เป็นที่แน่นอนแล้วว่า
เรือ OPV ชั้น Nakhoda Ragam ทั้ง 3 ลำ ได้ปลดประจำการ และ ทร.บรูไน รอการจำหน่ายให้กับผู้สนใจ..
ซึ่งผู้แสดงความต้องการมาแล้ว คือ อินโดนีเซีย...
แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากสภา...
เรือทั้ง 3 ลำ นั้น ยังไม่ได้ใช้งานสักเท่าไหร่ครับ...
ในตอนแรก ทร.บรูไน จะไม่รับเข้าประจำการ...(น่าจะเรื่องความไม่พอใจ ที่อังกฤษขายให้ราคาสูงไป ประกอบกับ ไม่มีกำลังพลเพียงพอจะรับมอบทั้ง 3 ลำได้)
จนสุดท้าย อังกฤษ ก็ยื่นคำขาด และเพิ่งนำเข้าประจำการได้เมื่อปี 2007 ครับ...
และหลังจากนั้นไม่นาน บรูไน ก็ประกาศขายโดยในตอนแรก ตั้งขายที่ราคา 600 ล้านปอนด์...ตอนนี้ น่าลดราคาลงมา รวมทั้ง 3 ลำ ราว ๆ 235 ล้านเหรียญ (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
โดย ทร.อินโดนีเซีย สนใจจะซื้อ โดยเน้นภาระกิจ ปราบเรือดำน้ำ
กองทัพเรือบรูไน ตั้งอยูที่ MUARA
และ ประเทศบรูไน ก็เป็นอีกหนึ่งในประเทศอาเซียน ที่มีน่านน้ำทับซ้อนกับ ความเข้าใจในน่านน้ำของ ประเทศจีน
ปัจจุบัน กองทัพเรือบรูไน มีเรือ OPV ชั้น DARUSSALAM ที่สั่งสร้างมาจาก ประเทศเยอรมัน ประจำการ จำนวน 3 ลำ แทนเรือชั้น NAKHODA RAGAM
KDB DARUSSALAM
KDB DARULEHAN
KDB DARULAMAN
ประจำการเรือ คอร์เวต ชั้น Itjihad จำนวน 4 ลำ ซึ่งสั่งสร้างมาจาก เยอรมัน เช่นกัน
KDB ITJIHAD
KDB BERKAT
KDB SYAFAAT
KDB AFIAT
และล่าสุดได้ประจำการ เรือเร็วตรวจการณ์ อีก จำนวน 1 ลำ โดยสั่งสร้างจาก ประเทศสิงคโปร์
โดยก่อนหน้านี้ ทร.บรูไน เคยบริจาค เรือเร็วโจมตี จำนวน 2 ลำ ให้กับ ทร.อินโดนีเซีย เพื่อใช้เป็นเรือฝึก
คงต้องดูในอนาคตว่า เรือเร็วลำนี้ จะมีการติดตั้งระบบอาวุธนำวิถีเพิ่มเติม หรือไม่...
KDB MUSTAED
ยูทูป KDB Dasussalam
ขอโทษทีครับ กดผิด...5 5 5 5
เรือสามลำที่ปลดประจำการดูสภาพยังเหมือนใหม่อยู่เลยนะครับ แสดงว่าการดูแลรักษาของเค้าดีเยี่ยมเลย
ดูแล้ว เหมือนกับว่า บรูใน คงเคือง อังกฤษ มากทีเดียว...
เลยสั่งซื้อจาก เยอรมัน อย่างเดียวเลย...
หรือไม่ ก็อาจจะเป็นการ คอร์รับชั่นภายใน...เพราะต้นทุนราคาเรือทั้ง 3 ลำนี้ แพงมาก ๆ ครับ...น่าจะตกลำละ 200 ล้านเหรียญ หรือ มากกว่านี้ ไม่แน่ใจครับ...
อ๋อ ต้นทุนตกลำละ 300 กว่าล้านเหรียญสหรัฐต่อลำ ครับ
(Above) The Nakhoda Ragam class of Offshore Patrol Vessels built for Brunei may form the starting point for BAE Systems proposals . Although nominally OPVs, these ships are in fact very capable and heavily armed corvettes, with a large price ($323 million each) to match. They displace 1500 tonnes, are 95m long and capable of 30 knots. Armament includes a 76mm gun, 8 Exocet SSMs, and SeaWolf VLS. The crew is just 62, with accommodation for up to 24 EMF. There is a flight deck but no hanger. Range is 5,800 nm with an endurance of 15 days. |
3 ลำ 235 US$ น่าสนนะครับ ผบ.ทร. ท่านอยู่ระหว่างยืนบรูไนช่วงนี้ด้วย ไม่ทราบมีการคุยกับบรูไนหรือไม่ ราคาน่าสนใจมากครับ ลำละประมาณ 2,500 ล้านบาท ต่อให้ต้องนำมา Refurbished กันใหม่ หรือทางบรูไนถอด อวป.seawolf ออก ก็คุ้มค่าครับ แถมดาดฟ้ายังลองรับ ฮ. ขนาด Seahawk ได้ ถ้า ทร.ได้คงดีไม่น้อย ( แต่ท่านเดินทางไปบรูไน คงไม่มีอะไรครับ ( ฝันครับ เรา )
พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน ครั้งที่ ๖ (6th ASEAN Naval Chiefs’ Meeting) และเยือนกองทัพเรือเนการาบรูไนดารุสซาราม (บรูไน) อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพเรือบรูไน ระหว่างวันที่ ๒ - ๔ กันยายน ๒๕๕๕ โดยมี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมบรูไน และผู้บัญชาการทหารสูงสุดบรูไน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการประชุมฯ
มันก็ไม่แน่นะครับอาจเป็นการไปตกลงในเบื้องต้นก็ได้แอบหวังครับ เพราะทางอินโดนีเซียก็ยังไม่อนุมัติ
มาหักอกท่าน Chelsea....
ราคารวมประมาณ 380 ล้านเหรียญครับ...(ตกลำละ 127 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 4,200 ล้านบาท)
Hal ini disampaikan Kepala Staf TNI AL Laksamana Soeparno di sela-sela raker dengan Komisi I DPR di Komplek Senayan, Rabu (29/1). Raker itu membahas hibah KRI Karang Ungaran 985 ke Kabupaten Sangihe Sulawesi Utara.
Soeparno mengatakan, TNI AL ingin membeli tiga kapal perang buatan Inggris. Jenisnya multi role light frigates yang dibangun oleh galangan kapal BAE pada tahun 2001. Kapal pertama telah menyelesaikan tes di laut pada Desember 2003. Kapal kedua dites pada Mei 2004. Kemudian kapal ketiga mulai melaut pada Oktober 2004.
Kapal ini mulanya dipesan Kerajaan Brunei Darussalam. Namun setelah melihat hasil tiga kali uji coba tersebut, pihak Kerajaan membatalkan pesanan.
Jika Brunei enggan, kenapa TNI AL malah bernafsu membelinya?
"Kita sinyalir, pembatalan pembelian kapal perang dari Inggris oleh Brunei bukanlah karena alasan teknis tetapi alasan politis. Yaitu ada ketersinggungan Brunei pada Inggris pada isu tertentu," jawab Soeparno.
Informasi lebih dalam lantas didapat dari otoritas militer Brunei. Ternyata, ungkap Soeparno, jumlah personil angkatan laut negeri kaya itu terbatas jumlahnya. Hanya sekitar 800 personil. Sedangkan tiga kapal perang buatan Inggris itu butuh dioperasikan oleh 330 personil. Alhasil, Brunei bakal kerepotan mengurusnya.
Akhirnya, pada tahun 2007 kapal itu dipindahkan dari Brasko Brunei ke galangan kapal di Inggris. Setahun kemudian Kementerian Pertahanan menawarkan pada TNI AL untuk membelinya.
"TNI AL pun menindaklanjuti hal itu. Kami menyatakan, penawaran tersebut merupakan hal yang sangat baik dalam rangka pemenuhan armada TNI AL," ujarnya.
Brunei sempat membayar sekitar 600 juta poundsterling per kapal. Adapun penawaran ke TNI AL, kapal itu cukup ditebus dengan 296 juta euro atau sekitar 380 juta dollar AS. Angka ini terbilang murah. Di sisi lain pihak Brunei lebih senang jika kapal ini dibeli Indonesia karena punya dok galangan kapal sendiri untuk pemeliharaan. Pihak lain yang berminat adalah Malaysia.
Menurut Soeparno, kapal perang ini canggih karena sudah dilengkapi dengan misil anti kapal selam. Dengan kelengkapan itu, dia bilang, "Sudah dapat mengantisipasi kapal selama milik tetangga
อาวุธครบมือจนน่าจะจัดเป็นเรือคอร์เวตมากกว่า ตัวเรือถูกสร้างมาเพื่อใช้รบจริงๆได้เลย ถ้าเราได้มาจะเอาไว้กองเรือไหนดีหละครับ
โอกาศ ที่ไทย จะได้มาครอบครอง มีสูง
ผมเห็นเดือนที่แล้ว สุลต่าน บรูใน ก็มาเยือนไทยนิ
อาจจะ มีคุยเรื่องนี้ไปบ้างก็ได้
.. ของมือสอง บรูใน แทบจะไม่ค่อยใด้ใช้เลย
ส่วนมากจะจอดเสียมากกว่า ชั่วโมงการใช้งานก็น้อย
คนยังวิ่งไม่ถึง หมื่นกิโล เลยมั๊ง ยังเอี่ยม อยู่เลย อิอิ
แต่ผมรู้สึกเฉย ๆ กับ เรือชั้นนี้ น่ะครับ...ดูแล้ว ใกล้เคียงกับเรือชั้น รัตนโกสินทร์...
ถ้าให้เลือกในงบประมาณเท่ากัน...
ผมว่า ผมเอา เรือฟริเกต มือ 2 จาก อิตาลี่...ไปแย่งมาจาก ฟิลิปปินส์...5 5 5 5 5
ตอนนี้ อิตาลี่ ทะยอยปลดประจำการเรือรบหลายลำ...
โดยเมื่อเดือน สิงหาคม 2011 ประเทศแอลจีเรีย ได้ซื้อ เรือชั้น San Giorgio มาจำนวน 2 ลำ และอยู่ระหว่างปรับปรุงให้เหมือนใหม่ อยู่ที่อู่ประเทศ สเปน
มูลค่าโครงการ ประมาณ 450 ล้านยูโร หรือประมาณ 555 ล้านเหรียญสหรัฐ ตกลำละประมาณ 277 ล้านเหรียญ
เอิ่มมม .. เห็นของอิตาลีแล้ว เปลี่ยนใจเลย
ถ้าราคาเท่าๆกัน ผมว่า ของอิตาลี งามกว่าเยอะ
หรือ ซื้อมันมาทั้งสองรุ่น ประจำการ ทั้งอ่าวไทย ทั้งอันดามัน
เปิดnet ตอนเช้า เจอคุณJuสกus หักอกผมแต่เช้าเลยนะครับ แต่ผมยังแอบหวังลึกๆครับ เห็นข่าวการจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงเงียบไปแล้ว อาจเป็นเพราะ ทร. เลือกที่จะปรับปรุง เรือชุดนเรศวรและชุดกระบุรีแทน แล้วมุ่งมั่นในอุสหกรรมการต่อเรือในประเทศ พัฒนาต่อยอดเรือตกก.ชั้นกระบี่ แทน งบประมาณในอนาคตมุ่งจัดหาเรือดำน้ำ ระหว่างรอคอยการจัดหาเรือดำน้ำ มุ่งปรับปรุงยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ เพิ่มขีดความสามารถด้านการต่อต้านเรือดำน้ำแทนครับ น่าจะประหยัดงบส่วนหนึ่งได้ สะสมปีต่อปีเพิ่อจัดหาเรือดำน้ำต่อไป
กรณีเรือตกก.ชั้น Nakhoda Ragam ของบรูไน อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทร. ในราคามิตรภาพ แต่ส่วนตัวคิดว่า คงยากครับ seawolf กับ MM40 มันอาจจะไปกระทำกับการดูแลรักษาเป็นการเพิ่มภาระกับ ทร.ไป ( อวป.และระบบตรวจจับต่างๆ มากแบบไป ) ในเมื่อเราเลือก harpoon, c-802, ESSM แล้ว แต่ก็ไม่แน่ครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้
ส่วนเรื่องการจัดหา เรือรบมือสองหรือเช่านั้น ผมว่าเหมาะสมสุดครับ ในสภาพปัจจุบัน เราต้องประหยัดครับ หาสภาพดี ปรับปรุงนิดหน่อย ราคารับได้ ประจำการซัก 15 ถึง 20 ปี คุ้มแล้วครับ โดยเฉพาะเรือสำหรับกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ ครับ
เรือฟริเกต สมรรถนะสูงเดาว่ายังคงมีโครงการจัดหาอยู่ครับ อยู่ที่ว่าจะมีเมื่อไหร่และหวยออกว่าเป็นเรือจากที่ไหน (เรือส .ยังไม่มีเทงบไปเป็นเรือฟริเกตที่ทำการรบได้ 3 มิติเลยจะมีไหมครับ)
เรือฟริเกต สมรรถนะสูง ผมว่า น่าจะออกในเร็ว ๆ นี้ครับ...
ผมว่า น่าจะเป็น เรือฟริเกตสมรรถนะสูง มือ 2..จากที่ใด ที่หนึ่ง...
หลังจากนั้น คงเป็น คิว ของ เรือ "ส"...ถ้า การเมือง มีความเสถียรภาพพอ...
ส่วนเรือของ บรูไน จำนวน 3 ลำ นี้ ยังเป็นปัญหาของ ทร.อินโดนีเซีย อยู่...โดยคาดว่า น่าจะเป็น ปีหน้า ครับ ถึงจะมีคำตอบจากสภา...
โดยล่าสุด แปลความ ได้ว่า...สภา ยังข้องใจในประสิทธิภาพของเรือ...ที่ว่า เรือเมื่อแล่นในความเร็วสูง จะมีความเอียงมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำสงคราม...
และยังข้องใจใน เรื่องว่า บรูไน...ก็ไม่ยอมรับในเรื่องนี้ จึงจะไม่รับมอบเรือ แต่ถูก อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ให้ต้อง รับมอบเรือ...
ซึ่ง ทร. อินโดนีเซีย ได้แย้งว่า ในเรื่อง เทคนิค นั้น...เรือชั้นนี้ ไม่ได้มีปัญหา เป็นเรื่องที่ บรูไน ไม่มีกำลังพลเพียงพอ เพราะต้องใช้กำลังพลประจำเรือ และผลัดเปลี่ยน ถึง 800 นาย สำหรับเรือ 3 ลำนี้...และเป็นเรือที่มีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับว่า อินโดนีเซีย ต้องจัดซื้อเอง ในคุณลักษณะเรือเทียบเท่าดังกล่าว...รวมทั้ง 3 ลำ มูลค่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐ...
ในตอนนี้ สภาผู้แทนราษฎร ยังติดใจปัญหา และยังข้องใจอยู่...
แปลโดยกูเกิ้ล จาก ภาษาอินโดนีเซีย เป็น ภาษาไทย
จากเวีป Defense-studies.blogspot
JAKARTA – Program pengadaan kapal perang jenis fregat dari Brunei Darussalam diperkirakan mulai terealisasi tahun depan. Rencana pembelian itu sempat ditentang kalangan DPR karena kualitas kapal diragukan.
มีข่าวข้างบนของอินโดฯแบบ นี้จบครับ สำหรับเรือบูรไนกับทร.ไทย รัฐบาลไม่กล้าอนุมัติแน่ครับ ต่อให้ความจริงเรือชุดนี้ประสิทธิภาพดีจริงๆหรือมีปัญหาจริงๆ หรือแค่บรูไนมีปัญหาเรื่องกำลังพลเท่านั้น ( กลัวปัญหา........เล่นข่าว เต้าข่าว แบบสมัยท่านบรรหาร ท่านโดนเรื่องเรือดำน้ำสวีเดนกับเรื่องบิดาท่านครับ )
เชื่อผมไหมครับ เรือดำน้ำจะไม่ได้เกิดกับ ทร.ไทยอีกครั้ง ก็เพราะคนกลุ่มหนึ่งนั้นละครับ ............................จำกันได้ไหมครับ กี่โครงการดีๆ ที่ล้ม พับโครงกรกันไปก็เพราะ..............เศร้าครับ