จีนท่าจะหนาว สหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตคู่แค้นลำเก่าเข้าทะเลจีนใต้ พิทักษ์เส้นทางเดินเรือเสรี

ภาพ แฟ้ม 10 ก.ย.2547 ทหารเรือบนเรือพิฆาตชุงฮูน ยืนทำความเคารพขณะเรือแล่นผ่านเรือพิฆาตมิสซูรี (USS Missouri) ที่ผ่านศึกสงครามมามากมายในทั่วโลก ก่อนทำพิธีเข้าประจำการวันที่ 18 เดือนเดียวกัน ชุงฮุนเป็นเรือชั้นอาร์เลห์เบิร์กลำล่าสุดและทันสมัยที่สุดในด้านเขี้ยวเล็บ เข้าปฏิบภารกิจสำคัญในทะเลจีนใต้ครั้งแรกในเดือน มี.ค.2552 ทำหน้าที่ปกป้องเรือสำรวจสมุทรศาสตร์ของกองทัพเรือลำหนึ่งที่ถูกเรือจีนคุก คาม เรือพิฆาตชุงฮูนกลับแปซิฟิกตะวันตกอีกครั้งในเดือน มิ.ย.2554 นี้ ในภารกิจปกป้องเส้นทางเดินเรือนานาชาติในทะเลจีนใต้.-- US Navy PHOTO.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เรือพิฆาตที่น่าเกรงขามที่สุดลำหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซัึ่งเคยเผชิญหน้ากับเรือจีนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้แล่นเข้าสู่เขตทะเลซูลูหมู่เกาะฟิลิปปินส์แล้ว เพื่อปฏิบัติการคุ้มครองเส้นทางเดินเรือนานาชาติ หลังจากฟิลิปปินส์ประท้วงจีนกล่าวหาว่า เรือจีนล่วงล้ำน่านนำและจีนกำลังจะสร้างแท่นสำรวจขุดเจาะน้ำมันขึ้นในเขต เกาะปะการังของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้

       เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชุงฮูน (USS Chung-Hoon) ถูกส่งไปจากฐานทัพเรือเพิร์ลฮษร์เบอร์ มลรัฐฮษวาย ไปไปยังทะเลซูลูในต้นสัปดาห์นี้ เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้งในเขตทะเลฟิลิปปินส์และทะเลจีนใต้ หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์สตาร์รายงานในเว็บไซต์วันจันทร์ 13 มิ.ย.

       "เรือจะแล่นเข้าไปในน่านน้ำที่สหรัฐฯ เห็นว่าเป็นเขตทะเลสากล เพื่อยืนยันถึงสิทธิในการเดินเรืออย่างเสรี" สื่อในฟิลิปปินส์กล่าว

       การส่งเรือพิฆาตชุงฮูนเข้าทะเลฟิลิปปินส์กับทะเลจีนใต้ มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดในอาณาบริเวณ ซึ่งฟิลิปปินส์กับเวียดนามต่างร้องเรียนว่า เรือจีนล่วงล้ำน่านน้ำ และ สำหรับเวียดนามเรื่อสำรวจนำมัน 2 ลำ ถูกเรือจีนตัดเคเบิ้ลสำรวจธรณีศาสตร์ และถูกข่มขู่ในหลายเหตุการณ์ ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.เป็นต้นมา

       สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมะนิลา กล่าวว่า เรือพิฆาตชุงฮูน จะเข้าร่วมการฝึกซ้อมประจำปีระหว่างกองทัพเรือสหรัฐฯ และกองทัพเรือฟิลิปปินส์ที่เรียกว่า Cooperation Afloat Readiness and Training (CARAT) อันเป็นความตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่าย

       ฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรที่เก่าแก่และยาวนานของสหรัฐฯ ในกลุ่มอาเซียน เช่นเดียวกันกับประเทศไทย ซึ่งได้รับฐานะเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ นอกนาโต้

       เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แฮร์รี่ โทมัส จูเนียร์ให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ ยืนยันว่าฟิลิปปินส์จะได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ อย่างเต็มที่ ในกรณีที่ความมั่นคงปลอดภัยของฟิลิปปินส์ตกอยู่ภายใต้การข่มขู่คุกคาม ฟิลิปปินส์สตาร์กล่าว

       ส่วนอีกทางหนึ่งเพิ่งมีการเปิดเผยในวันจันทร์นี้ว่า เรือบรรทุกเครื่องบิน จอร์จ วอชิงตัน ได้นำเรือรบในฝูงแล่นออกจากฐานทัพในญี่ปุ่นแล้วในวันอาทิตย์ มุ่งสู่เขตแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งรวมทั้งทะเลจีนใต้ด้วย เพื่อฝึกซ้อมการลาดตระเวนกับพันธมิตร เพื่อผดุงเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค หนังสือพิมพ์ไมนิจิ ของญี่ปุ่นกล่าว

       ตามประวัติเมื่อเร็วๆ นี้เรือพิฆาตชุงฮูนเคยรับภารกิจที่ต้องเผชิญหน้ากับเรือจีนมาครั้งหนึ่ง โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา สั่งการเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2552 ให้เรือพิฆาตที่ก้าวล้ำหน้าที่สุดลำนี้ เข้าทำหน้าที่ป้องกันเรืออิมเพ็คคาเบิล (USNS Impeccable) หรือ T-AGOS-23 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ หลังจากถูกเรือจีนรบกวน ในเหตุการณ์เผชิญหน้าห่างจากเกาะไหหลำราว 75 ไมล์ทะเล

       นันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ คัดค้านการที่จีนประกาศครอบครองพื้นที่ราว 80% ของทะเลจีนใต้ให้เป็นน่านน้ำของตน โดยปราศจาคพื้นฐานด้านกฎหมายระหว่างประเทศรองรับ

       เรือพิฆาตชุงฮูนซึ่่งประจำการที่ฐานทัพเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์ รัฐฮาวาย ได้รับมอบภารกิจให้เข้าพิทักษ์เส้นทางเดินเรือในทะเลจีนใต้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2554 เป็นต้นมา โดยประจำในทะเลซูลู ของฟิลิปปินส์.

แผนที่ ทำขึ้นใหม่จาก Google Earth Map แสดงที่ตั้งหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ทะเลซูลู หมู่เกาะสแปร็ตลีย์และทะเลจีนใต้ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป เรือพิฆาตชุงฮูนของสหรัฐฯ ได้เข้าประจำการในทะเลแถบนี้ เพื่้อรักษาเส้นทางเดินเรือนานาชาติให้ปลอดภัยจากการคุกคาม ซึ่งเป็นการไม่ยอมรับการประกาศของฝ่ายจีนที่กล่าวอ้าง 80% ของน่านน้ำทะเลจีนใต้เป็นของตน.

ภาพ แฟ้ม 27 ก.พ.2553 เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชุงฮูน USS Chung-Hoon (DDG 93) กำลังเคลื่อนออกจากฐานทัพเรือที่อ่าวเพิร์ล หลังเกิดแผ่นดินไหวใกล้ฝั่งประเทศชิลีและเกรงว่าจะเกิดคลื่นสึนามิไปถึงรัฐ ฮาวาย อีกเพียง 3 สัปดาห์ต่อมา เรือชุงฮูนก็ได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้ไปปกป้องเรือสำรวจสมุทรศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ถูกเรือจีนข่มขู่ในทะเลจีนใต้ เรือพิฆาตทันสมัยลำนี้กลับสู่ทะเลตะวันออกอีกครั้งในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อปกป้องเส้นทางเดินเรือเสรี. -- AFP PHOTO/US Navy Visual News Service.

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9540000072326