หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เครืองบินที่สมควรจัดหาเป็นอย่างยิ่ง

โดยคุณ : ninedeemark เมื่อวันที่ : 21/05/2011 08:42:08

Hosting Thanks: THAIHOSTWEB.COM

อยากให้ ทอ.ร่วมกับTAI ทำเรื่องขอถ่ายทอดความรู้และจัดหา มาประจำการในรูปแบบเดียวกับ dti-1ครับส่วนตัวผมว่าเจ้า j-10b ก็ไม่ได้ด่อยไปกว่าf-16c-dเลย

แถมอีกอย่างถ้าเราผลิตเองได้ราคาน่าจะถูกลงมาก (ผมอาจจะรีทัสห่วยไปหน่อยต้องขออภัย55+) เพื่อชาติเพื่อคุณ





ความคิดเห็นที่ 1


ราคาลำละเท่าไหร่ครับ  J 10B

เป็นเครื่องบินที่ถูกจัดอันดับยุคที่  4.5  หรือ  ยุค  5  ครับ

โดยคุณ Panya เมื่อวันที่ 17/05/2011 12:01:16


ความคิดเห็นที่ 2


อยู่ที่ลำละ $40 million ครับและเป็นเครื่องยุคที่4.5ครับแต่ทางจีนมีแนวคิดที่จะโมเป็นยุคที่5ในอนาคตครับ
โดยคุณ ninedeemark เมื่อวันที่ 17/05/2011 12:29:51


ความคิดเห็นที่ 3


อีกอย่างเครื่องบิน จีนและอาวุธ บางอย่างยังไม่น่าซื้ออยู่ดี ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 18/05/2011 11:49:13


ความคิดเห็นที่ 4


เป็นไปได้ยากนะครับ แต่ถ้าอีก 20 ปีข้างหน้า แนวคิดนี้อาจจะเป็นไปได้ ผมมองว่าจีนคงไม่อยากมีคู่แข่งการตลาดในราคาระดับนี้ ถึงแม้เราจะเพิ่งหัดคลานก็ตาม

ในส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ผมมองว่าการผลิตเองไม่ได้แปลว่าจะถูกกว่าการไปซื้อครับ อุตสาหกรรมของเราเองอาจจะยังไม่พร้อมในเทคโนโลยีระดับนั้น และอาจจะมองตัวอย่างได้ชัดเจนก็คือ F-2 ของญี่ปุ่น

แต่ถ้ามองในเรื่องการกระตุ้นเศษรฐกิจ การสร้างงาน เงินหมุนเวียนในประเทศ แนวคิดนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

โดยคุณ SamuraiChiaoWan เมื่อวันที่ 17/05/2011 13:26:04


ความคิดเห็นที่ 5


ผม ว่า f 2 ของญี่ปุ่นก็สวยดีนะ สวยมากกว่า f 16 อีก ใหญ่กว่านิดหน่อย แบบ ลอกกันมา ไทยน่าจะทพแบบนั้นเห็นด้วยไม้ต้องไปหาของต่างชาติค่าบำรุงแพง

อุปกรณื ขาดก็แพง ทำเองผมว่าดี

โดยคุณ BOSSMARVEL เมื่อวันที่ 17/05/2011 15:14:30


ความคิดเห็นที่ 6


ผมว่า สวย มากกว่า f  16 อีกนะ



โดยคุณ BOSSMARVEL เมื่อวันที่ 17/05/2011 15:16:59


ความคิดเห็นที่ 7


แล้ว F 15 เนี้ย บ้านเราเคยสนใจบ้างป่าวคับ มันเทห์ แล้วก็ เทคโนโลยีชั้นเลิส มากเลยนะครับ มีแล้วเพื่อนบ้าน ที่มี su 30 f 18 และอีกมากมายต้องให้ความสนใจแกลงกลัวกว่า gripen อีกนะครับ


โดยคุณ BOSSMARVEL เมื่อวันที่ 17/05/2011 15:21:23


ความคิดเห็นที่ 8


J-10 นั้นเป็นเครื่องบินแบบพหุบทบาท (Multi Role) ทำได้ทั้งขับไล่ โจมตี ลาดตระเวนแนว ๆ เดียวกับ F-16 จีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของระบบเดินอากาศ (Avionic) ออกมา เราจึงได้แต่คาดเดาเอาเท่านั้นว่ามันเจ๋งแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่นเรด้าห์ ซึ่งมี่การระบุไม่ตรงกัน บ้างก็ว่าใช้เรด้าห์รุ่น ELM-2021 จากอิสราเอล แต่อีกที่หนึ่งบอกว่าใช้KLJ-3 (ประสิทธิภาพคล้าย AN/AGP-66/68 รุ่นแรก ๆ ของสหรัฐ) ซึ่งจีนผลิตเอง ทำให้การประเมินประสิทธิภาพของยังคลุมเครืออยู่ แต่เชื่อกันว่าประสิทธิภาพนั้นน่าจะเทียบได้กับ F-16 C/D Block แรก ๆ เลยทีเดียว

สำหรับเครื่องยนต์นั้นจีนเลือกใช้เครื่อง AL-31FN จากรัสเซีย ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้กับเครื่อง Su-27/Su-30 MKK ในอนาคตจีนอาจจะติดตั้งเครื่องยนต์ WS-10A (Taihang) ซึ่งจีนพัฒนาเองก็ได้

Cockpit ของ J-10 นั้นดูยังไม่ค่อยน่าประทับใจนักในแง่ของเทคโนโลยีและความทันสมัย ดูจากรูปที่หลุดออกมาทางอินเตอร์เน็ตจะเห็นได้ว่ามีจอแสดงผล liquid crystal multifunction displays (MFD) แสดงผลได้สีเดียวอยู่ 3 จอ ซึ่งดูแล้วยังไม่หรูเท่า FC-1 ด้วยซ้ำและดูแล้วไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่แปลกใหม่และทันสมัยนัก อย่างไรก็ตาม J-10 ก็มีจอภาพตรงหน้านักบิน (HUD) และระบบความคุมการบินแบบ Fly-by-wire ซึ่งควบคุมการบินด้วยคอมพิวเตอร์ มีฝาครอบห้องนักบินเป็นฝาโดม 2 ชิ้น ซึ่งแตกต่างจากเครื่องบินรุ่นก่อน ๆ ของจีน ทำให้ทัศนวิศัยดีขึ้นมาก

แต่อนาคตของ J-10 นั้นยังคลุมเครืออยู่ว่าจะเป็นไปอย่างไร เพราะจีนก้ได้พัฒนา FC-1 หรือ JF-17 ร่วมกับปากีสถานด้วย และมันก็มีภารกิจซ้ำซ้อนกันอยู่ จึงทำให้ไม่แน่ว่าจันอาจจะตัดลดจำนวนความต้องการเครื่อง J-10 ลงก็ได้

การผลิต J-10 นั้นตามแผนแล้วจะผลิตเพื่อป้อนกองทัพจีนต่อไปอีก 5 ไป จากนั้นอาจจะผลิตเพื่อส่งออกด้วย แต่ล่าสุดปากีสถานได้สั่งซื้อไป 35 เครื่อง

เครดิตจากเวปhttp://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=03-04-2006&group=1&blog=1


โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 17/05/2011 16:07:10


ความคิดเห็นที่ 9


จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของ J-10 น่าจะเทียบเท่า F-16 รุ่นแรกๆเท่านั้น ยังจะต้องพัฒนาต่ออีกพักใหญ่ ประสิทธภาพไม่น่าจะสู้ JAS-39 ของเราที่เข้าประจำการแล้วได้ ในส่วน F-2 ก็มีข้อมูลว่ามีปัญหาหลายอย่างทำให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่คาดหมายไว้มาก ทั้งที่ราคาแพงกว่าF-16 รุ่นล่าสุดเกือบ 2 เท่า แต่ประสิทธิภาพเทียบได้กับ F-16 บล็อค 30-40 เท่านั้นแต่ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาต่อให้ดีขึ้นเช่นกัน สรุปว่าถ้าจะเลือกเครื่องบินทั้ง 2 รุ่นที่กล่าวมา เราใช้ JAS-35 หรือไม่ก็ซื้อ J-11ที่จีน COPPYมาจากSU-27SK ดีกว่าครับ สามารถใช้อาวุธปล่อยอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำC-802ได้ด้วย


โดยคุณ oleomano เมื่อวันที่ 17/05/2011 16:34:43


ความคิดเห็นที่ 10


ถึงขั้นผลิตเอง มันเกินตัวไปเยอะเลย อุตสาหกรรมโลหะ เรายังไปไม่ถึงขั้นนั้น

และ ราคาไม่ถูกกว่าแน่นอน ต้องเข้าใจเรื่อง Economy of Scale

เอาแค่มาประกอบเองในบ้านเราก้อสุดยอดแล้ว แค่นี้ก็ลงทุนมหาศาล ทั้งคน ทั้งเครื่องมือ

แต่เราจะได้ขีดความสามารถซ่อมทำระดับโรงงาน ซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว

โดยคุณ ZARAJEVO เมื่อวันที่ 17/05/2011 18:42:48


ความคิดเห็นที่ 11


อิสราเอล เค้าก็ซื้อ Airframe & Engine จากอเมริกา ไม่ได้ผลิตเอง

แต่เอามาประกอบขั้นตอนสุดท้ายในประเทศ โดยติดตั้งระบบ Avionics ,Radar ,Weapons และอื่นๆ

ที่พัฒนาวิจัยโดย บ.ผลิตอาวุธ ของอิสราเอล กลายเป็น F-15i ,F-16i

สิงคโปร์ ก็มีขีดความสามารถ MOD F-16 ได้เอง

ไทยเราก็น่าจะทำได้ ถ้าจะทำกันจริงๆจังๆ จากการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จากโครงการGripen

โดยคุณ ZARAJEVO เมื่อวันที่ 17/05/2011 19:04:01


ความคิดเห็นที่ 12


มองไปที่  SU 30 ดีกว่าครับ


โดยคุณ NM เมื่อวันที่ 17/05/2011 23:21:29


ความคิดเห็นที่ 13


 

ถ้าดูว่าแนวคิดของเราไม่รุกใคร ใช้ป้องกันประเทศ ก็ JAS39 + f16 ก็ดีมากๆ แล้วนะครับอย่างที่ว่ามี๋JAS39 สัก 2-3ฝูง  ฝูงละ 18 ลำ แล้ว เอาF16 ADF มาอีกสัก 2 ฝูง (เฝื่อเป็นอะไหล่ ด้วยในอนาคต) เคยอ่านเจอว่าเราต้องการฝูงบินขับไล่ 7 ฝูง อย่างน้อย 5 ฝูง ก็นี้แหละครับ JAS39 + F16 ผมว่าลงตัวมากๆ แล้ว

เอาสนามบินดอนเมื่องมาเป็นของทัพอากาศหรือตั้งเป็นศูยน์ซ่อมทำและวิจัยเกี่ยวกับอากาศยานที่นั้น  ทั้ง 4 เหล่าทัพ และก็ หน่วยงานราชการอื่นๆ ส่งอากาศยานไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์  อาจะไม่เข้าหลักการแต่ละหน่วยงานราชการ แต่มองในแง่งาน ยังไงก็เงินตัวเดียวกัน ประเทศเล็กๆ งบจำกัดควรจะ เปลียนมาบริหาร ให้ยืดหยุ่น อาจทำอยากแต่ก็ ทำได้ หวังว่าผู้ใหญ่บ้านเราจะเริ่มคิดบ้างคงดี ปล.ที่เดียวใหญ่ๆคงเป้นแหล่งรวมความรู้ทั้งบุคลากรชั้นยอดเลย

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 18/05/2011 11:47:08


ความคิดเห็นที่ 14


แค่ของใช้ในบ้านเช่นเครื่องซักผ้าราคาใกล้เคียงกันจะเลือกของจีนหรือญี่ปุ่น ลองคิดดูครับ
โดยคุณ nathekop เมื่อวันที่ 18/05/2011 10:41:49


ความคิดเห็นที่ 15


ผมว่าขอ jas39 NG สัก2ฝูง ฝูงละ18ลำ แล้วมีระบบเครือข่ายที่ดีก็น่าจะคุ้มครองอธิปไตยได้ดีแล้วครับ ถ้าของญี่ปุ้นนี่รู้สึก จะติดเรื่องสัญญาผู้แพ้สงครามอะไรนี่ละครับ ถ้าของจีนก็อย่าเสี่ยงในตอนนี้เลย(ย้ำในตอนนี้)

โดยคุณ Dr.Jet เมื่อวันที่ 18/05/2011 08:45:13


ความคิดเห็นที่ 16


ทำไมต้องเลี่ยงของจีนอะ มันไม่ดีตรงไหนครับ

โดยคุณ NARUTOCT13 เมื่อวันที่ 18/05/2011 10:14:56


ความคิดเห็นที่ 17


ผมคิดว่าทำการ MLU  F16 ให้ครบทุกลำแล้วแบ่งเป็นฝูงย่อยๆ ฝูงล่ะ 12 ลำ   ได้ 3 ฝูง  ( + 1 F16 ADF )

จัดหา JAS39 A ( upgrade เป็น C )   มือสองสัก 2 ฝูง บวกที่ซื้อมาแล้ว 12 ลำ  รวมเป็น 3 ฝูง

จัดหา F15  SG  หรือถ้ามีเงินก็ Silent  Eagle  8-12 ลำ   อีก 1 ฝูง ( ไว้เป็นหมัดเด็ด )

รวมได้ 7 (+1 ADF) ฝูงบิน   รับรองย่านนี้เราเบอร์ 1 แน่นอนครับ   เหมาๆลงทุน 8 หมื่นล้านใน 10 ปี ก็ดูไม่มากมายอะไรครับ  

การสงครามสมัยใหม่ครองอากาศได้มีชัยไปแล้ว 70 % ครับ

 สำหรับ F5 ไม่นับเพราะไม่มีขีดความสามารถรบแบบ BVR

โดยคุณ RYThai เมื่อวันที่ 18/05/2011 14:46:24


ความคิดเห็นที่ 18


ในอีก ๑๐ ปี เราก็คงสามารถประกอบเครื่องบินภายใต้สิทธิบัตรได้  ถ้าคนไทยสนับสนุนกิจการของคนไทย

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 18/05/2011 20:48:55


ความคิดเห็นที่ 19


ท่าน NARUTOCT13 ครับ ของจีนไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับเพียงแต่ว่ามันดีเป็นบางอย่างครับ อย่าไปเหมารวมว่าอาวุธจีนไม่ดีไปซะหมด ไม่งั้นถ้ามันไม่ดีเราคงไม่เห็นทหารเรือไทยไปสั่งต่อเรือรบจากจีนหรอกครับ และคงไม่เห็นเจ้า ws1b หรือต้นแบบdti1 จรวดแห่งความภาคภูมิใจของเราหรอกครับ หรือแม้แต่ type 69II ก็คงไม่ได้เห็นครับแต่ว่าเรื่องเครื่องบินจีนเนี่ยจีนยังพัฒนาได้ไม่ดีครับในเรื่องคุณภาพสำหรับตอนนี้นะครับ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ครับ ท.อ.อาจจะไปสอยเครื่องบินจีนมาใช้เล่นก็ได้เมื่อตอนนั้นคุณภาพและเทคโนโลยีเครื่องบินจีนน่าใช้ขึ้นน่ะครับ ท่านพี่ข้างบนเค้าก็บอกอยู่ว่า คุณภาพมันสูสีกับเครื่อง F16C/D บล็อคแรกๆเอง แล้วเราจะซื้อมาทำไมล่ะครับ ในเมื่อเรามีเครื่องบินที่มีเทคโนโลยีสูงกว่าและสูสีกว่าเพื่อนบ้านให้เราเลือกอย่างน้อง แจส ไงครับ ถ้าเราซื้อ J10 มาก็ไม่ต่างอะไรกับย่ำเท้าอยู่กับที่เพราะขีดความสามารถมันคงจะไปสู้เครื่อง MiG29 SMT ของ พม่า Su30MKM ของมาเลย์เซีย และ F16C/D PLUS BLOCK 50-52 และ F15 SG ของสิงค์โปร์ไม่ได้แล้วเราจะซื้อมาทำไมให้เปลืองเงินครับ เทคโนลียี J10 จีนยังพัฒนาเองได้นิดหน่อยเอง เครื่องยนต์ก็ยังต้องไปซื้อจากรัสเซียมาเลยครับ รอให้มันเทียบเท่าหรือเหนือกว่าเครื่องบินรอบบ้านเราก่อนค่อยว่ากันครับ เพราะซื้อเครื่องประสิทธิภาพต่ำมาก็ต้องเอานักบินมาเสี่ยงอีกครับเสี่ยงต่อการถูกยิงตกครับ 

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 19/05/2011 02:53:46


ความคิดเห็นที่ 20


เห็นด้วยอย่างยิ่งที่อีก 10 ปีข้างหน้า ไทยจะโรงงานประกอบเครื่องบินรบของตนเองภายใต้สิทธิบัตรจากมิตรประเทศ อย่างเช่น สวีเดน  เพราะจากความต้องการภายในประเทศก็เพียงพอกับการคงการผลิตในอัตราต่ำ คือ  จากความต้องการ 7 ฝูงบิน   แบ่งเป็น 6 ฝูงต่อในประเทศ ก็ไม่น่าจะน้อยกว่า 12X6= 72 ลำ   เหลืออีก 1 ฝูงก็ซื้อตัวเจ๋งๆมาเลย 8-12 ลำ  ก็ประมาณว่า F15 Silent Eagle , F35 A+      นอกจากนี้ไทยยังมีความต้องการเครื่องบินฝึก/โจมตี ทดแทน L39 , Alpha jet  อีกประมาณ 40 ลำขึ้นไป  ดังนั้นเรื่องประกอบในประเทศไม่น่าจะมีปัญหา ครับ

โดยคุณ RYThai เมื่อวันที่ 19/05/2011 04:18:08


ความคิดเห็นที่ 21


ก้าวแรกในอาเซียก็มี 4 ประเทศ มีไทย ฟิลิปิน อืนโด มาเล อาจจะเริมผลิต เครื่องยนต์เทอร์โบเจท ตัวถังเครื่องบิน ระบบก้าวหน้าโอเวอร์นิค หรืออาวุธ รับเหมาไปประเทศละอย่างสองอย่าง ขอว่าหากมีพี่เลี้ยงเป็น อเมริกา อินเดีย จีน ก็จะไม่ไกลเกินฝันครับ ขีดความสามารถ เริ่มจากระดับ L39 อัลฟ่าเจต อะไรก็ได้ขอซัดนิดจะดีมาก

โดยคุณ kunyekyek เมื่อวันที่ 19/05/2011 15:23:52


ความคิดเห็นที่ 22


สิทธิบัตรจาก สวีเดน น่าสนใจครับ ส่วนเอวิโอนิค ก็ค่อยๆเรียนรู้กันต่อไป..

ถ้าเป็นได้ เริ่มจากผลิตเครื่องบินที่ ใช้ทดแทนบินฝึกก็ดีครับ....

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 20/05/2011 01:14:48


ความคิดเห็นที่ 23


แต่ถ้าใจผมตอนนี้ ขอมี C-130J ปีละ ๑ - ๒ เครื่องเป็นอย่างน้อย  เพื่อเอามาทดแทน C-130 H ที่ชั่วโมงบินมากๆ และจะต้องปลดในอนาคตข้างหน้า  งานในอนาคต 90% คือการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากภัยพิบัติ มากกว่าจะเกิดสงครามระหว่างประเทศ  พอมีเยอะๆ ก็ซื้อชุดคิดอเมริกัน หรือที่สวีเดน ทดลอง เอามาติดกับ C-130H ของเราให้เป็น KC-130H

โดยคุณ ท้าวทองไหล เมื่อวันที่ 20/05/2011 21:42:07