บทความนี้แปลจากบทความในเว็ปไซต์ popularmechanicที่นำออกเผยแพร่ในโอกาสการปฏิบัติการจู่โจมในปากีสถาน
บทความนี้ขออุทิศ ให้ร.ต.ท. กฤตติพล บุญลือ ผู้เสียชิวิตในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อ ๒๐ มิ.ย. ๕๑
ร.ต.ท. กฤตติพล บุญลือ, หมวดตี้ ใช้นามแฝง  polize เป็นสมาชิก thaifighterclub
you shall not be forget

ปฎิบัติการ Chariot (๒๘ มีนาคม ๒๔๘๕) / Operation Chariot (March 28, 1942)
ภารกิจ: ความพยายามของอังกฤษที่จะทำลายอู่ซ่อมบำรุงเรือที่เมือง แซงค์ นาแซร์ของฝรั่งเศสในการยึดครองของเยอรมัน
ผลลัพท์ : สำเร็จแต่กำลังพลสูญเสียมาก
นักประวัติศาสตร์ เคยยกให้เป็น "การจู่โจมครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
กองกำลังจู่โจมอังกฤษ บรรทุกไปกับเรือ HMS Campblettownซึ่งเป็นเรือเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑ ที่ติดระเบิดทำลายตัวเอง
พุ่งเข้าชนอู่แห้งสำหรับซ่อมบำรุงเรือที่ St.Nazaire ซึ่งนาซีเยอรมันยึดไว้ที่เมือง St.Nazaire ฝรั่งเศส
การระเบิดทำให้อู่แห้งเสียหายใช้การไม่ได้ตลอดสงคราม บีบบังคับให้เรือรบเยอรมันให้ต้องกลับไปใช้อู่ซ่อมบำรุงเรือในเยอรมันเท่านั้น
เนื่องจากระบบการเล็งสำหรับทิ้งระเบิดในยุคนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพ การพยายามทำลายอู่เรือจากทางอากาศ
จะทำให้เกิดความเสียหายในเมือง(St Nazaire)ด้วย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ปฏิบัติการChariot เป็นปฏิบัติการรบครั้งแรกๆในสงครามโลกครั้งนั้น
ที่ฝ่ายสัมพันธมิตรยังมีความเป็นห่วงผลกระทบต่อประชาชน มากกว่าในห้วงระยะเวลาช่วงอื่น
ดังนั้นอังกฤษจึงริเริ่มปฏิบัติการที่เสี่ยงครั้งนี้ โดยเลือกการปฏิบัติการจากทะเล มีการส่งเรือรบอีกจำนวน ๑๘ลำ
(เรือพิฆาต ๒ ลำ เรือขนาดเล็กกว่าอีก ๑๖ลำ) คุ้มกันเรือ Campbletown และมีหน้าที่นำกำลังพลที่ไปกับ Campbletown กลับ
ระเบิดที่ติดเรือ Campbletown ถูกหน่วงเวลา ให้ทหารที่บรรทุกไปกับเรือสามารถนำเรือพุ่งชนประตูน้ำของอู่ต่อเรือและกลับ
ขึ้นเรืออื่นได้ทั้น เมื่อพุ่งชนแล้วเรือ Campbletown จะจอดนิ่งเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยที่ทางฝ่ายเยอรมันไม่รู้ว่ามีการวางระเบิดไว้ด้วย
จนกระทั่งมีการระเบิดอย่างรุนแรงอย่างไรก็ตามเนื่องจากปฏิบัติการครั้งนั้นไม่มีการสนับสนุนทางอากาศ นาซีเยอรมันจึงสามารถใช้
ปืนใหญ่รอบเมืองSt.Nazaire ระดมยิงกองเรือที่ปฏิบัติการครั้งนั้นจนมีเรือเพียงสามลำที่เหลือรอดกลับคืนสู่อังกฤษได้
ชุดจู่โจมที่เหลือต้องหลบหนีด้วยเท้าในฝรั่งเศสที่เยอรมันยึดครอง
จากทหารที่เข้าจู่โจมจำนวน ๖๒๒ นาย มีชีวิตเหลือรอดกลับบ้านในช่วงสิ้นสุดสงครามเพียง ๒๒๗ นาย

ผู้แปล -ทหารที่เข้าจู่โจม ส่วนใหญ่เป็นนาวิกโยธินอังกฤษ (Royal Marine) ซึ่งพึ่งมาจัดตั้งเป็นหน่วย Cammando
นายทหารที่เป็นหลักในการตั้งหน่วยCommando และการปฏิบัติการครั้งนี้คือ Lord Louis Mountbatten
- ในพระราชพิธีสมรสเจ้าชายวิลเลียม ราชนาวีอังกฤษได้จัดเรือรบ เข้าร่วมในพระราชพิธีด้วย
เรือ HMS Campbletown (ลำใหม่ที่ได้รับการตั้งชื่อตามเรือในสงครามโลกครั้งที่สอง)ได้อยู่ในลำดับที่สองของขบวนเรือ