อยากทราบความคิดเห็นของทุกๆท่านว่าเหมาะสม สมควรหรือไม่ติดขัดปัญหาข้อกฎหมายใดๆหรือไม่
เท่าที่ผมนึกออกถึงข้อดีตอนนี้คือ
1.จะมีคนที่คิดแบบคนนอก มองแบบคนนอก การนำเสนอจะง่ายขึ้นให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจได้
2.ไปช่วยเสริมเพิ่มขีดความสามารถของข้าราชการ ทร.ให้มีมุมมองที่ต่างออกไป
3.ช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆให้หน่วยงาน
อยากให้ท่านๆช่วยกันเสนอแนะครับเพราะผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ในกองทัพเรือก็คงดูบอร์ดนี้อยู่ไม่น้อยครับ.
คงไม่ใช่แค่ ทร. ครับ ควรจะมีทุกกองทัพครับ
ลองใช้กรณีเดียวกับกองทัพสหรัฐซิครับ อลังการงานสร้าง ^^ ลองไปดูทีมงานที่สร้างซิครับ ระดับบิ๊กเบิ่มทั้งนั้นเลย lol ด้วยเหตุนี้ The Unit 4 เลยยังไม่ออกมาให้ชมซักที T T)
เห็นด้วย แต่ จะเอามาจากไหน PR อย่างที่ต้องการ
ลองย้อนคิดถึงงานพิธีสมรสเจ้าชายวิลเลียมของอังกฤษเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
สื่อไทยเตรียมทำข่าวกันอย่างมาก ถือว่าเตรียมตัวออกงานกันใหญ่ ระดับ โลก
แต่หลายสำนักข่าวเท่าที่สับช่องสถานนีดู โฆษก หรือสื่อไทยเรา ชำนาญ หรือเป็นแต่เรื่อง ดารา
พ้นเรื่อง ดาร้า ดาราไป สื่อไทยนี่แทบจะไปไม่เป็น ถ้าเอามาทำข่าว หรืองานสายทหารนี่ ผมเป็นห่วง จริงๆ
ส่วนให้ทหาร คนรู้เรื่องดี ก็ยังอึดอัด คงต้องรอ ท่านท้าว หรือท่านแคปปิตันเป็นใหญ่เป็นโต
ปัญหาใหญ่ คือผู้ใหญ่ให้ความสำคัญกับข่าว หรือการสร้างกระแส แค่ไหน
ที่เขาเรียกว่า Information Warfare หรือจะ Information Operation ก็ได้
สำคัญที่สุดของฝรั่งใช่ว่าจะ ดี หรือเป็นจริงไปหมดทุกอย่าง หลายอย่างก็แค่คุยโม้ หลอกให้เชื่อ
วัตถุประสงค์ของการ PR คืออะไร และเพื่ออะไร งง ครับ และจำเป็นต้องใช้ PR. มืออาชีพ หรือครับ
การPR คือการวางแผนระยะยาวไม่ใช่การสร้างกระแสตอนที่อยากจะได้อะไร และต้องแยกออกจากสือที่เราเข้าใจกัน PR คือกระบวนการทำความเข้าใจ ให้ความรู้ หรือโนม้น้าวให้เห็นในสิ่งที่กำลังนำเสนออย่างถูกต้องและเป็นไปตามวัตถุประสงค์นั้นๆ โดยการใช้สือต่างๆให้เป็นประโยชน์ EX เหมือนดาราที่พวกท่านว่ามาก็ทำPRโดยการใช้สื่อให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง คำว่ามืออาชีพคือ การกระทำที่เราสามารถวัดผลงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ที่อยากใช้คนนอกเพราะการตอบคำถามสังคม ต้องง่ายตรงประเด็น ไม่มากเรื่องเทคนิคอย่างที่ทหารถนัด กระบวนการเหล่านี้พวกที่ผ่านการเรียน การทำงานในสายงานนี้เขาชำนาญครับ เราๆท่านๆยังโดนโดยไม่รู้ตัวตลอดเวลาเลยครับ ลองทบทวนกันดูครับ 5555+
ผมว่า ทร. เสนอเรื่องมาอย่างยาวนาน เท่าที่ได้ติดตามข่าว
จึงมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า...อยู่ที่คน ชงเข้าพิจารณาเท่านั้น...
ดูจาก... BTR-3E ผมดูแล้วไม่ได้ PR อะไรเยอะเลย.....
หากผมเข้าใจไม่ผิด สิ่งที่ควร PR. ในเวลานี้ถ้าจะยกตัวอย่างให้ง่าย ก็คือโครงการที่ควรได้รับการยอมรับและผลักดันจากทุกภาคฝ่าย ทั้งภาครัฐ แอกชน รวมถึงประชาชนภายในประเทศใช่หรือไม่ครับ ยกตัวอย่าง เช่น แผนการพัฒนา10 ปี(ในส่วนของ ทร.) มีการกำหนดแผน ความจำเป้นเร่งด่วนภายใน 10 ปี มีการชี้แจงและทำความเข้าใจ ในเหตุผลและความจำเป็น ในการจัดหา ซึ่งหากการ PR. ประสบความสำเร็จ อย่างสูงแล้ว ปัญหาดังกล่าว จะเป็นปัญหาความจำเป็นระดับประเทศ ผู้ที่คัดค้าน ต้องมีเหตุผลที่สำคัญกว่ามากๆ ในการที่จะไม่ดำเนินตามแผน ดังกล่าวและ และหากมีเหตุไม่ชอบมาพากล ประชาชนส่วนใหญ่จะออกมาทวงถามถึงเหตุผลดังกล่าวเองใช่หรือไม่ และอีกส่วนนึง คือการ PR. ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร จำพวกโครงการ ดีดีที่มีประโยชน์ของกองทัพ เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย ฯลฯ เพื่อให้ภาพลักษณ์ของกองทัพเองเป็นมิตรที่ดีกลับประชาชน ดูแลประชาชนในยามที่เดือดร้อน อย่างนั้นแล้ว หากจะต้องทำการ PR กันจริงๆ ควรจะทำกันทุกเหล่าทัพเลย นะครับ กำหนดงบประมาณในการทำ PR และแผนการ PR คำนึงความเหมาะสมและผลที่จะได้รับ ผมเชื่อว่า หากจ้างมืออาชีพ แล้วทางกองทัพ คงจะ จ้างได้แค่ช่วงเวลานึงเท่านั้นที่เหลือ ทางกองทัพอาจจะต้อง จัดหาคนไปเรียนรู้และสานต่องานเอาเอง ส่วนตัวแล้วคงเห็นด้วยนะครับในการ PR. นะครับ ส่วนรูปแบบคงต้องดูกำลังเงินที่ทางกองทัพจะสามารถจ่ายได้ หากมากไปก็คงโดนโจมตีเหมือนอาวุธแหละผมว่านะ
ทร. ก็ทำ PR อยู่แล้วครับ...เช่น สารคดี สะพานเดินเรือ...
แต่ดันโดนเข้ม เรื่อง ลิขสิทธิ์ เข้าไป....เลย เงียบเป็นเป่าสาก...ก็เก็บไว้ดูกันเองรึกันครับ...
สารคดีสะพานเดินเรือและเรื่องอื่นๆ เข้าใจว่า ทร.มีสปอนเซอร์ในการผลิต ไม่ใด้ใช้งบประมาณ ทร.จึงต้องมีลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนอันหนึ่ง คณะทำงานน่าจะนำไปตกลงกับสปอนเซอร์ ในเรื่องการนำไปเผยแพร่ที่ไม่เป็นการค้า เป็นข้อคิดเห็นที่ดีครับ
ในฐานะที่ผมเป็น PR ของ ทอ.นะครับ กล้าพูดเลยครับว่าถ้าเทียบเหล่าทัพด้วยกันแล้ว ทร.ทำประชาสัมพันธ์ มากกว่าเหล่าทัพอื่นอีกครับ
ทร.ไม่มีสถานีโทรทัศน์เป็นของตนเอง แต่มีข่าวออกทีวี แทบทุกช่อง แถมรายการเปิดตัวกิจกรรมหลายๆ อย่าง ของ ทร. ถ้าได้ออกทีวี หละก็ "ถ่ายทอดสดรวมการเฉพาะกิจ" ครับ
บางครั้ง บางกรณี PR มากก็เป็นดาบสองคม ครับ .......เช่น การฝึก หรือการรับมอบยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ..... มันอยู่ที่ว่า เราจะ PR เรื่องอะไร ในเหล่าทัพนั้น ผู้ใหญ่หลายท่าน บอกระหว่างสื่อทีวี กับหนังสือ ให้เชิญสื่อทีวี ทีวีดีกว่า เพราะได้ออกทีวี ...แต่บางทีทีวีถ่ายทำ เอาไปออกช่วงนั้นช่วงนี้ ไม่มีโอกาสดู ไม่มีคนดู ก็ไม่มีประโยชน์ สู่หนังสือไม่ได้ ผ่านมา ๑๐ - ๒๐ ปี ยังใช้ประโยชน์ได้ครับ แม้เรื่องราวทางอินเตอร์เน็ต ผ่านไปก็ลืม หรือลบทิ้ง .........แต่สรุปว่า จะทำ ต้องทำหนดครับทุกด้าน เพราะกลุ่มเป้าหมายย่อมมีทุกมุม กลุ่มเป้าหมายคือใคร "ประชาชน" ไงครับ.... สรุปว่า ไม่ได้อยู่ที่ PR แต่อยู่ที่ นโยบายครับ
ในเรื่องการ แสดงศักยภาพการรบ หรือ การรับมอบ นั้น...ในความเห็นผม ปัจจุบัน มันได้กลับข้างจากสมัยสงครามเย็น ครับ...
ยิ่งกองทัพเปิดเผย ศักยภาพ ตนเอง จนเพื่อนบ้านต้องมีการปรับเปลี่ยน หรือจัดหายุทโธปรณ์ จนเสมือนการสะสมอาวุธแล้ว...นั้นจะเป็นการ PR ที่ประสบความสำเร็จ ครับ...
เพราะในการจัดหานั้น ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล และต้องมีการฝึกกำลังพล เพื่อสร้างศัภยภาพที่คาดว่าจะเหนือกว่า....
ในขณะที่ ประเทศที่เปิดเผย และมั่นใจในศัภยภาพตนเองนั้น...จะมอง ทะลุ ปรุโปร่งว่า ภายในระยะ 10-15 ปี หรือ มากกว่านั้น ยังไม่มีสถานณการณ์ท่ี่สร้างสงครามขนาดใหญ่ได้...ม้นจะเป็นการสั่งคลอนเศรษฐกิจ ประเทศเพื่อนบ้านเอง...และในขณะเดียวกัน ประเทศที่เปิดเผย หรือมั่นใจในศัภยภาพตนเองนั้น...ก็จะศึกษาว่า ประเทศเพื่อนบ้านจัดหาอาวุธอะไรมาประจำการบ้าง และจะใช้อาวุธระบบใดสมดุลได้...โดยใช้งบประมาณที่ต่ำกว่า หรือ อาจจะไม่ต้องใช้การจัดหาอาวุธเพื่อมาสมดุลเลยก็ได้...เพราะมันเป็นแค่การ ขู่ เพื่อให้เพื่อนบ้าน ถลุงเงิน เท่านั้น...
ในขณะที่ ปัจจุบัน การปกปิด กลับกลายจะเป็นว่า เพื่อนบ้านไม่สนใจ และไม่เกรงใจ เพราะเขาก็ได้ศึกษามาเช่นกันครับว่า ประเทศใด มีปัญหาในการจัดหาอาวุธระดับใด...ความน่ากลัว ระดับใด...และถ้าเขาคิดว่า เขามีศัภยภาพที่เหนือกว่า การกระทบกระทั่งตามชายแดน หรือ การแสดงความไม่พอใจในงานด้านการต่างประเทศ จะแสดงออกอย่างชัดเจน ตามที่ได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน....
ประเทศ อิหร่าน ถึงต้อง แสดงศักยภาพให้ชาวโลกได้เห็น...หรือแม้แต่ เกาหลีเหนือ ก็ต้องเสดงศักยภาพให้โลกได้เห็น...เพื่อสร้างข้อต่อรอง...แม้ประเทศมหาอำนาจ จะไม่ได้เกรงกลัว แต่มันก็มีส่วนในการสร้างเหตุผล ที่จะมีการเจรจากัน...
ท่าน Juldas กล่าวได้โดนใจผมมากครับ
วิธีการ PR เรื่องศักรยภาพอาวุธ เลยต้องเน้นที่การฝึกไงครับพี่จูดาส เลยเชิญสื่อไปชมการแข่งขันใช้อาวุธทางอากาศ จะได้เห็นว่า แต่ละเป้านะไม่พลาด อย่าได้เข็นรถถัง T-55 เลยเส้นแบ่งแดนเข้ามาเชียว ล่าสุด ทร.ก็เชิญสื่อไปชมการยิงจรวดทุกชนิด สามวันก่อนเพิ่งยิงเอสปิเด ต้องบอกตรงๆ ว่า ผมนึกว่าเลิกใช้ไปตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ฝึก "การัต" คงไม่เห็นว่ายังมีอยู่ (ความเข้าใจเราเองนึกไปงั้น แย่จังนะครับ) จะรอชมก็ ทบ.เมื่อไหร่จะจัดสาธิตการปฏิบัติการ สามเหล่าทัพ ให้ชมอีกสักครั้ง