L-39 ที่ ทอ.ไทย ใช้เป็นรุ่น ZA/ART โดยพื้นฐานของ L39 ใช้เป็นเครื่องฝึก ขับไล่/โจมตี

แต่ L-39 ของเราก็ได้รับการปรับปรุงจากอิสราเอลเพื่อให้สามารถใช้อาวุธของสหรัฐได้ เพื่อเข้ากับระบบของไทย

ส่วน Alphajet โดยพื้นฐาน เจ้าตัวนี้ ทอ.ไทย ซื้อมาเพื่อใช้ในภารกิจโจมตีเป็นหลัก แต่ก็สามารถติด AIM-9 ได้ด้วย

ถ้าจะไปเปรียบกับ Mig-29 หรือ Yak-130 นั้น ผมว่าเจ้าสองตัวนี้น่าจะเป็นลองอยู่มากทีเดียว

เนื่องจาก Mig-29 เป็น บ.ขับไล่ครองอากาศขนาดใหญ่ดังนั้นทั้ง L-39 และ A-jet ผมว่าอาจจะหมดสิทธิ์ได้กิน Mig-29 เลยก็เป็นได้

ส่วน Yak-130 ตัวนี้ไม่ทราบข้อมูลเท่าไร แต่ก็ทราบมาว่าเจ้าตัวนี้เป็นพื้นฐานสำหรับ MB346 สังเกตเลยว่าคล้ายกันมากทีเดียว

โดยพื้นฐานที่เจ้า Yak-130 เป็น บ.ฝึกขับไล่ ดังนั้น ถ้าจะเอา Yak130 ไปลองเปรียบมวยกับ A-jet หรือ L-39

ก็ไม่ขอเปรียบดีกว่า เพราะว่าไม่รู้ข้อมูลของเจ้า Yak นี้เลย

รอสมาชิกท่านอื่นมาให้ความรู้ต่อครับ ^^

เป็นรองครับ   ไม่ใช่เป็นลอง  เดี๋ยวใช้ภาษาไทยกันแปลกๆ จริงๆ

อ่า พลาดซะได้ ว่าคนอื่นไว้เยอะ โดนซะเอง

ขอโทษทีครับ พอดีผมพิมพ์ไวไปหน่อย ไม่ทันได้ตรวจทาน ^^

ลองอ่านบทความของ่ทาน AAG_th ได้วิเคราะห์ไว้ครับ

ฝูงบิน บ.L-39 ของกองทัพอากาศในปัจจุบันนั้นคือ ฝูง.401ตาคลีและฝูง.411 เชียงใหม่นั้น มีภารกิจหลักคือการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ ซึ่งตามหลักนิยมในการปฏิบัติการรบตามความเป็นจริงแล้วในพื้นที่ห้วงอากาศที่ บ.L-39 ปฏิบัติการนั้นจำเป็นต้องถูกครองอากาศโดยฝ่ายเราหรือมี บ.ขับไล่ทำการบินคุ้มกันอยู่แล้วครับ แต่ถ้าไม่มีและเกิดเหตุการที่ บ.ขับไล่สกัดกั้นสมรรถนะสูงอย่าง MiG-29B เข้ามาโจมตีได้นั้นนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้

จะสมมุติให้ L-39ZA/ART ปะทะกับ MiG-29B แบบ 2 Vs. 2
L-39 ติด AIM-9P Sidewinder 2นัด ระเบิด 500lbs 2ลูก ภารกิจ CAS
MiG-29B ติด R-73 4นัด, R-27 2นัด ถังน้ำมันสำรอง1 ภารกิจ BARCAP
นักบิน MiG-29B เครื่อง1 เป็นนักบินรับจ้างรัสเซีย ยูเครน ไม่ก็ยุโรปตะวันออกเก่า นักบินเครื่องสองเป็นนักบินพม่า

จากสถานการณ์นี้ถ้าฝั่ง MiG-29B จับตำแหน่ง L-39 ได้ในระยะยิงของ R-27 บ.MiG-29B ทั้งสองเครื่องคงจะทำการ Lock-On แล้วยิง R-27 เข้าใส่ L-39 ทั้งสองลำทันที ซึ่ง บ.L-39 คงจะจับสัญญาณแจ้งเตือนการเปิด Radar ได้ตั้งแต่แรกแล้วทำการปลดระเบิดออก เลี้ยวหนี ปล่อย Chaff แล้วหวังว่าจะหลบได้ ซึ่งโอกาสยากมากๆ

แต่ที่น่าจะเป็นไปได้อีกทางคือนักบิน MiG-29B อาจจะตัดสินใจทำการรบระยะใกล้กับ L-39 เนื่องจากมั่นใจในสมรรถนะ ซึ่ง L-39 จะมีข้อเสียเปรียบสำคัญในด้านความเร็วและระบบอาวุธอากาศสู่อากาศที่ด้อยกว่า คือ ปญอ.23มม. 150นัด กับ AIM-9P อีก2นัด เทียบกับ R-73 และ ปญอ.30มม. ทำการเล็งผ่าน IRST sensor และ Radar
สิ่งที่นักบิน L-39 ควจจะทำคือใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ในการหลบซ่อนตัวจากการตรวจจับของ MiG-29 ครับ ซึ่งในพื้นที่แภบภาคเหนือ-ตะวันตกนั้นมีทิวเขาจำนวนมากซึ่งถ้าทำการบินระดับ ต่ำลัดเลาะไปน่าจะทำให้ นักบิน MiG-29 ค้นหาจากทั้งทาง Radar และทางสายตาได้ยากขึ้น ซึ่งสิ่งที่นักบิน บ.L-39 ควรจะตัดสินใจคือรีบหนีออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุดครับ
อย่างไรก็ถ้าหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้จริงๆ นักบิน บ.L-39 ก็ต้องใช้ภูมิประเทศช่วยในการทำการรบครับ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องประสานการกับส่วนควบคุมทางภาคพื้นดินอย่างใกล้ชิดด้วยเพราะ Sensor ของ บ.L-39 นั้นค่อนข้างจะมีจำกัด แต่โอกาสการรบในระยะประชิดนั้น L-39 ก็ยังเสียเปรียบ MiG-29 ด้านสมรรถนะอยู่ดีครับ

ก็ขึ้นอยู่กับว่า MiG-29 จะเปิดฉากยิงทำลาย บ.L-39 ได้เร็วเท่าไรครับ ซึ่ง L-39 เองก็ต้องทำการบินหลบหลีกแบบแมวไล่จับหนูให้ บ.MiG-29 ผลาญเชื้อเพลิงให้ได้มากที่สุดจนต้องบินกลับฐานไปเองครับ

http://aagth1.exteen.com/20080124/l-39za-art-mig-29b