หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ขอถามนะครับถ้าเพื่อนๆๆเป็น ผบ.ทอ...ท่านจะวางกำลังทางอากาศแบบใด..กองบินไหนควรประจำการด้วยเครื่องแบบใด เพราะเหตุใด..อยากรู้นะครับ(แบบๆๆฝันกลางวัน555)

โดยคุณ : Ekkawut เมื่อวันที่ : 19/10/2012 17:00:36

แบบว่าอยากทราบนะครับ





ความคิดเห็นที่ 1


>

>

>

>

ฝันครับ จัดมาแค่ครบจำนวนเดิมประจำการที่เดิม  

โดยคุณ pop04 เมื่อวันที่ 17/10/2012 20:55:38


ความคิดเห็นที่ 2


ผมจะแบ่งเป็น 6 ฝูงบินขับไล่ (แบบ Multi role)  6 ฝูงบินโจมตี  (ไม่นับฝูงบินสนับสนุนอื่นๆ)  จัดเป็น 2 ชั้นดังนี้

ชั้นใน  โคราช   F16 MLU & L39  , นครสวรรค์  F16 MLU (มือสองจากสิงค์โปร์) & L39 , นครปฐม Jas39 C/D plus & Alpha jet

ชั้นนอก  เชียงใหม่ Jas39 A/B plus (มือสอง) & PC21  , อุบล Jas39A/B plus (มือสอง)& PC21 , สุราษฯ Jas39C/D & PC21

ส่วน ดอนเมือง จะรวมฝูงสนันสนุน C130  12 ลำ , AWAC 5 ลำ และ อื่นๆ

ส่วนสนามบินอื่นๆ เช่น นครพนม  อุดรฯ  หาดใหญ่   กาญฯ พิษณุโลก  ประจำการด้วย UAV

 จะเห็นว่าผมปลด F16 F5 ที่ไม่สามารถทำ BVR ออกไป และด้วยงบที่จำกัดจึงเน้นที่ เครื่องมือสองที่มีประสิทธิภาพ  ได้จำนวนเครื่องตามต้องการ  และใช้งบคงความพร้อมรบต่ำสุด

 

 

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 17/10/2012 22:01:00


ความคิดเห็นที่ 3


พิมส์เสร็จแล้วหายหมด!!! งั้นเอาแบบย่อๆแล้วกันนะ

ความฝันผมมั้ง 

ทอ.

F-5 แทนด้วย Gripen jas 39 c/d หรืออาจจะ ng 

F-16 ควรจะแทนที่ด้วย F-15 Se เนืองด้วยประเทศใน ACE ยังไม่มีโครงการจัดหา บ. ยุคที่5 นอกจาก พี่สิงค์ถ้านอกในแง้ต่างๆ F-15 Se น่าจะมี ภาษีดีกว่า F-35 มากว่าเนืองจาด ราคา ค่าตัวที่ถูกกว่า 30-40ล้านเหรียญ ซึ่งผมคิดว่าถ้าโครงการ Pak-fa ยังไม่เกิดในเร็ววัน(มีโอกาศทีั่จะเป็นไปได้ในการประจำการของ Pak-fa ในเวียดนาม) ไทยเราจะมีกองกำลังทางอากาศที่แข็งแกร่งที่สุดใน ACE หุหุ

L-39 กับ A-jet ควรจะแทนที่ด้วย A-10 ตามความต้องการของผม 5555+

เอ่ออยากจะทราบว่า โครงการ Fx-3 ของ คอเรีย(ภาษาตุ๊กกี้)ไม่ทราบว่า เครื่องชนิดได ชนะครับ ถ้า F-15se ชนะได้ จะดีใจเป็นที่สุด ฮ่า


โดยคุณ kapooknet200 เมื่อวันที่ 17/10/2012 22:05:38


ความคิดเห็นที่ 4


ขอต่อครับ ที่ผมเสนอไปก่อนหน้าเป็นแผนปรับปรุง ทอ. ระยะ 1-10 ปี คราวนี้ขอมาต่อแผน  10-20 ปี บ้างครับ

กองบินชั้นนอก (มีหน้าที่ลาดตระเวน / สกัดกั้น/ โจมตีในขั้นแรกและรอการสนับสนุนจากกองบอนชั้นใน)

        เชียงใหม่  12 Jas39E/F และ PC21

       อุบล    12 Jas39E/F  และ PC21

       สุราษฯ     12 Jas39C/D  plus และ PC21

กองบินชั้นใน ( มีความสำคัญใช้ป้องกันเมืองชั้นในและช่วยเหลือกองบินช้นนอก จึงต้องดีที่สุด)

       โคราช    10  F35  & 16 F16Block 50 Mod (จากสิงค์โปร์)

       นครสวรรค์  10 F35 &  16 F16Block 50 Mod (มือสองจากสิงค์โปร์)

       นครปฐม   12 Jas39C/D plus และ PC21

กองบินอื่นๆ      ประจำการด้วย UAV 

       ด้วยงบประมาณอันจำกัด คงได้เท่านี้ ส่วนพวก L39 Alphajet ปลดประจำการแล้วจะไม่เอา พวก A/T50 มาประจำการเนื่องจากสิ้นปลืองค่าใช้จ่าย และสามารถใช้ F16 Jas39 ทำหน้าที่โจมตีทางลึก/ เป้าหมายที่มีการป้องกันสูง/ ครองอากาศ ได้    ส่วน PC21 ใช้ลาดตระเวนโจมตีเป้าหมายที่มีการป้องกันต่ำ    UAV ใช้ลาดตระเวน / โจมตี   ส่วย F35 ใช้ในภารกิจสำคัญที่มีความเสี่ยงสูง / ภารกิจป้องปรามทางจิตวิทยาระหว่างประเทศ

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 19/10/2012 13:05:26


ความคิดเห็นที่ 5


ทางเลือกใหม่ ทอ. F-15SE Silent Eagle F-15SE Silent Eagle -เนื่องจากโครงการ JSF F-35 เกิดการล่าช้าอย่างมาก ผนวกกับราคาที่มีต่จะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แทบไม่มีหวังเลยสำหรับประเทศนอกโครงการที่มีงบทางทหารค่อนข้างน้อยแบบไทย แต่ก็ใช่จะไม่เหลือตัวเลือกเลย สำหรับตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจ ที่มานำเสนอกันในวันนี้คือ F-15 ลุดใหม่ล่าสุด ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท โบอิ้ง ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับ F-15 อย่างล้นเหลือทีเดียว F-15SE Silent Eagle พัฒนาต่อจาก F-15E Strike Eagle หลังจากถูกพัฒนาไปไหนหลายๆเวอร์ชั่น (F-15I ของ ทอ. อิสราเอล, F-15J ของ กองกำลังป้องกันตนเอง, F-15K ของ ทอ.เกาหลีใต้, F-15SG ของ ทอ.สิงคโปร์) ซึ่งจุดประสงค์ของ F-15SE นั้นคือการเสนอเครื่องบินรบที่มีเทคโนโลยี Stealth ในราคาที่ต่ำและคุ้มค่า สำหรับประเทศที่ไม่สามารถจัดซื้อ F-35 ได้ เนื่องจากราคาที่แพง หรือสหรัฐไม่มีนโยบายที่จะขายให้ F-15SE ถูกพัฒนาให้เป็นเครื่องบินรบแบบกึ่งล่องหน(Stealth) ซึ่งตรวจจับทางเรด้าห์ได้ยาก พร้อมติดตั้งระบบอวิโอนิกส์ล่าสุดเป็นเทคโนโลยียุคที่ 5 ซึ่งอุปกรณ์บางระบบได้รับการพัฒนาเพื่อติดตั้งกับ F-15SG ของทหารอากาศสิงคโปร์ และ F-15K ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้ เช่น ระบบเรด้าห์ AN/APG-63(V) 3 ทำงานด้วยระบบ AESA(Advance Electronic Scanning Array) ระบบอินฟราเรดสำหรับติดตามและค้นหาเป้าหมาย(IRST) กระเปาะชี้เป้า Sniper ภายในห้องนักบินติดตั้งจอภาพแสดงแบบจอกว้าง แผงควบคุมเครื่องวัดแบบ Flat Pamel Up-Front Control จอแสดงภาพสี นักบินสวมหมวกบินติดศูนย์เล็งแบบ Joint Helmet Mounted Cueing System(JHCS) ติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบ Digital Electronic Warface System(DEWS) และระบบ ถ่ายทอดข้อมูล Link 16 แผนแบบเครื่องบินขับไล่ F-15SE ถูกพัฒนาจกาแผนแบบของ F-15E รุ่นสองที่นั่ง แต่ได้มึการพัฒนาให้สามารถปฏบัติภารกิจที่สามารถเล็ดลอดการตรวจจับจากสัญญาณเรด้าห์เข้าไปโจมตีเป้าหมายได้ โดยการปรับปรุงทางด้านแผนแบบภายนอก รวมทั้งติดตั้งระบบสงครามอิลเกทรอนิกส์แบบใหม่ และติดตั้งระบบอวิโอนิกส์ที่ทันสมัยกว่า F-15 รุ่นปัจจุบัน F-15SE ถูกพัฒนาให้มีความสามารถกึ่งล่องหน เหมือนกับ F-22 และ F-35 ด้วยการเคลือบวัสดุดูดซับสัญญาณเรด้าห์ที่ผิวเครื่องด้านนอก (Radar Absorbent Material, RAM) ติดตั้งระบบอาวุธภายในกระเปาะเชื้อเพลิง (Conformal Fuel Tank, CFT) ด้านข้างลำตัวทั้งสองข้าง และปรับมุมแพนหางดิ่งจากแนวดิ่งชี้ขึ้นเป็นเฉียงทำมุม 15 องศาจากแนวลำตัวทั้วสองด้าน และเปลี่ยนช่องรับอากาศ(Intake) ที่เปลี่ยนเป็นแบบเดียวกันกับที่ติดตั้งใน F/A-18E/F Super Hornet เพื่อลดภาคตัดขวางสะท้อนคลื่นเรด้าห์เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม F-15SE มีคุณสมบัติลดการตรวจจับเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น โดยอาวุธที่ติดนั้น F-15SE ถูกเพิ่มช่องเก็บขีปนาวุธเพิ่มอีก 3 ช่อง สำหรับติดตั้ง AIM-120 AMRAAM และ AIM-9 Sidewinder ได้ และสามารถติดอาวุธรูปแบบต่างๆได้ทั้งการโจมตีแบบ อากาศ-สู่-อากาศ และ อากาศ-สู่-พื้นดิน สเป็คเครื่อง บทบาท : เจ็ทขับไล่ครองอากาศกึ่งล่องหน 2 ที่นั่ง นักบิน : 2 คน ความยาว : 19.43 เมตร ความกว้างปีก : 13.05 เมตร ความสูง : 5.63 เมตร น้ำหนักตัวเปล่า : 14.3 ตัน น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 36.7 ตัน กำลังเครื่องยนต์ : เครื่องยนต์เจ็ทเทอร์โบแฟน Pratt&Whitney F100-229 2 เครื่องยนต์ ความเร็วสูงสุด : 2.5 มัค+(2,650 กิโลเมตร/ชั่วโมง) พิสัยทำการ : 1,480 กิโลเมตร พิสัยบินไกลสุด : 3,900 กิโลเมตร โดยติดตั้งถังน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราไต่ระดับ : 254+ เมตร/วินาที ระบบอาวุธ ปืนใหญ่อากาศ : ปืนเก็ตลิ่ง M61 วัลแคน 6 รู ขนาด 20 มม. 1 กระบอก บรรจุกระสุน 510 นัด ขีปนาวุธ : ยังไม่มีข้อมูล สเป็คหลายๆส่วนมีประสิทธิภาพเหนือกว่า F-35A อย่างเห็นได้ชัด ด้อยกว่าเพียงในเรื่อง Stealth ซึ่งหน้าตัดเรด้าห์ของ F-15SE ยังคงใหญ่กว่า F-35A เนื่องจากรูปทรงของตัวเครื่อง อย่างไรก็ตามราคาของ F-15SEงไม่ถูกเปิดเผยออกมาแน่ชัด แต่ชัดเจนว่าจะมีราคาถูกกว่า F-35A และน่าจะเป็นที่จับตามองของกองทัพอากาศทั่วโลก ที่ไม่สามารถซื้อ F-35A เจข้าประจำการได้ รวมทั้งไทยด้วยเช่นกัน ตราบใดที่วันข้างหน้ายังไม่มีข้อมูลแน่ชัด ทุกอย่างเปลี่ยนได้เสมอ ไม่แน่เจ้าเครื่องนี้อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือก สำหรับ ทอ. ในการแทนที่ F-16 ที่กำลังจะถูกปลดประจำการภายใน 20 ปีข้างหน้า ซึงก็น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว



โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 19/10/2012 15:32:13


ความคิดเห็นที่ 6


โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 19/10/2012 15:34:41


ความคิดเห็นที่ 7


เอาเวอร์ชั่นเกาหลีมาฝาก

โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 19/10/2012 15:40:56


ความคิดเห็นที่ 8


F-15SE Silent Eagle
Mockup of the F-15SE
Role Multi-role fighter
Manufacturer Boeing
First flight demonstrator aircraft: 8 July 2010[1]
Status In development
Number built 1[1]
Unit cost F-15SE: US$100 million (planned average cost, 2009)[2]
Developed from F-15E Strike Eagle
โดยคุณ kaewmusik เมื่อวันที่ 19/10/2012 15:48:48


ความคิดเห็นที่ 9


..

 

..ก่อนอื่นต้องสมมุติก่อนว่าถ้าเศรษฐกิจเราดีขึ้นทุกปีชาวนาชาวไร่ผลิตพืชผักได้ราคาการค้าการลงทุนสดใส รัฐขายสินค้าไม่ขาดทุน(เฉียดนิดนึง)

...การพัฒนากองทัพอากาสจะแบ่งออกเป็ณ 3 ระยะคือ ระยะที่1 เป็น 1-5 ปี ระยะที่2เป็น3-10ปีและระยะที่3เป็น8-20ปี คือพัฒนาไปพร้อมกับระยะที่2(เศรษฐกิจเราดี)

.ระยะที่1

1-5ปี พัฒนาบุคคลากรของกองทัพอากาศทั้งกำลังพลและผบ.หน่วยให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานในสงครามข่าวสาร(Information war) สงครามแบบโครงข่าย(Network centric war)เปลี่ยนระบบบัญชาการให่เป็นระบบดิจิตอลทั้งหมดเชื่อมต่อด้วยเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ดิน จัดตั้งหน่วยข่าวกรองที่ขึ้นตรงต่อกองทัพอากาศจัดอบรมฝึกปฏิบัติการงานข่าวกรอง โดยหน่วยมอสสาสของอิศลาเอล(ทำในทางลับ)

...ระยะที่2

3-8ปี พัฒนาระบบป้องกันภัยทางอากาศจากที่มีอยู่แล้วในแต่ละภูมิภาค เปลี่นระบบเรดาห์ให้เป็นเรดาห์ระยะไกลแบบ3มิติ เพิ่มเติมระบบเรดาห์ระยะกลางแบบเคลื่อนที่เพื่อเป็นแบบ 3 มิติ เพื่อเสริมและเป็นระบบสำรองกรณีโดนโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศจากฝ่ายตรงข้าม พัฒนาระบบขีปนาวุธป้องกันภัยให้กับฐานบินทั้งแบบระยะไกล้ กลาง กลางกึ่งไกลแบบเคลื่อนที่และอยู่กับที่ ให้มีครบทุกฐานบิน พัฒนาระบบสื่อสารด้วยดาวเทียมเพื่อการพึ่งพาตนเอง พัฒนาระบบอาวุธยุทธภัณฑ์ให้ทันสมัยและพร้อมปฏิบัติการอยู่เสมอ

...ระยะที่3

8-20ปี พัฒนาและจัดหาเครื่องบินรบ โจมตี ฝึกรุ่นใหม่เข้าประจำการหรือปรับปรุงเครื่องที่ยังมีอายุการใช้งานมากให้สามารถปฏิบัติการต่อไปได้เพื่ออุดช่องว่างระหว่างจัดหาใหม่

การจัดหา สำหรับฝูงบินหน้าด่านทั้ง4 ฝูงบินคือ กองบิน 21 41 23 7 ในเมื่อเรามาทางจิ๋วแต่แจ๋วแล้วก็ต้องเดินทางเดิมเพื่อความพร้อมรบและไม่หลากหลายจนเกินไป โดยจัดหามาทดแทนเครื่องบินรุ่นเก่าที่ประจำการตามฝูงนั้นๆ คือจัดหา JAS-39 C/D ในรุ่น แอ็ดว๊านด์ หรือรุ่น E/F มาประจำการฝูงละ 12 เครื่อง และเครื่องบินฝึก/โจมตีเบา ซุปเปอร์ทูคาโน่ ที่กองบิน 23 21 41ฝูงล่ะ 12 ลำ ยกเว้นกองบิน 7ต้องจัดหาเพิ่มจากของเดิมที่มีอยู่ 12 ลำให้เป็น 18 ลำ และจัดหาเตรื่องบินขับไล่ฝึกแบบ MB-345 จำนวน 36ลำ โดยประจำการที่กองบิน23 เพื่อทดแทนอัลฟ่าเจ็ตจำนวน 12 ลำ

การจัดหาสำหรับฝูงบินชั้นในคือ กองบิน 1 4 6 กองบิน 4 ประจำการด้วยเครื่อง F-16 MLU และเครื่อง MB-345 จำนวน 12 ลำ จัดหาเครื่องบินแบบ F-35 จำนวน 12 ลำประจการที่กองบิน 1(ถ้าเขาขายให้นะ)หรือจัดหา E/F-2000 จำนวน24 ลำประจำการที่กองบิน 1 และ MB-345 จำนวน 12 ลำจากทั้งหมด 36 ลำ ก็ประจำการ ณ กองบิน 1

การจัดหาเครื่องบินลำเลียงขนาดกลางเพื่อเพิ่มเติมและทดแทนเครื่องรุ่นเก่า โดยจัดหาเครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง จำนวน 12 ลำ และขนาดใหญ่จำนวน 6 ลำ อาจจะเป็น C-27 หรือ CN-235 กับ C-130 J หรือ A-400M และจัดหา ฮ.ให้ได้ตามจำนวนที่ ทอ.ต้องการ(ทั้งหมดงบประมาณคงเกิน 3 แสนล้านในระยะเวลา 20 ปี)

ในส่วนโรงเรียนการบินก็ประจำการด้วย ซูปเปอร์ทูคาโน่ รุ่นฝึก จำนวน 24 ลำ (มีป่าวหว่ารุ่นฝึก)หรือ PC-24 ในจำนวนที่เท่ากันและเครื่องบิน ทอ.6จำนวน18ลำ  พัฒนา ยูเอวี ขนาดกลางขึ้นเองภายในประเทศเพื่อใช้ในภารกิจลาดตระเวณถ่ายถาพทางอากาศและจารกรรม

 

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 19/10/2012 17:00:36