หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


overhaul of L-39

โดยคุณ : p_prachuab เมื่อวันที่ : 05/03/2013 09:37:04

ที่มา  จาก  WWW.taf  (ถ้าผิดกฏกองทัพ  เวปมาสเตอร์ ลบออกด้วย)


ปรับปรุงครั้งใหญ่


ประกอบ


แล้วเสร็จ




ความคิดเห็นที่ 1


.....มองมุมกลับ....นะครับ

.....แสดงว่าความสามารถในการ "เมนเท็นแน้นต์" ของเราในระดับโรงงานสำหรับเครื่อง Jet ความเร็วต่ำ ไม่เลวทีเดียวครับ

.....แบบนี้น่าจะรองทำซ้ำ Copy เครื่อง Affa jet ดูหน่อยเป็นไร ?  ครับ

.....สำหรับชิ้นส่วนที่ ฉีกขาด  สามารถขึ้นรูปมาใหม่ทดแทนของเก่าได้ ครับ (ถ้าต้องการ)

 

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 02/03/2013 23:30:03


ความคิดเห็นที่ 2


อันนี้น่าจะเป็นผลงานของบริษัทTAIนะครับ ที่ตาคลี

โดยคุณ oldman เมื่อวันที่ 03/03/2013 08:55:23


ความคิดเห็นที่ 3


ผมว่า เหมือนการ สร้างเครื่องบินL-39 ใหม่นะครับ เพราะเล่น รื้อออกมาหมด ฝีมือของคนไทย ถามว่าสามารถสร้างได้มั้ยสำหรับเครื่องบิน jet แบบฝึก ผมว่าเราสามารถทำได้นะครับ 

โดยคุณ kok129 เมื่อวันที่ 03/03/2013 11:30:56


ความคิดเห็นที่ 4


มีทีมช่างจากทางเชคมาร่วมด้วยครับ  ไม่ใช่ช่างไทยทั้งหมด

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 03/03/2013 11:55:23


ความคิดเห็นที่ 5


ถ้าขนาดไทยสามารถทำชิ้นส่วน L39 เองได้บ้างแล้ว (แม้จะมีทีมงานของเชคฯร่วมด้วย) ไทยก็น่าจะลองต่อยอดไปอีกขั้นอาจทำโครงสร้างทั้งลำแล้วใช้อุปกรณ์อื่นๆจากทางเชคฯ (ขอของ L159) ใช้งานดูน่ะครับ ทางเชคน่าจะยินดีและอีกอย่างในแง่การใช้งานฝึกบินและโจมตีก็ถือว่า ok. ไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากเครื่องบินรบอื่น เช่น Mig 29 เพราะก่อน L39หรือ L159 จะเข้าโจมตีต้องมีการครองอากาศก่อนด้วย F16 Jas39 อยู่แล้ว

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 03/03/2013 12:48:49


ความคิดเห็นที่ 6


เอ่อ ทำที่taiโดยช่างจากเชคมาควบคุมไม่ใช่เหรอครับ แล้วชิ้นส่วนก็นำเข้าทั้งหมดด้วย  ผมหมายถึงเครื่องบินทุกลำที่taiทำการปรับปรุงนะครับ

 

อยากให้เรายืนอยู่บนความเป็นจริงว่าประเทศไทยยังไม่มีความสามารถทางด้านนี้สุงนัก  กองทัพอากาศมีแผนการจะผลิตเครื่องบินใบพัดแบบพื้นฐานขึ้นมาจำนวนหนึ่งต้องรอดูต่อไปว่าจะรอดหรือจะแท้ง

 

อุตสาหกรรมอากาศยานของเราอยู่ในช่วงตั้งไข่พร้อมจะล้มได้ตลอดเวลาถ้าไม่มีเงินก้อนใหญ่จากรัฐบาล อยากรู้เรื่องนึ้ลึกๆให้คุณนีโอมาอธิบายแล้วกันผมพุดไม่ค่อยเก่ง

 

อัลฟ่าเจ๊ตเราทำอะไรได้น้อยมาก การก๊อปปี้ชิ้นส่วนตามที่เพื่อนๆว่า"คือการยื่นความตายให้นักบิน" ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเครื่องบินชิ้นส่วนที่ไม่ได้คุณภาพคือสิ่งที่ทำให้นักบบินฝีมือดีๆเสียชีวิต อันนี้ผมหายถึงประเทศอื่นนะที่เขารบกันบ่อยๆหน่ะ

 

วันนี้เรายังไม่มีศักยภาพพอจะผลิตชิ้นส่วนอากาศได้ในประเทศครับ แต่เม็ดเงินหลายหมื่อนล้านจะช่วยได้ โดยการเปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนทั้งลำเลยกับเครื่องบินซักแบบจะมีต้นทุนที่ถูกกว่ากีอปปี้บางชิ้นส่วน

 

 

อุตสาหกรรมการบินเริ่มจากชิ้นส่วนบางชิ้นไม่ได้นะครับต้องทั้งลำและมียอดขายเยอะพอสมควรถึงจะพออยู่รอดได้

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 03/03/2013 13:32:11


ความคิดเห็นที่ 7


.....ผมหวังว่า TAI คงไม่พบจุดจบแบบ THAI-AM ในอดีตนะครับ.....(เอาใจช่วยครับ)

.....อดีต บริษัท  THAI-AM มีลูกค้าหลักอยู่รายเดียวคือกองทัพอากาศ ส่วนของกองทัพบก ทัพเรือ ตำรวจ

     ยังนิยมส่งไปซ่อมเมืองสิงบุรี....มากกว่า  มาซ่อมที่ THAI-AM น้อยมาก 

.....ผล THAI-AM ต้องปิดตัวเองลง โอนพนักงานเข้าการบินไทย  ปิดตำนาน THAI-AM ไว้ในความทรงจำ.....ตลอดมา

.....ผมก็รอดูลูกค้าจาก  กองทัพบก  ทัพเรือ เกษตรและตำรวจ อยู่นะครับ  ไม่รู้เริ่มส่งมาบ้างแล้วยัง ครับ

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 03/03/2013 19:08:40


ความคิดเห็นที่ 8


 

หนังสือพิมพ์​ไทย​โพสต์ -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 00:00:37 น.

พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม ​เปิด​เผยว่ากระทรวง​เรียก​ผู้บริหารหน่วยงาน​ในสังกัดมาหารือ​เกี่ยวกับ ยุทธศาสตร์ร่าง พ.ร.บ. ​เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ​และ​การ​เชื่อมต่อ​ทั้งถนน ราง ท่า​เรือ ​และอากาศ ขณะนี้​ในส่วนของ​ความคืบหน้า​เรื่อง​การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม​การบินที่ ท่าอากาศยาน​โคราชนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ​ได้​ให้น​โยบายกับหน่วยงานที่​เกี่ยวข้อง คือ กรม​การบินพล​เรือน บริษัท ​การบิน​ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิทยุ​การบิน​แห่งประ​เทศ​ไทย จำกัด สถาบัน​การบินพล​เรือน ร่วมกันหารือ​เพื่อจัดจ้างที่ปรึกษาที่มี​ความ​เชี่ยวชาญ​และมีคุณสมบัติ ระดับ​โลก มา​เป็นที่ปรึกษา​ให้กับ​โครง​การดังกล่าว.

 

รมช.คค.เล็งใช้นิคมอุตฯการบินโคราชเป็นฮับ
ข่าวเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ.2556 14:17น.

รมช.คค. เล็งใช้นิคมอุตสาหกรรมการบินโคราชเป็นฮับการขนส่งทางอากาศ  แนะ เจ้าหน้าที่ เร่งปรับตัว รับ AEC
พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานงานประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อการเตรียมความ พร้อมด้านการขนส่งทางอากาศ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนว่า เพื่อให้ทุกภาคส่วนการขนส่งทางอากาศมีการปรับตัวรับ AEC แต่ไม่อาจจะสามารถปรับตัวได้หลังปี 2558 นอกจากนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่หรือบุคคลากรจะต้องมีการปรับตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมทั้งกฎหมายที่ต้องมีการวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดด้อย จุดเด่น ขีดความสามารถ ส่วนเรื่องความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการบินนั้นมองว่ามีความ เป็นไปได้ โดยขณะนี้ได้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา เพื่อเป็นศูนย์กลางของการซ่อมเครื่องบินและอบรมบุคลากรด้านการบินด้วย
  
    ตอนนี้โครงการเพิ่งกลับมาเริ่มตั้งไข่ใหม่ครับ   เดิมศึกษาพื้นที่สนามบินดอนเมือง   มีการศึกษาพื้นที่กันอย่างละเอียดหลายปี  พอจะลงมือทำ  ก็ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง   สุดท้ายล้ม.......
  ถ้าลงมือทำเสียตั้งตอนนั้น   ป่านนี้พร้อมแล้วครับ   คนกองทัพอากาศก็คงมีเฮมากขึ้น   เพราะโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมพื้นฐานทางการบินมีการก่อตั้งไป 6-7 ปีแล้ว    ป่านนี้เดินเฟสถัดไป คือ ให้พวกญี่ปุ่นมาลงทุนตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนอากาศยานและประกอบอากาศยาน น่าจะมีการเริ่มต้นได้แล้ว   ต้องมาล้มครืนเพราะอีกฝั่งการเมืองไม่ต้องการ
  คราวนี้ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดครับ   เพราะต้องศึกษาพื้นที่ใหม่นั้นคือ  โคราช   นับหนึ่งใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง   หวังว่าคงไม่มีพวกหวังดีต่อชาติจนแทบล่มจมอีกนะครับ   คงใช้เวลาสัก 1 ปี กว่าจะศึกษาเสร็จ   กว่าจะก่อสร้างศูนย์ซ่อมสร้างขนาดใหญ่เสร็จ   กว่าจะดำเนินงานและดูความเป็นไปได้เพื่อที่จะเดินเฟส 2 ในการส่งเสริมก่อตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและประกอบเครื่องบินของบริษัทเอกชนญี่ปุ่น  อย่างน้อยก็ 5-6 ปี    รวมกับที่เสียเวลาคราวก่อน  ก็ต้องเสียเวลากว่า 10 ปีทีเดียวครับ  
  เซ็ง........

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 04/03/2013 17:12:47


ความคิดเห็นที่ 9


บพ.เผยตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินโคราชคืบ

   "วรเดช" เผย ตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินโคราช คืบ แก้ กม. ลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นคนไทย จาก 50% เหลือ 30% ต่างชาติ 70% รอเสนอสภา คาด 6 เดือน ประกาศใช้

นาย วรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบิน ว่า ขณะนี้ในส่วนของการปรับปรุงกฎหมายเพื่อรองรับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมการบิน พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 ได้แก้ไขสัดส่วนการลงทุนในกิจการผลิตอากาศยาน ผลิตอะไหล่ และให้บริการศูนย์ซ่อมอากาศยาน โดยให้มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นคนไทยไม่น้อยกว่า 30% ต่างชาติ 70% จากเดิมกำหนดให้หุ้นส่วนคนไทยไม่น้อยกว่า 50% ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเสนอเข้าสู่สภา และคาดว่าน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน จึงจะสามารถประกาศใช้ได้

อย่างไรก็ตาม เรื่องสถานที่ตั้งนิคมอุตสาหรรมการบินนั้น ส่วนตัวมองว่า สนามบินโคราชมีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากมีพื้นที่ประมาณ 4,600 ไร่ แต่ทั้งนี้สนามบินอู่ตะเภา ก็ยังถือว่าน่าสนใจ ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน

 

เครดิต INNnews  
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=427164

 

     จะเอาอู่ตะเภา หรือ จะเอาโคราช  อีกสัก 1 ปีคงทราบ   แต่ด้วยซีกการเมืองนี้  เดาว่าน่าจะเป็นโคราชมากกว่า   และที่ต้องแก้กฎหมาย  เพราะต้องการให้พวกญี่ปุ่นสามารถลงทุนได้เต็มที่  อำนวยความสะดวกครับ   และใช้โมเดลการพัฒนามาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประสพผลสำเร็จ  

  หวังว่าคงไม่ไปสะดุดหินล้านปีจนล้มอีกนะครับ.....................  


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 04/03/2013 17:23:56


ความคิดเห็นที่ 10


   กองทัพบกมีความพร้อมในด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตยานเกราะ   เพราะมีโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นพื้นฐาน  ดังนั้นจึงง่ายขึ้นมากที่จะดำเนินงาน

   กองทัพเรือ   มีอู่ราชนาวีเป็นแกนกลางในการพัฒนา (ลุ้นอย่างมีความหวังว่าเฟส 2 จะได้รับงบและมีการขยายให้มีโรงต่อเรือและสลิปเวยื)    ดังนั้นเรือรบทั้งหลายจึงสามารถต่อเองได้แล้วครับ   ทร.จึงมีความพร้อมสูง   และจะสูงมาก เมื่ออู่ราชนาวีมีการพัฒนาถึงขีดสุด   และเมื่อนิคมอุตสาหกรรมต่อเรือและถลุงเหล้กที่ภาคใต้มีการก่อตั้งจริงจังอีกครั้ง   เราก็จะมีความพร้อมในระดับโลก

  ส่วนทอ.   ต้องรออีกนาน......................................เพราะอุตสาหกรรมพื้นฐาน  ไปสะดุดหินล้านปีเข้า  เลยล้ม


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 04/03/2013 17:32:45


ความคิดเห็นที่ 11


เอกชนหนุนไทยฮับซ่อมเครื่องบิน จี้คมนาคมเร่งแก้ปัญหาให้ตรงจุด

 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2556 19:26 น



ผู้ประกอบการผลิตและซ่อมอากาศยานจี้แก้ปัญหาจราจรและกฎระเบียบการนำ เข้า ก่อนตัดสินใจขยายโรงงาน “ชัชชาติ” สั่ง บพ.เร่งศึกษาทำโรดแมปเดินหน้าผุดนิคมอุตสาหกรรมการบินดันไทยเป็นฮับศูนย์ ซ่อมบำรุงอากาศหวังดึงแอร์เอเชียใช้ไทยเป็นฐานการบินครบวงจร ชี้ตลาดโลว์คอสต์และการบินในเอเชียแปซิฟิกเติบโตสูงสุด
       
       นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม สมาคมการค้าไทย-ยุโรป ได้นำผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมการบิน 3-4 บริษัทเข้าพบ เช่น บริษัท โรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตรถยนต์และผลิตเครื่องยนต์สำหรับอากาศยาน จากประเทศอังกฤษ บริษัท ไทรอัมพ์ เอวิเอชั่น เซอร์วิสเซส เอเชีย จำกัด ผู้ซ่อมชิ้นส่วนอากาศยาน (MRO) โดยภาคเอกชนเห็นด้วยกับนโยบายนิคมอุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน แต่เห็นว่าควรจะต้องมีโรดแมปที่ชัดเจน และเร่งแก้ปัญหาอุปสรรคเช่น กฎระเบียบ การขาดแคลนแรงงานมีฝีมือและช่างเทคนิคและปัญหาการจราจรที่ทำให้การเดินทาง ไม่สะดวกและมีต้นทุนสูง
       
       ทั้งนี้ ผู้ประกอกการต้องการความมั่นใจเพื่อขยายโรงงานเพิ่มไลน์การผลิตในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่ตั้งโรงงานที่อีสเทิร์นซีบอร์ด และจังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้ยืนยันว่าจะแก้ปัญหาเร่งด่วนให้ก่อน เช่น ปัญหาจราจรบริเวณนิคมอุตสาหกรรม การขาดแคลนบุคลากร ช่างฝีมือ โดยทางสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ได้ประสานกับมหาวิทยาลัยจัดโปรแกรมการเรียนการสอนให้สอดคล้อง รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับการทำธุรกิจ เช่น นำเข้าสีสำหรับอุตสาหกรรมการบิน ผู้ประกอบการระบุว่า สีจะมีส่วนผสมที่แตกต่างและอาจไม่สามารถแสดงรายละเอียดได้ทั้งหมดตามที่กรม โรงงานอุตสาหกรรมต้องการเพราะเป็นทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
       
       นายชัชชาติกล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เร่งหาที่ปรึกษาเข้ามาช่วยวางแผนและการจัดทำโรดแมปการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยเบื้องต้นได้ตั้งอนุกรรมการ 3 ชุด คือ ด้านการฝึกอบรมบุคลากร ด้านสิทธิประโยชน์ และด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน โดยอุตสาหกรรมการบินมีการเติบโตสูงโดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงสุดในขณะนี้ ขณะที่รายได้เฉลี่ยของผู้ประกอบการในประเทศไทยประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
       
       “นายกฯ มอบหมายให้ผมเป็นประธานเรื่องนี้ เพื่อเป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ที่ผ่านมาการพัฒนาไม่คืบหน้าเพราะอาจจะยังไม่เข้าใจ โดยเมื่อมีโรดแมปแนวทางจะชัดเจนขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมไม่ได้อยู่ในสนามบิน โดยบีโอไอต้องเข้าไปช่วยส่งเสริมการลงทุนก่อนเพราะระยะแรกอุตสาหกรรมการบิน จะไม่ค่อยใหญ่มาก ขณะที่ไทยตั้งเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการฝึกอบรม การผลิต และการซ่อมบำรุงอากาศยาน เป็นไปได้ จะดึงสายการบินกลุ่มแอร์เอเชียใช้ไทยเป็นฮับในการซ่อมบำรุง เพราะที่ตั้งของไทยเหมาะสม โดยจากนี้ทุกๆ เดือนจะมีการหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาและการจัดทำโรดแมป” นายชัชชาติกล่าว

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 05/03/2013 09:37:04