อยากให้ ทอ.ร่วมกับTAI ทำเรื่องขอถ่ายทอดความรู้และจัดหา มาประจำการในรูปแบบเดียวกับ dti-1ครับส่วนตัวผมว่าเจ้า j-10b ก็ไม่ได้ด่อยไปกว่าf-16c-dเลย
แถมอีกอย่างถ้าเราผลิตเองได้ราคาน่าจะถูกลงมาก (ผมอาจจะรีทัสห่วยไปหน่อยต้องขออภัย55+) เพื่อชาติเพื่อคุณ
ราคาลำละเท่าไหร่ครับ J 10B
เป็นเครื่องบินที่ถูกจัดอันดับยุคที่ 4.5 หรือ ยุค 5 ครับ
อีกอย่างเครื่องบิน จีนและอาวุธ บางอย่างยังไม่น่าซื้ออยู่ดี ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม
เป็นไปได้ยากนะครับ แต่ถ้าอีก 20 ปีข้างหน้า แนวคิดนี้อาจจะเป็นไปได้ ผมมองว่าจีนคงไม่อยากมีคู่แข่งการตลาดในราคาระดับนี้ ถึงแม้เราจะเพิ่งหัดคลานก็ตาม
ในส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ผมมองว่าการผลิตเองไม่ได้แปลว่าจะถูกกว่าการไปซื้อครับ อุตสาหกรรมของเราเองอาจจะยังไม่พร้อมในเทคโนโลยีระดับนั้น และอาจจะมองตัวอย่างได้ชัดเจนก็คือ F-2 ของญี่ปุ่น
แต่ถ้ามองในเรื่องการกระตุ้นเศษรฐกิจ การสร้างงาน เงินหมุนเวียนในประเทศ แนวคิดนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
ผม ว่า f 2 ของญี่ปุ่นก็สวยดีนะ สวยมากกว่า f 16 อีก ใหญ่กว่านิดหน่อย แบบ ลอกกันมา ไทยน่าจะทพแบบนั้นเห็นด้วยไม้ต้องไปหาของต่างชาติค่าบำรุงแพง
อุปกรณื ขาดก็แพง ทำเองผมว่าดี
ผมว่า สวย มากกว่า f 16 อีกนะ
แล้ว F 15 เนี้ย บ้านเราเคยสนใจบ้างป่าวคับ มันเทห์ แล้วก็ เทคโนโลยีชั้นเลิส มากเลยนะครับ มีแล้วเพื่อนบ้าน ที่มี su 30 f 18 และอีกมากมายต้องให้ความสนใจแกลงกลัวกว่า gripen อีกนะครับ
J-10 นั้นเป็นเครื่องบินแบบพหุบทบาท (Multi Role) ทำได้ทั้งขับไล่ โจมตี ลาดตระเวนแนว ๆ เดียวกับ F-16 จีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของระบบเดินอากาศ (Avionic) ออกมา เราจึงได้แต่คาดเดาเอาเท่านั้นว่ามันเจ๋งแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่นเรด้าห์ ซึ่งมี่การระบุไม่ตรงกัน บ้างก็ว่าใช้เรด้าห์รุ่น ELM-2021 จากอิสราเอล แต่อีกที่หนึ่งบอกว่าใช้KLJ-3 (ประสิทธิภาพคล้าย AN/AGP-66/68 รุ่นแรก ๆ ของสหรัฐ) ซึ่งจีนผลิตเอง ทำให้การประเมินประสิทธิภาพของยังคลุมเครืออยู่ แต่เชื่อกันว่าประสิทธิภาพนั้นน่าจะเทียบได้กับ F-16 C/D Block แรก ๆ เลยทีเดียว
สำหรับเครื่องยนต์นั้นจีนเลือกใช้เครื่อง AL-31FN จากรัสเซีย ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้กับเครื่อง Su-27/Su-30 MKK ในอนาคตจีนอาจจะติดตั้งเครื่องยนต์ WS-10A (Taihang) ซึ่งจีนพัฒนาเองก็ได้
Cockpit ของ J-10 นั้นดูยังไม่ค่อยน่าประทับใจนักในแง่ของเทคโนโลยีและความทันสมัย ดูจากรูปที่หลุดออกมาทางอินเตอร์เน็ตจะเห็นได้ว่ามีจอแสดงผล liquid crystal multifunction displays (MFD) แสดงผลได้สีเดียวอยู่ 3 จอ ซึ่งดูแล้วยังไม่หรูเท่า FC-1 ด้วยซ้ำและดูแล้วไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่แปลกใหม่และทันสมัยนัก อย่างไรก็ตาม J-10 ก็มีจอภาพตรงหน้านักบิน (HUD) และระบบความคุมการบินแบบ Fly-by-wire ซึ่งควบคุมการบินด้วยคอมพิวเตอร์ มีฝาครอบห้องนักบินเป็นฝาโดม 2 ชิ้น ซึ่งแตกต่างจากเครื่องบินรุ่นก่อน ๆ ของจีน ทำให้ทัศนวิศัยดีขึ้นมาก
แต่อนาคตของ J-10 นั้นยังคลุมเครืออยู่ว่าจะเป็นไปอย่างไร เพราะจีนก้ได้พัฒนา FC-1 หรือ JF-17 ร่วมกับปากีสถานด้วย และมันก็มีภารกิจซ้ำซ้อนกันอยู่ จึงทำให้ไม่แน่ว่าจันอาจจะตัดลดจำนวนความต้องการเครื่อง J-10 ลงก็ได้
การผลิต J-10 นั้นตามแผนแล้วจะผลิตเพื่อป้อนกองทัพจีนต่อไปอีก 5 ไป จากนั้นอาจจะผลิตเพื่อส่งออกด้วย แต่ล่าสุดปากีสถานได้สั่งซื้อไป 35 เครื่อง
เครดิตจากเวปhttp://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=03-04-2006&group=1&blog=1
จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของ J-10 น่าจะเทียบเท่า F-16 รุ่นแรกๆเท่านั้น ยังจะต้องพัฒนาต่ออีกพักใหญ่ ประสิทธภาพไม่น่าจะสู้ JAS-39 ของเราที่เข้าประจำการแล้วได้ ในส่วน F-2 ก็มีข้อมูลว่ามีปัญหาหลายอย่างทำให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่คาดหมายไว้มาก ทั้งที่ราคาแพงกว่าF-16 รุ่นล่าสุดเกือบ 2 เท่า แต่ประสิทธิภาพเทียบได้กับ F-16 บล็อค 30-40 เท่านั้นแต่ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาต่อให้ดีขึ้นเช่นกัน สรุปว่าถ้าจะเลือกเครื่องบินทั้ง 2 รุ่นที่กล่าวมา เราใช้ JAS-35 หรือไม่ก็ซื้อ J-11ที่จีน COPPYมาจากSU-27SK ดีกว่าครับ สามารถใช้อาวุธปล่อยอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำC-802ได้ด้วย
ถึงขั้นผลิตเอง มันเกินตัวไปเยอะเลย อุตสาหกรรมโลหะ เรายังไปไม่ถึงขั้นนั้น
และ ราคาไม่ถูกกว่าแน่นอน ต้องเข้าใจเรื่อง Economy of Scale
เอาแค่มาประกอบเองในบ้านเราก้อสุดยอดแล้ว แค่นี้ก็ลงทุนมหาศาล ทั้งคน ทั้งเครื่องมือ
แต่เราจะได้ขีดความสามารถซ่อมทำระดับโรงงาน ซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว
อิสราเอล เค้าก็ซื้อ Airframe & Engine จากอเมริกา ไม่ได้ผลิตเอง
แต่เอามาประกอบขั้นตอนสุดท้ายในประเทศ โดยติดตั้งระบบ Avionics ,Radar ,Weapons และอื่นๆ
ที่พัฒนาวิจัยโดย บ.ผลิตอาวุธ ของอิสราเอล กลายเป็น F-15i ,F-16i
สิงคโปร์ ก็มีขีดความสามารถ MOD F-16 ได้เอง
ไทยเราก็น่าจะทำได้ ถ้าจะทำกันจริงๆจังๆ จากการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จากโครงการGripen
มองไปที่ SU 30 ดีกว่าครับ
ถ้าดูว่าแนวคิดของเราไม่รุกใคร ใช้ป้องกันประเทศ ก็ JAS39 + f16 ก็ดีมากๆ แล้วนะครับอย่างที่ว่ามี๋JAS39 สัก 2-3ฝูง ฝูงละ 18 ลำ แล้ว เอาF16 ADF มาอีกสัก 2 ฝูง (เฝื่อเป็นอะไหล่ ด้วยในอนาคต) เคยอ่านเจอว่าเราต้องการฝูงบินขับไล่ 7 ฝูง อย่างน้อย 5 ฝูง ก็นี้แหละครับ JAS39 + F16 ผมว่าลงตัวมากๆ แล้ว
เอาสนามบินดอนเมื่องมาเป็นของทัพอากาศหรือตั้งเป็นศูยน์ซ่อมทำและวิจัยเกี่ยวกับอากาศยานที่นั้น ทั้ง 4 เหล่าทัพ และก็ หน่วยงานราชการอื่นๆ ส่งอากาศยานไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ อาจะไม่เข้าหลักการแต่ละหน่วยงานราชการ แต่มองในแง่งาน ยังไงก็เงินตัวเดียวกัน ประเทศเล็กๆ งบจำกัดควรจะ เปลียนมาบริหาร ให้ยืดหยุ่น อาจทำอยากแต่ก็ ทำได้ หวังว่าผู้ใหญ่บ้านเราจะเริ่มคิดบ้างคงดี ปล.ที่เดียวใหญ่ๆคงเป้นแหล่งรวมความรู้ทั้งบุคลากรชั้นยอดเลย
ผมว่าขอ jas39 NG สัก2ฝูง ฝูงละ18ลำ แล้วมีระบบเครือข่ายที่ดีก็น่าจะคุ้มครองอธิปไตยได้ดีแล้วครับ ถ้าของญี่ปุ้นนี่รู้สึก จะติดเรื่องสัญญาผู้แพ้สงครามอะไรนี่ละครับ ถ้าของจีนก็อย่าเสี่ยงในตอนนี้เลย(ย้ำในตอนนี้)
ทำไมต้องเลี่ยงของจีนอะ มันไม่ดีตรงไหนครับ
ผมคิดว่าทำการ MLU F16 ให้ครบทุกลำแล้วแบ่งเป็นฝูงย่อยๆ ฝูงล่ะ 12 ลำ ได้ 3 ฝูง ( + 1 F16 ADF )
จัดหา JAS39 A ( upgrade เป็น C ) มือสองสัก 2 ฝูง บวกที่ซื้อมาแล้ว 12 ลำ รวมเป็น 3 ฝูง
จัดหา F15 SG หรือถ้ามีเงินก็ Silent Eagle 8-12 ลำ อีก 1 ฝูง ( ไว้เป็นหมัดเด็ด )
รวมได้ 7 (+1 ADF) ฝูงบิน รับรองย่านนี้เราเบอร์ 1 แน่นอนครับ เหมาๆลงทุน 8 หมื่นล้านใน 10 ปี ก็ดูไม่มากมายอะไรครับ
การสงครามสมัยใหม่ครองอากาศได้มีชัยไปแล้ว 70 % ครับ
สำหรับ F5 ไม่นับเพราะไม่มีขีดความสามารถรบแบบ BVR
ในอีก ๑๐ ปี เราก็คงสามารถประกอบเครื่องบินภายใต้สิทธิบัตรได้ ถ้าคนไทยสนับสนุนกิจการของคนไทย
ท่าน NARUTOCT13 ครับ ของจีนไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับเพียงแต่ว่ามันดีเป็นบางอย่างครับ อย่าไปเหมารวมว่าอาวุธจีนไม่ดีไปซะหมด ไม่งั้นถ้ามันไม่ดีเราคงไม่เห็นทหารเรือไทยไปสั่งต่อเรือรบจากจีนหรอกครับ และคงไม่เห็นเจ้า ws1b หรือต้นแบบdti1 จรวดแห่งความภาคภูมิใจของเราหรอกครับ หรือแม้แต่ type 69II ก็คงไม่ได้เห็นครับแต่ว่าเรื่องเครื่องบินจีนเนี่ยจีนยังพัฒนาได้ไม่ดีครับในเรื่องคุณภาพสำหรับตอนนี้นะครับ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ครับ ท.อ.อาจจะไปสอยเครื่องบินจีนมาใช้เล่นก็ได้เมื่อตอนนั้นคุณภาพและเทคโนโลยีเครื่องบินจีนน่าใช้ขึ้นน่ะครับ ท่านพี่ข้างบนเค้าก็บอกอยู่ว่า คุณภาพมันสูสีกับเครื่อง F16C/D บล็อคแรกๆเอง แล้วเราจะซื้อมาทำไมล่ะครับ ในเมื่อเรามีเครื่องบินที่มีเทคโนโลยีสูงกว่าและสูสีกว่าเพื่อนบ้านให้เราเลือกอย่างน้อง แจส ไงครับ ถ้าเราซื้อ J10 มาก็ไม่ต่างอะไรกับย่ำเท้าอยู่กับที่เพราะขีดความสามารถมันคงจะไปสู้เครื่อง MiG29 SMT ของ พม่า Su30MKM ของมาเลย์เซีย และ F16C/D PLUS BLOCK 50-52 และ F15 SG ของสิงค์โปร์ไม่ได้แล้วเราจะซื้อมาทำไมให้เปลืองเงินครับ เทคโนลียี J10 จีนยังพัฒนาเองได้นิดหน่อยเอง เครื่องยนต์ก็ยังต้องไปซื้อจากรัสเซียมาเลยครับ รอให้มันเทียบเท่าหรือเหนือกว่าเครื่องบินรอบบ้านเราก่อนค่อยว่ากันครับ เพราะซื้อเครื่องประสิทธิภาพต่ำมาก็ต้องเอานักบินมาเสี่ยงอีกครับเสี่ยงต่อการถูกยิงตกครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งที่อีก 10 ปีข้างหน้า ไทยจะโรงงานประกอบเครื่องบินรบของตนเองภายใต้สิทธิบัตรจากมิตรประเทศ อย่างเช่น สวีเดน เพราะจากความต้องการภายในประเทศก็เพียงพอกับการคงการผลิตในอัตราต่ำ คือ จากความต้องการ 7 ฝูงบิน แบ่งเป็น 6 ฝูงต่อในประเทศ ก็ไม่น่าจะน้อยกว่า 12X6= 72 ลำ เหลืออีก 1 ฝูงก็ซื้อตัวเจ๋งๆมาเลย 8-12 ลำ ก็ประมาณว่า F15 Silent Eagle , F35 A+ นอกจากนี้ไทยยังมีความต้องการเครื่องบินฝึก/โจมตี ทดแทน L39 , Alpha jet อีกประมาณ 40 ลำขึ้นไป ดังนั้นเรื่องประกอบในประเทศไม่น่าจะมีปัญหา ครับ
ก้าวแรกในอาเซียก็มี 4 ประเทศ มีไทย ฟิลิปิน อืนโด มาเล อาจจะเริมผลิต เครื่องยนต์เทอร์โบเจท ตัวถังเครื่องบิน ระบบก้าวหน้าโอเวอร์นิค หรืออาวุธ รับเหมาไปประเทศละอย่างสองอย่าง ขอว่าหากมีพี่เลี้ยงเป็น อเมริกา อินเดีย จีน ก็จะไม่ไกลเกินฝันครับ ขีดความสามารถ เริ่มจากระดับ L39 อัลฟ่าเจต อะไรก็ได้ขอซัดนิดจะดีมาก
สิทธิบัตรจาก สวีเดน น่าสนใจครับ ส่วนเอวิโอนิค ก็ค่อยๆเรียนรู้กันต่อไป..
ถ้าเป็นได้ เริ่มจากผลิตเครื่องบินที่ ใช้ทดแทนบินฝึกก็ดีครับ....
แต่ถ้าใจผมตอนนี้ ขอมี C-130J ปีละ ๑ - ๒ เครื่องเป็นอย่างน้อย เพื่อเอามาทดแทน C-130 H ที่ชั่วโมงบินมากๆ และจะต้องปลดในอนาคตข้างหน้า งานในอนาคต 90% คือการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากภัยพิบัติ มากกว่าจะเกิดสงครามระหว่างประเทศ พอมีเยอะๆ ก็ซื้อชุดคิดอเมริกัน หรือที่สวีเดน ทดลอง เอามาติดกับ C-130H ของเราให้เป็น KC-130H