อยากทราบความเห็นว่า งบประมาณรายปีของกองทัพที่เหมาะสมควรเป้นเท่าใดเมื่อเทียบกับงบประมาณทั้งประเทศ พร้อมเหตุผลประกอบ
โดยส่วนตัวเห็นว่า อาวุธของทุกเหล่าทัพ เก่ามากแล้วจะต้องปลดประจำการจำนวนมาก หรือต้องมีการปรับปรุงยืดอายุออกไป กอรปกับตั้งแต่ปี 2540 กองทัพถูกตัดงบประมาณไปมากๆจนขาดการพัฒนา จนปัญหาสะสม มายุคนี้ งปประมาณของไทยเพิ่มจาก 8 แสนล้าน ( กองทัพ 7 หมื่นล้าน )ในปี 2540 เป็น กว่า 2.3 ล้านล้าน ( กองทัพ 1.4-1.7 แสนล้าน) ในปีปัจจุบัน
ผมจึงเห็นว่างบที่เหมาะสมกับกองทัพน่าจะประมาณ 10% ของงบประมาณประเทศ คือ มากกว่า 2 แสนล้านบาท จึงจะสามารถพัฒนากองทัพให้ทันสมัยต่อไปได้ โดยแบ่งเป้นแต่ละเหล่าทัพดังนี้
ทัพบก 6% ของงบประเทศ ( ปีนี้ไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้าน )
ทัพเรือ 2% ของงบประเทศ ( ปีนี้ไม่น้อยกว่า 4 หมื่นล้าน )
ทัพอากาศ 2% ของงบประเทศ ( ปีนี้ไม่น้อยกว่า 4 หมื่นล้าน )
ท่านสมาชิกเห็นเป็นอย่างไรครับ ( อดีตก่อนปี 2540 เราคือเบอร์ 1 ในอาเซียน )
ผมนั่งอ่านตั้งนาน ในนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จักคำว่า GDP เลย GDP คืออะไรครับ งบประมาณประจำปี คืออะไรครับ ตอบให้ผมทราบหน่อยครับ
บางท่านก็บอก 10 % ของ GDP บางคนบอก 10% ของงบประมาณ ก็ยังเอางบประมาณรายจ่ายของประเทศมาปนกับ GDP อีก
มันคนละตัวครับบบบบเจ้านายยยยย
เท่าที่เรียนมา ไม่ทราบว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่า GDP คือ รายได้มวลรวมประชาชาติ ไม่ใช่หรือครับ เป็นรายได้ที่ประชาชนของประเทศนนั้นสามารถทำมาหาได้ไม่ใช่หรือครับ ถ้าผมเข้าใจผิดก็ขออภัย ส่วนเจ้างบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่รัฐบาลจะต้องทำเป็นกฎหมาย ที่เรียกว่า พรบ.งบประมาณประจำปี รัฐบาลต้องทำล่วงหน้าทุกปี โดยคำนวณเอาจากรายได้ของรัฐบาล เช่น การจัดเก็บภาษี ต่างๆ เป็นต้น บางปีก็จัดทำแบบขาดดุล(ประเทศไทยจัดทำงบแบบนี้เป็นประจำ) นานๆๆๆๆจะจัดทำเป็นแบบเกินดุล (ถ้าปีนั้นๆ รัฐบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีได้มาก) เพราะฉะนั้น ถ้าประเทศไทยจะจัดงบให้กลาโหมเป็น 10% ของ GDP ในส่วนตัวผมว่าก็เยอะนะ แต่ถ้าเป็น10% ของบประมาณประจำปีก็พอไหว ครับ
ผมว่าเยอะไปครับ 10% เรามีไว้ป้องปรามป้องกันครับ ไม่ได้ไปรุกรานใคร
ปัจจุบันก็โอเคแล้วครับผมว่า ค่อยเป็นไป อย่าไปแข่งขันกันสะสมอาวุธเลยครับ
ยิ่งสะสมมากคนจะซวย คือ ประชาชน ครับ
เยอะไรแค่นี้ก็ยังไม่พอปรับปรุงหลายไรอย่างครับ f5ยังใช้กันจนเกินคุ้ม ถึงเราไม่เพิ่ม เพื่อนบ้านรอบข้างเค้าก็เพิ่ม ลองไปดูขอมูลเพื่อนบ้านรอบทิศเราสิครับ
ใจคอคุณจะไม่เอาไปพัฒนาอย่างอื่นเลยหรือครับ คุณ kokkak ที่ว่า ยังน้อยอะ
แล้วไม่ต้องบอกผมไปดูหรอกครับ ผมติดตามตลอดอยู่แล้วครับ
กองทัพเราไม่เป็นรองชาติใดในอาเซียนครับ จำไว้
และประเทศที่งบทหารต่อจีดีพี เยอะ ๆ นี่ก็ พม่าไงครับ ประชาชนเขากินดีอยู่ดี ทัดเทียมบ้านเราไหมหละครับ
.....มีดาราสาว ๆ นุ่งน้อยห่มน้อยให้สำราญใจไหม หรือมีอิสระอย่างเราไหม
กองทัพเราเน้นคุณภาพที่เหมาะสม พอเพียง คุ้มค่า ครับ
อย่าพูด แค่เอามันครับ สมองไม่ได้มีไว้กั้นหูครับ
กลายเป็นมาม่าไปแล้วครับ ขอโทษท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
ใครที่ยังคิดว่างบทหารเรามีเหลือกินเหลือใช้มาดู
(เอามาจากกระทู้ก่าที่ตกไป)
และต้องยอมรับว่า กองทัพของเรา บริหารเงิน ได้ดี ครับ จัดซื้อได้คุ้มค่า
ไม่ได้ว่าเหลือกินเหลือใช้นะครับ
แต่งบ 10 เปอเซ็นต์ของจีดีพี มันมากไปครับ
ไอ้รายการนี้ผมดูตั้งนานแล้วครับ
ขอบคุณที่เอามาให้ดูครับ
ประชาชนของพม่าเขาก็อยู่ดีกินดีน่ะครับสบายด้วยซ้ำ(เฉพาะพวกที่มาอยู่ในประเทศเรา)....อิอิ
+1 ท่าน ครับ spooky ศึกษาดีๆก่อนบอกว่า"เหลือกินเหลือใช้"
เต็มภูเก็ตเลยครับ นั่งกินส้มตำ
พูดกับฝรั่ง แจ
555 อยากได้เหมือนกัน ขอจากเหนือไปใต้ยิ่งดี
ถึงท่าน thorn009 ถ้าท่านหมายถึงผม
ผมก็ขอบอกว่า ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องเหลือกินเหลือใช้
ผมพูดถึง งบ จีดีพี 10 เปอเซ็นต์
อ่านให้ดีก่อนตีความครับ
ทำเล็กแต่แจ๋ว สิครับ เหมาะกับสถานะการปัจจุบันครับ
ตอนกองทัพควรจะได้ ประมาณ 2.0 แสนล้าน หวังมานานแล้วครับ คงไม่ถึง 10% ครับ แค่ 2.0 กองทัพก็จะร้องให้ลูกครับ เหมาะสม สุดๆๆๆ
ตอนนี้กองทัพกำลังพึ่งพาตนเองครับ เพื่อลดการจัดซื้อจัดหา อาวุธ ครับ ยกตัวอย่าง เช่น
1. การสนับสนุน บริษัท รถบรรทุกขนาดต่างๆ ให้กองทัพ ครับ
2. การสนับสนุน บริษัท ของคนไทย ผลิต กระสุนปืนใหญ่ ทุกขนาด
3. จรวดหรายลำกล้อง DTI 1 และ DTI 2
4. การผลิตปืนใหญ่ L119 105 mm. ซึ่งได้สิทธิบัตรในการผลิต จาก อังกฤษ ครับ
5. อาวุธปืนต่างๆ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนการออกแบบอยู่
6. อื่นๆ อีกเยอะ ครับ
จากคนใน ทบ
และก็จริงอยู่ที่ gdp อาจเพิ่มขึ้นทุกปี แต่มันก็มีสิ่งที่ยังขาดสำหรับประเทศเราอีกไม่น้อย เช่นกันครับ
อย่าว่าผมออกทะเลนะครับ โดนส่วนตัว อยากได้รถไฟฟ้า ครับ
ถูกต้องครับ ....ค่อยเป็นค่อยไป พึ่งพาตนเอง ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
งบกองทัพกี่ %GDP ของประเทศจึงเหมาะสม ต้องดูที่หมายมิติ แล้วมันต้องสมดุลกันครับ หากถามว่าทำไมต้อง 10 % น้อยกว่านี้ได้ไหม ตอบว่าได้ครับ แต่ต้องดูพัฒนาการของประเทศอื่นๆรอบๆเราด้วยครับ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย พม่า ประเทศเหล่านี้มีการเพิ่มงบทางทหารอย่างมีนัยสำคัญมาตลอด 10 ปี ผลคือ แต้มต่อทางทหารที่เราเคยมีเหนือกว่าเริ่มหมดไป อำนาจการต่อรอง ทั้งทางการเมือง การต่างประเทศ เริ่มมีปัญหา หากลองคุยกับนักการทหาร เสนาธิการทหาร เค้าเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องแล้วครับ หากเกิดเหตุการณ์ใช้กำลังขึ้นมา โดยไม่มีพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ สังเกตุง่ายๆ หากไม่นับปัญหาการเมืองภายในของเรา กรณีเขมร อดีตเค้าเกรงใจเราอย่างมากเพราะเมื่อเวียดนามเริ่มอ่อนลง การเจรจาใดก็สะดวก ปัจจุบันแม้เวียดนามไม่ได้มาเกี่ยวข้องโดยตรง แต่โดยนัยสำคัญแล้ว พันธะสัญญาระหว่างกันมีอะไรบ้างเราก้ไม่รู้ แต่ที่รู้ กองทัพเวียดนามมีการพัฒนากองทัพทุกเหล่าจนเกินกว่าที่เราจะนั่งมองเฉยๆได้อีกต่อไป ซึ่งทางเขมรเองก้รู้ดี
นอกจากนี้ งบกองทัพ 10%GDP ไม่มีผลต่อการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆครับขอรับรอง และเราไม่จำเป็นต้องคงงบกองทัพ 10%GDP ไปตลอด เพราะงบประมาณประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 10% ผลคือสัดส่วนงบกองทัพจะค่อยๆลดลงจาก 10 เป็น 9 เป็น 8 ... แต่ยอดเงินจะค่อยๆมากขึ้นไปเองทีละนิด ซึ่งน่าจะเพียงพอกับการคงไว้ซึ่งแต้มต่อทางด้านความมั่นคงของประเทศ อย่าลืมนโยบายของไทย ไม่รุกรานใคร แต่ก้ไม่ยอมให้ใครรุกราน และ กองทัพมั่นคง ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ต่างชาติมีความมั่นใจในการลงทุน ครับ ( ผลเกิดในยุคที่มีทั้งสงคราม ร่มเกล้า ช่องบก รู้ดีครับว่าต่างชาติเค้ารังเรในการลงทุนเพราะไม่มั่นใจ หลังสงครามสงบ ประเทสมั่นคง เศรษกิจอู่ฟู่ ครับ เพราะการลงทุนเพียบ )
10% ของงบประมาณประเทศเท่าที่ผมเข้าใจมันไม่ใช่ 10% ของ gdp นะครับ แล้วตอนนี้ ปี 54 กลาโหม ได้งบ หนึ่งแสนหกหมื่นห้าพัน ล้านโดย ประมาณครับ ถ้าคิด เป็น gdp นี่ ยังไม่ถึง 3 % เลยครับ เพราะฉะนั้น ถ้าจะเอางบให้แตะถึง 2แสนล้าน สำหรับ กลาโหม ผมว่ายังไงมันก็คงไม่ถึง 6% ของ gdp อะครับ
ปล1. ด้วยความรู้อันน้อยนิดผิดถูกประการใดขออภัยครับ
ปล2. gdp ไม่ใช่งบประมาณชาติครับ
คิดกันมีเหตุผลแบบนี้น่าคิดครับ +1 ให้เจ้าของกระทู้ครับ
ถึงคุณ InFerNo
คือว่าตอนผมเขีนตอบกระทู้ไป ยังไม่มีใครมาตอบ ที่ผมตอบไปก็เพื่อที่จะตอบ จขกท ครับ ถ้าข้อความผมทำให้เข้าใจผิดก็ขอโทษด้วยนะครับ
ขออภัยครับ คุณ spooky
ถึงคุณ art125
gdp ในที่นี้ผมหมายถึง ของประเทศเราครับ
ขออภัยครับ เอาเป็นว่า 10% ของงบประจำปีของประเทศก็แล้วกัน ครับ
ส่วนการคิดแบบในคลิปนะครับ ก็คือ 80:20
สมมุติจาก ที่เจ้าของกระทู้บอกเลยละกันนะครับ
งบกองทัพรวม 200,000 ล้านบาท
แบ่ง 3 กองทัพ เท่าๆ กัน จะได้กองทัพละ ประมาณ 66,000 ล้านบาท
80% คือเงินเดือน และของใช้ต่างๆ จะได้ ประมาณ 52,800 ล้านบาท
20% คือ เงินปรับปรุง และซื้อยุทโธปกรณ์ใหม่ จะได้ ประมาณ 13,200 ล้านบาท
ทุกคนคิดว่าพอหรือเปล่า ครับ
และที่ในคลิปบอกคือ เวลาจะซื้อใหม่ก็ต้องของจากรัฐบาลช่วยอีกครึ่งนึงด้วยนะครับ
ขอโทษอีกทีนึงนะครับ ถ้าตอบขัดแย้งกับใคร
อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ตอบให้เจ้าของกระทู้นะครับ
ใช่ครับ ผมก็หมายถึงของประเทศเราครับ และ 2แสนล้านบ้านเราในตอนนี้ มันก็ยังไม่ถึง 10 % ของ gdp ตามที่คุณ inferno กล่าวขึ้นมาด้านบนนะครับผมแค่จะสื่อว่าถึงงบทางทหารจะแตะ 2แสนล้านผมว่ามันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการพัฒนาด้านอื่นๆในประเทศหรอกครับและจากความคืดเห็นของผม2แสนล้านไม่ได้มากไปสำหรับประเทศเราครับ ขอบคุณครับ
ความเห็นต่างกัน ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งครับ
นานาจิตตัง ผมก็รับฟังไว้ประดับความรู้ แต่ผมว่า ในนโยบายกองทัพตอนนี้ คงยังไม่ต้องถึง 10 เปอเซ็นต์ของ gdp มวลรวมของประเทศไทย
อาจจะเพิ่มเติมลงไป แต่คงไม่ต้องถึง 10 เปอเซ็นต์ มันต้องทำควบคู่กันไปครับ ระหว่างพัฒนารั้วกับพัฒนาคน และอื่น ๆ
คุณ art125 ...อ่อครับ ผมนึกว่าคุณหมายถึงความหมาย gdp
..... ส่วนงบตอนนี้ ก็เข้าใจครับ ว่าไม่พอ อาจต้องเพิ่มเติมหรือประการใด ก็สุดแท้แต่ ครม.
ส่วนในยามนี้ นโยบายนี้ จะถึง 10 เปอเซ็นต์
สำหรับผมก็ว่ามากไปและกระทบต่อการพัฒนาอย่างอื่น แน่นอนครับ อาจจะมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่รัฐจะจัดสัดส่วนงบอย่างไรครับ
เรื่องงบ ไม่ค่อยรู้เรื่องนะครับ
ส่วน GDP ก็ตามลิ้งที่แปะไว้เลยครับ
ขอบคุณครับ คุณ INFERNO
แล้วทุกท่านรู้หรือยังครับว่า 10%ของGDP กับ 10% ของงบประมาณประจำปีมันมากน้อยแค่ใหน
สมัยเรียนก็แค่เศราฐศาสตร์เบื้องต้นครับ เล่มเดียวเองแค่ผ่านก็พอใจแล้ว ต้องขอบคุณจริง ถึงว่าผมลืมเจ้า GNP ไปตัวหนึ่ง คนส่วนมากเวลาพูดก็จะพูดถึงแต่เจ้า GDP กันทั้งนั้นเลย ขอบคุณอีกดรั้งครับ
GDP คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ครับ พุดง่ายๆ มูลค่าของสินค้าและบริการทั้งประเทศครับ
เรื่องงบกองทัพ แบ่งเป็นงบประจำ 80 พัฒนา 20 ถ้าจำไม่ผิดสัดส่วนควรเป็น 50:50 อย่างต่ำก็ 60:40 ครับ สมัยก่อนจึงเกิดโครงการจิ๋วแต่แจ๋ว โดยเป้าหมายลดจำนวนทหาร เพิ่มประสิทธิภาพอาวุธกองทัพ น่าจะประมาณปี 2530 ถึงปี 2540 ครับ แต่ปัจจุบันยังไม่บรรลุเป้าหมาย คำถามคือแล้วปัจจุบันยังต้องจำเป้นต้องทำหรือไม เรามาดูกันครับ
ก่อนปี 2540 ประมาณว่าไทยมีทหารประจำการรวม 3 แสนคน งบกองทัพราว 8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 266,667 บาทต่อทหาร 1 คน ผลคือ กองทัพไทยอยู่อันดัน 1 ในอาเซียน แต่ไม่พอพัฒนากองทัพหลังจากสหรัฐลดการช่วยเหลือทางทหารลง จึงจำเป็นต้องลดกำลังพล เพื่อรักษาความสามารถของกองทัพไว้
ปัจจุบัน 2554 สมมุติกองทัพมีทหารเท่าเดิม 3 แสนคน งบกองทัพ 1.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 500,000 บาทต่อทหาร 1 คน ผลคือกองทัพไทยเริ่มขยับตัว ปรับปรุงอาวุธเก่าให้ใช้งานต่อไป จัดหาอาวุธมือสอง อาวุธใหม่บ้าง เพื่อคงสภาพความพร้อมรบเอาไว้ให้มากที่สุด และไม่ให้เสียเปรียบประเทศอื่นๆในภูมิภาค
มาดูเพื่อนๆในภูมิภาคกันครับ พม่ามีการพัฒนากองทัพอย่างรวดเร็วทั้งคุณภาพและปริมาณ เวียดนาม มาเลเซีย สิงค์โป ก็พัฒนาจนเราไม่ต้องเปรียบเทียบแล้ว ยกเว้นกองทัพบกที่เราน่าจะเหนือกว่า
คำตอบของผมคือ
1. ด้านจำนวนเราลดไม่ได้แต่ให้คงไว้เท่าเดิม เนื่องจากเพื่อนบ้านเราเพิ่มจำนวนทหารจำนวนมากจน ทหารที่เรามีอาจไม่พอ ( สังเกตุเริ่มมีกระแสขอจัดตั้งกองพลใหม่ๆ )
2. ด้านสัดส่วนงบกองทัพ จาก 80:20 จะค่อยๆขยับไปสู่ 60:40 ได้หากกองทัพได้รับงบเพิ่มขึ้นทุกปี เช่นหากได้ปีละ 2 แสนล้าน คิดเป็น 666,667 บาทต่อทหาร 1 คน ก็น่าจะพอให้กองทัพพัฒนาต่อไปได้ทัดเทียมเพื่อนบ้าน แต่ไม่มีทางนำหน้าไปได้ แต่ก็เพียงพอต่อการรักษาความมั่นคงของชาติ แล้วอาศัยงานด้านต่างประเทศเป็นตัวเสริม
( ถ้า 40% คืองบพัฒนา ก็ 8 หมื่นล้านต่อปีสำหรับทุกเหล่าทัพ )
อย่างนี้พอไหวไหมครับท่านสมาชิก
ถ้าคิด 10% ของ GDP ผมว่าเยอะเกินไป ควรจะอยู่ที่ไม่เกิน 2.5% ต่อ GDP กลาโหมต้องปรับการจัดสรรงบซะใหม่ คือเป็นวงรอบ ปีนี้ ทร ได้เยอะสุด ปีต่อไปก็พลัดกันไปทั้งสามเหล่า แบบที่คลิปใน คห ของคุณ spooky คือกลาโหมต้องลดงบที่ไม่จำเป็นออกไปด้วยครับ และที่สำคัญคืองบต้องผันแปรกับขนาดเศรษฐกิจ
ผมเอา GDP มาเพราะมันหาข้อมูลเทียบกับต่างประเทศได้ง่ายกว่านะครับ
ดูเหมือนจะสับสนกันระหว่างgdpกับงบประจำปีอยู่บ้างนะครับส่วนใหญ่หลายๆประเทศจะใช้งบกองทัพอยู่ที่ประมาณ2%ของgdpเว้นบางประเทศ(สิงคโปร์4%กว่า)ดูตามนี้เลยครับhttp://translate.google.com/translate?hl=th&langpair=en%7Cth&u=http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_military_expenditures
แต่ทั้งนี้หลายประเทศยังมีงบลับที่ไม่มีการเปิดเผยซึ่งอาจจะมากกว่าที่เห็นเยอะทีเดียวเพราะกลัวถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามประเทศอื่นอย่างกรณีจีนที่ถูกอเมริกาเรียกร้องให้เปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงของงบกองทัพ(ที่เห็นนะจริงแต่ไม่หมดอิๆทีตัวเองละงุบงิบไรมั่งไม่ยักบอกไอ้กันเอ๊ย)อ้อจริงเรื่องงบลับนี่ไทยเราก็มีนะครับเดี๋ยวจะน้อยใจไปส่วนจะเอาไปทำอะไรนันจนใจจะรู้
ในกรณีบ้านเราผมว่าสัก2%ก็เหมาะแล้วครับเอาเงินไปดูแลเด็กๆดีกว่่าสว่นหากจะมีการเพิ่มงบขอเป็นงบการวิจัยพัฒนาR&Dดีกว่า
อ้อมีข่าวดีๆมาบอกครับหลังจากเศรษฐกิจพี่กันแกเริ่มรวนๆบ้านเราเลยเริ่มเปลี่ยนแนวคิดที่เคยพึ่งแต่พี่่แกถ่ายเดียวแต่แปลี่ยนเป็นระบบถ่วงดุลแทนคือจะไม่ผูกขาดเหมือนเดิมที่สำคัญคือจะไม่แค่ซื้อมาใช้อย่างเดียวแต่จะมีการร่วมมือการต่อยอดกับหลายๆประเทศ
เร็วๆนี้รัสเซียก็กำลังมาครับ แต่ว่ายังอยู่แค่ในช่วงเริ่มต้นคงต้องฝากความหวังไว้กับรัฐบาลละครับตอนนี้เริ่มไว้ดีแล้วรัฐบาลสมัยหน้าขอให้ต่อเนื่องด้วยเถอะสาธุ
ยาวไปอย่าว่ากันนะครับ
ถ้าเกิดลดค่าใช้จ่ายเรื่องเงินเดือนทหารลงไปได้เงินเราก็เหลือครับ
โดยเฉพาะชั้นนายพลที่ไม่มีหน้าที่หลัก ซึ่งเป็นผลพวงมาจากช่วงสงครามเกาหลี
เหมือนญี่ปุ่นหลังสงครามโลกมีBabyboom ไทยเราก็ GeneralBoom
แต่กว่าจะเฟดกำลังพลส่วนนี้ได้คงต้องใช้เวลาหลายปี
อยากได้เป็นรูปแบบของพร้อมรบ 100% ทุกเหล่าครับ
หากเราอิงระบบกองทัพของสหรัฐ (ทอ. ทบ. ทร. นย. ยามฝั่ง(นย.อเมริกามีเรือเป็นของตัวเอง เครื่องบินของอเมริกา ของไทยนย.จะเป็นทหารราบของทร.)
ถ้าอิงระบบแบบนี้ จำนวนไม่ต้องเยอะครับ เน้นคุณภาพไว้ให้เยอะ +พร้อมรบ 100% (หมายถึงสามารถเคลื่อนที่ไปนู่นนี่ได้ภายในเวลาอันสั้นหลังเกิดเหตุการหรือมีคำสั่ง)
ทำแบบนี้จะตรวจสอบการโกงกิน (ดะระระระแหลก) ได้ง่ายครับ (มั้ง)
ความเห็นส่วนตัวอีกแล้ว -.- เช่นเคย หากทำให้ท่านใดขุ่นเคือง แล้วผมแวะเข้ามาพบเข้า ผมจะกดลบครับ
ส่วนงปกองทัพ คงเพิ่มขึ้นมากตามแต่ความต้องการของเราคงเป็นไปไม่ได้ และทหารของเราผมคิดว่าคงเข้าใจดี
อย่าลืมครับ ประเทศไทยยังมีคนมากกว่า หกสิบล้านคน มีหลายกระทรวงและหน่วยงาน เอาแต่พอดี ให้มีการปรับปรุงกองทัพ ได้ก็ดีแล้วครับ