หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


"อัตตาจร" กับ "อัตราจร" คำไหนถูก คำไหนผิด หรือใช้ได้ทั้ง 2 คำ

โดยคุณ : Doraemon เมื่อวันที่ : 16/06/2011 18:46:09

เรียนถามผู้รู้ทุกท่าน

         ผมเห็นบางท่านใช้คำว่า"อัตตาจร" บางท่านก็ใช้คำว่า"อัตราจร" ไม่รู้ว่าคำที่ถูกต้องคือคำไหน หรือใช้ได้ทั้ง 2 คำ

ขอบคุณครับ





ความคิดเห็นที่ 1


การผสมคำศัพท์ ขึ้นใหม่โดยวิธีการสมาทคำต้องเปลี่ยนรูปคำไปเป็นศัพท์ใหม่โดยไม่คงรูปเดิมไม่ใช่เหรอครับ...

อตต + จร = อัตฐจร (อ่านว่า อัด-ถะ-จร)

(ใครรู้จริงช่วยชี้แจงด้วยครับ)

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 12/06/2011 16:09:17


ความคิดเห็นที่ 2


แต่ตอนนี้เขาเรียกแยกกันนะครับ พวกปืนใหญ่อัตตาจรเขาเรียก SPA Self-propelled artillery

ส่วนพวก SPG Self-propelled gun เขาเรียกกับพวกปืนยิงวิถีราบ กับรถถังไร้ป้อม หรือพวกไหนก็ได้ที่ปืนมันหมุนไม่ได้ครับ

แต่เมื่อก่อนเขาเรียกพวก SPG ปัจจุบันว่า Assult Gun ส่วน SPA ก็เรียก SPG

โดยคุณ Markrura เมื่อวันที่ 12/06/2011 10:06:58


ความคิดเห็นที่ 3


อัตตา = ตัวเอง จร = ไป รวมๆกันก็ประมาณว่า เคลื่อนที่ไปได้ด้วยตนเอง ภาษาอังกฤษ เป็นคำว่า Self-propelled gun  

โดยคุณ Tawporn เมื่อวันที่ 12/06/2011 09:36:26


ความคิดเห็นที่ 4


อัตตาจร

ขอบคุณที่ถามครับ

โดยคุณ charnrit เมื่อวันที่ 12/06/2011 04:56:21


ความคิดเห็นที่ 5


อัตตาจร ครับ 

ผมเขียนผิดเอง ขอโทษทีครับ 

โดยคุณ spooky เมื่อวันที่ 12/06/2011 05:30:36


ความคิดเห็นที่ 6


อัตตาจรเป็นคำที่เขียนถูกต้องครับ  มีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี2คำคือ อตฺต+จฺร   อตฺฺต แปลว่า ตน  จฺร แปลว่า เคลื่อนที่   

ส่วนคำว่าอัตรา น่าจะแปลว่า สัดส่วน

โดยคุณ thanakon เมื่อวันที่ 12/06/2011 05:34:03


ความคิดเห็นที่ 7


อัตตาจร เป็นคำสนธิ มาจากคำบาลีว่า อตฺตา+จร 

อตฺตา แปลว่าตัวเอง เป็นนาม

จร แปลว่า ไป เที่ยวไป เป็นกริยา หรือเป็นคำวิเศษณ์ต่อท้ายคำสนธิ

รวมๆกันคือ อัตตาจร คือ ไปได้ด้วยตนเอง

เทียบกับคำภาษาอังกฤษ Self =อตฺตา เป็นคำนาม Propelled เป็นสกรรมกริยา =จร

รวมเป็นSelf Propelled แปลว่าขับเคลื่อนด้วยตนเอง หรือ เคลื่อนที่ด้วยตัวเอง 

 

ส่วนบางทีเราจะเห็นใช้คำว่า Howitzer ต่อท้ายแทนคำว่าGun หรือ Artillery

Howitzer คือปืนที่มีคาลิเบอร์น้อย หรือเป็นปืนที่ยิงเป็นวิถีโค้ง ยิงได้ไม่ไกล 

Gun คือปืนที่มีคาลิเบอร์ยาว ยิงเป็นวิถีราบยิงได้ไกล

แต่ปัจจุบัน เรียกรวมๆกันว่าGun-HowitzerหรือHowitzer ล้วนๆ เพราะดูไปดูมาแล้วเดี๋ยวนี้Howitzer ก็มีลำกล้องยาว และยิงไกลเช่นกัน ยกตย.

ปนร.45 มีคาลิเบอร์ 45แต่ยิงกระสุนแบบวิถีราบ และความเร็วต้นสูง แต่ ปกค.25 มีคาลิเบอร์54 ยิงวิถีโค้ง ยิงได้ไกลพอๆกัน งงดีไหม

เดี่๋ยวนี้จึงเรียกรวมๆว่าHowitzer 

ดังนั้นเมื่อเจอตัวย่อ SPH หรือ Self Propelled Howitzer หรือ SPG Self propelled gun จึงมีความหมายใกล้เคียงกันในปัจจุบัน

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2011 22:22:37


ความคิดเห็นที่ 8


ขออภัย ปกค.25 มีคาลิเบอร์39  ...........ปนร.34 ไม่ใช่ปนร.45  พลาดอย่างร้ายแรง

พลาดๆๆ

 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2011 22:40:19


ความคิดเห็นที่ 9


ส่วนAssault gun ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังสืบทอดเจตนารมณ์ของมัน คือ ปืนMGS ติดตั้งบนรถสไตรค์เกอร์ และ ปืนออโต้เมลาร่า105มม.ของ เซนเทาโร โดยทำหน้าที่คล้ายๆการคือ กาารยิงสนับสนุนโดยตรงต่อเป้าหมายที่มั่นคงแข็งแรง 

ล่าสุดของปืนจำพวกนี้ ก็คงจะเป็นป้อม105 ของ ปาเตรีย (Patria AMV) ปืนถ.90มม. บนรถวี-150 ก็น่าจะใช่

ถ้ากล่าวถึงAssault gun ก็ต้องกล่าวถึง SP Anti-tank gun /Tank destroyer  ซึ่งปัจจุบัน ยานเกราะที่ทำหน้าที่นี้จะติดอวป.ต่อต้านรถถัง หรือ ปืนถ.ขนาดเบิ้มยกตย.  M901(improved tow) PTZ-89(120mm )ของจีน 

ซึ่งทั้งMGS Centauro หรือ Patria ทำหน้าที่นี้ได้เช่นเดียวกัน

และสหายใหม่ตระกูล Self propelled Artillery คือ Mortar Carrier /SP mortar ยกตย. เช่นAMOS ติดตั้งบน Patria AMV (2x120mm) Tyulpan ของรัสเซีย เจ้านี่ขนาด240mm. หรือ กระทั่ง รสพ.85 ติดค.81 /120 ก็นับเข้าจำนวนนี้

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2011 22:59:27


ความคิดเห็นที่ 10


เข้าโหมดลายพรางมากเกินไปหน่อยแฮะวันนี้

พูดถึง Patria AMV

เจ้านี่น่าใช้กว่าBTR-3e1 เสียอีก (ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณ)

เห็นว่า โดนRPG-7 ไป3นัด ยังกลับบ้านได้เฉย ตาลีบันตั้งฉายา่ายมฑูตสีเขียว (ลายพรางของกองทัพบกโปแลนด์)

ป้อมปืนถ.105mm หรือ ค.120แบบAMOS หรือ ค.แบบใหม่ชื่อว่าNEMO  เกราะเป็นแบบ AMAP-B กันกระสุน30mm รอบคัน แถมยังติดเสริมได้อีกหลายแบบ

 

ขอยุติโหมดลายพรางไว้เพียงเท่านี้

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 12/06/2011 23:17:47


ความคิดเห็นที่ 11


นมัสการครับ..

ตกลงเป็นคำสนธินะครับ...   ขอบคุณมากครับ

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 13/06/2011 02:31:46


ความคิดเห็นที่ 12


ขอบคุณมากมายครับ ^o^

โดยคุณ Doraemon เมื่อวันที่ 13/06/2011 07:00:02


ความคิดเห็นที่ 13


นมัสการ ถามหลวงพี่ icy_CMU หน่อยครับ  ผมยังมีข้อสงสัยครับ

ทำไม  ศัพท์บาลี + ศัพท์บาลี  ใช้วิธีการสนธิคำละครับ ปกติศัพท์บาลีเมื่อรวมกับศัพท์บาลีมีกฎให้ใช้วิธีการสมาทคำ ไม่ใช่หรือครับ ?

หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิดไปครับ หรือเป็นข้อยกเว้นของหลักภาษาไทยในคำนี้โดยเฉพาะครับ

ผมจำได้ว่า ศัพท์บาลี + ศัพท์ที่มาจากภาษาอื่น จึงใช้หลักการสนธิคำ

หากผมเข้าใจผิดอะไรไปช่วยชี้แจงด้วยครับ เพราะไม่รู้จะไปหาความรู้ที่ไหนอีกแล้ว ครับ

นมัสการครับ.. 

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 16/06/2011 01:36:43


ความคิดเห็นที่ 14


นมัสการ ถามหลวงพี่ icy_CMU หน่อยครับ  ผมยังมีข้อสงสัยครับ

ทำไม  ศัพท์บาลี + ศัพท์บาลี  ใช้วิธีการสนธิคำละครับ ปกติศัพท์บาลีเมื่อรวมกับศัพท์บาลีมีกฎให้ใช้วิธีการสมาทคำ ไม่ใช่หรือครับ ?

หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิดไปครับ หรือเป็นข้อยกเว้นของหลักภาษาไทยในคำนี้โดยเฉพาะครับ

ผมจำได้ว่า ศัพท์บาลี + ศัพท์ที่มาจากภาษาอื่น จึงใช้หลักการสนธิคำ

หากผมเข้าใจผิดอะไรไปช่วยชี้แจงด้วยครับ เพราะไม่รู้จะไปหาความรู้ที่ไหนอีกแล้ว ครับ

นมัสการครับ.. 


 

 

iรู้สึกว่าจะพลาดจริงๆแล้ว ......  คำนี้ไม่มีการเปลี่ยนรูปศัพย์ ไม่มีการสนธิทั้งพยัญชนะ สระ นิคหิต  ภาษาไทยลงหม้อลงไหไปหมด เลยปลาอยไก่ไปตัวเบ้อเริ่ม

เป็นคำสมาส ระหว่าง อคฺตา+จร จริงๆ

ปล. คำสมาสจับมาชนกัน  ไม่มีการเปลี่ยนรูปสระใดๆ ทั้งสมาสและสนธิ ใช้ผสมคำบาลี หรือสันสกฤตเท่านั้น

เดี๋ยวไปเรียนบาลีแล้วจะมาทำความเข้าใจใหม่ 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 16/06/2011 04:45:42


ความคิดเห็นที่ 15


แถมลิงค์ให้ไปอ่านกันเรื่องสมาส สนธิ 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 16/06/2011 04:46:59


ความคิดเห็นที่ 16


นมัสการหลวงพี่ ครับ...

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นครับ ขอบคุณมากครับ

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 16/06/2011 07:46:13