เรือรบหลวงนราธิวาส ยาตราเข้าปากแม่น้ำแดง เทียบท่าเรือนครไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

       เมื่อเวลา 06.00 น.ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 ราชนาวีไทยโชว์ธง เยือนเมืองท่านครไฮฟอง นำเรือหลวงนราธิวาส เข้าปากแม่น้ำแดง โดยการนำของ พลเรือตรื ประดิษฐ์ ศิริคุปต์ ผู้บังหน่วยเรือเดินทางเยือนเมืองท่านครไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และรองผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้นำเรือเข้าถึงบริเวณปากแม่น้ำแดง โดยมี นาวาเอก เกรียงไกร อนันตศานต์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทย ประจำกรุงฮานอย มาเป็นผู้ประสาน และอำนวยความสะดวกให้กำลังพลทั้งหมดที่ได้เดินทางมาในครั้งนี้ อีกทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ขึ้นมาบนเรือเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องความถูกต้องของเอกสารการเข้าเมืองของทหารเรือไทย

      ในเวลาต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่นำร่อง นำพา เรือหลวงนราธิวาสเดินทางเข้าไปจากปากแม่น้ำแดง เข้ าไปยังท่าเทียบเรือนครไฮฟอง ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางในแม่น้ำประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมี นายอนุสน ชิวรรโน เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นาวาเอก อ้น เวียน แท้ รองเสนาธิการทหารเรือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผู้แทนจากภาคทหารบกที่ 3 นักธุรกิจไทยประจำเวียดนาม มาให้การต้อนรับ ณ ท่าเทียบเรือนครไฮฟอง พร้อมมอบช่อดอกไม้ให้กับ พลเรือตรี ประดิษฐ์ ศิริคุปต์ และ นาวาโท นิวัฒน์ จิตพูลผล ผู้บังคับการเรือหลวงนราธิวาส พร้อมให้เกียรติขึ้นเยี่ยมชมเรือ

      สำหรับท่าเทียบเรือนครไฮฟอง มีพื้นที่ประมาณ 1,503 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำแดง มีแม่น้ำ 16 สายไหลผ่าน เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในเขตภาคเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีปริมาณการขนส่งสินค้า ประมาณ 10 ล้านตันต่อปี สามารถรองรับเรือบรรทุกสินค้าระวางบรรทุก 7,000-10,000 ตัน เป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าของจังหวัดต่าง ๆ ในเขตภาคเหนือของเวียดนาม แต่อุปสรรคของท่าเรือแห่งนี้เพราะมีแนวร่องน้ำไม่ลึกมาก จึงไม่สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ได้ ทำให้การขนส่งสินค้าจากทวีปยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และแอฟริกา ไม่สามารถนำสินค้าเข้ามาได้ ต้องแวะถ่ายสินค้าที่ท่าเรือฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ทำให้ทางการเวียดนามเร่งดำเนินการเพื่อขยายพื้นที่บริเวณท่าเรือไฮฟอง พร้อมทั้งปรับร่องน้ำเพื่อให้สามารถรองรับเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

      นอกจากนี้สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ยังมีโครงการก่อสร้างท่าเรือทางทหารแห่งใหม่ที่นครไฮฟอง ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางทหารด้านการป้องกันประเทศ ซึ่งกองทัพเรือเวียดนามมีความต้องการปรับปรุงกองเรือให้เป็นกองเรือทะเลลึก และพัฒนาขีดความสามารถด้านการปฎิบัติการทางเรือในสาขาการรบผิวน้ำ การปราบเรือดำน้ำ การทำสงครามทุ่นระเบิด และการลาดตระเวนทางเรือเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเรือดำน้ำของจีนในทะเลจีนใต้ ปัญหาหมู่เกาะสแปรตลีย์ และพาราเชล การปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมายในทะเล และการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอีกด้วย

      ขอบคุณข่าวจาก พัชรพล ปานรักษ็ รายงานจาก นครไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 

เทียนสิน