ตะลุย..อู่..ทัพเรือ ดูเรือรบหลวงกระบี่ ลำใหญ่ลำแรก กองทัพสร้างเอง
Mthainews: และแล้วฝันกองทัพเรือไทยก็ใกล้เป็นจริงเมื่อ เรือหลวงกระบี่ ใกล้คลอดลงสู่ทะเล เพื่อปฏิบัติภารกิจปกป้องผืนน้ำและปฐพีความเป็นชาติไทย ซึ่ง เรือหลวงกระบี่ สัญชาติไทยลำล่าสุดนี้เป็นฝีมือคนไทยแท้ ที่ได้ใช้ระยะเวลาในการสร้างเรือ 2 ปี เต็ม โดยจะปฏิบัติภารกิจเป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง
ซึ่งการจัดสร้างเรือดังกล่าวขึ้นมานั้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา โดยได้รับพระราชทานชื่อเรือให้ว่า “เรือหลวงกระบี่” ซึ่งการจัดสร้างขึ้นก็เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนากำลังรบตามยุทธศาสตร์ของ กองทัพเรือไทย ให้ปฏิบัติการทางทหาร ในการป้องกันประเทศ คุ้มครองเรือประมง ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล รวมทั้งช่วยเหลือประชาชน โดยให้มีความสามารถในการลาดตระเวนตรวจการณ์รักษาฝั่ง ป้องกันการแทรกซึมทางทะเล
ทั้งนี้ โดยมีกรมอู่ทหารเรือ เป็นหน่วยรับผิดชอบในการสร้างเรือโดยใชพื้นที่ของ อู่ราชนาวีมหิดลยเดช เป็นสถานที่ต่อเรือ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จจากการต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งอย่าง ต.991 และ ต.994 มาแล้ว
ขณะ ที่คุณลักษณะ ของเรือสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 23 นอต ระวางขับน้ำเต็มที่ 1,969 ตัน ความยาวตลอดลำเรือ 90.50 เมตร กว้าง 13.50 เมตร
ส่วนความ สูงที่กราบเรือ 7.70 เมตร กินน้ำลึก 3.80 เมตร รัศมีทำความเร็วที่ 15 นอต ได้ถึง 3,500 ไมล์ทะเล นอกเหนือจากนั้นแล้วอาวุธประจำเรือ คือ ปืนขนาด 76 มิลลิเมตร แบบอัตโนมัติ จากบริษัท Oto Melara S.P.A. ประเทศอิตาลี จำนวน 1 กระบอก
พร้อมกันนี้ยังมีปืน ขนาด 30 มิลลิเมตร แท่นเดียว จากบริษัท MSI-Defence Systems Limited ประเทศอังกฤษ จำนวน 2 กระบอก ระบบควบคุมบังคับบัญชาและตรวจการณ์ จำนวน 1 ระบบ จากบริษัท Thales Nederland B.V. ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
ในส่วนของกำลังพลประจำเรือมี ทั้งหมด 89 นาย นอกจากนั้นบริเวณดาดฟ้าเรือ ยังสามารถจอดเฮลิคอปเตอร์ แบบซูเปอร์ลิงค์ ที่มีประจำการในกองการบินทหารเรือ ได้อีก 1 ลำ ซึ่งก็เป็นการเพิ่มระยะการตรวจการณ์ในทะเลให้ไกลขึ้นอีกระดับหนึ่งด้วย
แต่ อย่างไรก็ตาม อีกเพียงไม่กี่อึกใจ เรือรบหลวงกระบี่ ลำนี้จะออกไปเตรียมทอดสมอ สร้างความเกรงกลัวให้ผู้ที่เตรียมรุกรานไทยในไม่ช้า หลังจากติดตั้งอุปกรณ์รวมทั้งระบบควบคุมเรียบร้อยแล้ว
เท่อะ
กรรม ว่าจะเจิมกระทู้หน่อย โดนตัดหน้าแล้ว T-T
ฝีมือช่างไทย
สวยครับ แต่ทำไมผิวเรือไม่เรียบหรือเป็นปกติของเรือขนาดใหญ่
อ่ะฮ้า ใกล้เสร็จแล้วๆ
ขอเพิ่มเติมหน่อยครับ ดูกันเต็มๆอีกสักหน่อย..
เป็นไงล่ะนาย..พี่ไทยเราทำได้ ไม่เเพ้ชาติใดในโลก กิ้วๆๆๆ
สวยงามมากคับ ไม่รู้ว่าLPDที่ปล่อยลงน้ำที่สิงคโปร์ ไปถึงไหนแล้ว
สวยงามมากคับ ไม่รู้ว่าLPDที่ปล่อยลงน้ำที่สิงคโปร์ ไปถึงไหนแล้ว
มาเพิ่มเติมข้อมูลให้ครับ
สังเกตุดูว่ามีการปล่อยน้ำเข้าอู่แล้วครับ เพื่อจะนำเรือออกจากอู่แล้วหันหัวเรือเข้าอู่อีกทีเพื่อให้อยู่ในตำแหน่ง
ที่จะทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำ โดยสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ จะเสด็จมาเป็นองค์ประธานในการพิธีปล่อยเรือลงน้ำใน
วันที่๒ ธ.ค. ๒๕๕๔ นี้ครับ
แก้ไขข้อมูลนิดครับ เรือหลวงกระบี่ลำนี้ ทร. ว่าจ้างบริษัทอู่กรุงเทพฯ เป็นผู้ต่อครับ ไม่ใช่ ทร. ต่อเอง กำหนด
สิ้นสุดโครงการ มิ.ย. ๒๕๕๕ แปลว่านับจากนี้ไปอีกประมาณ ๖ เดือน เรือจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่เหลือและแล่น
ทดสอบในทะเลจนพร้อมสมบูรณ์ส่งมอบให้ ทร. ขึ้นระวางประจำการต่อไปครับ...
ทาสีไม่เรียบร้อยเลย......แต่ก็โอเคหล่ะ.....ต่ออีกสัก2-3 ลำ ก็คงดีขึ้น ครับ
สวยงามครับ ทัพเรือเราเจ๋ง
สวยงาม มั๊กๆ ว่าแต่จะต่อเรือเจ้าแบบนี้อีกให้ครบ4ลำ เลยก็ดีนะครับ ที่จริงผมก็อยากมีให้มีโรงเก็บฮ. และก็อาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำ ถ้ามีอีก2อย่างนี้ผมว่ามันจะเป็นเรือที่ดุ มากเลยนะครับ
ยอดเยี่ยมมากครับทร.เรือสวยงามมาก จากนี้ถ้าอีก 3 ลำที่เหลือได้รับงบประมาณมาก็จะได้มีเรือ OPV ครบชุดตามต้องการซะทีนะครับ งวดหน้าขอเรือเรือฟรีเกตงามๆแบบนี้มาทยอยทดแทนเรือที่จะต้องปลดและเรือฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศด้วย ก็น่าจะเป็นเรือที่ใช้ตัวเรือเดียวกันแต่ระบบอาวุธและระบบตรวจจับต่างกันตามแต่จะใช้ทำอะไร เช่น ป้องกันภัยทางอากาศ ต่อต้านเรือดำน้ำ
ถ้าโครงการต่อเรือฟรีเกตเองเกิดขึ้นมาจริงๆและต่อได้ดี ทร.ก็จะพร้อมสร้างม้าใช้งานหลักเองได้เกือบทุกประเภทแล้ว ยกเว้นเรือดำน้ำ.... สู้ต่อไปทาเคชิ...555
ว่าแต่ใครทราบไหมครับว่าทำไมกำหนดหมายเลขเรือว่า 551 ทำไมไม่ใช่ 521 คุ้นๆ ว่าเคยมีคนทำนาย(หรือรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว)ว่าเรือจะหมายเลข 551 หรือ 541 เนี่ยแหละ ไม่แน่ใจว่าเว็บนี้หรือเว็บ TAF
ขอบคุณครับ คุณ Tongwarit ผมหมายถึงใต้ท้องเรือที่กำลังปล่อยน้ำต่างหากครับ ส่วนดาดฟ้าเรือทาเมื่อไรก็ได้ครับ
หน้าตาหล่อมาก ถ้ามีจรวดต่อต้านอากาศยานสักหน่อย ก็จะดีนะครับ ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ
โอ้ววว! สวยงามมากครับ เห็นแล้วปลื้ม^_^
ใต้ท้องเรือสีนั้นก็ถูกแล้วนี่ครับ ก็ไอ้ที่ไว้วัดระดับน้ำนั่นน่ะครับ
+ harpoonซัก4ลูกกำลังสวยลยครับ
เห็นแล้วปลื้มครับกับคาวมพยายามพึ่งพาตนเองครับ
พอดีมีข้อสงสัยอยู่นิดหนึ่งครับ เรื่องชนิดของเหล็กที่ใช้ทำโครงสร้างของตัวเรือ
และชนิดของเหล็กที่ใช้ประกอบเป็นตัวเรือภายนอกเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่และ
ความหนาของตัวเรือภายนอกของเรือประเภทนี้มัความหนาเพียงพอที่จะทนต่อ
การถูกยิงด้วยกระสุนขนาด 30 มม.ได้หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบจริงๆครับ หรือท่าน
พอมีข้อมูล ขอความรู้ด้วยครับ
เรื่องสีใต้ท้องเรือผมก็ว่าโอเคนะครับ
แต่ถ้ายังมีอะไรไม่เรียบร้อย ผ่านพิธีปล่อยเรือลงน้ำแล้ว โอพีวี ก็ต้องกลับเข้าอู่แห้งอีกทีอยู่แล้วครับ
เพราะยังติดตั้งเพลาไม่เรียบร้อยเลยครับ ค่อยมาเก็บงานตอนนั้นอีกทีก็ได้
สิมิลันกับปัตตานีก็เพิ่งกลับจากโซมาเลีย ไม่รู้ว่าลำไหนจะดรายด๊อคก่อน ยังไงก็ขอให้งานใต้แนวน้ำ
ของโอพีวีเสร็จก่อนนะครับ พี่ๆ ทั้งสองค่อยเข้ามาใช้ ไม่งั้นเดี๋ยวงานต่อโอพีวีมีล่าช้าออกไปอีกแน่...
หมายเลขเรือ 551 คือ เป็นเรือตรวจการณ์ แบบ/ชั้นที่ 5 ลำที่ 1 ครับ
เรือตรวจการณ์ แบบ/ชั้นที่ 1 คือ ชั้น ปัตตานี
เรือตรวจการณ์ แบบ/ชั้นที่ 2 คือ ชั้น สัตหีบ
เรือตรวจการณ์ แบบ/ชั้นที่ 3 คือ ชั้น คำรณสินธุ
เรือตรวจการณ์ แบบ/ชั้นที่ 4 คือ ชั้น หัวหิน
ดังนั้น เรือตรวจการณ์ แบบ/ชั้นที่5 คือ ชั้น กระบี่
..
...
ร.ล.กระบี่นี่จริงๆแล้วอู่กรุงเทพดำเนินการเฉพาะการจัดซื้ออุปกรณ์ ตามสัญญา และแรงงานเท่านั้นครับส่วนการควบคุมงานและการกำหนดเสป็คนั้นเป็นฝีมือของกรมอู่ทหารเรือครับ
เรือ OPV ลำนี้ ทร.ซื้อแบบมาจากบริษัท BEA ประเทศอังกฤษครับ
ส่วนการเลือกอาวุธนั้นเป็นไปตามแบบเรือสมัยใหม่ของกองทัพเรือ เดิมทีผมคิดว่าเหมือนเรือหลวงปัตตานีด้วยซ้ำไป
ส่วนเรือ OPV ชุดนี้จะไม่มีการดัดแปลงติดอาวุธนำวิถี ภาระกิจหลักเหมือนเรือ ต.991 และ ต.994 ทุกประการ
ผมไม่แน่ใจว่าเรือชุดนี้จะติดปืน .50 นิ้วด้วยรึเปล่า
ส่วนนี่เรือรุ่นพี่ที่ออกทะเลไปก่อนแล้ว ตัวเรือเหมือนกัน แตกต่างกันตรงอาวุธและระบบอิเล็คทรอนิค
หลังจากที่ได้เข้าประจำการแล้ว เราก็ต้องมาลุ้นว่า มันจะได้ต่อเพิ่มหรือแค่1ลำหรือ2ลำหรือ4ลำกันแน่ แต่ในสัญญา เขาบอกว่า3ปี เรือลำต่อไปก็คงจะต้องทำสัญญากันใหม่อีก แล้วมันจะเป็นยังไงต่อ ใครพอจะทราบก็ช่วยบอกผมหน่อยนะครับ
ขอบคุณ คุณ Juldas จริงๆ เลยครับ ต้องเรียกว่าเซียนเรื่องการทหารเรือไทยจริงๆ นับถือมานานแล้วครับ (คารวะเหล้าไผ่เขียวหนึ่งจอก)
ขอถามเพิิ่มเติมนะครับ ทำไมถึงหมายเลขอนุกรมของ ตกก ชั้นปัตตานีถึงเป็น 511 ก่อนหน้านั้น มีเรืออนุกรม 51x หรือเปล่าครับ (ใช่ปัตตานีลำที่หนึงหรือเปล่า) เพราะในเมื่อเรือชั้นปัตตานีมาทีหลังเรือตรวจการณ์ลำอื่นก็ควรจะมีอนุกรมตามหลังหรือเปล่า
เป็นความเข้าใจของผมส่วนตัวนะครับ...ที่ว่า เรือชั้น ปัตตานี ทำไมถึงเริ่มใช้ 51X
น่าจะเป็นว่า ก่อนหน้านี้ ทร. ได้ใช้หมายเลขเรือ เป็นเลขตัวเดียวเรียงลำดับต่อไปเรื่อย ๆ ตามประเภทเรือที่มีภาระกิจแบบเดียวกัน...และก่อนการที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการจัดหมวดหมู่เรือใหม่ เป็นเลข 3 ตัวนั้น...น่าจะเป็นช่วงมีการเริ่มโครงการจัดหา เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง พอดี...จึงน่าจะมีการกันประเภทเรือไว้ สำหรับ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเลย...ซึ่งแต่ โครงการเรือชั้น ปัตตานี นั้น มีรูปแบบเช่นเดียวกับ โครงการ ร.ล.กระบี่ นี่แหล่ะครับ...
แต่ด้วยในช่วงในขณะนั้นทางการเมืองไทย ได้รับอิทธิพลจาก จีน อยู่พอสมควร ทำให้โครงการมีการพลิกผัน และพลิกโผ กลายเป็นเรือชั้น ปัตตานี ในปัจจุบันที่ต่อจากอู่เรือประเทศจีน...
ซึ่งถ้าในขณะนั้น ไม่มีการพลิกโผ แล้ว...โครงการเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ในปัจจุบัน อาจจะมี หมายเลขเรือ 511 - 516 ครบถ้วนแล้วก็ได้ครับ...โดยการต่อโดย อู่เรือในประเทศทั้งหมดครับ...
เอ..จำได้คลับคล้ายว่าแบบเรือทางอู่กรุงเทพฯ ซื้อจาก BAE ไม่ใช่หรือครับท่านน่าคิด แล้วยังได้สิทธิ
ต่อขายประเทศอื่นอีกด้วยภายในระยะเวลา 10 ปี ถ้าจำผิดก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ผู้ต่อเรืออย่างเป็นทางการคือ ทร. โดยกรมอู่ฯ ตัวหลักจริงๆ คือ BDC โดยมีคณะกรรมการควบคุมการต่อเรือของ ทร.
คอยดูแลและตรวจรับงานแต่ละส่วน
ทร. กับ BDC แบ่งงานต่อเรือกันทำครับ ทร. ตัดเหล็ก BDC ขึ้นบล๊อคและนำไปประกอบในอู่แห้ง
ทร. เชื่อมบล๊อคบางบล๊อคเอง BDC จัดซื้อวัสดุในการต่อเรือ ทร. ซื้อระบบอาวุธ ฯลฯ
เผอิญผมทำงานให้ BDC เลยให้เครดิต BDC ครับ..อิอิ
เอ้า..ช่วยกันทำมาหากินครับ เอารูป OPV ตอนเอาออกไปกลับลำหน้าอู่ เพื่อหันหัวเรือเข้าสู่ตำแหน่ง
ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำตอนบ่ายสองวันนี้ครับ
บอกได้คำเดียว สวยมากๆ ครับ ตอนอยู่ในทะเล
เพิ่มเติมครับ หมดแล้วครับ
ส่งใหม่ครับ
ทางอู่กรุงเทพฯ ซื้อแบบจาก BAE ยังได้สิทธิต่อขายประเทศอื่นอีกด้วยภายในระยะเวลา 10 ปี
ข้อมูลเป็นไปตามนี้ครับ เป็นผมจำผิดเอง ขอบคุณที่ทักท้วงมาครับ ภาพที่นำมาลงสวยจริงๆ
ไม่มีปัญหาครับคุณน่าคิด ช่วยกันทักท้วงเพื่อให้ข้อมูลถูกต้ิอง ช่วงนี้ผมเองก็หลงลืมข้อมูลอยู่บ่อยๆ ครับ
ขอบคุณภาพจาก BDC ครับ (ไม่เป็นทางการ)
เมื่อเช้าเสี่ยโยโทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ อรม. คงมีภาพงานพิธีมาฝากกันแน่นอนครับ
คืนนี้ลองแวะไปดูบ้านโน่นก็ได้ครับ
ภาพสวยมากครับ ถ้ามีงบประมาณน่าจะได้เห็นลำที่ 2เร็วๆนี้นะครับ แหมแพร 7 สี ตรงหัวเรือเลยนะครับตามประเพณีไทยเป๊ะ
ต่อไปที่อยากเห็นคือเรือฟรีเกตที่เราต่อเองครับ..ของพม่าเขาต่อเรือฟรีเกตเองแล้ว..สำหรับเราคงไม่ยากเกินนะครับ
ภาพสวยมากครับ หลับตานึกภาพตอนติดอาวุธพร้อมรบออกเลยครับต้องเจ๋งแน่ๆ เสียดายที่ไม่มีอาวุธป้องกันภัยทางอากาศแต่ไม่เป็นไรให้ทหารเอาเจ้า QW-18 ของ ทร. ติดกระเป๋าไปด้วยเวลาออกเรือก็น่าจะดี
ว่าแต่เรือชุดนี้ติดอาวุธนำวิธีต่อสู้เรือผิวน้ำอย่างอาร์พูนได้หรือเปล่าขนาดเรือชุดปัตตานี้ยังวางระบบ
ใว้ให้เลยเพียงแค่เอาระบบอาวุธมาติดตั้งก็ใช้ได้เลยส่วนอาวุธต่อสู้อากาศยานก็เอาQW-18ติดไป
ในเรือสัก2-4ชุดก็น่าจะพอแล้ว
สวยมากครับ เรือชั้นนี้ดูแล้วไม่ต้องกลัวคลื่นเท่าเรือชุดปัตตานี
รูปทรงเรือช่างร่วมสมัยดีจริงจริง ถ้าจะให้ดีทาสีดำหลอกชาวบ้านว่าเป็นเรือล่องหนก็ดี อิอิ คิดเล่นเล่น ทำได้ดีครับ รอจรวดความมั่นคงเสร็จเมื่อไหร่ก็ขนมาใส่เรือ แบบจัดเต็มนะ
อยากรู้ว่าจะติดอาวุธอะไรให้ลำนี้บ้าง
ขอแถมนะครับ นึกถึงวันเก่าๆ แต่ยังหวานอยู่ และน่าทึ่งกับคนไทยในยุคปัจจุบันนี้
"เราเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่แล้วครับ" ไม่ใช่ประเทศด้อยพัฒนา
ตอบคุณ ecos เร่ืองอาวุธที่จะติดตั้งดูหน้าเว็บ TAF เลยครับ ตอนนี้ขึ้นหน้าหนึ่งอยู่ เท่าที่จำได้ก็มี otto melara 76/62 มี 30 มม สองแท่น แล้วก็ 12.7 มม สองแท่น
เพื่อนสมากชิกที่ยังไม่ได้ดูพิธีปล่อยเรือ OPV ลงน้ำได้ที่สามารถดูได้ที่ TAF ครับhttp://www.thaiarmedforce.com/taf-gallery/41-rtn-photos/405-hrh-sirindhorn-launch-htms-krabi.html
เราต่อเอง แต่อาวุธพวกจรวดน้ำวิธี และขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน และเรือผิวน้ำ และเรดาห์ต้องซื้อจากต่างประเทศมาติดตั้งใช่เปล่าครับ
น่าติดตั้งแทนยิง Aroc หรือ ไม่ก็ระเบิดน้ำลึกในกรณีที่เจอเรือดำน้ำนะคับ