หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ศรีสะเกษ-ผวจ.แถลงข่าวประกาศจับ หน.สายลับกัมพูชา

โดยคุณ : pop04 เมื่อวันที่ : 02/07/2011 23:03:42

วันพฤหัสบดี ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ผวจ.ศรีสะเกษ นำทหาร ตร.แถลงข่าวประกาศจับหัวหน้า 3 สายลับกัมพูชา-เวียดนาม ต่อหน้าเลขานุการเอกทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ผกก.เผยเจ้าหน้าที่ทูตหากจะเข้าเยี่ยมสายลับเวียดนามจะต้องเสนอเรื่อง ผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทย

จาก กรณีที่ ตร.สภ.กันทรลักษ์ และทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ได้จับกุมตัว 3 สายลับกัมพูชา-เวียดนาม คือ นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนาอิสลาม นายอึ้ง กิมไทย อายุ 43 ปี สัญชาติกัมพูชา เชื้อชาติกัมพูชา ศาสนาพุทธ และนายเหวียง เติ้งยัง อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม เชื้อสายเวียดนาม ศาสนาพุทธ ในขณะที่แอบลักลอบเข้ามาหาพิกัดที่ตั้งทหารไทยที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ได้ดำเนินการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และทราบว่ามีนายทหารกัมพูชายศพันเอกเป็น หน.สายลับกลุ่มนี้ ซึ่งนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ (นายกษิต ภิรมย์) จะนำเรื่องนี้เข้าไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความ คืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มิ.ย. 54 ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงษ์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และตัวแทนจากกองกำลังสุรนารี ได้ร่วมกันแถลงข่าว กรณีที่ ตร.และทหารจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหาสายลับชาวกัมพูชาและชาวเวียดนาม โดยมี นายฟาม มิน ตวน เลขานุการเอกทูตเวียดนาม ประจำประเทศไทยและคณะ มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย

ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า คดีพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเรียบร้อย ซึ่ง นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาชาวไทยศาสนาอิสลาม ได้ยอมรับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้าสีดำ สี่ประตู หมายเลขทะเบียน ชว 1901 กทม. พาผู้ต้องหาที่ 2 และผู้ต้องหาที่ 3 และนายวิชัยกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่อีก 3 คน ไปตรวจสอบหาพิกัดตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นที่ตั้งทางการทหารและบังเกอร์หลุมหลบภัยของชาวบ้านภูมิซรอลและทุก หมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ โดยแต่ละแห่งจะใช้เวลาในการลงไปหาพิกัดทางทหารแห่งละ 5-10 นาที จากนั้น จะเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆ ทุกพื้นที่มีฐานที่ตั้งทางทหารและแหล่งชุมชน โดยมีนายวิชัย หรือ ญา เปา ที่ยังหลบหนีอยู่เป็นหัวหน้าคณะและจะมีอุปกรณ์ในการตรวจสอบพิกัดต่าง ๆ ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างรวมทั้งแผนที่ทางทหารที่ทำพิกัดเสร็จแล้วจะอยู่กับนาย วิชัย หรือ ญา เปา ทั้งหมด และได้นำเอกแผนที่ที่หาพิกัดทางทหารที่สมบูรณ์แล้วหลบหนีไปได้

ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า และจากการสอบสวนรวมทั้งการให้การปากคำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยืนยันว่า นายวิชัย หรือ ญา เปา เป็น หน.กลุ่มสายลับทั้งหมด และขณะนี้ได้หลบหนีไป ดังนั้น
ได้ ขออนุมัติศาลจังหวัดกันทรลักษ์ออกหมายจับ นายวิชัย หรือ นายญา เปา หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า chea pov หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขที่ 0978812 เกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2506 หรือ 19630101 อายุ 48 ปี ชาวกัมพูชา ตามหมายจับของศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ที่ จ.50/2554 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 2554 ซึ่งนายจา เปา ประกอบอาชีพที่เชื่อได้ว่า รับราชการทหารยศ พันเอก และประกอบธุรกิจส่วนตัวในประเทศกัมพูชา และจากการที่ได้ตรวจสอบจากด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งแล้ว ปรากฏว่า นายวิชัย หรือ นายญา เปา ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยเข้าไปในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2554 ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ชัดเจน และได้ดำเนินคดีตามกระบวนยุติธรรมของไทย ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า มีการดำเนินการที่เป็นกระบวนการอิสระและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายและมีการคานอำนาจ ของแต่ละขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รับความไม่เป็นธรรม

ทาง ด้าน นายฟาม มิน ตวน เลขานุการเอกทูตเวียดนาม ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตนมาที่นี้เพื่อขอติดต่อขอเยี่ยมนายเหวียง เติ้งยัง ชาวเวียดนามที่ถูกจับกุมตามระเบียบของสถานฑูตที่เมื่อมีชาวเวียดนามถูกจับ กุมก็จะต้องมาดูแลและหาทางให้การช่วยเหลือตามกระบวนของกฎหมายของไทยเท่านั้น ส่วนการสอบสวนก็จะต้องให้อยู่ในความรับผิดชอบของ ตร.สภ.กันทรลักษ์ที่จะดำเนินการ ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของไทย จะให้ความเป็นธรรมกับชาวเวียดนามที่ถูกจับกุมอยู่แล้ว

พ.ต.อ. สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ในการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ดำเนินการตามพยานหลักฐาน มีการแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบทันที และแจ้งให้ผู้ต้องหาทุกคนได้รับทราบสิทธิต่าง ๆ ของผู้ต้องหาทั้งในการพบกับทนายความ การได้รับสิทธิในการเยี่ยมญาติโดยไม่มีการกีดกันแต่อย่างใด ส่วนการที่เลขานุการเอกทูตเวียดนามแจะเข้าเยี่ยมนายเหวียง เติ้งยัง นั้น จะต้องทำหนังสือขออนุญาตผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ซึ่งเมื่อได้รับอนุญาตจากกระทรวงการต่างประเทศแล้วก็จะสั่งการลงมายัง สภ.กันทรลักษ์ เพื่อจะได้นำเข้าไปเรือนจำกันทรลักษ์ เพื่อเยี่ยมผู้ต้องหาตามระเบียบของทางเรือนจำต่อไป

 

 

 

 

http://www.krobkruakao.com

 

น่าเป็นห่วงนะครับ

 





ความคิดเห็นที่ 1


ทหารทุกท่านครับย้ายที่ตั้งโดยด่วนน่าจะไม่ปลอดภัยสำหรับที่ตั้งทางยุทธศาสย์ เบื่อไหมครับที่เห็นคนไทยขายชาติโดยที่ร่วมมือกับฝ่ายตรงข้ามเข้ามาหาพิกัดทางทหาร มิน่าละไทยเราจึงเสียกรุงศรีครั้งที่2เพราะมีคนอย่างนี้นี่เอง

โดยคุณ kob7777 เมื่อวันที่ 16/06/2011 08:28:30


ความคิดเห็นที่ 2


ยังมีหลบหนีด้วยครับ ทางไทยบอกว่าจารกรรมข้อมูล มาแบบนักท่องเที่ยว ตอนนี้

พระปลอมเต็มบ้านเต็มเมือง และมีส่วนเกี่ยวข้องกับสายลับ 

โดยคุณ NM เมื่อวันที่ 16/06/2011 08:30:30


ความคิดเห็นที่ 3


เอาไอ้คนชายชาติไป กุดหัวบัดเดี๋ยวนี้

โดยคุณ ecos เมื่อวันที่ 16/06/2011 10:26:01


ความคิดเห็นที่ 4


 พูดถึงพระปลอม ละเจ็บใจ เพราะนอกจากพระปลอมแล้วยังมีวัดปลอมตั้งอยู่ในแผ่นดินเราหน้าตาเฉย แต่ดันมีคนไทยแท้ๆ ไปกราบไหว้ซะด้วย วันนี้ก็มีคนมาพูดหน้าตาเฉยว่าระหว่างสองชาติไม่มีอะไร ถ้าเราไปทำเค้าเสียอารมณ์ไม่พอใจ เดี๋ยวชาวบ้านเราแถวนั้นก็ต้องลำบากอีกใครไม่อยู่ท้องที่ก็ไม่เดือดร้อนหลอกจะโวยวายทำไม ผมจึงเบื่อคนที่เอาชาวบ้านมาเป็นข้ออ้างจริงๆ เพราะถ้าคนที่มีอำนาจหน้าที่สั่งการไปแต่แรกก็ไม่มีใครมายิงพี่น้องชาวบ้านตามชายแดนเราได้  

โดยคุณ fighttt เมื่อวันที่ 18/06/2011 06:29:44