ผมรู้ว่าเคยเขียนกันไปแล้ว แต่อันนี้มาพูดถึงความน่ากลัวแสนยานุภาพของมัน
กันก็แบบTopgunเอาไปลงนิมันจุดประกายความคิดในหัวผม
ลำล่าสุดVladimir Monomakhเป็นเรือดำน้ำพลังงานnuclearยุคที่4
ติดจรวดได้ถึง16ลูก รวมถึงหัวรบnuclear
ผมจะไม่เอ๋ยถึงรายละเอียดตัวเรือดำน้ำมากนัก เพราะยอมรับว่าข้อมูลน้อย
อย่างที่บอกมันน่ากลัวมากลำเดียวสามารถทำลายพื้นที่ประเทศไทยได้ถึงเกือบ1ใน5
กรณียิงทำลายตัวเมืองที่คนอยู่อาศัยกันเยอะๆ ประมาณแจกจังหวัดละลูก
จรวดหนึ่งลูกไม่มีข้อมูลว่าหัวรบน้ำหนักเท่าไหร่ แต่อาวุธnuclearทำลายได้ประมาณ25ไมค์
(หรือบางลูกขนาดใหญ่ทำลายได้40ไมค์และรัศมีอื่นๆอีกรวมระยะทำลายรัศมี60ไมค์ก็มี)
ถ้ามันหลุดรอดเข้ามาในอ่าวไทย ตอนทำสงครามแล้วยิงใส่ประเทศไทยได้ คงถึงกลับต้องแพ้สงคราม
(แต่คงมองเห็นในน้ำได้มันลำใหญ่ถ้าเข้าถึงอ่าวไทย)
คนตายกันมากมาย บ้างจังหวัดของไทยพื้นของคนอยู่อาศัยเล็กเช่นนครสรรค์ตัวเมืองไม่ใหญ่
มันระเบิดได้หมดเมืองเลย
นับว่ารัสเซียสร้างขึ้นมาแค่1ลำก็น่ากลัว เป็นที่หวาดกลัวของประเทศอื่นเพราะลำเดียวเล่นสิ้นชาติ
กันได้เลย แถมสร้างไปแล้ว3ลำและจะสร้างเพิ่มอีก ผมว่าถ้าใครๆสามารถมีnuclearและมีความ
สามารถสร้างได้คงจะสร้างกันออกมาแน่เพราะลำเดียวคุ้มงบประมาณ ถ้าจะเล่นกันแบบไม่เหลือ
อะไรเลย ให้มันสิ้นชาติกันไปซะนะครับ
รัสเซียมีแล้ว3ลำผมว่าพอจะทำให้คงความเป็นมหาอำนาจได้เลย
เอ.. สมมุติเป็นประเทศอื่นไม่ได้เหรอครับ :D
แล้วเป็นอะไรหรือถึงจะต้องเข้ามายิงทำลายประเทศไทย ไม่เข้าใจเลยเราเป็นศัตรูกับรัสเซียตั้งแต่เมื่อไหร่
แค่เรือดำน้ำธรรมดาก็ป้องกันลำบากแล้วครับ เจ้าของกรทู้ต้องการชี้ให้เห็นถึงความน่ากลัวของเรือดำน้ำและบอกเป็นนัยๆว่าเราสมควรมีเรือดำน้ำบ้างได้แล้วกระมัง
http://en.wikipedia.org/wiki/Ohio_class_submarine
เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ชั้น Ohio ของอเมริกาจำนวน18ลำ (1976–1997)
14 ลำแรก เป็นเรือดำน้ำแบบ SSBN ติดตั้ง ขีปนาวุธระยะไกล ไทรเด็น ลำละ 24 ท่อยิง ( 24 Trident II SLBMs )
อีก 4ลำได้มีการปรับปรุงเป็น เรือดำน้ำแบบ SSGN ติดตั้ง จรวดร่อน โทมาฮอกว์ หัวรบแบบ conventional ได้ถึงลำละ 154 ลูก
เรือที่สร้างมา37ปีที่แล้วยังยิงได้24ลูกเลยครับ
Ohio บรรจุ 24 ลูก ลูกละ 8 หัวรบ 192 หัวรบต่อ 1 ลำ เหลือรอดเพียง 1 ลำ สามารถทำลายประเทศคู่สงครามขนาดใหญ่ๆอย่าง รัสเซีย จีน ได้
สิ่งนี้เรียกว่า Balance of terible ครับ ใครชิงโจมตีก่อน ผู้นั้นต้องมั่นใจว่าจะสามารถทำลายหน่วยยิงขีปนาวุธข้ามทวีปทุกชนิดได้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นถ้าถูกตอบโต้กลับแบบไม่ทันตั้งตัว แม้เรือดำน้ำจะรอดเพียง 1 ลำ ก็สามารถทำลายคู่สงครามให้ย่อยยับได้พอกันครับ
มหาอำนาจมีทุกประเทศ อังกฤษก็มี ฝรั่งเศส จีน อินเดียพยายามจะมี
ไม่ต้องถึงขนาดชั้น Borei หรอก แค่ kilo ไกล้ๆบ้านก็เหงื่อตกแล้วครับ
ต้องขออภัยก่อนที่เขียนผิดคือขอแก้ จากรัศมีของระเบิดNuclear
เป็นเส้นผ่าศูนย์กลางรวมการทำลายทุกอย่างแล้ว60ไมล์(Biggest Nuclear bomb)
จริงๆมันก็มีเรือดำน้ำทีมีอาวุธNuclearอยู่หลายประเทศรวมถึงประเทศที่พยายามมีอย่างจีน
จริงๆผมอยากให้ไทยมีเรือดำน้ำ ^_^
ขอเพิ่มเติมอีกนิดที่มีจำนวนอาวุธน้อยกว่าOhio คงเป็นเพราะมีสระว่ายน้ำมังครับแบบเรือดำน้ำไต่ฝุ่น ฮาฮ่า
ของเรา ไม่ต้องถึงกะเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์หรอกครับ เอาแค่เรือดำน้ำพลังงงานดีเซล ก็พอแล้ว ขอให้มันได้มาเฮอะ...
เอาคลิปเก่ามาดู ให้มันช้ำใจตัวเองเล่นก่อน *-* U-206A
เรื่องU-206Aผมไม่ได้สนับสนุนเพราะมันเก่ากลัวจม
เชื่อว่ารัฐบาลก็กลัวจมเลยแกล้งทำเป็นอนุมัติไม่ทันตามที่เยอร์มันกำหนด
สรุปว่าผมสนับสนุนเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าใหม่ครับ ^_^
.....ผมไม่ได้มาชวน ให้ทะเลาะกับเพื่อนบ้านนะครับ ดูรูปนี้แล้วต้องเข้าใจว่า เป้าหมายในสงครามมันก็ต้องเป็นแบบนี้ ละครับ
.....ภาพนี้ มาจาก Blog "Malaysia Millitary power" ครับ
.....ดูแล้วต้องมีสติ และใช้เหตุผลนะครับ......
....เรือ U 206 a นี้ อย่าเอาไปเทียบกับเรือ Gal ของยิวที่ปลดประจำการไปเมื่อ 15 ปีก่อนนะครับ
....มันใช้แบบ Desize เดียวกันก็จริง แต่โลหะที่ทำตัวเรือมันต่างกันมาก เป็นคนละอย่างกันครับ
....การเอารูปเรือ GAL ของยิว 2 ลำที่จอดอยู่ที่คลองคลี่เยอรมันเพื่อรอปรับปรุงขายเมื่อ 15 ปีก่อน ที่ขึ้นสนิมมาโจมตี U206
....มันเป็นเรื่องทางเทคนิคของฝ่ายดิสเครดิต การซื้อเรือ U206 แบบจงใจ ครับ (ทำเป็นขบวนการ) .....
....ทำให้หลายคนเข้าใจว่า เรือรุ่นนี้ขึ้นสนิมได้ ซึ่งเรือรุ่นนี้เป็นเรือไร้สนิมโดยสิ้นเชิงครับ (แม้แต่นิตยสารฝรั่งยังเข้าใจผิดครับ)
ขอแก้คำว่า Desize เป็น Design ครับ
เรือ U 206 a ยังไม่ได้นำเสนอถึงรัฐบาล(คณะรัฐมนตรี) ให้ตัดสินใจครับ เพราะมันไปติดอยู่แค่สำนักปลัดกระทรวงเท่านั้น ครับ
เพราะคณะที่ปรึกษาบางท่านไม่เอาครับ ......และท่านพยายามให้เหตุผลของท่านตามที่ปรากฎตามข่าว.. ที่รับทราบกันดีครับ
แต่ไม่มีคำอธิบายจาก ท่านรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเลย จนกระทั่งถึงท่านรัฐมนตรีคนที่ 3 ให้เหตุผลว่า "มีปัญหาทางเทคนิค"
ถ้าสมมติ กองทัพเรือได้ U-206A มาประจำการและฝึกบุคคลากรให้มีความชำนาญและเราก็ซื้อมือหนึ่งลำนี้ U33 ต่อจากเยอรมัน คงแจ่มไม่เบาทีเดียว
เรือดำน้ำ ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ขีดความสามารถพร้อมรบมากขึ้น มิติที่3 ของกองทัพก็จะสมบูรณ์แบบ อิอิ ฝันครับๆ
ไม่ทราบว่า รุ่น U-32 ใช่รุ่นส่งออกขายให้กะต่างประเทศเปล่าครับ