ถ้าไทยสั่งต่อรือประจัญบานขนาดเล็กขึ้นมาใช้ล่ะครับ จะเป็นยังไง
เเบบว่าขนาดใหญ่พอๆกับเรือฟริเกตที่ไทยใช้อยู่ มีปืนใหญ่5นิ้ว3ป้อม ป้อมละ2กระบอก มีเครื่องปล่อยจรวดc-802จำนวน2เครื่อง มีปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานเเละจรวด มีปืนกล.50รอบเรือ4กระบอก
จะดีไหมครับ
ยุคนี้ไม่น่าจะมีคำว่าเรือประจัญบาน (Battleship) ในการเรียกชั้นเรือรบในยุคปัจจุบันเเล้วนะครับ
จากสเป็กที่ให้มา น่าจะจัดเทียบชั้นเป็นเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธ (Missile Cruiser) เเบบเรือชั้นโซเรเมนนีของกองทัพรัสเซียน่าจะใกล้เคียง มีป้อมปืนใหญ่เเท่นคู่เหมือนกัน
ดีครับเป็นตัวของตัวเองดีไม่เหมือนใคร
ขนาดอาวุธที่ท่านบอกมาวางบนเรือที่มีขนาดเท่าเรือฟรีเกตคงเอาไม่อยู่ สเปคที่ท่านบอกไว้มันโบร๊านโบราณไปไหมต่อเรือทั้งทีเอามันที่ทันสมัยจะดีกว่ามั้ง

งั้นถ้าขยายตัวเรือให้ใหญ่ขึ้นล่ะครับ ก็น่าจะพอๆกลับเรือฮู้ดนะครับ เจ๋งดี ผมอยากเห็นรูปเรือรัสเซียที่คุณAkulaพูดอ่ะครับ เเต่ว่าไอ้รูปข้างบนนั่นมันไม่ตรงกับสเปคที่ตั้งไว้เลยนะครับ เก่าซะขนาดนั้นคงไม่ไหว
ขอโทษครับคืออยากเห็นรูปของเรือรัสเซียที่คุณ tiger2 พูดถึงอ่ะครับ
เรือประจัญบานถึงจะเก่าเเต่ไม่กระจอกนะครับ ภารกิจของเรือมิสซูรี่ในสงครามอ่าวตอนปี91ก็เห็นกันเเล้วนี่ครับว่า ถึงจะล้าสมัยเเต่ไม่กระจอก
เล็กแบบที่ท่านว่าคงเป็นเรือประจัญบานไม่ได้หรอกครับ เรือประจัญบานมันต้องใหญ่ซึ่งมันเกินความจำเป็น ส่วนเรือโซเวรเมนนีนั่นมันเรือพิฆาต เรือรบปัจจุบันไม่ค่อยติดปืนเยอะนัก 120มม.กระบอกเดียวก็พอแต่ถ้าจะเอาแบบบ้าพลังแบบของรัสเซียมันก็ไม่ไหวใหญ่เกินความจำเป็นครับ

ของไทยตอนนี้เรามองไปที่เรือฟริเกตสมรรถนะสูงอย่างเดียว ถ้าจะไปเอาเรือพิฆาตผมว่าแพงมากสำหรับทร.ในอาเซียนก็ไม่มีใครมีเรือพิฆาตซักลำแค่เพียงเรือฟริเกตก็พอเพียงแล้ว อีกอย่างเรือประจัญบานคงไม่มีใครต่ออีกแล้วล่ะครับ

![]()
ภัยคุกคามทางเรือในปัจจุบันส่วนมากก็เป็นเรือดำน้ำกับอากาศยานเป็นส่วนมากครับ ที่น่ากลัวจริงๆก็คือเรือดำน้ำ ที่สามารถทำลายเรือที่มีความสำคัญด้านยุทธศาสตร์
ช่ายๆๆๆ เรือดำน้ำ เป็นภัยคุกคามต่อเรือผิวน้ำมากที่สุด
อย่าง เรือรบเกาหลีใต้ เพิ่งโดนเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือ
ยิงจมมาเมื่อไม่นานมานี้เอง
ขอซื้อ สหรัฐ มา แล้วเอามา Mod ดีป่าว...อิ อิ อิ
เอาเรือฟริเกต 2 ลำให้รอดก่อนเถอะ....เฮ้อ....
ป้าจู เล่นผมตกใจแต่เช้าเลย เห็นภาพแรกไม่เท่าไร ภาพ 2 เฮ้ย แต่ผมว่าน่าสนใจในเรื่อง Mod ginvgikot
55+ ท่าน จูลดัส อารมณ์ดีนะครับเล่นเอาเรือมิสซูรี่(ไม่แน่ใจใช่ไหมเพราะมันมีหลายลำ)มาโมซะเทพเลย
....
เป็น โมเดล ของ ตปท. เขานะครับ...ไปดูด เขามา...เขาเอา มิสซูรี่ มา โมดิฟายด์ ใหม่ ครับ...
อ่านแล้วฮา
ส่วนความเห็นของผม ถ้าเรือเล็กก็คงไม่ใช่ battelship แล้วมั้งครับ เรือใหญ่ขนาดนั้นดูแลไม่ไหวมั้งครับ
เอา 099 มาชนกับป๋าจูหน่อน
ที่มีอยู่ปัจจุบันงบฯซ่อมบำรุงก็ต้องข้ามปีอยู่แล้ว เรือฟริเกตที่รบได้ 3 มิติ ฝั่งอันดามัน กับอ่าวไทย ฝั่งละลำ โดนฝูงบินถล่มรอดยาก แถมเผลอๆพม่าซื้อเรือดำน้ำก่อนไทยอีก

สนใจรุ่นนี้ไหมครับเรือเร็วโจมตี5555
เมดอินโซมาเลีย

รอเอ เลี่ยนบุกโลกก่อน ค่อยสร้าง ฮาๆๆๆ จริงๆผมเห็นต่างจากท่านอื่นๆนะครับ(ที่คาดว่าเรือรบใหญ่ๆมีปืนเรือเยอะๆแบบ เรือประจัญบาน จะหมดไปจากระบบอาวุธตลอดกาล และเรือดำน้ำจะขึ้นแท่นเทพสงครามทางเรือแทน) ผมว่าเรือแบบเรือประจัญบาน อีกไม่นานก็จะกลับมาแล้วครับ และเรือดำน้ำจะเริ่มด้อยคุณค่าลงไป มาดูความเป็นไปได้ของการกลับมาอีกครั้งของเรือประจัญบานก่อน ด้วยเทคโนโลยี กระสุนปืนนำวิถีระยะไกล LRLAP ระยะยิงสูงสุดได้ประมาณ 200 กิโลเมตรหละมั่ง และ เทคโน ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า โดนหวังว่า จะทำความเร็วต้นที่ปลายกระบอกได้สูงกว่าการใช้ดินส่งหลายเท่าตัว(จริงๆมัน ไม่ได้วิเศษแบบนั้นในหนังหลอกเด๋วผมโดนว่าๆดูหนังมากไปอีก แต่จุดเด่นจริงของ 2 อันนี้ คือ ความประหยัด และราคาถูก) ส่วนที่ว่าเรือดำน้ำจะเริ่มด้อยคุณค่าลงไปก็เพราะเทคโนโลยีระบบป้องกันภัย ใต้น้ำ ที่เริ่มพัฒนาอย่างไม่ลับๆ เช่น ตอร์ต่อต้านตอร์(อันนี้มีมานานหละ) เป้าลวง(มีมานานมาก) ปืนคลื่นน้ำ ปืนใต้น้ำ(ประมาณ CIWS ที่ใช้ในการยิงตอร์นั้นแหละ แต่ตอร์มันช้ามากยิงยังไงก็โดนหละนะ ถ้าเทคโนโลยีตัวกระสุนมันสำเร็จอะ) ก็ประมาณนี้หละนะ
ว่าจะตอบเชียว ว่า ถ้าจะติดปืนเยอะ ๆ ขอ แบบ Rail Gun แทน ได้ไหม ^^
แค่คำว่าเรือประจัญบานขนาดเล็กก็คงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะครับ เพราะเรือชั้นนี้ต้องใหญ่ถึงจะเรียกว่าเรือประจัญบาน ยิ่งกว่าเรือพิฆาต
และมีสนธิสัญา(อะไรสักอย่าง)ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ห้ามต่อเรือประัจัญบานแล้วครับ ปัจจุบันเลยไม่มีใครต่อครับ
มันใช้ในสงครามบุคนี้ไม่ได้แล้วน่ะสิ ยุคนี้ ยิงจรวดกันตั้งแต่ไม่เห็นตัว ไอครั้นจะเอาเรือไปจ่อ ยิงปืนใหญ่ใส่กันเหมือในสงครามโลกคงไม่มีแล้ว
มีคำถามอีกคำถามนึงครับ ขี้เกียจตั้งกระทู้ใหม่ จะเป็นการรบกวนมากไป ไม่เกี่ยวกับ เรื่องในบอร์ดนี้เลยคือ พระชุดเบญจบาคี ของปลอม เอาแบบไม่ต้องเนียนก็ได้ถูกๆ เท่าไรครับ คืออยากใส่ไว้ดูโก้ๆน่ะครับ 5555+
หลังจากมีมิสไซล์ อาวุธปืนเรือหน้าที่หลักก็กลายเป็นยิงระดมฝั่ง ยิงสนับสนุน ไม่ใช่ยิงต่อต้านเรือเหมือนก่อนแล้ว ส่วนเรลกันที่ยิงใกลๆนั้น อีกนานกว่าจะได้เกิดครับ ภายในยี่สิบปีนี้ยังคงไม่ได้ประจำบนเรือจริงๆ อย่างมากก็เป็นต้นแบบ
แต่ถึงเรือจะมีปืนเรลกันก็ทำอะไรเรือดำน้ำไม่ได้ดีกว่าเดิมครับ
ต้องปรับปรุงเรือ ให้ตรวจจับเรือดำน้ำโดยไม่ใช้เรดาร์ ตรวจสอบการกระเพี่ยมของน้ำโดยใช้ทุ่นใต้น้ำ ปรับปรุงให้ทุ่นมันเคลื่อนที่ตามที่เราบังคับได้ ให้มันคอยระวังภัยให้เรือให้กว้าง เเล้วพอเรือเคลื่อนที่ก็ให้มันเคลื่อนที่ตามเรือ
ปกติเรือก็ไม่ได้ค้นหาเรือดำนำ้ด้วยเรดาร์อยู่แล้วครับ แต่ใช้โซนาร์ตรวจจับคลื่นความสั่น มีทั้งแบบพาสซีฟกับแอ็คทีฟ แบบพาสซีฟก็ทำงานคล้ายกับทุ่นที่คุณ f8 หมายถึง แต่ความกระเพื่อมของน้ำหยาบกว่าคลื่นเสียงเยอะมากๆๆๆๆๆครับ ลองไปค้นข้อมูลดูนะครับ
ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าเรือดำน้ำจอดกบดานนิ่งๆก็ไม่ต้องหากันพอดี
แนวทางที่มีการคิดกันสำหรับอเมริกก็คือให้มีเรือดำน้ำขนาดมินิ หลายๆลำ ทำหน้าที่เหมือนโดรนตรวจการณ์เปิดโซนาร์แอ็คทีฟติดอาวุธล่วงงหน่าเรือแม่ไปรุมกินโต๊ะพลีชีพ (กรณีตรวจพบเรือดำนำ้ข้าศึก)เพื่อให้เรือแม่รอดจากเรือดำน้ำ
ผมขอขยายความเรื่อง เรือประจัญบานในอนาคต ต่อสักนิดนะครับ ขอว่าในด้านการโจมตีเรือผิวน้ำนะครับ(ส่วนโจมตีภาคพื้นดินคิดว่าคงไม่ต้อง อธิบาย) หลักนิยมในการสร้างเรือ(ระดับลาดตระเวนขึ้นไป) มันจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอะครับ สมัยสงครามโลก ก็จะเน้น เรือใหญ่ ปืนใหญ่ๆ(แต่มันยิงได้ไม่ไกลและไม่แม่นยำเท่าไร) เกราะหนาๆ(เกราะหนาเป็นระบบป้องกันเรือนั้นเอง) สมัยปัจจุบัน ก็จะเน้นไปที่ เรือเล็ก(ไม่เกินหมื่นตัน) ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี(รวดเร็ว รุนแรง แม่นยำ) ไม่มีเกราะแต่มีระบบป้องกันตัวต่างๆทดแทน(ตัวเรือบางเท่าเรือโดยสารอะ) ก็ต้องบอกว่าเรือสมัยสงครามโลกคงสู้เรือปัจจุบันไม่ได้อยู่แล้วก็ตรงที่ ระบบอาวุธ และ ระบบป้องกันตัว ทำให้มีแนวคิดที่ว่าในอนาคตน่าจะสร้างเรือที่มีข้อดีของทั้ง 2 สมัยนี้ คือ เรือประจัญบานสมัยใหม่(โดยมีหลักคิดที่ ว่า ใช้ปริมาณในการโจมตีเหนือกว่าปริมาณการป้องกัน) โดยมีระบบ "ปืนยิงกระสุนนำวิถีระยะไกล" รูปแบบประมาณ LRLAP(ระยะยิงประมาณ 200 ก.ม. มันไกลกว่าเจ้า Harpoon หรืออาวุธปล่อยค่ายอื่นๆในรุ่นเดียวกันอีกนะ แต่ราคาต่อลูกมันถูกกว่ามากอะครับ เพราะอาวุธปล่อยจะมี ส่วนหัวรบ ส่วนขับเคลื่อนที่มีมูลค่าสูง และส่วนนำวิถีที่ซับซ่อนมีมูลค่าสูง แต่กระสุนนำวิถีระยะไกล มีแค่ ส่วนหัวรบ กับส่วนนำวิถีที่ไม่ซับซ่อนมีมูลค่าน้อยครับถ้าวิจัยสำเร็จอะนะ) เรือประจัญบานสมัยใหม่นี้ สามารถระดมยิงกระสุนปืนนำวิถีระยะไกลใส่เรือรบเป้าหมายได้ในอัตราที่สูงครับ(เพราะมันราคาถูกมากเมื่อเทียบกันอาวุธปล่อยนำวิถี 1 ลูก เท่ากับกระสุน 40 ลูกเลยที่เดียว ถ้าวิจัยได้สำเร็จอะนะ) จนระบบป้องกันเรือข้าศึกตอบโต้ไม่ทันหรือหมดกระสุนไปเอง
ยกตัวอย่างจะเห็นภาพกว่า สมมุติ มีเรือชั้นเดียวกับ USS John Paul Jones(90 cell) แล้วกัน อยู่ 2 ลำ ลำที่หนึ่งแบบต้นตำรับเลยครับ(90 cell ให้ติดตั้ง ESSM 360 ลูกเลย มี harpoon 8 ลูก) ลำที่สอง ดัดแปลงติดปืนเรือใช้กระสุนปืนนำวิถีระยะไกล 8 กระบอก(กระสุนนำวิถีระยะไกลขนาดประมาณลูกปืนใหญ่ 155 ได้อะคิดว่าเก็บบนเรือได้หลายพันนัด) ใช้พื้นที่จนเหลือ (40 cell ติด ESSM 40 ลูกพอ ที่เหลือจิปาถะ) ถ้าเข้ามาในระยะยิงของทั้งคู่แล้วยิงใส่กันแบบหมดหน้าตัก จะได้ว่าลำแรกยิง harpoon 8 ลูก มาที่ ลำสอง ที่มี ESSM 40 ลูก โอกาสป้องกันได้มีสูงมากๆ ในขณะเดียวกัน ลำสอง ยิงกระสุนปืนนำวิถีระยะไกลในอัตรา 120 ลูกต่อนาที(จริงๆยิงแค่ครึ่งนาที ระบบเอจิสก็ล็อคเป้าหมายไม่หมดแล้ว แต่ต่อให้แล้วกัน ว่าสามารถล็อคเป้าได้ไม่จำกัดจำนวน) ยิงติดต่อกัน 3 นาที มาที่ ลำหนึ่ง ที่มี ESSM 360 ลูก ถ้าลำหนึ่งจะป้องกันได้ก็ต้องใช้ ESSM ทั้งหมดที่มี แต่ถ้า ลำสองยิงเกิน 3 นาที จะต้องเป็นหน้าที่ของ CIWS 2 กระบอกรับหน้าที่ต่อ คิดว่าไม่มีทางป้องกันได้(กระสุนนำวิถีระยะไกลอาจมีการเพิ่มความเร็วในช่วงสุดท้ายก็ได้ครับ รูปแบบประมาณ LRLAP คล้ายๆอาวุธปล่อยนำวิถีด้วย บวกกับแรงดึงดูดโลกเพราะเป็นการยิงแบบวิถีโค้ง ความเร็วเข้าปะทะอาจสูงมากขนาดไม่จำเป็นต้องมีหัวรบด้วยซ้ำ) ก็เป็นอันจมแน่นอนครับถ้าลำสองยิงเกิน 3 นาที นี้คือความได้เปรียบของ เรือประจัญบานในอนาคตครับ ซึ่งเป็นความคิดต่อยอดมาจาก กระสุนปืนใหญ่นำวิถี ที่หลายๆประเทศใช้กันอยู่ในปัจจุบันกับปืนใหญ่สนามและปืนใหญ่อัตาจร สุดท้ายก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าใครจะเป็นคนเริ่มพัฒนา เรือประจัญบานสมัยใหม่ ก่อนกัน(ถ้ากระสุนนำวิถีระยะไกล รวม กับปืนแม่เหล็กไฟฟ้า คิดว่า ระยะยิงน่าจะไกลถึง 500 ก.ม. เลยที่เดียวถ้าวิจัยกันสำเร็จอะนะ)

| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
271 metres |
|
Beam: |
33 metres |
|
Draught: |
11 metres |
|
Displacement: |
58000 tonnes full load |
|
Propulsion: |
4 screws; geared turbines; 8 Babcock & Wilcox Boilers; G.E. (BB-61;BB-63); West. (BB-62; BB-64; BB-66); 212,000 shp (158,000 kW) |
|
Complement: |
1800 men |
|
Armament: |
Cold War/Gulf War: 9 × 16-inch / 50 cal. Mark 7 guns |
|
Speed: |
30.3 kn (56 km/h) |
|
Armour: |
Belt: 12.1 in (310 mm) |
|
Aircraft: |
Cold War/Gulf War: |

| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
183 metres |
|
Beam: |
24.1 metres |
|
Draft: |
8.4 metres |
|
Displacement: |
14564 tonnes full load |
|
Propulsion: |
2 Rolls-Royce Marine Trent-30 gas turbines and emergency diesel generators, 78 MW |
|
Complement: |
140 men |
|
Armament: |
20 × MK 57 VLS modules, comprising a total of 80 missiles |
|
Speed: |
30.3 kn (56 km/h) |
|
Armour: |
limited Kevlar splinter protection in critical areas |
|
Aircraft: |
2 SH-60 LAMPS helicopters or 1 MH-60R helicopter |

| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
173 metres |
|
Beam: |
17 metres |
|
Draft: |
9.5 metres |
|
Displacement: |
9500 tonnes full load |
|
Propulsion: |
4 × General Electric LM2500 gas turbines, 2 shafts, 80,000 shp |
|
Complement: |
360 men |
|
Armament: |
2 x Mk 26 Guided Missile Launching System (CG-47 through -51) |
|
Speed: |
32+ knots (exact maximum classified) |
|
Armour: |
limited Kevlar splinter protection in critical areas |
|
Aircraft: |
2 x SH-60B Seahawk LAMPS III helicopters |

| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
138 metres |
|
Beam: |
17.3 metres |
|
Draft: |
6.7 metres |
|
Displacement: |
4200 tonnes full load |
|
Propulsion: |
2 × General Electric LM2500 gas turbines; 1 shaft; 41,000 shaft horsepower (31 MW); 2 x Auxiliary Propulsion Units, 350 hp (.25 MW) retractable electric azipods for maneuvering and docking. |
|
Complement: |
176 men |
|
Armament: |
1 × single-arm Mk 13 Missile Launcher with a 40-round magazine that can handle SM-1MR anti-air/ship missiles and Harpoon anti-ship missiles. Removed from U.S. ships starting in 2003, due to retirement of the SM-1 missile |
|
Speed: |
30 knots (35 mph or 56 km/h) |
|
Sensors: |
Radar: AN/SPS-49, AN/SPS-55, Mk 92 fire control system |
|
Aircraft: |
1 or 2 × anti-ship and -sub helicopters (the SH-2 Seasprite on short-hulls, the SH-60 Seahawk LAMPS III on long-hulls) |
| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
47.5 metres |
|
Beam: |
13.5 metres |
|
Draft: |
1.0 metres |
|
Displacement: |
274 tonnes full load |
|
Propulsion: |
Loiter diesel engine |
|
Complement: |
16 men |
|
Armament: |
8 Naval Strike Missile SSMs (when available) kept in an internal weapons bay |
|
Speed: |
In rough sea: |
|
Sensors: |
Thales MRR-3D-NG air/surface radar |
|
Soft kill: |
MASS decoy (32) |
| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
175 metres |
|
Beam: |
23 metres |
|
Draft: |
12 metres |
|
Displacement: |
Surfaced: |
|
Propulsion: |
2×OK-650 pressurized-water nuclear reactors |
|
Complement: |
163 men |
|
Armament: |
1×9K38 Igla SAM |
|
Speed: |
Surfaced: 12 knots |
|
Maximum depth: |
400 metres |
| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
360 ft (110 m) |
|
Beam: |
33 ft (10 m) |
|
Draft: |
32 ft (9.7 m) |
|
Displacement: |
6,927 tons submerged |
|
Propulsion: |
S6G reactor |
|
Complement: |
140 men |
|
Armament: |
4 × 21 in (533 mm) forward torpedo tubes |
|
Speed: |
25+ knots (46 km/h) submerged |
|
Maximum depth: |
greater than 800 ft (240 m) |
| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
108.0 - 111.7 m (sources vary) |
|
Beam: |
13.5 m |
|
Draft: |
9.6 m |
|
Displacement: |
6,927 tons submerged |
|
Propulsion and Power: |
1 190 MW OK-650B pressurized water nuclear reactor |
|
Complement: |
25 Officers, 26 Enlisted |
|
Armament: |
four 533 mm torpedo tubes (plus six external 533 mm tubes on Improved Akulas and Akula II?s) |
|
Speed: |
20 knots (37 km/h) surfaced |
|
Maximum depth: |
450 m test depth |

| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
56 m (183.7 feet) |
|
Beam: |
7 m (22.96 feet) |
|
Draft: |
6 m (19.68 feet) |
|
Displacement: |
1450 tonnes surfaced |
|
Propulsion: |
1 MTU 16V 396 diesel-engine[1] |
|
Complement: |
23-27(incl. 5 officers) |
|
Armament: |
6 x 533 mm torpedo tubes (in 2 foward-pointing groups of 3) with 12 torpedoes |
|
Speed: |
20 knots (37 km/h) submerged |
|
Maximum depth: |
over 700 m (2,296 feet) |
| Class Overview | |
|---|---|
|
Class Type |
Guided missile destroyer |
|
Class Name |
In honor of Admiral Arleigh ?31 knot? Burke |
|
Preceded By |
Spruance-class destroyer |
|
Succeeded By |
Zumwalt-class guided missile destroyer |
| General characteristics | |
|
Cost: |
~US$800 million |
|
Displacement: |
8315 tons full load (Flight I) |
|
Length: |
505 ft (154 m) (Flights I and II) |
|
Beam: |
59 ft (18 m) |
|
Draft: |
30.5 ft (9.3 m) |
|
Propulsion: |
4 General Electric LM2500-30 gas turbines; |
|
Speed: |
30+ knots (56+ km/h) |
|
Range: |
4,400 nautical miles at 20 knots |
|
Complement: |
23 officers, 300 enlisted |
|
Armament: |
90 cells Mk 41 vertical launch systems |
|
Aircraft: |
None, but LAMPS III electronics installed on landing deck for coordinated DDG-51/helo ASW operations (Flights I and II) |
| Class Overview | |
|---|---|
|
Class Type |
Guided missile destroyer |
|
Class Name |
Type 42 class |
|
Builders |
Several different |
|
In service |
1975 |
| General characteristics | |
|
Cost: |
unknown |
|
Displacement: |
Batch 1 & 2: 4,350 tons full load |
|
Length: |
Batch 1 & 2: 125 m (413 feet) |
|
Beam: |
Batch 1 & 2: 14 m (46 feet) |
|
Draught: |
5.8 m (19 feet) |
|
Propulsion: |
2 shafts COGOG |
|
Speed: |
30 knots (Olympus) |
|
Range: |
4,400 nautical miles at 20 knots |
|
Complement: |
312 |
|
Armament: |
Twin launcher for GWS-30 Sea Dart missiles, |
|
Aircraft: |
1 x Westland Lynx HAS / HMA |

| Class Overview | |
|---|---|
|
Class Type |
Guided missile corvette |
|
Class Name |
- |
|
Builders |
Kockums in Karlskrona |
|
In service |
2000 |
| General characteristics | |
|
Cost: |
unknown |
|
Displacement: |
650 tonnes |
|
Length: |
72 m |
|
Beam: |
10.4 m |
|
Draught: |
2.5 m |
|
Propulsion: |
2 KaMeWa Waterjets, powered by: |
|
Speed: |
35+ knots |
|
Range: |
- |
|
Complement: |
43 |
|
Armament: |
Bofors 57 mm/70 SAK Mk3 |
|
Aircraft: |
navy helicopters Hkp15B (Agusta A109) |

| Class Overview | |
|---|---|
|
Class Type |
Guided missile corvette |
|
Class Name |
- |
|
Builders |
Karlskrona |
|
In service |
1984 |
| General characteristics | |
|
Cost: |
unknown |
|
Displacement: |
330 tons |
|
Length: |
50 m |
|
Beam: |
7,5 m |
|
Draught: |
3,3 m |
|
Propulsion: |
2 squeegie engines MTU 396 TB94 (2850 hp) |
|
Speed: |
30 knots |
|
Range: |
- |
|
Complement: |
19 officers, 14 enlisted |
|
Armament: |
Sea Dart missiles 6xRBS-15 Mk2 |
|
Aircraft: |
none |

| Class Overview | |
|---|---|
|
Class Type |
Guided missile patrol boat |
|
Class Name |
- |
|
Builders |
- |
|
In service |
- |
| General characteristics | |
|
Cost: |
unknown |
|
Displacement: |
150 tons |
|
Length: |
36.5 m (119.75 ft) |
|
Beam: |
6.2 m (20.34 ft) |
|
Draft: |
1.50 m |
|
Propulsion: |
Twin MTU 16V 3600 hp diesels (Total 7200 hp) |
|
Speed: |
32 knots (59 km/h) |
|
Range: |
- |
|
Complement: |
24 men |
|
Armament: |
6 MK 2 Penguin missile SSMs |
|
Aircraft: |
none |

| Class Overview | |
|---|---|
|
Class Type |
patrol boat |
|
Class Name |
- |
|
Builders |
- |
|
In service |
- |
| General characteristics | |
|
Cost: |
unknown |
|
Displacement: |
56 tons (full load) |
|
Length: |
80 feet (24.4 m) overall |
|
Beam: |
20 ft 8 in (6.3 m) |
|
Draft: |
3 ft 6 in (1.06 m) maximum (aft) |
|
Propulsion: |
three 12-cylinder Packard gasoline engines 1500 hp each; three shafts |
|
Speed: |
41knots (76 km/h) maximum (trials) |
|
Range: |
- |
|
Complement: |
3 Officers, 14 Enlisted Men |
|
Armament: |
two 12,7 cal. MG`s |
|
Number Built: |
326 |


| General Characteristics | |
|---|---|
|
Length: |
26,4 m |
|
Beam: |
14,3 m |
|
Draft: |
- |
|
Displacement: |
200 tons full load |
|
Propulsion: |
4 Avco-Lycoming
โดยคุณ pop04
ความคิดเห็นที่ 29
ที่คุณpotmonพูดถึงคงไม่ใช่ประจัญบานเเล้วล่ะ น่าจะเป็นเรือปืนพิสัยไกลมากกว่า
โดยคุณ F-8_crusader เมื่อวันที่
26/09/2012 17:58:03
ความคิดเห็นที่ 30
แล้วมันต่างกันตรงไหนอะครับ เรือปืนพิสัยไกล กับ เรือประจัญบาน
โดยคุณ potmon
ความคิดเห็นที่ 31
คุณ potmon ครับ ddg 1000 มีกระสุนปืนใหญ่เฉียดๆ พันนัด ไม่ใช่หลายพัน (ddg 1000 ระวางขับน้ำมากกว่าArleugh Burke Class เกือบเท่า) กระสุน LRLAP ย่อมาจาก Long-Range Land Attck Projectile ดังนั้นคิดค้นมาถล่มฝั่งอย่างแน่นอน ยิงได้ไม่ถึง 200 km หรอกครับ ข้อมูลสองแหล่งระบุว่าระยะยิงเท่ากับ 100, 140 km ครับ (ดูหน้าวิกิภาษาอังกฤษ Long Range Land Attack Projectile) ดังนั้นระยะยังสู้จรวดต่อต้านเรือใหม่ๆ เช่น exocet block 3 (180 km) หรือ harpoon ที่อ้างมา(ฮาร์พูน RGM 84L ระยะ 280 km.)ไม่ได้ ข้อเสียเปรียบของ LRLAP อีกอย่างก็คือมวลน้อยกว่ามิสไซล์ สาเหตุหนึ่งที่สหรัฐ scale-back โปรดักชั่นของ DDG 1000 เพราะว่าหลายๆ ประเทศมีระบบรักษาฝั่งที่พัฒนาขี้นมา ดังนั้นเรือ zumwalt จะบุกไม่ถึงฝั่ง นอกเสียจากจะไปกระทืบประเทศที่ยังล้าหลังดัานระบบร้กษาฝั่ง สหรัฐฯ ตอนนี้เลยเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ย้ายสมรภูมิจากน้ำตื้นมาเป็นการตีกันกลางทะเลกับจีน และเพิ่มการผลิต DDG ธรรมดาไปก่อนแต่อัพเกรดระบบ ดังนั้นผมเชื่อว่า อนาคต เรือดำน้ำกับมิสไซล์จะยังเป็นศัตรูของเรือรบต่อไป ไม่น่าจะเปลี่ยนไปเป็นปืนใหญ่ ขอแนะนำบทความวิเคราะห์ ว่าด้วย USS Zumwalt โดย popularsciene เป็นบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับอนาคตของเรือรบสไตล์ battelship อย่าง DDG 1000 http://www.popsci.com/technology/article/2012-08/ocean-power?page=
ปล. เรือ uss John Paul Jones น่าจะเรียกว่าเรือชั้น Arleigh Burke มากกว่า เดี๋ยวคนงงว่าเรือลำไหน เพราะเรือที่ชื่อ john paul jones, paul jones, มีหลายลำ เดี๋ยวอย่างผมเงี้ยไม่ได้ดูหนัง battelship ก็จะงง (ขอติภาพที่คุณ pop04 เล็กน้อยครับ ภาพที่เอามาแปะมันสะเปะสะปะไปหน่อย อ่านยากมากครับ)
โดยคุณ tongwarit
ความคิดเห็นที่ 32
ตอบท่าน tongwarit คือ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า "กระสุนปืนนำวิถีระยะไกล" ผมไม่ได้หมายถึง LRLAP นะครับ(ไม่งั้นผมก็เขียน ย่อๆว่า LRLAP ตลอดไม่ง่ายกว่าเหรอครับ จริงๆกระสุนนำวิถีระยะไกลของเรือมันยังไม่มีชื่อเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ(เพราะมันยังไม่ได้เริ่มโครงการ) เลยต้องเขียน กระสุนนำวิถีระยะไกล ตลอด) จริงๆสไตล์การเขียนของผม คือ ถ้าจะอธิบายข้อความข้างต้นผมจะเขียนไว้ในวงเล็บอะครับ แต่ถ้าเว้นวรรคก็แสดงว่าแยกความหมายกันอะครับ อีกอันคือที่ผมไม่ได้ยกตัวอย่างเรือ zumwalt เลย เพราะมันไม่คล้ายจะใกล้เคียงนิยามเรือประจัญบานของผมเท่าไรอะครับ แถมกลัวคนอ่านจะไปดูรูปแบบของมันเข้า เลยไม่ได้กล่าวถึงเลย(จริงๆคอนเซ็ปต์การออกแบบเรือตระกูล DD(X) หรือเรือสเตลท์เต็มรูปแบบ มันไม่ค่อยจะเหมือน เรือประจัญบาน ที่ทั้งใหญ่ ทั้งช้า ตรวจจับง่าย อำนาจการยิงสูง อยู่แล้วอะครับ) เพราะ zumwalt เป็นเรือที่เน้นการตรวจการณ์(สอดแนม) และโจมตีชายฝั่ง(ขนาดแท่น Harpoon ยังไม่มีติดเลย) จึงมี VLS 80 cell ปืน 2 กระบอกกับกระสุนไม่มาก ก็เป็นปกติอะครับ จะไปเทียบกับเรือประจัญบานมันก็แปลกๆอยู่อะนะครับ แต่ที่เรือมันหนัก เพราะไปลงกับการสเตลท์กับการออกแบบแปลกๆ(ไม่รู้ว่าโบราณหรือไฮเทคกัน แน่)นั้นแหละ จริงๆขนาดกว้างยาวก็ใกล้ๆกับ USS John Paul Jones หละนะ อีกอันคือ ที่ไม่ยกตัวอย่างเป็น "เรือชั้น Arleugh Burke" ก็เพราะในชั้นเดียวกันมีหลายรุ่นอะครับ รุ่นเดียวกันติดอาวุธยังไม่เหมือนกันเลย แถมมีใช้หลายประเทศใช้อีกก็ไม่เหมือนกันเลย เลยยกตัวอย่างเป็นตัวเรือเลยจะดูเข้าใจกว่าอะครับ อีกอันคือ ผมไม่ได้จะบอกนะครับว่า อาวุธปล่อยนำวิถีโจมตีเรือแบบต่างๆจะหมดความหมายไปอะครับ เพราะอาวุธใดๆก็มีข้อดีข้อเสียของมัน ข้อได้เปรียบของอาวุธปล่อยนำวิถีก็มี อย่าง ระยะยิง(แค่ระยะก็ชนะขาดอยู่แล้วอะครับถ้าได้ชื่อเป็นจรวด เพราะมันมีระบบขับเคลื่อนภายในนี้ครับ) การติดตั้ง(ติดตั้งง่าย และได้ในหลายๆพาหนะ) ความแม่นยำ(แน่อยู่แล้วไม่งั้นจะแพงเหรอ) แต่ก็มีข้อเสียเปรียบอยู่นะครับ คือ จำนวนบรรทุกกับราคาที่สูงของมัน(คิดง่ายๆเลย จรวดระยะยิง 500 กม. อย่าง C-805 กับ จรวดระยะยิง 40 กม. อย่าง C-801 หรือ กระสุนปืนใหญ่ 1 ลูก โอกาสป้องกันได้ ก็พอๆกันครับถ้าเรือมีระบบป้องกันตัว ก็ต้องเสียจรวดป้องกัน 1 ลูก โอกาสโดนเท่ากัน(ยิงกี่ทีก็ว่ากันไป) แต่ราคาของแต่ละอันนี้คนละเรื่องกันเลยอะนะ และจำนวนบรรทุกก็ต่างกันอีก) อันสุดท้าย เรือประจัญบานในความคิดผม คือ เรือที่สามารถทำลายแนวป้องกันของกองเรือเป้าหมายได้อะครับ(งั้นจะมีชื่อว่า ประจัญบานไหวทำไม) ซึ่ง กองเรือรูปแบบปัจจัยที่มีเรือป้องกันภัยทางอากาศประสิทธิภาพสูง มีโอกาสน้อยครับที่จะโจมตีทำลายแนวป้องกันของกองเรือได้สำเร็จในระหว่างกองเรือที่มีประสิทธิภาพเท่าๆกัน ด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีแบบในปัจุบันอะ
ปล.โลก เราทุกวันนี้ ระบบตรวจการณ์ต่างๆมันดีขึ้นทุกๆวันครับ เรือดำน้ำมีจุดเด่นอยู่ที่การอำพรางตัวก็จะด้อยคุณค่าลงไปทุกๆวันครับ แต่ก็ใช้ว่าเรือดำน้ำจะมีคุณค่าอยู่ในแง่เดียว กับหลักคิดที่ว่า ใช้ปริมาณในการโจมตีเหนือกว่าปริมาณการป้องกัน อีกไม่นานคงได้เห็นรูปแบบกันว่าจะไปในทิศทางใด
โดยคุณ potmon
ความคิดเห็นที่ 33
ตอบคุณ potmon ครับ เราสองมีความเห็นในเรื่องนี้ต่างกัน คนละยุทธศาสตร์ ที่ผมเข้าเรื่อง LRLAP ก็เพราะคุณพูดถึงครับ และก็พอดีมีเรือชนิดเดียวที่ใช้กระสุนชนิดนี้ผมเลยอ้างถึงเรือชั้น zumwalt นอกจากนี้เรือชั้น zumwalt ยังถูกวางไว้ให้ทำหน้าที่ยิงสนับสนุนแทนเรือประจัญบาน ดังนั้นผมจึงยกมา ก็เป็นความเข้าใจผิดของผม ส่วนตัวผมคิดว่าเรือ zumwalt นี่ใกล้เคียงเรือประจัญบานที่สุดแล้วครับในปัจจุบ้นนี้ เรื่องความสเตลธ์ก็เป็นวิวัฒนาการของเรือรบทุกชนิด ไม่ได้ขึ้นกับว่าเป็นเรือระดับไหน เรื่องความใหญ่ ตรวจจับง่าย ของเรือประจัญบานไม่น่าเรียกว่าเป็นคอมเซปท์ น่าจะเรียกว่าข้อด้อยหรือลักษณะมากกว่า (แต่ตอนนี้ผมเคลียร์แล้วว่าคุณหมายถึง "คอนเซปต์เรือประจัญบานของคุณ") ขอแย้งเล็กน้อยครับ ผมคิดว่าเรือประจัญบานแต่ละลำเร็วๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ นอกจากนี้เรือ zumwalt ไม่ได้ออกแบบไว้สอดแนมชายฝั่งครับ ความยาวของเรือที่แตกต่างกัน 20% ผมว่าไม่น้อยทีเดียว ส่วนเรื่องเรือหนักอะไรนั่นผมว่าไม่เกี่ยวกับสเตลธ์หรอกครับ ปล. การเรียกชื่อเรือ ถ้าคุณต้องการเรียกให้เฉพาะเจาะจงในคลาส ซึ่งในกรณีนี้คือ USS John Paul Jones ชั้น Arleigh Burke ควรจะเรียกว่า DDG-53 ครับ
โดยคุณ tongwarit
ความคิดเห็นที่ 34
อาวุธนำวิถีโจมตีเรือป้องกันยากกว่าลูกกระสุนปืนใหญ่แน่นอน เพราะนอกจากวิ่งเรียดน้ำยังสามารถกำหนดคอร์สให้เลี้ยวไปมาหลบหลีกการตรวจจับของข้าศึก ส่วนใหญ่อาวุธปืนใหญ่โครงการต่างๆ อย่างของทัพเรืออเมริกาที่จะทำปืนไฟฟ้า เรลกัน เอามาแทนจรวดโจมตีฝั่งครับ ไม่ได้มาแทนจรวดโจมตีเรือ
ถ้าดวลกัน เรือลำนึงมีปืนใหญ่ยิงได้มากมายระดมเป็นตับๆ กับอีกฝ่ายมีจรวดโจมตีเรือ จำนวนอาวุธน้อยกว่าแต่ระยะไกลกว่ามาก ก็เหมือนเอาปืนลูกซองมาดวลกันกับไสนเปอร์ ในที่โล่ง (ทะเลโล่งอยู่แล้ว ไม่มีรบระยะประชิด)
บทบาทของปืนใหญ่เรือในอนาคตคงยังยากที่จะกลับมาเป็นอาวุธต่อต้านเรือหลัก
แต่หลักนิยมการรบสมัยใหม่ก็ส่วนใหญ่เน้นป้องกันตัวบ้าเลือดเหมือนกัน อาวุธโจมตีเรือสิหกลูก อาวุธป้องกันตัว ร้อยลูก ลองเปลี่ยนเป็นโจมตีเรือซักห้าสิบลูก เรือประจันบาญกระสุนพันนัดคงแหลกเหมือนกัน
โดยคุณ toeytei
ความคิดเห็นที่ 35
ตอบคุณ tongwarit
อัน แรกเลยนะครับ "เรือประจัญบาน ที่ทั้งใหญ่ ทั้งช้า ตรวจจับง่าย อำนาจการยิงสูง" ผมไม่ได้บอกนะครับว่าคำพวกนี้เป็นคอนเซ็ปต์ของเรือประจัญบาน(แต่ตอนนี้ผมไม่ ค่อยเคลียร์แล้วว่าคุณตั้งใจจะคุยกันดีๆกับผมหรือเปล่า) ส่วนความเข้าใจในตัวผมแบบแปลกๆของคุณ ก็สุดแล้วแต่สติปัญญาของคุณจะรับรู้ได้อะครับ ส่วนนิยามเรือ ประจัญบานของผม ก็เขียนไปแล้วอะนะ
เสริมอีกนิดเรื่อง เรือรบสเตลท์เต็มรูปแบบ กับเรือรบกึ่งสเตลท์(ที่คุณเข้าใจว่าเป็นวิวัฒนาการของเรือรบทุกชนิด ไม่ได้ขึ้นกับว่าเป็นเรือระดับไหน) ตามความเข้าใจของผม เรือสเตลท์เต็มรูปแบบ อย่าง VisbyClass SeaShadow Zumwalt คือ เรือที่ออกแบบมาในวัตถุประสงค์การอำพรางตัวเป็นหลักครับ คอนเซ็ปต์ คือ ออกแบบคุณลักษณะทั้งหมดให้สอดคล้องกับการอำพรางตัวเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น เรือ zumwalt ครับ ดูภายนอกก่อนแล้วกัน จะเห็นว่าไม่มีอุปกรณ์มาตรฐานไหนของ เรือ เรือรบ ที่ไม่มีคุณสมบัติการอำพราง หรืออยู่ภายนอกตัวเรือ เช่น สมอ เครื่องชูชีพต่างๆ ตัวอาวุธประจำเรือ เครื่องตรวจการณ์ และสื่อสาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มาดูโครงสร้างบ้าง ตัวเรือถูกออกแบบให้มีความสามารถอำพรางตัว เช่น สร้างรูปทรงเรือ หรือสร้างเฟรมคุมอุปกรณ์ เพื่อหักเหคลื่นเรดาห์ รูปทรงเรือแบบ Tumblehome ลดการเกิดเสียงจากการลอยลำและการเคลื่อนที่(Tumblehome ไม่ได้เป็นเทคโนใหม่อะไรครับ มันไม่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ WWI เพราะปัญหาการใช้งาน รูปแบบก็คือ ความกว้างตัวเรือที่เส้นแนวน้ำมากกว่าความกว้างตัวเรือที่ชั้นดาดฟ้าและใน ทุกๆส่วน ฉนั้น พื้นที่ชั้นดาดฟ้าของ zumwalt มันก็ใกล้ๆกับ John Paul Jones นั้นแหละ ที่เห็นต่างกัน 20%(เปล่าหว่า)นั้นมันคือความกว้างยาวสูงสุดที่อยู่ใต้เส้นแนวน้ำด้วยครับ ไม่ได้มีผลต่อพื้นที่ใช้งานบนลำเรือที่สามารถติดอาวุธได้) ตัวผิวสะพานเดินเรือทำจากวัสดุพิเศษลดการสะท้อนคลื่นเรดาห์ มีระบบขับเคลื่อนใบจักรด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าลดการเกิดเสียง และมีอีกหลายอัน จัดไปกับการอำพรางตัว นี้แหละครับเรือตระกูล DD(X) หรือเรือสเตลท์เต็มรูปแบบ(เรือสเตลท์เต็มรูปแบบ อย่าง zumwalt น้ำหนักมากกว่า เรือปกติหรือกึ่งสเตลท์ที่ ประสิทธิภาพเดียวกันแน่นอนครับ เพราะพวกเฟรมสะท้อนคลื่น วัสดุลดการสะท้อน อุปกรณ์ลดและป้องกันเสียง มันมีน้ำหนักนะครับ แล้วไหนจะการออกแบบให้มีคุณสมบัติการอำพรางตัวที่ดีอีก ทำให้พื้นใช้งานน้อยลงและนำไปสู่การเพิ่มขนาดและอุปกรณ์ช่วยเหลืออย่างแน่ นอนครับ) มาดูในส่วนของเรือรบกึ่งสเตลท์กันบ้าง คือ เรือ ที่ออกแบบมาตามวัตถุประสงค์การใช้งานในลักษณะต่างๆตามความต้องการเป็นหลัก ครับ คอนเซ็ปต์ คือ ออกแบบคุณลักษณะการอำพรางตัวบางส่วนให้ไม่เกิดผลกระทบต่อการทำงานและสอด คล้องกับคุณลักษณะการให้งานทั้งหมดครับ ตัวอย่างก็คงเป็นเรือรบทั่วไปที่ต่อหลังยุค 90 นั้นแหละ บ้านเราก็ ชั้น กระบี่ นเรศวร ปัตตานี ก็แล้วแต่ว่าเรือรุ่นไหนๆจะให้ความสำคัญในการอำพรางตัวมากน้อยกว่ากัน ขอ อธิบายเป็นเรือ กระบี่ ก็แล้วกัน ตัวเรือออกแบบให้หักเหคลื่นเรดาห์ได้ในบ้างส่วนของตัวเรือครับ แต่อุปกรณ์บนลำเรือไม่ได้หักเหหรือลดการสะท้อน และไม่มีผิวเรือที่ลดการสะท้อนเรดาห์ด้วย เรื่องเสียงไม่มีการออกแบบให้ลดแต่อย่างได้(จริงๆหัวเรือเอียงหน่อย ข้างเรือเอียงนิด ก็เคลมกันได้แล้วว่ามีสมบัติสเตลท์ ส่วนตัวคิดว่าต่างกันเยอะมากครับระหว่างเรือรบกึ่งสเตลท์กับเรือรบสเตลท์เต็มรูปแบบ) สรุป ผมไม่คิดว่า เรือรบแบบพวก เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือส่งกำลังบำรุง เรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก หรือเรือช่วยรบแบบอื่นๆ จะถูกออกแบบมาให้เป็นเรือสเตลท์เต็มรูปแบบได้หลอกนะครับ
อีก อันก็ เรื่องความเร็วของเรือประจัญบาน(BB ส่วนใหญ่อยู่ประมาณ 25 น็อต) ถ้าเทียบกันเรือในยุคปัจจุบันก็ถือว่าเร็วครับ แต่ถ้าเทียบในยุคของมันกับเรือ CA CL DD(ประมาณ 35-40 น็อต) แล้วหละก็ช้าสุดในบรรดาทั้งหมดเลยหละนะ
อีกอัน คือ เรื่องชื่อเรืออะครับ ต้องขอโทษด้วยที่เขียนเต็มไม่ได้อะเพราะมันยาว จะก๊อบมาก็ต้องก๊อบหลายที่ แต่ส่วนใหญ่ผมไม่ยกตัวอย่าง หรืออธิบายอะไรให้มันเข้าใจยาก หรือกับสิ่งไกลตัว ที่ไม่เป็นที่รู้จะอยู่เลยอะครับ(จริงๆ uss john paul jones มันดังมากเลยนะ) จะให้เขียนเป็น รหัสเรือเลยแบบ DDG-53 ใครจะไปนึกออกอะครับ(ไม่มี google จะมีใครนึกออกบ้างอะ ต้องลำบากไปหาข้อมูลอีก) แต่เขียน uss john paul jones ผมว่าคนส่วนใหญ่เค้านึกออกกันในทันทีเลยอะครับ
อีกอันนะ ครับ ส่วนตัวผมไม่คิดว่า เรือ Zumwalt ที่ลงทุนไปกับระบบอำพรางตัวขนาดนี้จะมี บทบาทอยู่แค่เป็นเรือลาดตระเวน และโจมตีชายฝั่งหลอกนะครับ(ยิงปืนใหญ่โจมตีชายฝั่ง ก็เสมือนเปิดตำแหน่งให้ข้าศึกรู้อยู่แล้ว มันไม่ค่อยจะเข้ากันการเป็นเรือสเตลท์เต็มรูปแบบเท่าไรจริงไหมครับ) ถ้าเอาตามโปรโมทของ ทร.เมกา มันไม่ได้ออกแบบมาให้เน้นด้านการสอดแนม ถ้าเชื่อทันทีเลยตามนั้นครับ แต่ความรู้ก็จะหยุดอยู่แค่นั้นด้วยนะครับ(ผมคิดไปเองเปล่าหว่า)
ปล. เรื่อง เรือประจัญบานในอนาคต ผมก็อธิบายแนวคิดของผมที่ได้อ่านๆมา ไปหมดแล้วนะครับ ส่วนความเป็นไปได้หรือหลักคิดของเรือประจัญบานในอนาคต ท่านๆอื่นจะเห็นเป็นเช่นไร ก็สุดแล้วแต่มุมมองของแต่ละท่านอะครับ สุดท้ายขอบคุณครับที่มาแบ่งปั้นความรู้กัน
โดยคุณ potmon
|