ทหารนักรบสั่งลุยเชิงรุก ชูเห็นเขาแต่ไม่เห็นเรา บุกโจมตี..อย่ารอเอาคืน จวกการเมืองอย่าเสือก! |
![]() แต่ไม่นานถึงข้ามวัน กระแสชื่นชมกลับกลายเป็นเสียงตำหนิ ติเตียน ถึงขั้นด่าทอ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี แห่งรัฐบาลพี่คนแรก "กูเกิ้ลเหลิม" กลับออกมากวนน้ำให้ขุ่น สร้างข่าวสั่งเยียวยาครอบครัว 16 ผู้ก่อกาารร้าย นำมาซึ่งความไม่พอใจของคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเหล่าทหารหาญที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ "พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ" อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก "อดีตนายทหารนักรบ"ที่ผ่านสมรภูมิรบต่าง ๆมามากมาย จนได้เงินเพิ่มสู้รบมากถึง 16 ขั้น ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกองทัพไทย คืออีกผู้หนึ่งที่ชื่นชมต่อปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการข่าวกรองที่แม่นยำ สามารถดึงมวลชนในพื้นที่มาอยู่ฝ่ายเดียวกับทหารได้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติการที่มีความกล้าหาญ!!! ...พร้อมกับตำหนิถึงพฤติกรรมรองนายกรัฐมนตรีขี้โม้ ที่อาศัยสถานการณ์"หาเสียงทางการเมือง" นายทหารแก่ผู้นี้จึงตอกกลับด้วยคำพูดที่รุนแรง ไม่ควร"เสือก"กับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งย่อมรู้ดีถึงความเร่งด่วนจำเป็นในสถานการณ์หลายๆด้าน แนวคิดของชายชาติทหารรนักรบผู้นี้ ถึงแม้จะพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็มิอาจละทิ้งความเห็นที่เป็นประโยชน์แก่เหล่าทหารกล้า ในฐานะต้นแบบนักรบไปได้ กับคำแนะนำการทำการต่อสู้ในพื้นที่ที่ต้องบุกลุยปฏิบัติการเชิงรุก ทำอย่างไร"ให้เขาไม่เห็นเรา แต่เราเห็นเขา" แนวคิดนี้จึงน่าติดตาม!!! Q : เหตุการณ์ผู้ก่อความไม่สงบบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร ร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนสำคัญที่ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐไม่เกิดการสูญเสียเป็นเพราะ"ข่าวกรอง"? A : เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากข่าวกรอง ถ้าเรารู้ล่วงหน้า "รู้เขา"เราชนะทุกครั้ง แต่ที่ผ่านมาเราไม่รู้เขา แต่ครั้งนี้เรารู้เขาเพราะว่าจากการข่าว ต้องชื่นชมเขา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความแข็งแกร่งของผู้ก่อการร้าย ที่มีความเชื่อมั่นมาก เขาไม่คิดว่าข่าวรั่ว ถ้าข่าวไม่รั่วจากเขาเราคงแย่เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ข่าวกรองเราคงแย่เหมือนกัน "ข่าวกรองทหารครั้งนี้ถือว่าใช้ได้ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ต้องชื่นชมเขา เป็นเรื่องปกติถ้าเรารู้เขา เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง นี่คือตัวอย่าง จะทำอย่างไรเราจะมีข่าวกรองเช่นนี้ แม่นยำเช่นนี้ในทุกๆครั้ง" Q : ส่วนหนึ่งที่ทำให้ข่าวกรองมีความแม่นยำเพราะประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือใช่หรือไม่? A : ถ้าประชาชน...โดยเฉพาะเรื่องการ"ก่อการร้าย" เราชนะเขาได้ เราต้องได้ข่าวกรอง ทีนี้ข่าวกรองจะได้เพราะผู้ก่อการร้ายเขาปนอยู่กับ"มวลชน" ถ้ามวลชนเป็นฝ่ายเรา เราจะได้ข่าวกรองง่ายขึ้น เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติ ต้องชื่นชมข่าวกรองครั้งนี้ดีเลิศ ถึงเป็นฝ่ายชนะ ข้าศึกไม่สามารถทำอะไรได้ เขากล้าหาญด้วย Q : สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ คืออาวุธและอุปกรณ์ต่างๆที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถยึดมาได้ใช่หรือไม่? A : เขาไม่ได้น่ากลัว แต่มีความแข็งแรงขึ้น ความแข็งแรงนี้ เป็นเพราะว่าเราไม่สามารถที่จะจำกัดการก่อการร้ายรายวันเขาได้ เขาก็ฮึกเฮิม เพราะข่าวกรองเราไม่ดีเท่าที่ผ่านมา ยกเว้นครั้งนี้ เขาจึงเหิมเกริม มีเสรีในการปฏิบัติ แต่ถ้าการปฏิบัติการเชิงรุกทางทหารของเราจำกัดเสรีการปฏิบัติของเขาได้ ไม่ให้เขาทำอะไรง่ายๆได้ เขาก็ไม่สามารถรวมกำลังและมีความฮึกเหิมขนาดนี้ได้ ที่แล้วๆที่ผ่านมาเราตกเป็นฝ่ายเป็นเป้าให้เขาจัดการกับเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น"รูปแบบการปฏิบัติการ" "ยุทธวิธี"มันต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม Q : การบุกถล่มครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการ"แสดงศักยภาพ"อย่างหนึ่ง? A : ใช่...เป็นการ"แสดงศักยภาพ"อย่างหนึ่ง ถ้าเขาชนะเขาจะได้มวลชน สามารถควบคุมมวลชน แล้วขวัญกำลังใจของมวลชนก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา Q : ที่ผ่านมาฝ่ายเราไม่สามารถจำกัดเสรีการปฏิบัติของผู้ก่อความไม่สงบได้(ถามยังไม่จบ)? A : (ตอบทันที)คือหมายความว่าฝ่ายเราไม่สามารถจำกัดการปฏิบัติการเชิงรุกของฝ่ายผู้ก่อการร้ายได้ มีปล่อยให้เขาทำตลอดเวลา ซุ่มโจมตี วางกับระเบิดเรา เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราในการปฏิบัติการรบ Q : ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีอย่างไร? A : ปฏิบัติการเชิงรุก ยุทธวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็ก เขารู้กันทั้งนั้น "เหนื่อยหาย ตายไม่ฟื้น" "ไม่ให้เขาเห็นเรา แต่เราเห็นเขา" ทำอย่างไรให้เราเห็นเขา แต่เขาไม่เห็นเราเท่านั้นทำให้ได้
เสียง.........................................1 เสียง..........................................................2 ![]() A : ก็แน่นอน ก็จำเป็น แต่เราจะวางระเบิดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เราต้องหาให้เจอว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาจะออกมาเวลาไหน เราก็ซุ่มจับเขาสิ เราอาจจะเหนื่อยยาก อดหลับอดนอน เหมือนเราตกปลา บางวันเราก็ได้ บางวันเราก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่อยากพูดในรายละเอียด มันเป็นความลับทางการทหาร เขารู้อยู่แล้วว่าปฏิบัติการเชิงรุกและใช้ยุทธิวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็ก ทำอย่างไรให้เราเห็นเขา แต่เขาไม่เห็นเรา ระบบการข่าวเราต้องดี แล้วเราจะปลอดภัย
เสียง....................................................3 เสียง............................................................4 เสียง...................................................5 ![]() A : (ตอบทันที)เพราะเราทำซ้ำซากให้เขาเห็นไง เท่านั้นเอง เราทำอะไรซ้ำซากให้เขาเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เขาก็ง่ายสิ เขาเอาปืนมากระบอกเดียว เอาถังแก๊สมาอันนึงอัดอยู่ อยู่ตรงไหนก็ซุ่ม รถมาอะไรมาเขากะเวลาได้ เขาก็บึ้ม ง่ายจะตายไป Q : การเยียวยาอาจมีผลต่อกำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานอยู่พื้นที่หรือไม่? A : ทหารไม่กำลังใจเสียหรอก คนเราทำหน้าที่รักชาติบ้านเมือง มีจิตวิญญาณเพื่อรักชาติบ้านเมืองโดยแท้ ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ต้องไปบอกเขาหรอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ คนที่เขาทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองเขาได้รับการฝึกมาอย่างดี มีผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้นำที่ดีแล้ว เขาจะรู้ทุกอย่างว่าเขาจะทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร คนข้างบนไม่ต้องไป"เสือก"ทะลึ่งไปสอนเขาหรอก อะไรที่เป็นเรื่องทุกข์ยากของประชาชนในพื้นที่ เขาก็มีหน้าที่
เสียง......................................................6 |
ที่มา http://thaiinsider.info/news2012b/column/interviews/21695-2013-02-15-04-00-00
ขอบคุณคุณRunningManที่นำมาให้อ่านครับ. ความเห็นส่วนตัวสำหรับคนรู้น้อยอย่างผม ผมเห็นด้วยกับนายทหารท่านนี้ครับ.
มันต้องโดนด่าเยอะๆ ถูกเลย พูดแค่หวังผลททางการเมือง เกลียดจริง นักการเมือง
ไม่เกี่ยวกับความเห็นทางการเมืองนะ แต่แบบนี้ล่ะ ที่เขาเรียกว่า "นักรบชาติทมิฬ" the ulmimate warrior
พล.อ ปรีชา เป็นถึงรองอดีตเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ. และเป็นบุคคลสำคัญ ของฝ่าย พธม
จึงไม่แปลกใจที่ให้ข่าวเช่นนี้ในเวลานี้ ที่อยากเห็นก็คือการเสนอความคิดเห็นที่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายการเมืองมากกว่า
มันถึงจะเกิดประโยชน์จริงๆต่อฝ่ายทหาร ต่อประเทศชาติ
และผลงานครั้งนี้ ทัพเรือ สมควรใด้รับการยกย่องในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ
เจอ ซิล+ไนท์วิชั่นเข้าไปพวกโจรใต้ก็สมควรใด้รับผลกรรมคืนบ้าง
ผมเห็นด้วยกับลุงแกนะ ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ทางทหารเองก็คงรู้นะว่าต้องทำไง
เห็นด้วยกับนายทหารท่านนั้นทุกอย่าง
ผมอยากให้สร้างค่ายทหารขนาดใหญ่ แบบเดียวกับค่ายอิงคยุทธ
เพิ่มในเขตบันนังสตาร์ ของจังหวัดยะลา และ อำเภอบาเจาะ หรือ
เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ผมคิดเอาเองง่ายๆ ถ้าในสามชายแดนใต้ มีฐานทหารที่มั่นคง ถ้าผมเป็นโจร
หากจะคิดแบ่งแยกดินแดน ก็ต้องคิดหนักขึ้น เพราะค่ายทหารมั่นคงใหญ่โต
ตั้งอยู่ในพื้นที่ถึง 3 แห่ง ครอบคลุมทั้งสามชายแดนใต้
ถ้าผมเป็นโจรแบ่งแยกดินแดน มี 2 ทางเลือก คือ โจมตีค่ายทหารทั้ง 3 แห่ง
ให้แตก กับอีกทางเลือกคือ เลิกคิดแบ่งแยก เพราะการโจมตีค่ายทหารขนาดใหญ่
เป็นการวิ่งเข้าไปตายเปล่าๆ
แต่ ค่ายทหารที่จะสร้างใหม่ ต้องเลือกทำเลเหมาะๆหน่อย ไม่ใช่เป็นค่ายทหารในวงล้อม
ของชาวบ้านเหมือนใข่แดง แบบบางค่ายในปัตตานี
ปล. แปลความหมาย ของนายทหารท่านนั้น " รบกับเงา เราต้องเป็นเงาของเงา "
ถ้าใครเป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ต้องมีคิดบ้างละครับ คนหนึ่งทำเพื่อประเทศชาติ อีกคนทำเพื่อทำลายประเทศ คนหนึ่งได้หกเจ็ดล้านทำงานไม่กี่เดือนแถมทำไม่ดีอีก อีกคนคิดตามตำแหน่งจำนวนเงินตามปีที่เสี่ยงตาย
คลิปด้านบนไม่เกี่ยวกับ ภาคใต้ครับ เป็นเหตุการณ์พ่อเมายาบ้าฆ่าตัดคอลูก แล้วผูกคอตัวเองตายครับ
http://news.tlcthai.com/news/6878.html
ลองอ่านดูนะ
พันเอกทวีศักดิ์ จันทราสินธุ์ หัวหน้าหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด ชุดอโณทัย (EOD) ปัตตานี บอกว่า ระเบิด 2 ลูกบริเวณหอนาฬิกา เมืองปัตตานี เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยการตั้งวงจรอิเล็กทรอนิกส์ บรรจุในถังดับเพลิงขนาด 15 กิโลกรัม ที่สำคัญเป็นถังดับเพลิงที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือที่รู้กันอยู่แก่ใจว่า ประเทศมาเลเซีย
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/ohmmeter/2013/02/17/entry-2