บ้านหลังหนึ่ง มีคุณพ่อ-คุณแม่ พร้อมลูกๆ อีก 3 คน
เมื่อวันก่อน คุณพ่อและคุณแม่ ได้แบ่ง "เค้ก" ให้ลูกๆ ได้กินกัน เป็นเค้กที่รอมาทั้งปี หรืิออาจจะหลายปี เค้กชิ้นนี้อร่อยมาก ถึงแม้จะได้ชิ้นเล็กๆ หรือแค่ "เศษเค้ก" แต่ลูกๆ ทุกคนก็อยากกิน และการแบ่งเค้กก็ออกมาดังนี้
1. ลูกคนโต ได้ก้อนโตมาก ประเภทกินได้หลายวันเลย (ก็ลูกคนโตเนอะ เลยกินเยอะหน่อย)
2. ลูกคนกลาง ได้มาชิ้นหนึ่ง สมน้ำสมเนื้อ บอกว่า "ผมได้ชิ้นนี้แล้ว ผมจะเอาอีกนะครับ"
ในขณะที่...(ตัดฉากมาที่มุมหนึ่งของห้อง)
3. ลูกคนเล็ก ไม่มีสักชิ้น ไม่มีแม้แต่ "เศษเค้ก" คุณพ่อกับคุณแม่ท่านบอกว่า "น้องเล็กยังเล็กอยู่ ไม่ต้องกินก็ได้ ให้พี่ๆ เขากินก่อน พี่ๆ เขาต้องทำงานช่วยพ่อกับแม่" ทั้งที่ในความจริง ทั้ง 3 คน ก็ทำงานให้คุณพ่อและคุณแม่เท่าๆ กัน
แต่น้องคนเล็กก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด มีบ้างที่น้อยใจนิดๆ แต่ก็ต้องอดทนรอ "เค้ก" ก้อนต่อไปที่กำลังจะมา และหวังว่า "เค้ก" ก้อนนั้น คงจะหวาน หอม อร่อยกว่าชิ้นนี้ และที่สำคัญ ต้องแบ่งให้เท่ากัน...
พวกเรา ก็ต้องเอาใจช่วย "น้องคนเล็ก" ให้ได้ลิ้มรสเค้กที่แสนอร่อยให้ได้นะครับ
เอาใจช่วยครับ "ลูกประดู่ บานพร้อมกัน ร่วง.....พร้อมกัน"
ผมว่านิทานประเภทนี้เห็นมาแยะนะ คนเขียนก็จินตนาการสูงดี แต่ถ้าอยากจะฟังผมว่าผมไปฟังจากพวกนักการเมือง หรือ พวกแกนนำสีต่างๆได้ครับ แทนที่จะมานั่งแต่งนิทานทำคนแตกกัน ผมว่ามาช่วยกันหาข้อมูลการทุจริตดีกว่าครับ ว่ามันมีตรงไหน หรือ เอาข้อมูลมาพูดกัน ไม่ใช่มาตีวัวกระทบคราดอย่างนี้ ไม่พอใจรู้สึกไม่ดีพูดออกมาตรงๆเลยครับ ไม่ใช่มาทำตัวเป็นแอบ ผมว่าทหารเรือ เค้าเป็นทหารอาชีพนะ สิ่งสำคัญของการเป็นทหารก็คือ ความเชื่อ ความศรัทธา เค้าคงจะไม่เอาเหตุที่ของบแล้วไม่ได้ไปเข้ากับสีไหนหรอกนะ เลิกเถอะครับ มีคนพูดให้คนแตกกันมากแล้วประเทศนี้ พอคนแตกกันทะเลาะกันฆ่ากัน คนพูดก็หายไม่ออกมารับผิดชอบ ทุกวันนี้มีปัญหาให้แก้กันไม่พอรึไง
เรื่องการจัดซื้ออาวุธนั้น อย่างเช่น การซื้อเครื่องบิน รถถัง เรือดำน้ำ มิใช่ว่าขอซื้อปุ๊บวันนี้แล้วจะได้ซื้อเลย เป็นความเข้าใจผิดของคนทั่วไปครับ
การจัดซื้อ จะต้อง ขอ ครม.ในกรอบวงเงินว่า จะซื้อ แต่ยังไม่ระบุแบบ ไปก่อนว่า ขอเงินซื้อจำนี้ ๗๐๐๐ ล้าน ครม.จะอนุมัติไหม สำหรับการจัดซื้อ อะไร และหากมีรายละเอียดว่า อะไรเท่าไหร่
เมื่อ ครม.อนุมัติ ก็ต้องกลับมา ให้บริษัท ต่าง ๆ ยื่นเสนอมาว่า ใครจะขายอะไร ตรงนี้หละที่บริษัททั้งหลายชอบอ้างว่า ล็อคสเปค เพราะกำหนดจำนวน ประเภทภารกิจ และวงเงิน พร้อมรายละเอียด ซึ่งบางบริษัททำไม่ได้ แต่ความเป็นจริงกองทัพเขาอยากได้อะไร เค้าก็กำหนดสเป๊คแบบนั้นอยู่แล้ว ตรงตัว
เมื่อสรุปว่าใครชนะ หรือ คณะกรรมการพิจารณาว่าจะเอาอะไร ก็เสนอ ครม.ไปอีก ว่า จะขอซื้ออะไร แบบไหน วงเงินเท่าไหร่ (ตรงนี้เงินอาจจะน้อยลง) เมื่อ ครม.อนุมัติ ถึงจะไปลงนามซื้อ
กรณีเครื่องบินขับไล่กิปเปน ต้องเข้า ครม.อย่างน้อย ๒ ครั้ง คือ ขอซื้อเครื่องบินขับไล่ ๑๒ เครื่อง วงเงิน XXX ล้านบาท จากนั้นจึง ขอ ครม.ว่า ตกลงจะขอซื้อแบบครึ่งทาง ๖ เครื่อง แบบ GRIPEN 39 C/D วงเงินเท่านี้บาท แล้วถึงจะไปซื้อได้
กรณีเรือดำน้ำ ต้องเข้า ครม. ๒ ครั้งเป็นอย่างน้อยครับ ๑ ขอซื้อเรือดำน้ำ (จะระบุจำนวนหรือเปล่า) วงเงิน XXX ล้านบาท เมื่อ ครม.อนุมัติ ถึงจะขอไปอีกว่า ตกลงขอซื้อรุ่นนี้ จำนวน XX ลำ วงเงิน XXX ล้านบาท สรุปว่า หากยุบสภา ยังไงก็ไม่ทัน ต้องไปผูกพัน ครม.หน้า
แนะนำว่า ทร.จัดสัมมนา เรื่องความจำเป็นในการมีเรือดำน้ำปกป้องน่านน้ำไทย เชิญ ครม. และผู้เชี่ยวชาญไทย ต่างประเทศ เชิญสื่อ ประชาชน จัดใหญ่ หอประชุมกองทัพเรือ มีบริษัทเรือดำน้ำมาออกบูท (ฟรี) แนะนำเรือดำน้ำตนเอง เลยครับ เอาให้เป็นเรื่องระดับชาติ คำตอบมันคือ "ซื้อ" แต่แบบไหนเท่านั้นเอง
ขอเสนอความคิดเห็นหน่อยนะคับ ถ้าเราคิดว่า กองทัพนั้นได้ กองท้พนี้ได้ กองทัพนี้ไม่ได้ ผมว่ามันมองดูไม่ดีเลย ไม่ว่าจะกองทัพไหนก้กองทัพไทย ซึ่งหน้าที่สำคัญของทุกเหล่าทัพ ก็มีหน้าที่เดียวกัน คือดูแลปกป้องประเทศชาติ ทั้งสามเหล่าทัพก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันในการปฏิบัติงานให้ประสิทธิภาพ ถึงเวลามันมาเองรอกันต่อไปครับ
วันพระไม่ได้มีหนเดียว น่ะครับ ต้องท่องไว้ การจัดซื้อขนาด 7000 ล้านบาท มันก็ไม่ได้ถูกนะครับ อีกอย่างข่าวที่ออกกมา พึ่งมาออกกันเมื่อเดือนที่ผ่านมา
การจะทำเอกสาร และยื่นข้อเสนอต่างๆมันก็ใช่ที่อีกละครับ การไม่ไ้ดอนุมัืิติครั้งนี้ คงจะเป็นชะตาฟ้าลิขิตให้เ ทร.ได้เรือดำน้ำประเภทอื่่นซึ่งมีเทคโนโลยี
ที่เหนือกว่าก็ได้ครับ ใช่ว่า กระทรวงการคลังไม่อยากอนุมัติเงินงบประมาณ เพียงแต่มันไม่ทันน่ะครับ ขนาด จรวดแบบยิงตั้งตรง(VLS) ต้องเสนอผ่าน
กรรมการไม่รู้กี่รอบกว่าจะได้มาประจำการ ก็พึ่งอนุมัติไปที่ผ่านมา น่ะครับ เรือดำน้ำยังไงก็เป็นคิวถัดไปแน่นอนผมว่าในปีนี้หรือปีหน้านี่ละ
ผมต้องขอขอบพระคุณทุกความเห็นนะครับ และทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนิทานน้ำเน่าที่ผมนั่งพิมพ์ขึ้นมา ผมอาจจะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการทหาร การเมืองเท่ากับท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ เพียงแค่เห็นมาแบบไหน เขียนแบบนั้น ตามความรู้สึก ก็เท่านั้น!!!! โดยส่วนตัวของผม ผมก็ไม่ได้ว่าใครผิด ใครถูก ไม่เข้าข้างไหน สีใด เพียงแค่อยากเห็นในสิ่งที่มันถูกต้อง อย่างที่พี่ท้าวทองไหลกล่าวมา
และต้อง "กราบประทานอภัย" หากเรื่องที่ผมแต่งขึ้นมา มันทำให้บอร์ดของท่านรก และคิดว่าข้อความข้างต้น มันเป็นนำมาซึ่งความแตกแยก ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ
ความถูกต้องนั้นละที่หายาก มันไม่เคยเหมือนกันเลยในแต่ละคน คิดกลับกันสมัย ทร ได้เรือจักรีฯ ทบไม่น้อยใจหรือ ทอเขาก็อยากได้ f18 เหมือนกัน เขาก็เคยอดมาแล้ว ตอนนี้เป็นวันของ ทบ เหล่าอื่นก็ควรร่วมยินดี ปัญหาคือความจริงมันไม่ใช่ที่คุณคิด หรือแค่เอาประเด็นหนึ่งมาขยายความ ทุกอย่างมีเหตุผลครับอย่างเคสของคุณพ่ออาจจะเคยสัญญากับพี่ไว้แล้วก็ได้เพราะพี่เขาเคยอดมาแล้วตอนสมัยที่แจกให้น้อง แต่ก็เหมือนเด็กๆ อะไรที่พ่อเคยทำดีให้ไม่เคยจำหรอกครับ แต่พอทำไรไม่ถูกใจก็ตีโพยตีพายหาว่าพ่อไม่รักบ้างละ พ่อไม่ยุติธรรมบ้างละ ดูเอาผบทร เป็นแบบครับแล้วจะเข้าใจ ว่าสภาพบุรุษ เขาคิดและทำอย่างไร
...........ปัจจุบันอยู่ในยุคที่สามารถเข้าสู่ข้อมูลข่าวสารต่างๆได้โดยง่าย........การกระทำอะไรที่คลุมเคลือ หรือการกระทำใด ที่กระทำไปโดยไม่มีเหตุไม่มีผลมาประกอบ........เพราะกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาของการกระทำ(การกระทำของคน ย่อมแสดงให้เห็นว่าคนๆนั้นต้องการอะไร)..........ตราบใด ที่ยังไม่มีการออกมาชี้แจง ให้เห็นถึงเหตุและผล ให้ได้ความกระจ่างชัดแล้ว.......ย่อมทำให้คนในสังคม อดที่จะมีความสงสัยเคลือบแคลงใจไม่ได้ และก็ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมไปตลอด.........แต่ถ้าหากได้กระไปด้วยความถูกต้องชอบธรรมแล้ว ย่อมจะสามารถชี้แจงอธิบายขยายความให้สังคมเข้าใจได้.........ครับ/สกายนาย
ผมก็ขอโทษด้วยครับเรื่องนิทาน ถ้าไม่มีเจตนาอะไรแบบแฝง หรือ แบ่งสีแบ่งเหล่าอะไร พอดีผมเห็นของอย่างนี้มามากจนทำให้อารมณ์เสียครับ หลายครั้งกระทบกระเทียบแล้วชวนคนไปเข้ากับ สี หรือ พวกตัว ตอนนี้ผมว่าประเทศเราไม่ควรมาแบ่งข้างแล้วละครับ แต่ควรเอาเหตุผลที่รอบด้านมาคุยกันดีกว่า
ต้องขอโทษด้วยครับ
ผมไม่ได้อยู่ในแวดวงทหารหนะนะครับ แต่อยู่ก็รับราชการในหน่วยงานด้านการเงินการคลัง (แต่ก็ไม่ได้ดูเรื่องการจัดซื้ออาวุธของกองทัพหรอกนะครับ รายละเอียดผมเลยไม่รู้) คือ อยากเรียนว่า ในทางราชการ การจะซื้ออะไรสักอย่างหนึ่งนี่ ไม่ง่ายครับ อย่าว่าแต่อาวุธเลย เครื่องถ่ายเอกสารสักเครื่อง ก็ต้องมีขั้นตอน ที่เป็นอย่างนี้ ก็อยากเรียนว่า เพราะรัฐบาลไม่มีเงินมากนัก การจะใช้สอยอะไรสักอย่างจึงต้องคำนึงถึง ความจำเป็น,เร่งด่วน, คุ้มค่า และปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่างครับ
เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ ผมเองก็ไม่ทราบอะไรมากไปกว่าที่ได้ติดตามจากบอร์ดนี้แหละครับ ก็อยากตั้งข้อสังเกตว่า ในคณะรัฐมนตรี คงไม่ขัดข้องในหลักการ แต่ผมเข้าใจว่า เป็นปัญหาในเรื่องรายละเอียด การตัดสินใจอนุมัติงบประมาณ คงไม่วิธีหลับตาจิ้มไม่ได้ ทุกขั้นตอนต้องตอบคำถามได้ ตั้งแต่ ความจำเป็นของการมีเรือดำน้ำ เหตุผลที่เลือกซื้อรุ่นนี้ ไม่ซื้อรุ่นนั้น ซื้อแล้วเอาไปเก็บที่ไหน มีสถานีซ่อมบำรุงรองรับหรือไม่ มาแล้ว มีกำลังพลรองรับหรือ ไม่ใช่เอาไปจอดไว้เฉยๆ 5-6 ปีเพื่อฝึกกำลังพลแน่นะ ฯลฯ
เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้หมด จึงต้องมีการรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจน ซึ่งผมก็เดาต่อไปว่าคงไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำให้ได้ทันรัฐบาลที่กำลังจะยุบสภาได้ จึงขอชลอเอาไว้ก่อนกระมังครับ
ผมต้องปรบมือให้เจ้าของกระทู้ และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ท่านคิดเหมือนกัน คือ "รักประเทศไทย รักกองทัพไทย" อยากให้ทหารมีอะไรดีๆ มาปกป้องเค้าในการทำสงครามปกป้องแผ่นดิน ขอบคุณจากใจจริงครับ
ใจเย็นๆ ครับ การขอซื้ออะไรก็ต้องคิดให้ดี มองโลกในแง่ดี ตอนนี้ มีเสียงที่เค้าบ่นกันว่า เป็น "งบประมาณแบ่งเค็กทิ้งทวน" หากอยู่ๆ รัฐบาลหน้า หรือรัฐบาลใหม่ (อาจจะชุดเดิมหรือชุดใหม่ก็ตาม) กลัวครหานี้ เกิดยกเลิกมติ ครม.เมื่อ ๓ - ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เหมือนที่เคยมีมาแล้ว ผลคือ เรือดำน้ำ แห้ว สนิท ครับ อย่างนั้น แย่สุดๆ เลย
กรณีรถถัง ถ้าจำไม่ผิด ทบ.เค้าเคยเสนอมารวมกับรถเกราะ เมื่อคราวก่อนนู๊น จำได้ว่า น่าจะคราวเดียวกับที่ ทอ.ขอเงินซื้อเครื่องบินขับไล่ใหม่ (ก่อนที่ ทอ.จะขอไปอีกทีว่า เป็นกิปเปน) แต่ยังไม่ตกลงใจแบบ มีเพียงรถเกราะที่ตกลงแบบและขออนุมัติซื้อเมื่อปีที่แล้วจากวงเงินที่อนุมัติ
เรื่องไม่ใช่การแบ่งเค้กครับ ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งจำเป็น การจัดหารถถังใหม่นั้นก็โอเคครับ ครม. อนุมัติให้จัดซื้อก็ทำตามขั้นตอนมาแล้ว การที่ ครม.อนุมัตินั้นไม่ใช่เรื่องแปลกและน่าอิจฉา แต่น่าแสดงความยินดีที่กองทัพได้อาวุธใหม่ แต่สำหรับกองทัพเรือนั้นก็ไม่ได้ขอแบ่งเค้กแต่อย่างใด แต่ กองทัพเรือเตรียมงบของตัวเองไว้แล้ว ไม่เกี่ยวกับว่าจะของบอะไรเพิ่มเติม แต่เรื่องมันของเรื่องคือ งบพร้อมแล้ว นำเรื่องชงเข้ากระทรวงกลาโหมแล้ว แต่กระทรวงกลาโหมไม่นำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. นั่นต่างหาก ไม่ใช่ว่า ครม.เขาไม่อนุมัติ แต่เรื่องมันไม่เข้าที่ประชุม ครม. จะกล่าวเรื่องว่า ครม.อนุมัติให้ซื้อโน่นซื้อนี่ให้กับเหล่าทัพอื่นแล้วไม่อนุมัติกองทัพเรือก็ไม่ใช่ครับ
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ ได้อ่านความคิดเห็นหลายท่านแล้วพอเข้าใจครับ...
ถ้าต้องการได้เรือดำน้ำ ก็ต้องพรีเซ้นต์ ให้ผู้ที่อนุมัติเข้าใจในความจำเป็น ที่ต้องการจัดหาครับ....
เมื่อได้คำอธิบายจากหลายท่าน....แล้ว มีความรู้สึกว่า ต้องอึด ต้องดำ ต้องนิ่ง ต้องอึดครับ กว่าจะเป็น สุภาพบุรุษได้นั้น ต้องอึดครับ...ต้องอึด และ รอเวลาครับ
ขอบคุณทุกข้อความที่เข้ามาชี้แจงให้ผมได้เข้าใจมากขึ้นครับ ทัศนะแต่ละท่าน อ่านแล้ว มันก็มีเหตุมีผลจริงๆ ครับ
ยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นสมาชิกในบอร์ดแห่งนี้ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเป็นกองเลย
ขอบคุณ เว็บมาสเตอร์ และ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน มากครับ
ครับ... อย่าคิดมาก ครับ รู้ ๆ กันอยู่...