คำแถลงส่วนตัวของผมต่อกรณีเรือดำน้ำ Type-206A
เชื่อว่าทุกท่านคงทราบผลของกรณีเรือดำน้ำ Type-206A ที่กองทัพเรือมีความต้องการจัดหากันไปแล้วนะครับ
ตรงนี้ต้องอยากจะชี้แจงก่อนว่า ไม่ใช่ว่าคณะรัฐมนตรีไม่อนุมัตินะครับ เพราะเรื่องยังไม่เข้าที่ประชุมเลย แต่เป็นการที่เรื่องนั้นไม่ถูกนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีจึงไม่สามารถอนุมัติหรือไม่อนุมัติได้
ส่วนทำไมถึงไม่มีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ผมคงขอไม่กล่าวถึงครับ
ผมพูดในบทความนี้ในฐานะนักสังเกตุการณ์ทางทหารอิสระ ไม่เกี่ยวกับหน้าที่การงานหรือการเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ ThaiArmedForce.com แต่อย่างใด ขอให้ทุกท่านแยกก่อนนะครับ
ผมจะพูดว่า ผมก็รู้สึกเสียดายไม่ต่างจากทุกท่านเช่นกัน แต่ตอนที่ทราบข่าว ผมไม่รู้สึกอะไรเลยยกเว้นการหัวเราะออกมาดัง ๆ วันนั้นผมรับโทรศัพท์ไม่ต่ำกว่าสิบสาย (แต่ละคนโทรมาอย่างกะผมเป็นคนอนุมัติอย่างนั้นน่ะ 555+) แต่ละคนโทรมาระบายทั้งสิ้น แต่ผมกลับหัวเราะฮา ๆ กลับไป ที่หัวเราะนี่ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพราะตอนนั้นไม่รู้จะรู้สึกอะไรดี เลยได้แต่หัวเราะด้วยความละเหี่ยใจ .... ว่าเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ในเมืองไทยจริง ๆ
แต่ก็ช่างเถอะครับ เพราะนี่คือสิ่งที่ผมจะพูดต่อไป
1) การตัดสินใจต้องมีลำดับขั้นตอนของมัน ไม่ว่าเราจะไม่เห็นด้วยหรือไม่ชอบมันมากขนาดไหน แต่สุดท้าย ถ้ามันดำเนินการตามขั้นตอนนี้ และผลไม่ออกมาอย่างที่คาดหวัง เราก็ต้องยอมรับมัน ผมชอบคำพูดของผู้บัญชาการทหารเรือที่ว่า กองทัพเรือรู้สึกเสียใจ แต่ก็คงเป็นเพราะว่ากองทัพเรือชี้แจงน้อยเกินไป นับจากนี้จะชี้แจงให้มากขึ้น ผมอยากให้ทัศนคติแบบนี้เผื่อแผ่ไปจนถึงมิตรรักแฟนเพลงของเรือดำน้ำชุดนี้ด้วยครับ
2) พูดแบบนี้อาจจะขัดใจ แต่ต้องขอทำความเข้าใจว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรถถัง Oplot ที่กองทัพบกได้รับอนุมัติจัดหาในวงเงิน 7 พันล้านครับ ก่อนจะด่าผม ผมอยากให้ฟังผมพูดสักนิดนึงว่า ผมยอมรับว่าผมก็ไม่ชอบ Oplot ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ รวมถึงผมคัดค้านอย่างเต็มที่ต่อการตั้งกองพลทหารม้าที่ 3 ซึ่งคงไม่ขอกล่าวที่นี่ เพราะจะนอกประเด็น
แต่ถ้ากระทรวงกลาโหมจะดำเนินการขออนุมัติตามที่กองทัพบกจะเสนอขอซื้อ Oplot และไม่ดำเนินการขออนุมัติการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือนั้น ก็ไม่ใช่ความผิดของกองทัพบกแต่ประการใด เนื่องจากงบประมาณตรงนี้ก็เป็นของกองทัพบกอยู่แล้ว ต้องเข้าใจว่ากองทัพบกมีสิทธิที่จะขออนุมัติใช้งบประมาณ กลับกันงบประมาณของกองทัพเรือที่กันไว้จัดหาเรือดำน้ำนั้น ก็เป็นสิทธิของกองทัพเรือเช่นกัน ไม่ว่าเรือดำน้ำจะถูกเสนอหรือไม่ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่กองทัพบกขออนุมัติจัดหา Oplot และกลับกันการที่กองทัพบกขออนุมัติจัดหา Oplot ก็ไม่ได้ทำให้เกิดอุปสรรคจนกระทรวงกลาโหมไม่ยอมแทงเรื่องขออนุมัติการจัดหาเรือดำน้ำแต่ประการใด แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยนักกับ Oplot แต่อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับกองทัพบกด้วยครับ ถ้าจะถูก ก็ควรตั้งคำถามกับกระทรวงกลาโหมแต่เพียงผู้เดียวมากกว่า
3) ผมได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ซึ่งมีท่านหนึ่งเอ่ยว่า ไม่อยากจะให้มีคนพูดกันว่า กระทรวงกลาโหมไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อยากให้อ่าวไทยถูกปิดอ่าวและโดนเรือดำน้ำจมสักครั้งจะได้รู้สึกกัน เพื่อนคนนี้ให้เหตุผลว่า แม้ว่านั้นจะเป็นการแสดงให้เห็นความสำคัญของเรือดำน้ำ แต่การที่จะบอกว่าอยากให้อ่าวไทยถูกปิดแล้วให้เรือโดนจมนั้น ต้องถามว่า ใครที่รับกรรมเป็นคนแรก? กองทัพเรือนะครับ เพราะเรือและกำลังพลของกองทัพเรือคือคนที่จะโดนยิงจม เขาบอกว่าไม่แฟร์สักเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้ผมเห็นด้วย และผมเสนอว่า ถ้าจะพูด ก็ไปหาเหตุผลมาพูดกันดีกว่าว่า ทำไมการมีหรือไม่มีเรือดำน้ำจะส่งผลต่อการถูกปิดอ่าวหรือไม่อย่างไร
4) ผมรู้สึกแปลกใจที่ครั้งนี้มีแม้กระทั้งกลุ่มคนที่จะเปิดชัญชีเพื่อรับบริจาคเพื่อซื้อเรือดำน้ำให้กองทัพเรือ
พูดแบบนี้อาจจะขัดใจเป็นคำรบที่สอง แต่ผมอยากจะบอกว่า ก็เป็นสิทธิของทุกคนที่จะคิดหรือทำอะไร แต่การทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ว่ากองทัพเรือไม่มีงบประมาณ เพราะงบประมาณนั้นมีแล้ว โดยกองทัพเรือใช้วิธีแบ่งงบประมาณของตนมาจัดหา ดังนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน มันเกี่ยวกับเรื่องอื่น อีกอย่าง ผมเข้าใจในเจตนาดี แต่ขอเรียนตามตรงด้วยความเคารพว่า แม้ว่าการดำเนินการของท่านนั้นจะเป็นที่รับทราบไปถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ แต่สุดท้ายมันอาจจะช่วยได้เพียงว่า มันแสดงให้เห็นว่าประชาชนกลุ่มหนึ่งสนับสนุนให้มีการจัดหา Type-206A มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ และด้วยความเคารพอีกครั้งว่า รวมเงินยังไงก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ถึง 7 พันกว่าล้านบาท
ผมกราบขอโทษถ้าพูดแล้วอาจจะทำร้ายความรู้สึกกันไป แต่อยากชี้แจงว่า ผมเรียนตามตรงตามข้อเท็จจริงนะครับ ผมไม่ได้ตามว่าเรื่องไปถึงไหน แต่ถ้าถึงขั้นมีการบริจาคไปแล้วจริง ๆ ผมอยากเสนอว่า อยากให้นำเงินส่วนนี้ไปบริจาคให้ศูนย์เพาะพันธุ์เต่าทะเลซึ่งกองทัพเรือจัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์เต่าทะเลดีกว่า เนื่องจากศูนย์แห่งนี้อยู่ได้ด้วยเงินบริจาค และเต่าทะเลก็คือทรัพยากรอันมีค่าอันหนึ่งของอ่าวไทยของเรา ถ้าหน่วยซีลที่ดูแลศูนย์นี้อยู่มีแรงช่วยเต่าให้มันอยู่รอดและขยายพันธุ์ ก็จะเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลไม่ต่างจากการจัดหาเรือดำน้ำเช่นกัน
5) ผมรู้สึกแปลกใจและประหลาดใจมากที่มีคนผิดหวังกับการที่กองทัพเรือไม่ได้รับอนุญาติให้จัดหา Type-206A ในครั้งนี้ ในฐานะที่ผมซึ่งต้องยอมรับตรง ๆ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลาย ๆ คนที่ร่วมริเริ่มต้มดราม่าชามใหญ่อันนี้ แต่ก็ไม่มีใครคิดเลยว่า ดราม่าชามนี้จะใหญ่แซบและเผ็ดร้อนขนาดนี้ จนพวกผมที่ช่วยกันไปสัมภาษณ์และเขียนบทความนั้นตกใจไปหลายวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมก็งงเหมือนกันว่ามีคนจำนวนมากผิดหวังได้มากขนาดนี้เชียวหรือ
หวังมากก็ผิดหวังมากอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าผมจะเป็นคนคิดวลีที่ว่า 60 ปีที่ผ่านมากองทัพเรือกับเรือดำน้ำนั้นเหมือนถูกคำสาปมาเสมอ แต่ผมก็เชื่ออย่างหนึ่ง นี่มันไม่ใช่จดจบของโลกใบนี้ (Its not the end of the world) อยากให้ทุกคนทำใจเย็น ๆ กันเอาไว้ พูดจากันด้วยเหตุด้วยผล นี่น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะประชาชนจะได้ถกเถียงว่าสรุปแล้วกองทัพเรือควรมีเรือดำน้ำหรือไม่ และ Type-206A คือคำตอบหรือไม่ แม้ว่าผมจะอยู่ในฝ่ายที่สนับสนุนการจัดหาเรือดำน้ำ Type-206A ในครั้งนี้ แต่ก็อยากจะเรียกร้องให้ทุกท่านที่สนับสนุนนั้นรับฟังคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยด้วยไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร และใช้เหตุและผลตามหลักวิชาการในการชี้แจงและพูดจากัน การถกเถียงด้วยเหตุผลจะลดความขัดแย้ง นำมาซึ่งปัญญาสาธารณะ และจะเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่ทำให้สังคมเราก้าวพ้นจากสังคมล่องแก่งตามข่าวลือในที่สุด
6) นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรื่องนี้และ Type-206A อย่างน้อยก็ยังไม่สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ ถ้าเราอยากได้ Type-206A ก็ยังพอมีทาง เพราะกองทัพเรือก็ยืนยันมาตลอดว่ายังไงก็ต้อง Type-206A ดีลนี้เท่านั้นเพราะคุ้มค่าที่สุด และที่สำคัญถ้าตราบใดที่ยังไม่มีใครปาดหน้ากองทัพเรือไทย ก็แปลว่ายังเป็นโอกาสแรกที่กองทัพเรือจะได้จัดหาเรือดำน้ำชุดนี้มาใช้ในราชการอยู่เสมอ แม้ว่าโอกาสจะมากหรือน้อยตามแต่สถานการณ์ก็ตาม ผมมักจะบอกว่า รอให้ทุกอย่างเป็นทางการเสียก่อน ถ้ารู้ว่าได้ก็ขอให้รู้อย่างเป็นทางการเสียก่อน ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ขอให้รู้ว่าไม่ได้อย่างเป็นทางการเสียก่อน ดังนั้น ขอให้ติดตามดูกันต่อไป
7) มีคนคนหนึ่งพูดกับผมอีกเช่นกันว่า กระทรวงกลาโหมโชคดีที่มีคนสนใจจำนวนมาก ที่ว่าโชคดีนี้ก็คือ การดำเนินการทุกอย่างจะถูกจับตา ถ้ามันดี สาธารณะชนจะสนับสนุน แต่ถ้ามันไม่ดี สาธารณะชนจะคัดค้าน นี่ทำให้หน่วยงานในกระทรวงกลาโหมต้องหันมาสนใจเสียงของประชาชนซึ่งคือคนที่ออกเงินให้กระทรวงกลาโหมและคนที่กระทรวงกลาโหมต้องทำงานให้อย่างแท้จริง
ผมยังจำได้เมื่อตอนเริ่มเขียน Blog เป็นครั้งแรก ตอนนั้นแทบไม่มีเนื้อหาทางทหารภาคภาษาไทยเลย แต่ 5 - 6 ปีหลังจากนั้น มามองทุกวันนี้ มีคนรู้เรื่องทหารเยอะมาก ผมจะไม่พูดว่ามันคือความดีความชอบของผม และเช่นกันผมจะไม่พูดว่าถ้าไม่มีผมก็จะไม่มีวันนี้ เพราะมันไม่ใช่ผมคนเดียวแน่นอนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ แต่อยากให้เรามองว่า 10 ปีที่แล้ว การที่จะให้กองทัพชี้แจงการจัดหาอาวุธอะไรนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แบบเรื่อง GT200 ซึ่งผมยืนยันว่าถ้าเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้วไม่มีทางมาได้ไกลถึงจุดนี้แน่นอน (ตรงนี้ต้องชื่นชมผู้ที่ทำงานในการค้นหาความจริงของ GT200 ด้วย) แต่ในปัจจุบันไม่ว่ากรณีไหน กองทัพต้องชี้แจงแล้วชี้แจงอีกจนกว่าประชาชนจะพอใจ นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดี
ผมไม่ต้องการให้ประชาชนอย่างเรา ๆ สนับสนุนการจัดหาอาวุธของกองทัพอย่างเดียว แต่สิ่งที่ผมต้องการและสนับสนุนก็คือ ผมอยากให้ประชาชนอย่างเรา ๆ ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้บ้าง ถ้ากองทัพทำอะไรดี เราจะได้มีเหตุผลสนับสนุนอย่างถูกต้องตามหลักการ แต่ถ้ากองทัพทำอะไรแล้วแหม่ง ๆ เราจะได้มีเหตุผลคัดค้านอย่างถูกต้องตามหลักการเช่นกัน การที่วัน ๆ ปล่อยข่าวลือด้วยข้อมูลมั่ว ๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์นั้นน่ะ เราทำอะไรนายพลที่ทุจริตไม่ได้หรอกครับ (และในหลายกรณีก็คือผู้เสียผลประโยชน์มาปล่อยเอง) แต่ถ้าเราใช้หลักการและเหตุผลที่ถูกต้อง พูดโดยปราศจากสิ่งเคลือบแฝง ใช้ข้อมูลที่เป็นจริง สุดท้ายผมรับประกันได้ว่า ต่อให้เราไม่พูดเรื่องว่าใครโกงไม่โกง เขาก็จะเถียงเราไม่ขึ้นไปเอง เพราะถ้าของมันไม่ดี จะอ้างอย่างไรมันก็ยังไม่ดี จะจนด้วยเหตุผลไปเอง แต่ถ้าของมันดีจริง จะด่าอย่างไรของมันก็ยังเป็นของดี ผมยืนยันกับทุกคนว่า ถ้าแม้เราวิจารณ์ในเชิงลบ แต่เราไม่มีผลประโยชน์หรืออคติใด ๆ ในการวิจารณ์นั้น ต่อให้เราโดนตรวจสอบหรือโดนโจมตีอย่างไร เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ผลประโยชน์ใด ๆ จากการคัดค้านหรือสนับสนุนแม้สักบาทเดียว เชื่อผมเถอะครับ ผมยืนยัน
8) สุดท้ายสำหรับท่านที่ยังอารมณ์เสียอยู่ ผมขอคัดลอกคำพูดของผู้บัญชาการทหารเรือที่ให้สัมภาษณ์ลงในหนังสือพิมพ์ค่ายเนชั่น (ถ้าจำไม่ผิด) ดังนี้
"เราก็ต้องมีความซื่อสัตย์ในอาชีพทหารเรือและบอกให้ประชาชนได้รับทราบ ผมทำดีที่สุดแล้ว น้องๆหลายคนก็ให้กำลังใจ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ผมยืนยันเหมือนเดิมว่า มันไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ แต่รวมถึงครูบาอาจารย์เขาก็เห็นตรงกับเราเด็กหลัง ๆ ก็เห็นตรงกัน ... ทหารต้องเข้มแข็ง เราต้องไม่น้อยใจ ต้องทำหน้าที่ของต่อไป เรายังมีหน้าที่มากมาย เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเดียว ยังมีภารกิจมากมายที่ต้องทำให้ประเทศชาติ เพื่อรักษา สถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และดูแลประชาชน เรื่องอื่นเราก็ยังทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มความสามารถ และเป็นกลไกที่ดีของรัฐบาลต่อไป ไม่มีปัญหาอะไร ... ย้ำว่า กองทัพเรือไม่มีเรือดำน้ำมา 60 ปีแล้ว เป็นความพยายามครั้งที่ 3 ที่ประสบความล้มเหลวอีกแล้ว ถ้าเรามีความซื่อตรงในหน้าที่จรรยาบรรณ และวิชาชีพทหาร เราก็ต้องดำเนินการต่อไป"
และผมคิดว่านี่เป็นทัศนคติที่เราก็ควรมีเช่นกัน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=06-05-2011&group=2&gblog=205
ของคุณSkymanนะครับ
เเก้ไข:สภาพเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ
นักวิเคราะห์กลาโหมระบุว่า เกาหลีเหนือให้ความสำคัญสูงมากกับโครงการสร้างเรือดำน้ำ แม้มีปัญหายากลำบากทางเศรษฐกิจ และแม้เทคโนโลยีการทหารของเกาหลีเหนือจะเทียบกับเกาหลีใต้และชาติตะวันตกไม่ ได้ แต่เกาหลีเหนือพยายามสร้างความได้เปรียบจากอาวุธราคาถูกและปิดเป็นความลับ โดยเฉพาะเรือดำน้ำจิ๋วที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งสามารถบรรทุกตอร์ปิโดและทุ่นระเบิดเพื่อโจมตี ขณะที่หน่วยข่าวกรองก็จะใช้เรือประเภทเดียวกันนี้บรรทุกทหารแทรกซึมขึ้นฝั่ง
กรณีของเรือโชนันไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกโจมตีด้วยเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ในปี 2539 เรือดำน้ำเกาหลีเหนือชนหินใต้น้ำทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซล คอมมานโดเกาหลีเหนือ 26 คนหลบหนีขึ้นบกเพื่อกลับประเทศ ระหว่างทางปะทะกับทหารเกาหลีใต้ ส่วนในอีก 2 ปีถัดมาเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือติดอวนเรือประมงเกาหลีใต้
ขณะเดียวกันมีรายงานจากหนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ ของเกาหลีใต้ว่า หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้และสหรัฐตรวจพบเรือดำน้ำที่ฐานทัพของเกาหลีเหนือ ใกล้บริเวณที่เรือรบโชนันจม แต่สัญญาณที่พบมีลักษณะขาดหาย. -สำนักข่าวไทย
เราสามารถซื้อเรือดำน้ำเกาหลีเหนือได้ไหมครับ ผมว่าถ้าติดต่อไปน่าจะขายเเละราคาถูกเพราะสภาเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ
อยากรู้จริงๆทบ.ซื้อรถถังมันเกี่ยวอะไรกับทร.ชวดเรือดำน้ำ
หรือเพราะแค่ไม่ชอบOplot-M....
ส่วนตัวผมเองเห็นด้วย นะครับ และยังคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของบุคคลมากกว่า จะเป็นเรื่องเหล่าทัพ มิตรรักแฟนเพลงของ U-206A ก็ควรระวังที่จะไปพาดพิงถึง OPLOT นะครับ ทีนี้แฟนรถถังอื่นที่ไม่ใช่ OPLOT ก็ควรระวังที่จะอ้างถึงเรื่อง U-206A ด้วยละกัน เดี๋ยวแฟน OPLOTเขาจะเข้าใจผิดนะครับ เดี๋ยวบอร์ดจะลุกเป็นไฟ กันไปใหญ่
เรื่องเรือดำน้ำ น่ากลัวนะครับ ขนาดเรือรบของเกาหลีใต้ที่ชื่อโชนัน ยังเจอตอร์ปิโด จมในนัดเดียวมาแล้ว ผมเองก็เสียดายเช่นกันครับ แต่ไม่เป็นไรเงินไม่หายไปไหน กองทัพเรือเสนอใหม่เลยครับ
รับทราบครับผม ...
ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีปัญหากับการจัดซื้อรถถังของกองทัพบก เพียงแค่สงสัยนิดเดียวว่าทำไมเรื่องเรือดำน้ำเข้าสภากลาโหมแล้วทำไมถึงไม่เข้า ครม. อยากให้กระทรวงกลาโหมมีการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ
u 206a ราคาไม่แพงเกินไป นะจ๊ะ
ผมเข้าใจครับ ว่ามันเป็นคนละส่วน คนละงบกัน แต่ผมงงอย่างเดียวคือ ทำไมเหล่าทัพอื่นเวลาจะจัดซื้ออะไรทีต้องเสนอ แจกแจงรายละเอียดกันยิบเลย เรือดำน้ำนี้ก็ออกเป็นข่าวในโทรทัศด้วย ตอนซื้อกรีเป้นก็ออกข่าวในโทรทัศน์ ผบ.ทอ.ออกมาแจงด้วยตัวเอง ท.ร.ก็ทำหนังสือแจงเรียบร้อย เสนอข่าวการจัดหาออกทีวีก็ด้วย แต่ทำไมไม่ผ่าน แล้วทำทีที กองทัพบก ซื้อรถถัง อันนี้พูดตามหลักเหตุผลนะครับผมงง จริงๆ คือว่าแล้วทำไมทีกองทัพบกซื้อรถถัง ไม่เห็นต้องออกมาแจกแจงอย่าง ทร.ทอ.เลยครับ ออกทีวีก็ไม่ได้ออก อยู่ดีๆว่าจะเอาก็เอาเลยซื้อเลยไม่มีการเสนอรายละเอียดอะไรให้ประชาชนรู้เลย อยากได้ เสนอปุ๊บ อนุมิติปั๊บ รวดเร็วทันใจ ไม่เหมือนเหล่าทัพอื่น ผมก็อยากได้ครับ oplot M และเชียร์ด้วย แต่ทำไม ของท.ร.ไม่เห็นง่ายเหมือนของ ทบ.เลยครับ งงจริงๆ
เหตุการณ์นั้นนั้นมันผ่านมาแล้ว ทร. เขายังทนยอมรับสภาพได้ครับ ไปซีเรียสอะไรกันมากต่อไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นไปกว่านี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ ทร. ดำเนินการต่อไป แม้ความหวังมันจะไม่มากนักครับ ส่วน รถถังของ ทบ. นั้นก็ต้องแสดงความยินดีที่ได้ของใหม่มาซึ่งก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องมีของใหม่บ้าง ยอมรับตามตรงว่า โดยส่วนตัว ไม่ค่อยจะชื่นชอบ รถถัง OPLOT เท่าไหร่นัก แต่เมื่อเขาแถลงมาว่า เขาเลือกแล้วก็ยอมรับเพราะเขาคือผู้ใช้ ไม่ใช่ผม ผมแค่คอยลุ้นคอยเชียร์หวังว่า กองทัพจะได้อาวุธดีๆ เหมือนตอนที่ ทอ. เลือก JAS-39C/D ผมไม่ได้เชียร์ JAS-39 แต่เชียร์ SU-30 สุดท้ายผมก็ยอมรับเพราะ ทอ.มองแล้วว่าคุ้มค่ามากกว่า และก็คุ้มค่าจริงๆ ส่วนตัวมองว่า การมีอาวุธที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่า ก็สามรถชัยชนะที่ไม่ต้องทำการรบ มีความสงบได้โดยไม่ต้องเกรงว่าใครจะรุกรานหรือข่มเหง เพราะถ้าคนเก่ง คนมีอาวุธดีๆ จะมีใครกล้าตอแย ขอให้จัดหาอาวุธที่ดีจริง คุ้มจริง ซื้อมาแล้วจะกลัวใครมาต่อว่าโจมตี
ผม...ทะเยอทะยานว่า กองทัพไทยต้องยิ่งใหญ่และมีแสงยานุภาพมากที่สุดในภูมิภาคนี้ครับ
ดีลครั้งนี้ที่คนวิจารณ์กันเยอะน่าจะมาจาก คือ งบประมาณพอๆกัน ( ใช้งบประจำ ) ส่งเรื่องก็ล่วงหน้าเหมือนกัน
ทร กำหนดสเปครายละเอียดพร้อม แต่ของ ทบ กลับไม่มีรายละเอียดมากเท่าใดนัก ทำไม ทบ ได้แต่ ทร กลับไม่ได้มันต่างกันยังไง ???
อีกอย่างนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคุณ Skyman(คุณโย) ซึ่งคนอื่นที่เค้าวิจารณ์อีกแบบเค้าก็มีสิทธิของเค้าที่จะวิจารณ์ครับ
สุดท้าย คนที่ตัดสินใจ คือ กลาโหม ( แต่......ไม่ขอพูดเรื่องการเมืองนะครับ )
champ thai army การจัดหารถถังหลักใหม่มีข่าวออกมา๒-๓ปีแล้วครับ
แฟนๆเรือดำน้ำ เค้าต้องการคำอธิบายจากกลาโหม ที่ชัดเจนมากกว่านี้นะครับ มันเป็นข้อข้องใจครับ
ส่วน ทบ.จะจัดซื้ออะไรแต่ละครั้งทำไมมันง่ายสะดวกทุกอย่าง นี่ต่างหากที่เค้าตั้งข้อสงสัยกันครับท่าน
เรื่องรถถังมีก็ดีครับเห็นด้วย แต่ที่ซื้อมานะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่าครับนี่ต่างหากที่เป็นประเด็น!!!
cwd1 รถถังแบบอื่นที่ไม่ใช่Oplot-Mราคาเริ่มต้นมากกว่าOplot-Mทุกแบบครับงบ๗๐๐๐ล้านบาทถ้าซื้อรถถังแบบอื่นจะได้น้อยกว่า๕๔คัน
สำหรับกรณ๊เรือดำน้ำ U-206A นั้นก็ยอมรับว่าส่วนใหญ่ที่รู้เกี่ยวกับการทหาร ที่เข้าใจในกองทัพ รวมทั้งผู้ที่สนใจ ทั้งใน TFC และ TAF หรือรวมทั้งในเว้บอื่นๆ นั้นส่วนใหญ่รวมทั้งผมเองเห็นด้วยและลุ้นให้ ทร. ได้จัดหาไว้ประจำการ อีกทั้งเพื่อถ่วงดุลกับเพื่อนบ้านที่มีและเริ่มมีกันแล้ว อีกทั้งความค้มค่าสูงและคงหาแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีก แต่ เรื่องกลับไม่ได้เข้าไปในที่ประชุม ครม. เพื่ออนุมัติ ทำให้โอกาสริบหรี่ลงที่จะได้ไว้ใช้ ซึ่งทุกคนรวมทั้งผมเองนั้นก็ผิดหวังกับเรื่องนี้ แต่ทุกคนเข้าใจว่า ในบอร์ดต้องคำนึงถึงหลายๆอย่างและไม่อยากให้พากพิงบุคคลหรือการเมือง ก็เกิดความเห็นใจ ทร. กัน แต่ทำไงได้ เรื่องทั้งหมดมันเลยมาแล้ว และ ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่มีการแถลงอะไรออกมาซึ่งก็อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา เพราะผู้ที่รู้จริง ผู้ที่ลุ้นและเชียร์ คือคนกลุ่มหนึ่ง ในคนหมู่มากเทียบเปอร์เซ็นต์แล้วมันนิดเดียวไม่มีอะไรที่จะต้องไปชี้แจงอะไร แต่ไม่อยากให้ไปโยงเรื่องไปที่เหล่าทัพอื่น ว่าทำไมเขาได้ง่าย ไปๆมาๆ เหล่าทัพอื่นที่เขาจำเป็นต้องมีอาวุธพลอยเดือดร้อนและอดไปอีก และ ทร.เองนั้นก็มีความผิดหวังไม่แพ้กันกับพวกเรากองเชียร์ แต่ ทร. ก็แสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมาให้เห็นแล้วว่ายอมรับทั้งๆที่เจ็บปวดหัวใจ ทางที่ดีตอนนี้เรามาลุ้นว่า ให้ ทร.ไปเจรจากับทาง เยอรมัน โดยใช้ความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาให้ชลอการขายให้ชาติอื่นเพื่อให้ ทร.ได้ชงเรื่องใหม่หลังจากที่มีการเลือกตั้งและมี ครม.รวมทั้ง รมต.กห.ท่านใหม่ อีกครั้งจะดีกว่าครับ
เห็นด้วยกับคุณเด็กทะเลครับ มาเป็นกำลังใจให้ ทร. อย่าท้อที่จะมีเรือดำน้ำครับ ...
เพราะตอนนี้เรามี "กองเรือดำน้ำ" ซึ่งเข้ามารับหน้าที่ อย่างเต็มเวลาแล้ว ...
ท่าน korn ครับใช่ครับ เรารู้มา2-3ปีแล้ว แต่ว่ามันก็เป็นเฉพาะพวกเราไม่ใช่หรอครับพวกที่ชอบเทคโนโลยีทางการทหาร ที่ติดตามข่าวมานานไอ้อย่างงั้นผมไม่เถียงครับว่าเรามีความต้องการมา2-3 ปีแล้ว แต่พวกประชาชนนะสิครับ คือที่ผมถามคือว่า ในภาคประชาชนนี้เค้ารู้จักหรือยังว่า oplot m ที่ท.บ.เลือกหน้าตาเป็นยังไง ซื้อมาแบบไหน คุ้มค่าหรือเปล่า เชื่อว่า100 คนรู้ไม่ถึง10 คน จะถึง 10 คนหรือเปล่า เพราะว่า ทบ.ไม่เคยมาแจ้ง มาออกรายการทาง ทีวี แจงต่อประชาชน หรือแม้แต่ สลิปเล็กๆก็ยังไม่มีข่าวเลยด้วยซ้ำ แต่ท.ร.นั้นเท่าที่จำได้ มีออกข่าวทั้งช่อง 3 และช่อง ทีวีไทย ยิ่งทีวีไทย ยิ่งออกบ่อย อย่างนี้สิครับที่เรียกว่าประชาสัมพันธ์ แต่ไม่เคยเห็น ทบ มาประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนรู้เลย แต่ก็ได้รับอนุมัติ ง่ายไปหมด แค่เทียบกันนะครับ ว่าทำไม ทบ ง่ายแต่ ทร ซื้ออะไรทียากจังครับ แค่นี้แหละครับ ไม่ว่าจะเป็นรถถังใหม่ หรือเรือดำน้ำล้วนมีความสำคัญไม่แพ้กัน รถถังปกป้องคุ้มครองทางบก เรือรบ คุ้มครองทางทะเล ไม่ว่าจะได้อะไรก็ดีหมดแหละครับ
แบบ U206A ก็ดี เพียงพอแล้ว เป็นภัยคุกคามต่ออริราชศัตรูแบบฝันผวา
ดูตัวอย่าง เรือดำนํ้าชั้น Shark + ของเกาหลีเหนือ ความยาว 34-39 เมตร ระวางขับนํ้า 325 ตัน มีจำนวน 40 ลำ จากเรือดำนํ้าทั้งหมด 70 ลำ
จมเรือคอร์เวตโชนันขนาด 2000 ตันชนิดขาดกลาง และเดินทางกลับฐาน Bipagot โดยปลอดภัย โดยเกาหลีใต้หาสาเหตุไม่เจอเป็นปีๆ
[จาก http://cakra401.blogspot.com/2010/04/experts-suggest-possible-attack-by-nk.html]
ผมยังกังวลว่า อิหร่าน หรือพม่าก็พยายามเอาแบบมาสร้างอยู่นะ
เรือผิวนํ้า คือขนมหวานสำหรับเรือดำนํ้า ที่เป็นภัยคุกคามเงียบ มาไม่บอก ไปไม่ลา ทิ้งไว้แต่เครื่องหมายคำถาม???
เพราะฉนั้น อนุมัติเถิดครับท่าน
ตกลง Oplot กับ Oplot-M ต่างกันอย่างไรครับ เเล้ว ทบ.ซื้อรุ่นไหนกันเเน่ ช่วยตอบที่นะครับ
อ้าว ! สรุป..ได้แบบแล้วหรอครับ ผมนึกว่าต้องประมูลก่อนเสียอีก
หรือยังไง
ผมคนหนึ่งหละ ที่ว่ามันไม่เกี่ยวกันนะ
ระหว่างกรณีการจัดรถถังจากยูเครนที่ได้รับการอนุมัติ เพราะเพื่อนๆเราในบอร์ดส่วนใหญ่
ก็คงจะเห็นด้วยกับการจัดการรถถังใหม่ ของกองทัพบก
และคงไม่มีใครจะคิดว่า ถ้าให้เลือกระหว่างรถถังกับเรือดำน้ำ จะเลือกอะไร
เพราะมันคนละเรื่องและมีความสำคัญ คนละอย่าง
แต่พวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะทวงถามเรื่องที่เราไม่เข้าใจไม่ใช่หรือ
เข่น
โครงการจัดหาเรือดำน้ำ ชั้น อู 206 เอ
ยังไม่ผ่าน/หรือยังไม่ถึงมือตน(เลขาฯรมต.กห.)
ทำไม พลเอก นพดล อินทรปัญญา (เลขาฯคนดังกล่าว)
ต้องออกมาให้ข่าวด้วยและยังออกความเห็นทำนองไม่เห็นด้วยกับ
กับโครงการฯ(จนผมอ่านบทสัมภาษณ์ ผมยังเข้าใจว่า
ท่านมีสิทธิ์ในการอนุมัติหรือไม่อนุมัติโครงการใดๆของเหล่าทัพ
ทั้งๆที่ตำแหน่างของท่าน คือ ฝ่ายที่ทำหน้าที่เดินหนังสือ มิใช่เป็นผู้บังคัญบัญชาของเหล่าทัพ
อนึ่ง ก่อนหน้านั้น พลเอก ทรงกิตตื ท่านกล่าวกล่าวว่า
กองบัญชาการกองทัพไทย ได้อนุม้ติ โครงการจัดหาเรือดำน้ำ แล้ว
ซึ่งท่านนี้มีสิทธิ์บังคัญการในสายงาน)
ขณะที่โครงการจัดหารถถัง
ผมขอถาม เลขาฯนพดล ว่า
โครงการรถถัง สภากลาโหมอนุมัติเมื่อไรและมาถึงมือ เลขาฯนพดล เมื่อไร
ทำไมไม่เห็นชี้แจงแกลงไขล่ะ
ผมขอย้ำนะว่า
ผมเห็นด้วยเต็มร้อยนะกับโครงการจัดหารถถังจากยูเครน
ขณะด้วยกัน ก็อยากได้ความถุกต้องและโปร่งใส ครับ
อดใจหน่อยบางทีกองทัพอาจเก็บเงินอยู่รอแปปอาจได้เรือที่รุ้นดีก่วานี้
ผมออกตัวเลยครับและยอมรับตรงๆว่า ผมคนหนึ่งล่ะที่แขวะ
ไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วยกับการจัดซื้อ รถถังใหม่(ซึ่งตอนนี้ก้ยังไม่รู้ว่าจะออกอะไร)และผมเองก็ลุ้นให้ ทบ.จัดหารถถังใหม่ด้วยเช่นกัน
แต่ผมมีความเห็นคล้ายๆกับท่าน อู๊ด คุณจะซื้อก็ซื้อเถิด ท่าเพื่อความมั่นคงของชาติ แต่ที่ท่าน อนุมัติ อยากให้มันถูกต้องและโปร่งใส ผมเองก็เหมือนคุณนั่นแระเสพข่าวที่เดียวกับคุณรู้มาเหมือนคุณ ว่ากองทัพบกอยากได้รถถังใหม่ แต่ว่า อย่างที่พูดๆกันอยู่ ก้อนุมัติกันดื้อๆ กับงบประมาณที่เทกระจาดลงมาโดยยังไม่ได้มีการคัดเลือกแบบและประกวดราคา แต่ดันรู้ว่า 7,200ล้าน ได้รถถัง 54 คัน(แปลกมั๊ย ยังไม่รู้แบบรถ ยังไม่รู้ราคา แต่รู้ว่าต้องได้เท่าไหร่)
แต่ว่า โครงการเรือดำน้ำที่ทำมานานเหลือเกิน นานขนาดที่ต้องรอให้ชาวบ้านปลดเอามาขายราคาถูกๆ แถมเงินที่ซื้อก้เป็นเงินของกองทัพเรือเองไม่ได้ขอเงินใหม่ทำไมถึงไม่ผ่านสภากลาโหม(ส่วนนี้นี่เองที่เราๆท่านๆต้องเดากันไปให้ยืดยาว)
สรุปท้าย ประเด็นที่ผมจะถามคือ รถถัง54คัน 7,200ล้านที่ต้องขอเงินใหม่ ถึงผ่าน กลาโหมและ ครม.ได้อย่างรวดเร็ว กับ เรือดำน้ำยกฝูง 7,700ล้าน ที่ใช้เงินเก็บของราชนาวี ถึงต้องถูกพับเข้าลิ้นชัก ครับ
ปล.ที่จริงไม่อยากต่อประเด็นสักเท่าไหร่เพราะแอดมินมาตั้งกระทู้ดักไว้แล้ว แต่เมือท่าน korn อุตส่าห์มาเปิดประเด็นก็ต้องขอสักหน่อย และโดยส่วนตัวไม่เคยคัดค้าการซื้อรถถังใหม่แต่อย่างใด ถึงแม้ผมจะไม่ใช่กองเชียร์ยูเครนก็ตามที
ผมเห็นด้วยกับคุณ champ thai army และคุณ ลมหมุนวน ประเด็นของประชาชนเจ้าของประเทศผู้มีสิทธิ์ที่จะรู้ข้อมูลการซื้อขาย สมรรถนะ ซึ่งมันคลุมเครือจนรับไม่ได้ มีงบ มีจำนวน แต่อนุมัติ โดยไม่มีใครรุ้แล้วมันจะต่างกับ งบลับ ตรงไหนครับ ที่สำคัญภาษีของประชาชนทุกท่านน่าจะอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อประเทศ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ซึ่งบางคนมาตอบเรื่องเรือดำน้ำ เขาว่าเป็นเรื่องใหม่ แต่ผมรู้รายละเอียด มากกว่า เรื่องที่มีความต้องการมา2ปี อนุมัติแล้วแต่ แทบไม่ทราบสเปกเลย
งบประมาณ ทิ้งทวน ก่อนยุบสภา....จากหลายกระทรวง รวมๆกัน ก็กว่าแสนล้าน ว่าเฉพาะกลาโหม บก อากาศ เรือ ก็หลายอยู่
แล้วถ้ากองทัพ.บกได็ Oplot,กองทัพเรือก็ได้ 206a งานนี้ ทั้งฝ่ายค้าน สื่อมวลชน คงแทง รัฐบาลช่วงก่อนเลือกตั้ง ได้แผลใหญ่อยู่
ในฐานะที่ ทัพบกใกล้ชิดกับรัฐบาล (จากวิกิจการเมืองที่ผ่านมา...) เจ้ากระทรวงฯ ฐานะที่ สวมเสื้อสีเขียว ก็คงจะได้ทีทวงพระเดชพระคุณ ก็ทีนี้แหละ
ไอ้ส่วน ไม่ชงเรื่องของกองทัพเรือเข้า ครม. ก็คงเพราะ ยังเกรงๆอยู่บ้าง จากเหตุผลข้างต้นฯ....(พานเรื่องใหญ่...ก็จะอดกันหมด )
ปล..ความคิดเห็นส่วนตัว ล้วนๆ.........แรงไปก็ขอ อภัย
ปล.2 เข้าไปอ่าน กระทู้ใน พันทิพย์ ชอบ คำตอบ คห.ที่ 18 เจ็บๆแสบๆ
ผมว่าคงจะซื้อของเกาหลีเหนือไม่ได้หรอกครับ ขายเกาหลีเหนือเขาคงขายอยู่แล้ว แต่อเมริกากับเกาหลีใต้และโลกตะวันตกเขาประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออยู่ไม่ใช่หรอครับถ้าเราซื้อของเกาหลีเหนือ คงงามหน้าละครับงานนี้ ได้พวกใหม่เลยครับที่นี้ ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผู้ร้ายในสายตาอเมริกาและโลกตะวันตก เกาหลีเหนือ พม่า อิหร่าน ไทย
เราไม่ได้เป็นเหมือน พม่า เวียดนาม อิหร่าน