมาท" เพราะเพื่อนบ้านเราบางประเทศก็ผีเข้าผีออกอยู่เรื่อย
ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าจะมีอาวุธต่อต้าน ที่ทำให้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งก็ดี ดีกว่าไม่มีอะไรเลยนะครับ
ตัวนี้ ของชาติไหนผลิตอ่ะ ของฝรั่งเศษเปล่าหว่า ทำไม เห็น บ.ฝรั่งเศษ
มีความเป็นไปได้ไหมที่ จะติดตั้ง ระบบต้อต้าน ICBM ในอวกาศ และฐานยิง ICBM ในอวกาศครับ
ผมว่า พัฒนา MLRS ให้ยิงได้ถึงระยะ 400-500km ใช้ยิงทำลายฐานยิง SCUD โดยตรงเลย
แลกหมัดกัน SCUD ยิงทีละนัด MLRS ยิงเป็นชุดๆ หักกลบลบหนี้น่าจะได้เปรียบครับ
ผมขอสนับสนุน คุณน่าคิด ครับผม เรามีไว้ป้องกันตัวเองน่าจะดีกว่า มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี
ตัวนี้ ของอิหร่าน